EP.9 สิ่งสำคัญ

1174 Words
EP.9 สิ่งสำคัญ ยอมรับเลยว่าหากหญิงสาวไม่ใช่ผู้หญิงแพศยาที่จะแต่งงานกับสราวุธ เขาคงตกหลุมเสน่ห์ของเธอจนถอนตัวไม่ขึ้น ครั้งแรกที่เขาเห็นใบหน้ามน ดวงตากลมโตสุกใส ที่หนีหลบเข้าไปอยู่หลังม่านเขาก็ถึงกับตื่นตะลึง เมื่อเขาไปชุดกระชากลากเธอมา ทำให้เขารู้สึกราวกับตนเองเป็นพรานโฉดที่กำลังฉุดคร่ากินรีแสนสวย แววตากลมโตตื่นตระหนก ริมฝีปากเล็กสีชมพูระเรื่อ ทรวดทรงองค์เอวเย้าใจชาย ไม่แปลกเลยหาก สราวุธจะทอดทิ้งผู้หญิงทุกคนเพื่อมาแต่งงานกับเจ้าหล่อน ผู้หญิงแพศยามักมีเสน่ห์มารยาอาบยาพิษเป็นอาวุธ เขาจะไม่มีวันหลงไปกับมารยาของเธอเป็นอันขาด! “นี่คงรู้ว่าฉันยืนอยู่ตรงนี้สินะ ถึงได้จงใจอาบน้ำยั่วยวนฉัน หน้าด้านที่สุด!” ชายหนุ่มกัดฟันกรอด ผละออกจากหน้าต่างด้วยความหงุดหงิดเหลือกำลัง สายน้ำเย็นทำให้หัวใจเหี่ยวเฉาของหญิงสาวชุ่มชื่น น้ำในโอ่งเย็นชื่นใจ เมื่อลมเย็นพัดมากระทบผิวกายอีกระลอกก็ทำให้คนตัวเล็กถึงกับห่อไหล่ด้วยความหนาว เธอรีบผลัดผ้า เสื้อยืดสีขาวกลางเก่ากลางใหม่กับผ้าถุงสีเขียวใบตองไม่ทำให้ความสวยของหญิงสาวลดน้อยลง กลับกันเสื้อหลวมๆ ทำให้จินตนาการของพ่อเลี้ยงหนุ่มบรรเจิดจนแทบกู่ไม่กลับ “ชักช้า ที่นี่เข้านอนเป็นเวลา คิดว่ามาพักผ่อนกลางป่าเขาหรือยังไง” อินทัชกอดอกยืนเป็นยักษ์ปักหลั่นอยู่ชานบ้าน “รู้ได้ยังไงว่าฉันกำลังคิดแบบนั้น แหม...อากาศเย็นสบาย ด้านหน้าเป็นป่า ด้านหลังเป็นภูเขา ได้ยินเสียงน้ำตกดังมาจากไกลๆ มีเสียงนกและจิ้งหรีดร้องระงมลั่นป่า ช่างสุนทรีย์เสียนี่กระไร” หญิงสาวกางแขนออก เชิดหน้าน้อยๆ อย่างยียวนกวนประสาทอีกฝ่าย ซึ่งมันได้ผลมากทีเดียวพ่อเลี้ยงอินทัชกัดกรามเป็นสันนูน มองหน้าหญิงสาวอย่างเอาเรื่อง “แล้วเธอจะได้สนุกยิ่งกว่านี้แน่แก้วมุกดา” “แหมดีใจจังค่ะ” หญิงสาวยิ้มหวานยั่วอีกฝ่าย อินทัชพยายามสงบสติอารมณ์ไม่เต้นไปกับแรงยั่วของหญิงสาว แม้จะทำได้ยากเย็นเต็มที เขาทรุดตัวลงนั่งบนเบาะรองนั่ง จัดการกับข้าวต้มหมูสับกลิ่นหอมตรงหน้า แก้วมุกดาลอบกลืนน้ำลาย มือบางลูบท้องของตัวเองที่ส่งเสียงร้องประท้วงจนน่าอาย “นั่นส่วนของเธอ” เขาชี้ไปที่ถ้วยข้าวต้มบนถาดสแตนเลสวางอยู่บนพื้น แก้วมุกดาทรุดตัวลงนั่งมองข้าวต้มเปล่า กับยำผักกาดดองแล้วมองหน้าชายหนุ่ม เมื่อเห็นเขายิ้มอย่างสะใจมีหรือที่เธอจะยอม “แหมพ่อเลี้ยงรู้ใจฉันดีเหลือเกินนะคะ รู้ด้วยว่ามื้อเย็นฉันไม่ทานเนื้อสัตว์ค่ะ รักษาหุ่น” หญิงสาวยิ้มที่มุมปากก่อนจะลงมือตักข้าวต้มรับประทานด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย ในเมื่อเขาต้องการเห็นเธอทุกข์ทรมาน เห็นเธอลำบาก ร้องไห้คร่ำครวญ เธอก็จะทำสิ่งตรงข้ามให้หมด อย่าคิดว่าเธอจะยอมเขาไปเสียทุกอย่าง รู้ฤทธิ์แก้วมุกดาน้อยไปเสียแล้ว... “ปากดีนี่...” ชายหนุ่มไม่วายค่อนขอด “ขอบคุณที่ชมค่ะ” เธอหันไปยิ้มหวานให้เขา แล้วตักข้าวต้มแกล้มผักกาดดองรับประทานจนหมดถ้วย ก่อนจะลูบพุงตัวเองช้าๆ “แหม...ข้าวต้มร้อนๆ นี่อุ่นท้องดีเหมือนกันนะคะ อ้าว! พ่อเลี้ยงขา...” หญิงสาวจงใจลากเสียงยานคางกวนประสาท “ทำไมข้าวต้มไม่พร่องเลยล่ะคะ ไม่หิวหรือว่าไม่อร่อย เอ๊ะหรือว่าทานไม่ลง หรือ...” “พอได้แล้ว!” เขาตวาดก่อนที่หญิงสาวจะสันนิษฐานไปมากกว่านี้ หญิงสาวยกมือขึ้นแคะหูแล้วหันไปมองเขาอย่างตำหนิ “ว่างๆ ไปหาหมอบ้างนะคะพ่อเลี้ยงขา ตะโกนซะเสียงดังขนาดนั้น สงสัยหูจะตึง” “นี่เธอ!” พ่อเลี้ยงอินทัชลุกขึ้นยืน หากวัดความโมโหด้วยปรอท ป่านนี้คงทะลุจนปรอทแตกไปแล้วแน่ๆ “ก็บอกแล้วไงคะ ว่าให้เบาๆ หน่อย ฉันได้ยินค่ะ ได้ยินชัดเต็มสองหูเลยทีเดียว” เธอเหยียดริมฝีปากแล้วมองชายหนุ่มด้วยหางตา และนั่นทำให้ความอดทนของอินทัชสิ้นสุดลง เขาตรงเข้ากระชากคอเสื้อร่างบางจนตัวลอย แก้วมุกดาตกใจกับการกระทำของเขาแต่เธอซ่อนความหวาดกลัวไว้ลึกสุดใจ เธอจะไม่ร้องไห้แสดงความอ่อนแอเหมือนเมื่อเย็นที่ผ่านมาให้เขาเห็นอีก เขาจะได้เห็นแต่มุมที่เธอเข้มแข็ง และสู้คนเท่านั้น! หญิงสาวมองสบตาชายหนุ่มอย่างไม่กลัวเกรง เขาคิดอะไรอยู่เธอไม่รู้ แต่ที่รู้ก็คือเธอกลัวจนจะบ้าตายอยู่แล้ว ชายหญิงอยู่กันสองต่อสอง ต่อให้เขาฆ่า หรือทำร้ายเธอ ก็คงไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยได้ “เก็บถ้วยจานไปล้างให้เรียบร้อย แล้วรีบเข้านอน พรุ่งนี้ฉันมีงานให้เธอทำแต่เช้า” พูดจบเขาก็ปล่อยร่างบางแล้วเดินกลับเข้าห้องไป แก้วมุกดาขาอ่อนทรุดฮวบลงไปกองกับพื้นอย่างสิ้นไร้เรี่ยวแรง เธอยกมือขึ้นกุมหัวใจที่เต้นรัวเร็ว คนอวดเก่งเมื่อครู่จางหาย เหลือเพียงหญิงสาวบอบบาง ใบหน้าแดงก่ำ กัดริมฝีปากเข้าหากันแน่น ดวงตาคู่สวยคลอหยาดน้ำใสทำท่าจะหยาดหยด “เรื่องแค่นี้เองแก้วมุกดา เธอต้องผ่านมันไปให้ได้สิ ผ่านมันไปให้ได้ เหมือนที่เธอเคยผ่านมันมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ลำบากแค่นี้ทำไมเธอจะทนไม่ได้” หญิงสาวปลุกปลอบใจตัวเอง แล้วเก็บถ้วยชามเดินลงบันไดบ้าน แต่ด้วยมันมืด หรือเธอไม่ถนัดนุ่งผ้าถุงก็ไม่ทราบได้ เธอจึงก้าวพลาดไถลตกจากบันได เสียงดังโครมคราม เสียงจานชามแตกกระจายทำให้พ่อเลี้ยงอินทัชเดินออกมาดู แก้วมุกดานอนคว่ำอยู่บนพื้น ค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นยืน เศษจานที่แตกบาดลงบนข้อศอกและหัวเข่า แม้จะไม่มากแต่ก็ทำให้หญิงสาวน้ำตาร่วงเผาะ เธอทรุดตัวลงนั่งที่ตีนบันได ยกสองมือปิดหน้าร้องไห้อย่างเงียบเชียบ มีเพียงไหล่บางที่สั่นน้อยๆ ภาพเบื้องหน้าทำให้อินทัชไม่ได้เดินลงไปต่อว่า หรือซ้ำเติมหญิงสาว เขารู้สึกเหมือนมีก้อนแข็งๆ แล่นมาจุกที่ลำคอ ความรู้สึกสงสารทำให้หัวใจของเขาอ่อนยวบ อันที่จริงจะว่าแก้วมุกดาผิดก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะคนที่ผิดคือผู้ชายมักมากอย่างสราวุธต่างหาก แต่ถึงกระนั้นแก้วมุกดาก็เป็นสาเหตุที่ทำให้น้องสาวของเขาต้องตาย อย่างไรเสียหญิงชายคู่นี้ก็ต้องได้รับโทษอย่างสาสม ชายหนุ่มหมุนตัวกลับเข้าไปในห้องอย่างเงียบเชียบ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD