“ เร็วซิ! มัวชักช้าอะไรอยู่ หรือว่าแผลแค่นี้ก็ทำไม่เป็น ” ธนาแกล้งยั่วเพียงแค่นั้นคนฟังถึงกับคอแข็งหน้าเชิดขึ้นมาทันที
“ ใครบอกว่าทำไม่เป็น รู้หรือเปล่าว่าฉันเรียนจบอะไรมา ปริญญาบัตรของฉันไม่ได้จับฉลากมาหรอกนะ! แผลใหญ่กว่านี้ยังเคยเย็บมาแล้ว กะอีแค่แผลเท่าขี้ตามดทำไมจะทำไม่ได้ ว่าแต่อย่ามาร้องทีหลังก็แล้วกัน ”
คนที่โดนดูถูกลุกพรวดนั่งข้างธนา กดห่อผ้าที่มีน้ำแข็งลงมุมปากทันที อารมณ์ฉุนๆ กับวาจาของผู้ชายตรงหน้าจึงทำให้แรงกดหนักเบาตามอารมณ์ของคนทำแผล ‘ คนอย่างกุ้งนางฆ่าได้ แต่หยามไม่ได้ ปากดีแบบนี้ มันน่าเอายาหม่องทาปากเสียดีไหม? ’
“ โอ๊ย! เบาๆ หน่อยซิ ตัวเล็กนิดเดียว ทำไมมือหนักชะมัด ฉันชักไม่แน่ใจแล้วสิ!..ที่ปล่อยให้เธอมาทำแผลฉัน ” คนที่เอกเขนกเมื่อครู่โวยลั่นถึงแม้ว่าตนเองจะมีรูปร่างบึกบึนออกแนวทึกๆ ไปสักหน่อยแต่ใช่ว่าจะเจ็บไม่เป็น
“ ใครว่ามือหนักตัวเองใจเสาะซิไม่ว่า แผลแค่นี้ทำสำออยไปได้ อ้าว! ยาในกล่องปฐมพยาบาลโน้น หยิบขึ้นมาทาเองแล้วกัน” หญิงสาววางก้อนน้ำแข็งลงในขันทำท่าจะลุกหนีไปเฉยๆ
“ เรื่องอะไร! ฉันทำเองได้ที่ไหน เธอนั่นแหละต้องทำ ”
เมื่อเห็นว่ากุ้งนางทำท่าจะลุกขึ้นไปจริงๆ ธนาจึงคว้าข้อมือเล็กนั้นไว้ ชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงความเนียมนุ่มของผิวสาว เมื่อมีโอกาสได้สำรวจคนตรงหน้าในระยะใกล้ๆ ธนาก็ต้องยอมรับว่ายัยตัวแสบหน้าตาไม่เลวเลย รูปหน้าสวยนั้นดูอ่อนเยาว์คลายเด็กมัธยม รูปร่างถึงจะเล็กบอบบางอ้อนแอ้น แต่ใช่ว่าจะผอมแห้งซะทีเดียว หน้าอกที่ห่อหุ้มด้วยเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งนั้นดูเผินๆอาจจะรู้สึกว่ามันแบนไปสักหน่อย แต่จากที่ได้สัมผัสขนาดของมันก็ไม่ได้เล็กเลยสักนิด
นิ้วแข็งแรงของธนาขยับลูบไล่ผิวสาวอย่างเผลอไผ จนกุ้งนางรู้สึกได้จึงสะบัดข้อมืออกจากอุ้มมือใหญ่นั้นอย่างไม่พอใจ พร้อมกับหาวิธีแก้เผ็ดชายหนุ่มที่บังอาจถึงเนื้อถึงตัว
“ ถ้าไม่อยากทำเองก็นอนนิ่งๆ แล้วก็ห้ามบ่น เอา!..เลือกมา จะเอาแบบไหน มีทั้งแบบหลอดหรือว่าจะเอาแบบขวด ? ” กุ้งนางเลื่อนกล่องยามาตรงหน้าปลัดหนุ่ม
“ อะไรของเธอ ? ไอ้ที่ว่า..แบบหลอดหรือแบบขวด ” ธนาถาม ทำหน้าไม่เข้าใจ
“ ก็ยาทาปากไง ฉันให้คุณเลือกว่าจะเอาแบนไหน ถ้าเป็นแบบหลอดก็ยานวด แต่ถ้าเป็นแบบขวดก็ยาหม่อง ตกลงคุณจะเลือกเอาอย่างไหน ” กุ้งนางหยิบหลอดกับขวดยาชูให้ธนาดู
“ จะบ้าหรือไง ? ใครเขาเอายาพวกนั้นมาทาปาก แน่ใจนะว่าเธอเรียนจบพยาบาลมาจริง ” คนตัวโตถึงกับลุกขึ้นนั่งพรวดขึงตาใส่
“ อะ..อ่ะ อย่ามาดูถูกวิชาชีพ ฉันมันเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเลยนะ ” หญิงสาวชี้โบ้ชี้เบ้ไปที่กระดาษในกรอบรูปที่ติดไว้ที่ฝังห้องรับแขก
“ อุตส่าห์จบถึงเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง แต่ยังเลือกยาทาปากไม่ถูก ฉันล่ะเชื่อเธอเลยจริงๆ ” ธนาจ้องไปในลูกตากลมที่กำลังไหวริกๆ อย่างระแวง
“ ใครว่าเลือกไม่ถูกแต่ฉันเปิดโอกาสให้เลือกแผนการรักษาต่างหากล่ะ ว่าไง...ตกลงจะเลือกยาหม่องหรือยานวด..บอกมา! ”
กุ้งนางวางหลอดและขวดยาลงบนโต๊ะ แต่คนฉลาดอย่างเขากลับคว้ากล่องยามาเปิดดูข้างในจึงเห็นยาอีกหลอดที่ฉลากเขียนว่าใช้สำหรับทาแผลในปาก
“เชิญเธอใช้ไปคนเดียวเถอะ! ฉันว่าหลอดนี้น่าจะเวิร์คสุด ” ธนาชูหลอดยาเล็กๆ ก่อนจะจับมันยัดใส่มือหญิงสาว
“ อ้าว! เหรอ ขอโทษที..ฉันคงเข้าใจอะไรผิด สงสัยน่าจะเป็นหลอดนี้ล่ะมั้ง ” หญิงสาวปรับสีหน้าให้เนียนสุด หลบตาคนตรงหน้าซ่อนประกายตาเจ้าเล่ห์ไว้ นึกเสียดายที่ปลัดดันรู้ทัน ‘ อีตาปลัดเนี่ยฉลาดกว่าที่คิดไว้อีกแฮะ! ’
“ อยู่นิ่งๆ นะ ฉันจะทาแผลในปาก ” แต่พอถึงเวลาจริงๆ คนที่มีจรรยาบรรณกลับทำหน้าที่ได้อย่างเบามือ
คนที่ถูกสั่งให้นิ่งถึงกับนอนเงียบ เมื่อหญิงสาวขยับเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของเธอ จากที่เคยบอกว่าไม่เคยคิดอะไรกลับจ้องปากแดงๆ ที่ลอยอยู่ตรงหน้า อดคิดไม่ได้ว่าปากจิ้มลิ้มนั้นจะหวานสักแค่ไหน จนต้องหลับตาลงเพราะกลัวว่าคนตรงหน้าจะอ่านใจตนเองออกพร้อมกับสูดลมหายใจเอากลิ่นกายสาวที่หอมอ่อนๆ เข้าปอดแทน น้ำหนักมือที่กำลังทายาอย่างเบาๆ ทำให้ธนาถึงกับเคลิ้มไปชั่วครู่ กว่ารู้ตัวอีกทีก็ตอนได้ยินเสียงถอนหายใจดังๆ ของหญิงสาว
“ เฮ้อ! เอาล่ะเสร็จเสียที ”
ธนาลืมตาขึ้นมองดวงหน้าเล็กๆ นั้น ยอมรับกับตัวเองว่ายัยตัวเล็กนี้ดึงดูดความสนใจของเขาไม่น้อย คิดไม่ถึงจริงๆว่าตัวเองจะนึกชอบของแปลกขึ้นมา
“ มองอะไรนักหนา หรือว่าเกิดหลงเสน่ห์ฉันเข้าให้แล้ว ” คนที่รู้ตัวว่าถูกมองถามแก้เขิน พร้อมกับขยับตัวมาที่เก้าอี้อีกตัว ‘ ตาบ้า! เล่นจ้องกันแบบนี้ฉันก็อายเป็นนะ ’
“ ใคร ?!.. ที่หลงเสน่ห์เธอ ไม่มีทางเสียหละ ถ้าถามว่ามองของแปลกนะไม่แน่ ” คนที่ปากแตกกลับทำปากแข็งหน้าด้านๆ และคงจะเกิดสงครามน้ำลายขึ้นอีกแน่ ถ้าแสนไม่เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน
“ เป็นไงกุ้งนาง ทำแผลให้ปลัดเสร็จแล้วใช่ไหม ? ” แสนที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ามาใหม่ถามขึ้น
“ เรียบร้อยตามที่สั่งไว้เลยเจ้าค่ะ ” หญิงสาวหันไปตอบบิดาในน้ำเสียงประชดนิดๆ ก่อนจะหันมาเก็บอุปกรณ์ทำแผลกะว่าจะใช้จังหวะนี้ชิงหนีเข้าห้อง แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อแสนเรียกให้ไปกินข้าว