บทที่ 7 เพื่อนข้างห้อง

1839 Words
"ทำไมออกมาช้ามัวทำอะไรอยู่เดี๋ยวก็ไปเรียนสาย" ผมคอยเงี่ยหูฟังเสียงเพื่อนข้างห้องจนกระทั่งได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวจึงรีบออกจากห้องตัวเองเพื่อมาดักรออย่างใจจดใจจ่อ ผมยืนพิงประตูห้องตัวเองลอบมองยัยจุ้นเปิดประตูเดินออกมาแล้วรีบเอ่ยทักทันที ยัยจุ้นสะดุ้งโหยงหันขวับมามองด้วยใบหน้าตื่นตกใจ "อุ๊ยย!!นมหกตกใจหมดเลย" ถ้านมหกออกมาจริงผมจะรีบซิ่งเข้าไปเก็บทันที ยัยจุ้นหันมามองหน้าผมที่ใช้สายตาไล่สำรวจชุดนักศึกษาของเธอทั้งรัดทั้งสั้นเหมือนตั้งใจใส่ไปยั่วน้ำลายหนุ่มๆที่มหาลัย ยิ่งคิดอารมณ์ผมมันก็ขุ่นอย่างไม่มีสาเหตุ ยัยจุ้นหาเรื่องยั่วอารมณ์ให้หงุดหงิดตั้งแต่เช้า "จะตกใจอะไรนักหนาเห็นหน้าหล่อๆอย่างพี่ เธอควรอารมณ์ดียิ้มหน้าบานสิถึงจะถูกที่มีเพื่อนข้างห้องหน้าตาหล่อขั้นเทพหาตัวจับยากนับว่าโชคดีของเธอนะยัยจุ้น แล้วนี่ชุดอะไรหัดแต่งตัวให้มันดีๆหน่อยไม่ได้หรือไงทำไมต้องโชว์ขนาดนี้ หรือถ้าไม่มีเงินซื้อเสื้อผ้าใหม่เย็นนี้เรียนเสร็จพี่จะรีบพาไปซื้อใหม่ทั้งหมด" ผมใช้น้ำเสียงทุ้มต่ำถามอย่างไม่สบอารมณ์กับชุดที่มันโชว์สัดส่วนจนเกินไป เสียงผมเข้มดุแกมข่มขู่ให้เธอรีบไปจัดการชุดตัวเองใหม่ก่อนที่ผมจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ แต่ทำยัยจุ้นยังยืนนิ่งไม่สนใจในสิ่งที่ผมพูดออกมา หรือจะจับแก้ผ้าเองให้รู้แล้วรู้รอดไป ข้าวปุ้นไม่ยอมทำตามคำขู่แถมยังยืนเถียงผมฉอดๆเฉไฉไปพูดเรื่องอื่นกลบเกลื่อนเรื่องชุดที่มันรัดติ้ว "จะไม่ให้ข้าวปุ้นตกใจได้ยังไงพี่เล่นมาเงียบๆนึกว่าผีโผล่มาทัก แล้วนี่พี่ธามมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงนั่นออกมาจากห้องใครหรือเป็นห้องสาวคนใหม่ของพี่อีกล่ะสิ" ยัยจุ้นชักสีหน้าแสดงความไม่พอใจให้ผมเห็นคงไม่รู้ตัวว่าหลุดอาการหึงหวงออกมาอย่างชัดเจน "หึงพี่เหรอครับ ไม่ต้องหึงไปหรอกน่านี่ห้องพี่เองเพิ่งย้ายมาเป็นเพื่อนข้างห้องคอยจับตาดูพฤติกรรมของใครบางคนแถวนี้ ห้องนี้พี่อยู่คนเดียวรอใครแถวๆนี้มาอยู่เป็นเพื่อนกันพี่ดันเป็นคนขี้เหงาอยู่คนเดียวไม่ได้ด้วยสิ หรืออยากย้ายมาอยู่ด้วยกันคืนนี้เลยไหมล่ะพี่จะได้ช่วยเก็บเสื้อผ้า จะไม่ใส่เลยก็ได้พี่ก็ขี้เกียจถอดออกเหมือนกันมันไม่ทันใจ" ผมส่งสายตาหวานหยดหยอดยัยจุ้นให้ตกหลุมพลาง "ฝันไปเถอะค่ะ ถ้าข้าวปุ้นเชื่อก็บ้าแล้วคนอย่างพี่คงไม่ปล่อยให้ตัวเองอดอยากปากแห้งหรอกมั๊ง" น้ำเสียงประชดประชันต่อว่าจนผมต้องรีบแก้ตัวก่อนที่จะเข้าใจผิดกันไปใหญ่ ที่ลงทุนย้ายห้องเพื่อตามมาเฝ้ายัยจุ้นต่างหากกลัวแอบพาใครเข้าห้อง "ถ้าไม่เชื่อว่าพี่อยู่คนเดียวจะลองเข้าไปสำรวจข้างในตอนนี้เลยก็ได้ พี่จะพาสำรวจทุกซอกทุกมุมจนกกว่าจะพอใจ" สายตากรุ้มกริ่มเต็มไปด้วยลูกเล่นคำพูดหยอกล้อเผื่อยัยจุ้นจะหลงกลตามเข้าไปจะพาเล่นบนเตียงสองวันสองคืนค่อยปล่อยลง ตามนิสัยของเสือเจ้าเล่ห์ที่คอยหาโอกาสขย้ำ ถ้าหยอดได้ผมจะหยอดให้หวานหยดทำใจเธอละลาย สายตาวาววับจับจ้องเหยื่ออย่างหิวกระหาย ยิ่งมองยิ่งเห็นนมปลิ้นดันเสื้อนักศึกษาออก ไหนจะขาขาวเรียวยาวผิวเนียนจนอยากเอามือเข้าไปสัมผัสดูว่ามันจะนุ่มนิ่มสักแค่ไหน สะโพกผายกลมกลึงรับเอวคอดเล็กนั่นอีก อยากเอามือไปคลึงเคล้าเล่นเบาๆ น้ำลายแทบหกจนไม่อยากให้หนุ่มคนไหนได้เห็นความสวยงามนี้นอกจากผมคนเดียว "สายตาพี่ธามจะมองทะลุเข้าไปยังไส้ยันพุงข้าวปุ้นแล้วนะคะ แล้วนี่ย้ายมาอยู่ข้างห้องข้าวปุ้นตอนไหน จำได้ว่าเมื่อวานห้องข้างๆนี้ยังเป็นของหนุ่มหล่อนักศึกษาจากอีกมหาลัยหนึ่งไม่ใช่เหรอคะ" คิดไม่ผิดที่หาทางซื้อห้องต่อจากไอ้นั่นและไล่เจ้าหมอนั้นออกไปไกลๆจากยัยจุ้นได้ จะไม่ผมคิดมากได้ยังไงขนาดเรียนอยู่คนละมหาลัยยัยจุ้นยังจำผู้ชายข้างห้องได้ชัดเจนขนาดนี้ ขืนปล่อยไฟให้ใกล้น้ำมันคงลุกลามมาเผาบ้านผมจนดับแทบไม่ทัน สงสัยต้องสำรวจรอบๆชั้นนี้ให้ดีถ้ามีผู้ชายอยู่ใกล้ๆต้องหาทางกำจัดออกไปให้ไกลๆ ความคิดอันเฉียบคมเกิดขึ้นมาทันทีก่อนที่จะแกล้งกวนยัยจุ้นเหมือนทุกครั้ง "ถ้ามันทะลุเข้าไปได้จริงพี่ก็ยากเห็นข้างในว่าของแท้จริงหรือเปล่า" ภาพจำที่ติดตาผมมาตลอดคือยัยจุ้นยัดฟองน้ำจนล้นทะลักโผล่หน้ามาทวงสัญญานมโตแล้วค่อยคุยกัน พอนึกถึงตอนนั้นมันยังสยองไม่หาย "เสียใจด้วยนะคะพี่ธามคงไม่ได้มีโอกาสเห็นของจริงของข้าวปุ้นหรอก แต่ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นก็ไม่แน่ถ้าถูกใจข้าวปุ้นจะเปิดให้ดูเต็มๆตาสัมผัสเต็มๆมือ" ยัยจุ้นลอยหน้าลอยตาท้าทายอำนาจผม พูดเสร็จก็เดินหนีผมไปยังลิฟท์ปล่อยผมควันออกหูโกรธจัดอยากหาที่ระบาย พลางคิดในใจถ้าผมไม่ได้เห็นเป็นคนแรกผู้ชายคนไหนก็อย่าหวังจะได้เห็น ผมรีบเดินตามข้าวปุ้นไปที่ลิฟท์ก่อนที่ยัยจุ้นจะหนีผมไปอีก ดีที่วันนี้ผมไม่ต้องไปส่งหญ้าหวานที่มหาลัยเพราะเพื่อนตัวแสบมันขันอาสาไปส่งน้องสาวผมเอง "จะรีบไปไหนเดี๋ยวพี่ไปส่งเองทำไมไม่หัดเดินรอพี่บ้าง" ผมเข้ามาทันยัยจุ้นที่กำลังจะกดปิดลิฟท์ใส่หน้าผม "ไม่ต้องค่ะกวินท์มารอรับข้าวปุ้นข้างล่าง ข้าวปุ้นจะไปเรียนพร้อมกับกวินท์" ไอ้หน้าจืดนี่อีกแล้วเมื่อไหร่มันจะเลิกตามติดข้าว ปุ้นสักที น่ารำคาญเหมือนพวกแมลงหวี่แมลงวันสงสัยผมต้องหา สเปย์ฉีดกำจัดให้สิ้นซากจะได้ไม่มาก่อกวนให้รำคาญใจ "ถ้ากล้าไปกับไอ้จืดนั่นก็ลองดูแล้วจะเห็นว่าพี่ทำะไรมันได้บ้าง" ผมรีบขู่ยัยแสบ "พี่ธามเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ หรือว่าสมองกลับจำไม่ได้เหรอคะว่าเมื่อก่อนเคยทำสารพัดวิธีหาทางไล่ ข้าวปุ้นให้ไปไกลๆ แล้วนี่พี่ธามจะมายุ่งกับข้าวปุ้นอีกทำไมคะข้าวปุ้นก็ออกมาไกลๆพี่แล้วนี่ไง" ยัยจุ้นหันมาจ้องหน้าทำเสียงขุ่นไม่พอใจใส่ผมได้แต่ทำหน้าเจื่อนๆเมื่ออาจใช่ตอนนี้ไม่อยากไล่แล้วไง ตั้งแต่ทุกอย่างโตมานี่ยัยจุ้นดุจนผมไม่กล้าหือ "พี่เคยบอกข้าวปุ้นแล้วยังไงครับว่านมโตแล้วมาคุยกัน ตอนนี้ก็โตแล้วคุยกับพี่ได้ยังครับ" ผมยังมองไอ้ที่มันโตๆชี้หน้าผมด้วยความกระสันอยากก้มหน้าเข้าไปมุดอยู่ในซอกนั้นคงอุ่นดีและนุ่มนิ่มดูเต็มไม้เต็มมือ "โตแล้วยังไงคะตอนนี้เข้าปุ้นไม่เอาพี่แล้วค่ะ" "แต่พี่จะเอา...เข้าใจไหมครับ" "เอ๊ะ!!พี่ธามนี่ยังไง จะกลืนน้ำลายตัวเองหรือยังไงคะ ตอนนี้ข้าวปุ้นอยากได้คนอื่นและอยากได้มากๆไม่ใช่พี่ธามเข้าใจไหมคะ" "นอกจากพี่จะกลืนน้ำลายตัวเองพี่จะกลืนกินทั้งตัวทั้งน้ำข้าวปุ้นคนสวยด้วยนะครับ เตรียมตัวรับมือพี่ให้ดีพี่จะรุกหนักให้ข้าวปุ้นอยากกลับมาเอาพี่เหมือนเดิม" ร่างกายกำยำสูงใหญ่กว่าเดินเข้าหาร่างบางไล่ต้อนบดบี้จนทำให้กวางตัวน้อยที่ไม่ได้มีดีแค่ตัวแต่ส่วนอื่นยังยั่วน้ำลาย ท่วงท่าเสือที่กระโจนเข้าใส่ทำให้กวางน้อยต้องขยับเท้าถอยหลังไปชิดผนังลิฟท์หาทางหนีไปไหนไม่รอด หน้าอกแกร่งเต็มไปด้วยมัดกร้ามแน่นๆบดเบียดเข้าหาเจ้าของร่างระหงแนบชิดเกือบติดนมที่มันโผล่ล้ำหน้าจนเกือบสัมผัสได้ อีกแค่นิดเดียวถ้าไม่ติดว่ายัยจุ้นเอามือนุ่มนิ่มมาดันแผงอกกว้างผมไว้คงเจอกับความ เพียงแค่นิ้วเรียวนุ่มนิ่มแตะสัมผัสอกกว้างทำเอาข้างล่างของผมมันผงาดลุกขึงขังอยากเล่นงานเจ้าของมือให้อ่อนปวกเปียกสยบใต้ร่าง ลมหายใจอุ่นที่ผมระบายความอัดอั้นออกมารดสัมผัสที่ใบหูสวย พร้อมสูดดมกลิ่นหอมหวานที่โชยติดจมูกด้วยความเคลิบเคลิ้มและลุ่มหลง ใบหน้าหล่อเหลาที่มิอาจควบคุมได้ก้มลงมาใกล้เกือบสัมผัสปลายจมูกคมของยัยจุ้น สายตาแพรวพราวของเสือร้ายจ้องมองแววตากลมโตของกวางน้อยที่สั่นระริกด้วยความหวาดระแวงและวูบไหวเมื่อจ้องสบตากันเนิ่นนาน ติ๊ง~~ เสียงแจ้งเตือนของลิฟท์เมื่อถึงชั้นที่เราต้องกันลงยัยจุ้นตกใจจนผลักผมออกห่าง รีบแจ้น "เชี่ย!!แล้วกูต้องทำยังไงกับไอ้ลูกชายนี่ดีล่ะ ดูท่าทางจะดื้อไม่ยอมลงง่ายๆ" พอสติกลับมาแต่ลูกชายผมมันเตลิดไปไกลความแข็งขืนดันเป้ากางเกงจนนูนเห็นก้อนกลมโตได้ชัดเจน ผมก้มมองลูกชายตัวที่มันตื่นล้ำหน้าออกมาทักทายสายคนของผู้คนที่กำลังจะเดินเข้ามาในลิฟท์ เป็นลูกชายที่ขยันทำให้พ่อมันอายต่อสายตาผู้คนเสียเหลือเกิน ผมรีบออกจากลิฟท์เดินตามยัยจุ้นไปติดๆ ผมรู้สึกว่าลูกชายของผมถูกลวนลามทางสายตามากเกินไป "ยัยจุ้นนะยัยจุ้นทำลูกชายพี่ดื้อดึงแข็งขืนแล้วยังไร้ความรับผิดชอบเดินหนีพี่หน้าตาเฉยๆ สงสัยงานนี้ต้องให้เธอกลับมารับผิดชอบลูกชายตัวน้อยที่กำลังโตเต็มที่ให้เข็ด" ผมสบถออกมาเบาๆแล้วรีบเดินจ้ำอ้าวตามยัยจุ้นให้ทัน เธอกำลังเดินเข้าไปหาไอ้หน้าจืดที่นั่งรอที่โซฟารับแขก ผมคงต้องคุยกับนิติเรื่องนี้ใหม่เสียแล้ว กำจัดคนหนึ่งไปได้ยังมีคนใหม่เข้ามาอีก ฮอตจริงๆยัยจุ้นของผม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD