ภายในห้องนั่งเล่นเล็ก ๆ มีชั้นหนังสือสูง ๆ อยู่มุมหนึ่ง กลางห้องเป็นโต๊ะพับลายตัวอักษรและตัวเลข พร้อมสมุดวาดรูป ดินสอสี และของเล่นอีกหลายอย่างที่ถูกเด็กทั้งสองคนรื้อออกมาเล่น และไม่ทันได้เก็บ
นานแล้วที่แม่บอกให้รออยู่ที่นี่ ซึ่งผิงกั่วได้แต่ยืนแข็งเป็นหุ่นยนต์ขวางอยู่หน้าประตู เพราะน้องชายกำลังจะก่อเรื่อง เซียงเจียวหน้าหงิกหน้างอเมื่อเห็นพี่ชายเฝ้าประตูอยู่อย่างนั้น
“น้องเป็นผีดูดเลือด จะกัดแล้วนะ แฮร่ ๆ ถอยไปเฮียผิง”
ผิงกั่วยืนนิ่ง คำสั่งแม่บอกไว้ชัดเจนว่าไม่ให้ใครออกจากห้องนี้ หากแม่ไม่มาเรียก เขาเชื่ออย่างนั้น และจะทำตามโดยไม่บิดพลิ้ว ด้วยก่อนหน้านี้ยังจำได้ว่าเวลาแม่โมโหทำให้เขากลัว อีกอย่างตอนที่แม่โมโหมาก ๆ แล้วสลบไปนั้น ใจเขาแทบจะแหลกสลาย เขาเสียใจ เป็นทุกข์ ไม่อยากให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีก!
“เฮียผิง ถอย!” เซียงเจียวว่าเสียงสูง ๆ ซึ่งอีกไม่นานหากยังถูกขัดใจอยู่แบบนี้เขาจะร้องให้ลั่นบ้านเลย
“นั่ง” ผิงกั่วออกคำสั่ง
“ไม่... น้องจะออกไปข้างนอก เฮียผิงเห็นเค้กนั่นไหม มัมมี้ทำสวย มันน่ากิน หอมด้วย เราไปกินกันเถอะ รับรองไม่มีใครรู้ อิ ๆ ๆ”
น้องชายบอกพร้อมกับทำตาเล็กตาน้อย คำเชิญชวนนั้นทำให้ผิงกั่วแอบกลืนน้ำลาย เขาหิวจนไม่อยากทำอะไรแล้ว เมื่อเช้ากินขนมปังไปนิดหน่อย เพราะเซียงเจียวกินยังไงก็ไม่อิ่มเขาเลยต้องแบ่งให้มากหน่อย ส่วนเขาอยากกินนมในตู้เย็น แต่เยว่จือบอกว่าแม่ไม่อนุญาต อีกทั้งก่อนหน้านี้เขาต้องอยู่เฝ้าแม่หลายชั่วโมง เพราะกลัวแม่จะหลับยาวไม่ลุกขึ้นมาอีก กระทั่งแม่ลืมตาตื่นขึ้นมาและกอดเขาไว้แน่น ๆ ผิงกั่วก็รู้ว่าแม่รักเขา และฟังคำอธิษฐานของเขาที่อยากให้แม่ตื่นขึ้นอีกครั้ง และกลับมาอยู่ด้วยกัน เป็นครอบครัวแสนอบอุ่นอย่างที่ป้าลี่เคยสอนไว้
“มัม ๆ ให้เจียวเกอรออยู่ที่นี่”
“แต่น้องหิวนี่นา อยากกินไข่เหลืองนุ่ม มันบด แล้วก็เค้กกล้วย เฮียผิงไม่หิวก็อยู่ที่นี่คนเดียวสิ น้องจะไปฟาดให้เกลี้ยงเลย” เอ่ยจบเขาก็ไม่คิดจะออกไปทางประตู ด้วยเขาเคยใช้เก้าอี้ปีนขึ้นไปเปิดหน้าต่างในห้องนั่งเล่นได้ เรื่องกล้วย ๆ แค่นี้ เขาถนัดที่สุด
“ทำไร”
“น้องเป็นนินจา!”
เซียงเจียวเอ่ย เขาว่องไว เลื่อนเก้าอี้ได้ก็ปีนขึ้นไปเกาะขอบวงกบหน้าต่าง จากนั้นจึงคลายกลอนออกด้วยมือเล็ก ๆ เขาออกแรงอยู่หลายหน กระทั่งบานหน้าต่างแง้มเปิด เขาก็เตรียมจะกระโดดลงไปยังพื้นข้างนอกบ้าน แต่เด็กน้อยกลับต้องหวีดร้องลั่นด้วยความตกใจ
“แว้ก ผะ ผะ ผี!”
เงาของบางสิ่งโผล่มาขวางเขา มันเป็นเงาร่างสูงใหญ่ ผิงกั่วที่อยู่ข้างหลังน้องชายเองก็ตกใจอยู่เหมือนกัน แต่เขาเป็นคนกล้าหาญอย่างที่สุด จึงคว้าดาบไม้ของเล่น ตั้งใจช่วยน้องชายจากผีร้าย
ทว่าไม่ทันได้ทำสิ่งใด เซียงเจียวกลับหัวเราะร่วน
“ผะ ผี... กู๋กุ่ยมาแล้ว!”
เซียงเจียวหัวเราะเอิ้กอ้าก เขาคิดถึงลุงผีมาหลายวัน ในที่สุดอีกฝ่ายก็โผล่มา และเล่นผีหลอกด้วย
“ให้น้องจุ๊บไหมลุงผี”
เด็กชายว่าแล้วก็อ้อนเขาอย่างหนัก
“ลุงตัวเหม็น...”
“ฮิ ๆ ๆ น้องยังไม่อาบน้ำ แต่หอมมาก” เซียงเจียวว่าแล้วเกาะคออีกฝ่ายแน่นราวกับเป็นลูกแมวน้อย ในขณะนั้นชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่าลุงผีก็ปีนหน้าต่างพาเด็กชายกลับเข้ามาในห้อง ก่อนพบว่ามีอีกร่างที่เจ้าเนื้อกว่าเซียงเจียว เขากำดาบจีนของเล่นไว้มั่น พอลุงผียืนบนพื้นได้เท่านั้น ดาบในมือก็พุ่งเข้าไปฟันขาชายหนุ่มสามสี่ทีแบบรวดเร็ว
“ย่าห์ ๆ ๆ ตายซะเถอะ ผะ ผีร้าย”
คนตัวโตหัวเราะชอบใจ เด็กคนนี้โหดพอตัว และรู้จักระวังตัว ทั้งไม่ชอบหน้าเขาสักเท่าไร
ผิงกั่วไม่ยอมให้ลุงผีเข้าใกล้ ไม่เพียงแค่นั้น แต่เขายังพยายามจะเข้ามาทำร้ายชายหนุ่มด้วยดาบของเล่นในมืออีกรอบ
คนตัวโตนี้ เขาไม่ชอบใจเลย เพราะแค่เซียงเจียวหน้าเหมือนเขาก็น่ารำคาญที่สุดแล้ว ด้วยมีคนทักผิดบ่อย ๆ แต่ผู้ชายคนนี้กลับมีดวงตา ปาก กับคิ้วหนา ๆ คล้ายเขาและน้องชาย หากอยู่ใกล้กัน แม่กับเยว่จือต้องเรียกผิดคนแน่ๆ
“กู๋กุ่ย ปะ ไป!”
ผิงกั่วยกดาบขู่และทำท่าไล่คนตัวโตอย่างจริงจัง
“เฮียผิง วางดาบลง นี่เห็นไหม ลุงผีมีขนมมาฝากน้องด้วย”
ผิงกั่วส่ายหน้า จากนั้นจึงแยกเขี้ยวขู่ลุงผี ไม่เพียงแค่แยกเขี้ยว แต่เขายังส่งเสียงขู่คำรามด้วย มองดูแล้วคล้ายลูกเสือที่ดุเอาเรื่อง
ชายหนุ่มเห็นท่าทางของเด็กชาย เขาก็คิดหาทางผูกมิตรจึงล้วงเข้าไปในเสื้อ ก่อนจะได้โกโก้แบบแท่งมาหนึ่งอัน มันคือขนมแบบใหม่ล่าสุดที่กำลังโด่งดังและได้รับความนิยม ราคาเกือบสองดอลลาร์ต่อแท่งทีเดียว ซึ่งแน่นอนวาสสองแฝดไม่เคยกินมาก่อน
ผิงกั่วทำหน้าฉงน ทว่าพอเห็นมือใหญ่ ๆ แกะเปลือกขนมออก จมูกเขาก็เริ่มขยุกขยิก มันหอม มีกลิ่นหวาน ๆ ด้วย เขาไม่แน่ใจว่ามันคือสิ่งใด แต่คุ้นว่าคล้าย ๆ ผงโกโก้ที่แม่เคยชงอุ่น ๆ ให้ดื่มตอนเช้า ที่มันทั้งหวานหอมและทำให้อิ่มท้อง แต่รสชาติดังกล่าวหายไปนานแล้ว ยามนี้ที่บ้านมีก็แค่ไข่ต้ม น้ำเต้าหู้ที่เยว่จือไปขอมาจากโรงทาน แล้วก็พวกขนมไข่แข็ง ๆ ที่กินแล้วถ่ายแทบไม่ออก!
“อะไร!” เด็กชายถามเสียงห้วนอยู่สักหน่อย ตอนนี้น้ำลายมันเอ่อท่วมปาก
“โกโก้แบบแท่ง ผิงเกอ... อยากลองชิมไหม”
“มัมมี้ มะ ไม่ให้ กะ กิน” เขาตอบอย่างนั้น เพราะแม่บอกว่าห้ามรับของคนแปลกหน้า พร้อมกำชับให้ระวังให้มาก เพราะอาจถูกหลอกแล้วอุ้มขึ้นรถตู้ ซึ่งเขาจะไม่ได้กลับมาที่บ้านอีก
“แต่ตอนนี้แม่ไม่อยู่ มีแค่ลุงกับเจียวเกอเท่านั้น”
ผิงกั่วเกือบจะเข้าไปแย่งของในมือคนตัวโตที่หน้าเหมือนเขาแล้ว แต่ยั้งใจเอาไว้ทัน แม้จะหิวมาก ทว่าอีกฝ่ายคือคนแปลกหน้า เป็นกู๋กุ่ยที่แม่พยายามไล่อยู่หลายหน แต่สุดท้ายก็ปีนเข้ามานอนในบ้าน ทำตัวเหมือนแมวตัวผู้ที่รักสนุกให้แม่ต้องบ่น ต้องหาที่นอนให้เขา เพื่อซ่อนสายตาคนอื่นอยู่หลายวัน
“ไม่ต้องกลัว เอ้านี่... เจียวเกอคนเก่งจะกินให้ดู” ลุงผียื่นโกโก้แท่งหนึบอีกอันส่งให้เซียงเจียว และเด็กชายแกะอย่างรีบร้อน ก่อนกัดคำโต ๆ โดยแทบไม่ได้เคี้ยว เพราะอยากจะรีบกลืนลงคอ
“ช้า ๆ เจียวเกอ เดี๋ยวติดคอครับ” ลุงผีเตือน ทว่าไม่ทันเสียแล้ว ไม่กี่วินาทีของในมือเซียงเจียวก็หายแวบไปราวกับเล่นมายากล
ยามนั้นผิงกั่วถอนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ท่าทางเขาคิดไม่ตกและกำลังพ่ายแพ้ต่อความหิว
“ผะ ผมกิน ดะ ได้... ไหม”
ความสุภาพและดวงตากลมโตยามแสดงความขอร้องของเขาทำให้ลุงผีใจอ่อนยวบ อันที่จริงหลายวันที่ผ่านมา เขาไม่ว่างจะมาที่นี่ ทว่าสุดท้ายเมื่อแวะมาก็ทราบว่าครอบครัวเล็ก ๆ กำลังประสบปัญหาหนัก แก๊งมังกรซิ่งขู่เรียกเก็บดอกเบี้ย และถึงขั้นทำร้ายเยว่จือ เด็กสาวที่ทั้งซื่อและบริสุทธิ์
และถึงจะรู้เห็นเช่นนั้น แต่อันที่จริงเขาไม่ควรยื่นมือเข้ามาช่วย เพราะผู้หญิงอย่างม่านอวี้อันอวดดี แถมยังรวมหัวกับลุงและป้าของเธอ ร่วมกันหลอกลวงเขา จนทำให้เขาต้องนอนเป็นผักเกือบครึ่งปีในเหตุการณ์ก่อการณ์ร้ายครั้งใหญ่
พอเขาฟื้นตัวก็พบว่าตนมีแผลเป็นที่ข้างแก้มขวา แม้จะรักษาอย่างดี แต่มันก็ยังปรากฏชัดคล้ายหลุมลึกของลักยิ้ม ซึ่งชายหนุ่มไม่ชอบมันเอาเสียเลย เพราะมันทำให้เขาดูเหมือนผู้ชายที่มีความสุขอยู่ตลอด ด้วยการมีลักยิ้มแปะบนใบหน้า! ทั้งที่ความจริงมันคือสิ่งย้ำเตือนให้เขารู้ว่าตนถูกคนในครอบครัวหักหลังผ่านการจัดฉากแต่งงานแสนกระจอกที่ส่งตัวเจ้าสาวที่เขาไม่ต้องการมาให้ ทว่าสุดท้ายเขาที่ถูกมอมทั้งเหล้าและยาก็ขึ้นเตียงกับหญิงสาวแสนนุ่มนิ่มโดยที่เธอไม่ได้ขัดขืน แต่กลับยอมฝืนแสดงบทรักครั้งนั้นแบบโอนอ่อนผ่อนตาม และสุดท้ายทั้งเขาและเธอก็โหยหากันและกันราวกับตกหลุมรักแบบไม่ทันตั้งตัว
เขาสลัดสิ่งที่อยู่ในหัวทิ้ง มองเด็กชายผิงกั่วที่ยื่นมือมารับขนม มือเล็ก ๆ สั่นอยู่สักหน่อย เขาจึงอาสาช่วยแกะเปลือกขนมให้
“อร่อย!”
ผิงกั่วกัดคำเล็ก ๆ พอเขายิงฟันก็เห็นว่าโกโก้แท่งหนึบหนับติดฟันเป็นสีน้ำตาลเข้มจนดูเหมือนว่าเขาฟันหลอ
เซียงเจียวมองมาที่พี่ชาย เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังกินไม่หมดก็จ้องเขม็ง อยากขอแบ่งบ้าง
“น้องหิว... เฮียผิง...”
เสียงอ้อนนั้นมาพร้อมการทำตาเป็นประกายวิบวับ ชายหนุ่มไม่ได้เอ่ยสิ่งใด เขารอให้ผิงกั่วเป็นฝ่ายตัดสินใจ ซึ่งแน่นอนคนเป็นพี่ชาย ผิงกั่วหักโกโก้แท่งออกเป็นสองส่วนแล้วยื่นให้เซียงเจียว
“กินด้วยกัน”
ภาพตรงหน้าทำให้คนที่มองอยู่อดคิดไม่ได้ว่าจะดีเพียงใดหากเด็กชายทั้งสองคนเป็นลูกของเขาจริง ๆ และเขาจะทำให้ฝาแฝดกินอิ่ม นอนหลับสบาย พร้อมวางแผนอนาคตที่ดีให้