“คุณกลับไปได้แล้วฮานา คืนนี้ผมไม่มีอารมณ์พิศวาสคุณ ถ้า ‘หิว’ ผมจะโทร.หาคุณเอง”
เป็นที่รู้กันว่าคิวากรหมายถึงอะไรกับการพูดแค่เพียงสั้นๆ ว่า ‘หิว’ และถึงแม้จะถูกออกปากไล่ แต่ฮานาก็ไม่คิดจะไปง่ายๆ ทำท่าจะยกมือโอบจับต้นแขนของคิวากร แต่ก็ถูกชายหนุ่มถลึงตามองพร้อมกับออกคำสั่งเสียงห้วนจัด
“กลับไปฮานา! อย่าให้ผมต้องสั่งให้คนของผมมาลากคอคุณออกจากร้านอาหาร ไม่
เช่นนั้นชีวิตหน้าที่การงานของคุณจะพังในทันที”
ฮานาถึงกับหน้าเสียกับคำขู่กลายๆ ของคิวากร แน่นอนว่าเธอก้าวเข้าสู่วงการนางแบบแถวหน้าได้ก็เพราะมีคิวากรเป็นคนช่วยผลักดันแบบลับๆ และถ้าหากเธอทำให้ชายหนุ่มไม่พอ
ใจ อาชีพที่สามารถทำเงินให้กับเธอได้อย่างง่ายดายก็จะมืดดับลงด้วยฝีมือของคิวากรเช่น
เดียวกัน จึงจำต้องยอมทำตามคำสั่งของชายหนุ่มในที่สุด
“ก็ได้ค่ะ ฮานาจะกลับก่อน คุณคิวาอย่าลืมโทร.หาฮานานะคะ”
คิวากรไม่ตอบรับคำขอร้องทิ้งท้ายของฮานา และไม่สนใจด้วยว่านางแบบสาวจะลุกเดินไปตอนไหน ชายหนุ่มหันมาจ้องมองเพื่อนสาวอีกสองคนที่ไม่มีท่าทีว่าจะลุกไปง่ายๆ
พอเจอกับสายตาดุๆ ของคิวากรอีกครั้ง ทั้งรวิภาทั้งเฌอมาลย์ก็จำต้องลุกขึ้น ทั้งๆ ในใจนั้นไม่อยากเดินจากไปเพราะอยากรู้ว่าคิวากรกำลังจะคุยเรื่องอะไรกับเพื่อนชายอีกสองคน
เมื่อไม่มีสาวๆ นั่งสอดรู้สอดเห็นแล้ว คิวากรก็ถามเพื่อนทั้งสองคนอีกครั้ง โดยที่ดวงตายังคงจับจ้องมองไปยังหญิงสาวในชุดเสื้อยืดคอกลมสีดำคนเดิม
“ทำไมกูไม่เคยเห็นเธอเลยวะ เธอเรียนคณะเดียวกับพวกเราจริงหรือวะ”
“ฟ้าครามนะหรือ” จักรินถามเพื่อความมั่นใจ ยกแชมเปญขึ้นดื่มแทบจะตลอดเวลาที่คุยกับกลุ่มเพื่อน
“ใช่ ฟ้าคราม” คิวากรรับคำเสียงลึก พลางเอ่ยพูดเบาๆ ราวกับถามตัวเองซะมากกว่า “ทำไมเราไม่เคยเห็นเธอเลย”
แม้จะพึมพำพูดเสียงแผ่วเบา แต่กระนั้นเพื่อนทั้งสองก็ได้ยิน และภูริศเป็นฝ่ายเอ่ยตอบกลั้วเสียงหัวเราะร่วน และแน่นอนว่ายังแฝงไว้ด้วยความดูถูกคนที่กำลังตกเป็นหัวข้อการสนทนา
“ยัยฟ้าครามไม่เคยอยู่ในสายตาของผู้ชายคนไหนทั้งนั้น นายดูสิ ใส่แว่นหนาเตอะตามประสาเด็กเรียน ชุดก็เฉย กางเกงยีนส์ก็สีซีดๆ จะขาดไม่ขาดแหล่ สงสัยใส่มาสิบยี่สิบปีแล้วมั้ง”
“เสื้อผ้าของเธอเก่ากว่าเสื้อผ้าของคนใช้ที่บ้านกูอีกวะ”
คราวนี้เป็นคิวากรที่ร่วมวงดูถูกหญิงสาวที่ตกเป็นหัวข้อการสนทนา จากนั้นก็พากันหัวเราะร่วนด้วยความขบขำ และเสียงหัวเราะของพวกเขาทำให้เพื่อนๆ หลายคนรวมทั้งฟ้าครามได้หันมามองเช่นเดียวกัน และกลุ่มก๊วนของลูกชายมหาเศรษฐีก็ยังวิจารณ์ฟ้าครามอย่างสนุกปากด้วยความคึกคะนอง
“เธอคงไม่มีเงินซื้อชุดสวยๆ เหมือนเพื่อนผู้หญิงคนอื่น จนแต่ไม่เจียมตัว อยากมาร่วมงานเลี้ยงจนต้องถ่อสังขารใส่เสื้อผ้าเก่าๆ มา ยังดีที่พนักงานให้เข้าในร้าน ไม่ไล่เธอออกเพราะคิดว่าเธอเป็นขอทาน”
“ฮ่าๆๆ” คิวากรแหงนศีรษะหัวเราะร่วนกับคำเปรียบเปรย ก่อนจะชกหมัดใส่ต้นแขนเพื่อนพร้อมกับต่อว่าไม่จริงจังนักที่บังอาจพูดถูกใจเขาเป็นที่สุด
“ไอ้จัก มึงก็ช่างยกตำแหน่งหน้าที่การให้กับฟ้าคราม เธอได้เกียรตินิยมเกรดเฉลี่ย 4.00 เลยนะเว้ย จะมาเป็นขอทานได้ยังไง”
“จะไปรู้หรือวะ ก็เสื้อผ้าที่เธอใส่มันเก่าจริงๆ นี่หว่า” จักรินยังหัวเราะร่วนและล้อเลียนฟ้าครามไม่มีหยุด
และเพื่อนเลวที่ไม่ได้จริงใจกับคิวากรแม้แต่ครั้งเดียว ก็เอ่ยถามแกมท้าทายลูกชายเพียงคนเดียวของมหาเศรษฐีว่า
“คิวา...นายกินผู้หญิงมามากหน้าหลายตาแล้ว ตั้งแต่ไฮโซยันแม่ม่าย นายไม่คิดจะกินยัยฟ้าครามเด็กบ้านนอกคนนี้บ้างหรือ”
คำถามแกมท้าทายจากภูริศทำให้คิวากรต้องหันขวับมามองคนถาม และก็ถลึงตามองพร้อมกับตอบเสียงห้วน
“กูไม่ตาต่ำลดตัวไปกินยัยบ้านนอกคนนี้หรอก”
“แต่ลองหน่อยก็ดีนะเว้ย คิวา ยัยบ้านนอกยังสดซิงๆ แม้จะไม่สวยระดับนางเอก นาง
แบบ แต่นายจะเป็นผู้ชายคนแรกที่ได้เจาะไข่แดงของเธอ”
จักรินยุส่งเพื่อน ส่งสายตายอย่างรู้กันให้กับภูริศ และอีกฝ่ายก็รีบรับไม้ช่วยยุส่งอีกคน
“นั่นนะสิ นายกินผู้หญิงมาทุกรูปแบบแล้ว ลองกินไข่แดงของยัยฟ้าครามก็น่าจะอร่อยอยู่ไม่น้อย หรือว่านายไม่กล้ากินยัยบ้านนอก”
“อย่าให้เสียชื่อคาสโนว่าสิคิวา...แค่ผู้หญิงบ้านนอกคนหนึ่งนายจะยอมเสียชื่อของคาสโนว่าตัวยงไม่กินเธอเลยหรือวะ”
รู้ว่าคิวากรเป็นคนที่ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ จักรินจึงจี้แทงใจดำของคิวากร และก็ต้องลอบแตะมือกับภูริศใต้โต๊ะ เมื่อคิวากรตอบรับเสียงห้วนในทันที
“ใครบอกว่ากูไม่กล้ากินยัยฟ้าคราม เธอก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง แม้จะเฉยแสนเฉย แม้จะบ้านนอกตามเนื้อตัวคงมีแต่กลิ่นโคลนสาบควาย แต่กูจะทำให้พวกมึงเห็นว่า...นายคิวากร พิพัช คนนี้ได้สยบยัยฟ้าครามให้นอนครางอยู่ใต้ร่างของกู”
“อย่าดีแต่ปากสิคิวา ลงมือเลย ทำให้พวกเราและเพื่อนทุกคนเห็นว่านายเป็นคนจริงมากแค่ไหน”
ภูริศยุส่งต่อ โดยไม่ลืมยื่นแก้วแชมเปญให้เพื่อนรับไปกระดกเข้าปากทีเดียวจนหมดแก้ว
“ทำไมพวกมึงคิดว่ากูไม่กล้ากินยัยฟ้าครามเด็กบ้านนอก”
คิวากรถามเสียงห้วน ดวงตาจ้องเขม็งอยู่ที่ฟ้าคราม หญิงสาวผู้น่าสงสารซึ่งกำลังตกเป็นเหยื่อในเกมท้าทายของลูกชายมหาเศรษฐี
“หมายความว่า...นายจะกินยัยฟ้าครามยังงั้นหรือ” จักรินถามซ้ำเพื่อความมั่นใจ
และก็ได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากคิวากร คนที่ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ว่า “ใช่! กูจะทำให้พวกมึงเห็นว่ากูกล้ากินยัยบ้านนอกคนนี้ แต่พวกมึงต้องส่งยัยบ้านนอกไปให้กูที่โรงแรม”
“ได้...เรื่องนั้นไม่มีปัญหา”
จักรินรีบรับคำในทัน โดยมีภูริศเอ่ยสนับสนุนต่อท้าย
“นายไปรอที่โรงแรมของนายได้เลย”