บทที่4 แลกวิญญาณ
ร่างบางปรือตาขึ้นอย่างอ่อนล้า นางตะเกียกตะกายขึ้นมาจากก้นสระอย่างยากลำบาก เพราะชุดที่สวมใส่อุ้มน้ำเอาไว้ยิ่งฉุดให้ร่างจมดิ่งลงไปใต้สระ หากไม่มีคนช่วยดึงร่างขึ้นมานางคิดว่าคงต้องจำใจทิ้งร่างไร้วิญญาณนี้เสียแล้ว
หงเหม่ยมองไปรอบๆ กายเห็นเด็กสาวผู้หนึ่งวิ่งโหวกเหวกโวยวาย คาดว่าน่าจะเป็นสาวใช้ประจำตัวของหลิวชิงชิง
เทพธิดาหงเหม่ยทิ้งกายลงแนบพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง น้ำตาไหลอาบแก้มที่ซีดเซียว
ข้ามาช้าไป
หลังจากที่เห็นตุ๊กตาไหม้อยู่ภายในเตาไฟเปลว หงเหม่ยถโผตัวเข้าไปหวังจะเอาตุ๊กตาออกมาจากเตา แต่นางก็ไม่ได้สามารถเข้าใกล้ได้เลย ทำได้เพียงยืนมองตุ๊กตากลายเป็นละอองเถ้าถ่าน สิ่งที่คิดออกในตอนนั้นคือร่างจริงของหลิวชิงชิง จึงผลุนผลันออกจากตำหนักสวรรค์ แต่ก่อนออกมานางไม่ลืมบอกทหารยามว่าให้บอกอาจารย์ของนางด้วยว่านางนึกได้ว่ามีงานด่วนที่วังเยว์เหล่าจึงขอตัวกลับก่อน
หงเหม่ยรีบลงมายังโลกมนุษย์แต่ก็ไม่ทันการณ์แล้ว วิญญาณของหลิวชิงชิงดับสูญไปพร้อมกับตุ๊กตาเสียแล้ว หงเหม่ยไม่อาจทนมองร่างของเด็กน้อยจมลงส่งก้นสระได้ อีกทั้งเด็กสาวอีกคนที่กระโดดตามลงมาดูแล้วร่างกายไม่ต่างกันมากเท่าใดกำลังกายแค่จะเอาตนเองให้รอดก็เกินกำลัง คงไม่สามารถดึงร่างไร้วิณาณร่างของหลิวชิงชิงขึ้นไปจากน้ำได้เป็นแน่ คงได้จมน้ำตายไปทั้งคู่ ความคิดเพียงแค่อยากช่วยแล่นเข้ามาชั่วแวบเดียว หงเหม่ยจึงตัดสินใจเข้าสิ่งร่างไร้วิญาณของหลิวชิงชิง
"คุณหนูเป็นอย่างไรบ้างเจ้าค่ะ คุณหนู! คุณหนูสลบไปแลวใครก็ได้ช่วยที" จางจิ้งแหกปากตะโกนให้คนมาช่วย หลังจากที่ลงไปงมร่างเจ้านายขึ้นมาจากสระบัวอย่างยากลำบาก
หงเหม่ยเสร้งหลับตาลง อีกสักพักนางก็จะออกจากร่างนี้และกลับไปรับโทษทัณฑ์ที่ตนเองก่อนไว้ นางไม่รู้ว่าผู้ใดที่เข้ามาในห้องและโยนตุ๊กตาที่มีวิณาณของหลิวชิงชิงลงเตาไฟกัลป์ ในตอนนั้นหงเหม่ยกลัวว่าจะมีคนจับได้กลัวความผิดที่ตนเองก่อ จนทำเพียงหลบซ่อนไม่แม้แต่จะกล้าหันไปดูว่าคนผู้นั้นเป็นใคร
เวลาผ่านไปเกือบสาววันแล้วไม่ว่าจะใช้ความพยามยามมากเท่าไรหงเหม่ยก็ไม่อาจที่จะออกจากร่างของหลิวชิงชิงได้ สิ่งที่น่าตกใจมากกว่านั้นคือนางสูญสิ้นพลังวัตร พลังเซียนที่นางมีติดตัวมาตั้งแต่ถือกำเนิดก็ใช้ไม่ได้
"จะทำเช่นไรดี" ข้าต้องติดอยู่ในร่างของหลิวชิงชิงไปตลอดเช่นนั้นหรือ หงเหม่ยเริ่มร้อนใจ นางแค่ไม่อยากทิ้งร่างของหลิวชิงชิงเอาไว้ก้นสระบัวอย่างเวทนา แค่ต้องจบชีวิตลงก่อนวัยอันควรก็น่าสงสารพอแล้ว อีกทั้งต้นต่อเรื่องทั้งหมดเป็นนเพราะนาง หากนางไม่เผลอวางตุ๊กตาเอาไว้คงไม่บานปลายขนาดนี้
จางจิ้งเปิดประตูห้องเข้ามาสองแขนทั้งฉุดทั้งลากชายชราเข้ามาในห้อง
"คุณหนูเจ้าค่ะ ท่านหมอมาแล้วเจ้าค่ะ"
หงเหม่ยแสร้งหลับต่อไปอีกไม่ได้แล้ว หากหมอมาจับชีพจรก็ต้องรู้ว่าร่างนี้ยังมีชีวิตอยู่ นางค่อยๆ ลืมตาขึ้น แต่สมองพลันสว่างวาบ ความทรงจำทั้งหมดตั้งแต่ลืมตาขึ้นในครั้งแรกของหลิวชิงชิงวิ่งเข้าสู่สมองของนาง ร่างบางซวนเซทิ้งตัวลงบนที่นอนอีกครั้ง จนทำให้จางจิ้งร้อนรนวิ่งเข้ามาประคอง
"คุณหนู ท่านหมอรีบมาดูคุณหนูข้าเร็วเข้าสิ" จางจิ้งหันไปเอ็ดใส่หมอชรา ที่มาถึงเรือนคนป่วยแล้วแทนที่จะรีบมาดูอาหารคนป่วย มายืนงกๆ เงิ่นๆ อยู่ได้ หากคุณหนูของนางเป็นอะไรไปนางไม่ปล่อยหมอกลับไปง่ายๆ แน่
เมื่อหมอตรวจคนป่วยจนแน่ใจแล้ว ก็บอกสาวใช้จอมโวยวายว่าคนป่วยไม่เป็นอะไรมากแล้ว นอนให้อุ่นทานยาให้ครบก็จะหายเป็นปกติ จางจิ้งพยักหน้ารับอย่างตั้งใจ แค่คุณหนูฟื้นหลังจากนอนไม่ได้สติมาหลายวันนางก็ดีใจแล้ว ยิ่งพอหมอบอกแค่ทานยาก็จะหายนางก็ยิ่งวางใจ
"เจ้าออกไปพักผ่อนเถอะ ข้าอยากพักเหมือนกัน" เมื่อเรื่องวุ่นวายภายในเรือนจบลง หงเหม่ยรีบเอ่ยไล่จางจิ้งให้ออกจากห้องไป
"เจ้าค่ะ" จางจิ้งหยอบกายลงเล็กน้อยก่อนจะออกจากห้องไปไม่ลืมปิดประตูแน่นหนาราวกับกลัวผู้ใดจะบุกเข้ามา
หงเหม่ยอยากทบทวนเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพียงลำพัง ภาพความทรงจำทั้งหมดที่เห็นเมื่อครู่ และเหตุที่นางไม่อาจดึงวิณาณของตนออกจากร่างหลิวชิงชิงได้ หรือว่า
ไม่จริง เป็นไปไม่ได้
โง่ โง่อีกแล้ว หงเหม่ยเจ้าโง่ไม่มีวันจบสิ้นหรืออย่างไร หลิวชิงชิงดวงชะตายังไม่ถึงฆาตแต่เพราะวิญญาณถูกเผาไปพร้อมกับตุ๊กตาแล้วเจ้าก็เข้ามาสิงร่างนาง หงเหม่ยก้นด่าตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความผิดเดิมยังไม่ได้ชำระ นางก็ก่อความผิดขึ้นใหม่อีกครั้ง แย่งชิงร่างมนุษย์ต้องโดนอัสนีสวรรค์กี่ครั้งกัน
เมื่อร่างไร้ซึ่งวิญญาณแต่ดวงชะตายังไม่ถึงคราว หากมีวิญญาณดวงอื่นเข้ามาสิงสู่ ร่างที่โหยหายดวงวิญญาณจะยึดดวงวิญญาณนั้นไว้กับร่างของตนจนสิ้นอายุไข นางลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท
ช่วงเวลาคับคันหน้าสิ่วหน้าขวาน คนโง่ๆ อย่างข้าคิดได้ก็แปลกแล้ว
ในเมื่อตัวนางเองก็ไร้ซึ้งพลังที่จะออกจากร่างนี้ อีกทั้งความทรงจำของหลิวชิงชิงนางก็รู้หมดแล้ว นี่คงเป็นบทลงโทษของนางอีกอย่างกระมั้ง คงทำได้เพียงยอมรับและทำใจ
"ข้าขอโทษชิงชิง ข้าน้อมรับความผิดทุกข้อหา ไม่ว่าถูกตัดสินโทษอย่างไรข้าก็จะไม่ร้องอุทธรณ์ ไม่แก้ตัวสักคำ จากนี้ไปข้าจะใช้ชีวิตที่เหลือแทนเจ้าเอง"
หงเหม่ยยกมือขึ้นพนมไหว้ทั้งน้ำตา ขอขมาและไว้อาลัยแก่ดวงวิญญาณที่ดับไปแล้วของหลิวชิงชิง หลังจากนี้นางจะใช้ชีวิตเฉกเช่นมนุษย์แทนหลิวชิงชิงเอง ส่วนโทษทัณฑ์ในความผิดที่นางก่อเอาไว้บนสวรรค์คงต้องรอเวลา เมื่อความจริงทั้งหมดถูกเปิดเผยสวรรค์คงไม่ปราณีคนเลวอย่างนาง ไม่นานหรอกเรื่องราวทั้งหมดต้องถูกชำระล้าง
"ข้าจะใช้ชีวิตในภพชาตินี้ของเจ้าให้ดีที่สุด"