ตัวก่อกวน #1

1168 Words
“โปรด” “นี่” “อวบครับ” “โปรดปราน” “อวบจ๋า” โปรดปรานแทบจะประสาทกินเสียให้ได้เมื่อถูกเรียกขานทั้งวันทั้งคืนตั้งแต่ก้าวเดินเข้ามาในสตูดิโอ เธอไม่อยากจะเชื่อสายตาเลยด้วยซ้ำที่ได้เห็นสิรดนย์ (ในฐานะลูกค้า) นั่งอยู่ก่อนแล้วที่โซฟาด้วยความสบายใจ มือหนายกแก้วกาแฟที่ใครสักคนน่าจะชงให้จิบราวกับนั่งพักอยู่ในบ้านพักตากอากาศก็มิปาน หญิงสาวที่แบกข้าวกล่องมาเต็มสองแขนรีบเอาของไปวางก่อนจะเดินไปถามรุ่นพี่สาวอย่างนัทธาทันที แต่อีกฝ่ายกลับทำราวกับทองไม่รู้ร้อนเสียอย่างนั้น “พี่นัท ทำไมคุณดนย์เขามาเร็วจังล่ะคะ กองยังไม่เริ่มเลยนะคะ” “คุณดนย์ไม่ได้บอกแกหรือ? ว่าทั้งวีคนี้ที่มีถ่ายเขาจะมาดู process การทำงานตั้งแต่เริ่มต้นเลย” นัทธาเลิกคิ้วน้อย ๆ มองรุ่นน้องที่ทำหน้าตาตื่นราวกับเห็นผีด้วยความงงงวย “ว่าแต่แกกับคุณดนย์มีอะไรไม่ชอบมาพากลหรือเปล่าเนี่ย” นับได้ว่าเรดาร์ของนัทธานั้นแม่นจนบางครั้งตัวโปรดปรานเองก็ตกใจและนับถือ เธอเม้มปากน้อย ๆ จัดแจงวางกล่องข้าวตามเมนูพร้อมกับแยกกล่องพิเศษออกมาเพื่อเขียนชื่อ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิด “คือ... อันที่จริงโปรดกับคุณดนย์เป็นเพื่อนสมัยมัธยมกันน่ะค่ะ รู้จักกันดีในระดับหนึ่งเลย” โปรดว่า ถอนหายใจอย่างแสนลำบากใจ “เมื่อก่อนเขาชอบแกล้งโปรด โปรดเลยไม่ค่อยสะดวกใจเท่าไหร่” “อ้าวตายแล้ว ตอนนี้เขายังแกล้งโปรดอยู่ไหม?” หญิงสาวตัวเล็กทำหน้าตาตื่นทันที เหลือบสายตาไปมองผู้ชายเจ้าสำอางค์ที่ยังเป็นเป้านินทาเพื่อสังเกต ท่าทางดูดี คำพูดคำจาก็ดี ไม่คิดเลยว่าจะเป็นพวกนิสัยไม่ดีหรือเป็นอันธพาลมาก่อน “ไม่ได้แกล้งหรอกค่ะ ออกแนวกวนมากกว่า โปรดถึงไม่อยากจะคุยอะไรกับเขามากเท่าไหร่อะพี่” “แต่...ยังไงโปรดก็ทำอะไรไม่ได้นะ” “...” “เพราะคุณมิวเพิ่งส่งเรื่องมาบอกพี่เองว่าจะ Promote ให้โปรดเป็นผู้ช่วยผู้กำกับของงานนี้” นัทธายิ้มแหะ ๆ มองหน้ารุ่นน้องที่ได้แต่มองเธออย่างตกใจ “ไม่ได้สิคะ แล้วคนอื่นจะทำอะไร ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรนี่ล่ะดีแล้วพี่ ไว้งานอื่นก็ได้” เธอรู้ว่าเงินที่ได้รับมันจะมากขึ้นหากแต่อย่างนั้นเธอก็ไม่อยากไปเบียดเสียดใครให้ต้องขุ่นเคืองใจกันเล่น ๆ อุตส่าห์ดูแลทุก ๆ คนด้วยอาหารและกำลังใจที่เธอให้อย่างจริงใจ จะให้เธอมาทำลายมิตรภาพดี ๆ แบบนี้ด้วยเรื่องเงินเรื่องทองที่ต่างกันไม่กี่พันได้อย่างไร ไม่ใช่มันไม่สำคัญ แต่เธอเองก็ไม่ได้อยากจะติดต่อกับสิรดนย์มากนัก “บอกคุณมิวน่ะบอกให้ได้ แต่บอกคุณดนย์พี่จะบอกยังไงกันล่ะ” นัทธามีทีท่าเหนื่อยใจ แม้อีกฝ่ายจะเป็นเด็กหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง พูดจาดี ฉลาดและรอบคอบ แต่ถึงอย่างนั้นไอ้การที่เข้ามาคุยด้วยน้ำเสียงเนิ่บ ๆ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพื่อให้ได้สิ่งที่ตนเองต้องการโดยที่คนถูกขอแทบไม่รู้ตัวเนี่ย...มันคือนิสัยเอาแต่ใจชัด ๆ “รายนั้นเดี๋ยวโปรดคุยเองก็ได้ค่ะพี่นัท” “จะดีหรือ?” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ยังไงโปรดก็รู้จักเขามาก่อน รู้อยู่แล้วว่าคุณดนย์นิสัยอย่างไร พี่นัทไปเตรียมเช็กความเรียบร้อยเถอะค่ะ เดี๋ยวโปรดจะได้ไปเรียกทีมมาทานข้าวเช้าก่อนเริ่มถ่าย” “โอเคเลย งั้นพี่ไปก่อนนะ” นัทธายิ้มให้เธอด้วยความรู้สึกผิด อันที่จริงมันโทษว่าเป็นความผิดของรุ่นพี่ร่างเล็กไม่ได้เลยแม้แต่น้อย หากจะโทษก็คงต้องโทษตัวโปรดปรานเองที่ไม่ยอมคุยกับคนเอาแต่ใจอย่างสิรดนย์ให้รู้เรื่องเสียก่อน หญิงสาวจัดการความเรียบร้อยอยู่อีกพักใหญ่ ๆ เมื่อเห็นว่าโปรดิวเซอร์สาวชูนิ้วโป้งมาให้ว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี โปรดปรานก็หยิบโทรโข่งขึ้นมาเรียกฝ่ายอื่น ๆ ให้มาหยิบข้าวไปทานทันที “ทุกคนคะ วันนี้โปรดเตรียมอาหารเช้าไว้ให้แล้วนะคะ มาทานก่อนไปทำงานได้เลยค่ะ เราจะเริ่มถ่ายกันตอนแปดโมงครึ่งรบกวนทุกคนเช็กเวลาด้วยนะคะ” เธอพูดด้วยท่าทีทะมัดทะแมง ในขณะที่สิรดนย์ได้แต่หันมองตามมายังเจ้าของเสียงที่ยิ้มแย้มให้กับทุกคน ต่างจากตอนอยู่กับเขาเพียงสองคนนัก โปรดปรานหยิบกล่องที่เป็นกล่องพิเศษไปให้ตามรายบุคคลต่าง ๆ ก่อนจะเหลือกล่องสุดท้ายที่เธอเขียนเอาไว้ด้านบนว่า ‘คุณสิรดนย์’ ที่เป็นข้าวผัดหมูง่าย ๆ กับไข่เจียวที่โปรดปรานจำได้ว่าอีกฝ่ายชอบกินมากขนาดไหนสมัยมัธยม เธอเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอีกฝ่ายจะยังชอบอยู่หรือเปล่า และถึงแม้เธอจะไม่พอใจนิดหน่อยที่สิรดนย์เข้ามาทำให้ชีวิตของเธอวุ่นวายไม่เหมือนเดิมด้วยเหตุผลที่เธอไม่รู้ แต่ถ้าหากเขาเป็นหนึ่งในลูกค้า หนึ่งในคนที่ทำงานร่วมกัน อีกทั้งยังเป็นเพื่อนเก่า ตัวเธอจะใจไม้ไส้ระกำใส่อีกฝ่ายไปก็ไม่ดีเท่าไหร่ “อาหารเช้าค่ะคุณดนย์” ข้าวกล่องพลาสติกใสหน้าตาธรรมดา ๆ ถูกส่งมาให้ร่างสูงในขณะที่คนอื่น ๆ ได้แต่ลอบมองอย่างแปลกใจปนสงสัยใคร่รู้ เพราะปกติแล้วอาหารของลูกค้าที่เข้ามาคุยงานทาง Production House ของโปรดปรานมักจะสั่งเมนูพิเศษจากเกรย์ฮาวด์ไม่ก็ภัตตาคารที่ค่อนข้างมีชื่อมาให้มากกว่าที่จะให้ทานข้าวกล่องธรรมดาเหมือนกับลูกค้าและกลุ่มนักแสดง อันที่จริงต้องเรียกว่าสิรดนย์น่ะเป็นคนแรกด้วยซ้ำ แต่แล้วผู้คนก็ต้องต่างแปลกใจเข้าไปใหญ่เมื่อแทนที่ร่างสูงนั่นจะมีอาการไม่พออกพอใจหรืออะไร พลันกลับหลุดรอยยิ้มกว้างที่ผู้คนไม่เคยได้พบเห็นออกมาทันทีเมื่อเปิดกล่องกล่องนั้นออก กลิ่นหอมฉุยของอาหารทำเอาเขาท้องร้องเบา ๆ มือหนาจัดการรับช้อนส้อมที่หญิงสาวส่งมาให้ อีกทั้งยังไม่วายคว้าข้อมือบางเอาไว้ “กินด้วยกันสิ ของเธอเป็นข้าวผัดเหมือนกันไหม?” “อืม” โปรดปรานพยักหน้า ยกมือซ้ายที่ถือส่วนของตัวเองให้กับอีกฝ่ายดู ในนั้นเป็นข้าวผัดหมูใส่ผักเช่นเดียวกับของสิรดนย์ หากแต่ไม่มีไข่เจียว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD