EP.4 เจ้าสาวพยศ
คนอย่างเธอ เมื่อจนตรอก ก็พร้อมจะสู้ยิบตา
“คิดว่าฉันกลัวงั้นเหรอแก้วมุกดา”
คนถูกข่มขู่ถึงกับหรี่ตาคมมองหญิงสาวอีกครั้งอย่างสำรวจ เขาคาดการณ์ผิดไปถนัด เพราะคิดว่าหญิงสาวคงร้องไห้ฟูมฟายออดอ้อนเขาเหมือนผู้หญิงทั่วไป แต่เปล่าเลย...เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวถูกจับมาอยู่กลางป่ากลางเขา แต่กลับยืนเถียงเขาฉอดๆ นี่ถ้าไม่ได้มัดมือเอาไว้ เธอคงตรงเข้าทำร้ายเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อหญิงสาวอาศัยจังหวะที่พ่อเลี้ยงอินทัชเผลอ เธอกระโจนเข้าหาเขาแล้วยกเท้าถีบชายหนุ่มสุดแรง คนตัวโตไม่ทันตั้งตัวถึงกับล้มหงายลงไปบนพื้น เมื่อลุกขึ้นได้ก็เห็นว่าหญิงสาววิ่งหนีเข้าป่าไปเสียแล้ว
“หน็อยนังตัวดี” ชายหนุ่มวิ่งตามหญิงสาวไปอย่างรวดเร็ว ลูกน้องคนอื่นๆ เห็นดังนั้นก็รีบวิ่งตามเจ้านายหนุ่มไปทันที
“กลับไปรอที่รถ แค่นี้เดี๋ยวฉันจัดการเอง” ชายหนุ่มหันกลับมาสั่งแล้ววิ่งตามหญิงสาว ลูกน้องสี่คนยืนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ‘แค่นี้’ ของพ่อเลี้ยงหนุ่มแต่กลับถูกถีบจนหงายหลังทำให้พวกเขาอดเป็นห่วงเจ้านายหนุ่มไม่ได้ ว่าจะสามารถจับแม่เสือสาวกลับมาหรือถูกแม่เสือสาวฆ่าทิ้งหมกป่าเสียก่อน
“โธ่โว้ย”
พ่อเลี้ยงหนุ่มหงุดหงิดเมื่อคนตัวเล็กวิ่งเร็วจนเขาวิ่งตามแทบไม่ทัน นี่ขนาดเธอนุ่งผ้าถุง วิ่งเท้าเปล่าเพราะรองเท้าส้นสูงเธอถอดทิ้งอย่างไม่ไยดี ยายนี่เป็นนักวิ่งลมกรดหรือยังไงนะ...
หญิงสาวหงุดหงิดยกมือขึ้นแล้วพยายามใช้ปากแก้มัดเชือกท้ายที่สุดหญิงสาวก็กระโจนหลบเข้าไปในพุ่มไม้ เพราะรู้ตัวดีว่าต่อให้หนียังไงเขาก็ตามเธอทันอยู่ดี ก็เพราะชุดไทยที่เธอสวมใส่อยู่นี่สิ ทำให้เธอก้าวเท้าวิ่งลำบาก หากเป็นยามปกติละก็หญิงสาวมั่นใจว่าจะต้องหนีทัน นักกีฬาเหรียญทองสมัยมัธยมปลายอย่างเธอ ไม่มีทางให้ตาล่ำตัวโตตามได้อย่างแน่นอน
“แก้วมุกดา ออกมาเดี๋ยวนี้นะ อย่าให้ฉันโมโหไปมากกว่านี้” ชายหนุ่มหมุนมองไปรอบตัว กวาดตามองหา แล้วก็ไปสะดุดกับสไบสีอ่อนที่โผล่พ้นออกมานอกพุ่มไม้
‘หึ! นังตัวดี คิดว่าจะหนีเขาพ้นอย่างนั้นหรือ’ ชายหนุ่มคลี่ยิ้มที่มุมปากก่อนจะวิ่งไปอีกทาง
ร่างบางถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอนั่งอยู่อีกพักใหญ่เพื่อรอดูว่าลูกน้องคนอื่นๆ ของเขาวิ่งตามมาด้วยหรือไม่ เมื่อไม่เห็นใครหญิงสาวจึงรีบจัดแจงแก้มัดเชือกที่ข้อมืออย่างทุลักทุเลพลางเดินหนีเข้าไปในป่าอย่างไร้จุดหมาย
“กรี๊ด!”
หญิงสาวหวีดร้องอย่างสุดเสียงเมื่อจู่ๆ เธอก็ตกลงไปในหลุมพรางขนาดใหญ่ หลุมที่ชาวบ้านขุดเอาไว้เพื่อใช้ดักสัตว์ แก้วมุกดาอยากจะกรีดร้องกับความโชคร้ายซ้ำซากของตัวเองนัก เพิ่งจะหนีจากพ่อเลี้ยงในคราบโจรมาได้ แต่กลับมาตกหลุมพรางที่ใช้ล่าสัตว์เสียอย่างนั้น
เธอทิ้งตัวลงนั่งแล้วพยายามแกะเชือกจนสำเร็จ เลิกผ้าถุงกรอมเท้าขึ้นสูงแล้วพยายามปีนขึ้นไป เธอจะไม่ยอมนอนรอความตายอยู่ในหลุมแห่งนี้แน่ๆ เมื่อหญิงสาวมาถึงปากหลุมก็มีมือหนายื่นมายังเบื้องหน้า
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาววางมือลงบนมือนั้นหมายจะให้เขาช่วยดึงขึ้นไป แต่แล้วเธอก็ฉุกใจคิด รีบแหงนหน้าขึ้นมองผู้หวังดีทันที
“พ่อเลี้ยงอินทัช” หญิงสาวสะบัดมือออกอย่างรวดเร็ว เป็นเหตุให้เธอร่วงหล่นลงไปอีกครั้ง
“กรี๊ด!”
หญิงสาวกรีดร้องเสียงดังเมื่อคิดว่าก้นของตนคงตกลงไปกระแทกพื้นดินอีกรอบ แต่การณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่ออินทัชดึงแขนเธอเอาไว้ แล้วอุ้มร่างของหญิงสาวขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย มองคนที่ยังหลับตาแน่นด้วยความรู้สึกขบขันระคนโกรธ
“ลืมตาได้แล้ว”
หญิงสาวค่อยๆ ลืมตาขึ้น เมื่อเห็นว่าตนตกอยู่ในอ้อมกอดแกร่ง เธอก็ผลักที่อกเปลือยเปล่าของเขาเต็มแรง ทว่าเขากลับยืนนิ่งไม่ได้สะทกสะเทือนกับเรี่ยวแรงน้อยนิดของเธอแม้แต่น้อย
“ปล่อยฉันนะไอ้คนชั่ว” เมื่อหายตกใจเธอก็ออกฤทธิ์ดิ้นรนอีกครั้ง
“สเปกของนายสราวุธเปลี่ยนไปมากนะ ปกติแล้วฉันเห็นผู้หญิงแต่ละคนของมันเรียบร้อยอ่อนหวานทั้งนั้น ฉันไม่เคยเห็นใครแก่นแก้วเหมือนลิงอย่างเธอ”
เมื่อได้ยินเขาต่อว่าเธอว่าเหมือนลิง หญิงสาวก็หน้างอง้ำ อันที่จริงสเปกของสราวุธไม่ได้เปลี่ยน เขายังชอบผู้หญิงเรียบร้อยอ่อนหวานดังเดิม และที่เขาแต่งงานกับเธอเพราะเขาเข้าใจว่าเธอเป็นอย่างที่เขาคิด เขาไม่เคยเห็นด้านดื้อทโมนของเธอ และแน่นอนเธอไม่มีทางให้เขาเห็น
“ความจริงคุณก็ไม่ได้เลวร้าย อย่างน้อยเมื่อครู่คุณก็ช่วยฉันไว้ ถามจริงๆ เถอะว่าคุณจับฉันมาทำไม” หญิงสาวเอ่ยถามเขาตรงๆ ในแววตาของเธอนั้นไม่มีความเกรงกลัวเขาเลยสักนิด
ทว่าแววตาของชายหนุ่มกลับหม่นลงอย่างน่าใจหาย เขาผละออกจากหญิงสาวแต่ยังจับแขนเธอเอาไว้ เขาไม่ควรใจดีและไม่ควรใจอ่อนกับเธอ อย่าลืมสิว่าเธอเป็นต้นเหตุแห่งความหายนะทั้งหมด ความสูญเสียตลอดกาลที่ไม่อาจเรียกกลับคืน ผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่งต้องทุกข์ใจจนตาย เพราะถูกหญิงชั่วชายโฉดย่ำยีทำร้ายร่างกายและจิตใจจนไม่เหลือชิ้นดี
“อย่ามาสาระแน!”
แก้วมุกดาอ้าปากค้างเมื่อโดนด่าว่าสาระแน แล้วเม้มปากเข้าหากันจนเป็นเส้นตรงด้วยความกรุ่นโกรธ ผู้ชายอะไรหน้าตาก็ดี แต่ปากจัดเสียยิ่งกว่าแม่ค้าในตลาดเสียอีก
“ฉันไม่ได้สาระแน แต่มันเป็นเรื่องของฉัน คุณจับฉันมา ดังนั้นฉันมีสิทธิ์จะรู้ไม่ใช่หรือไง” หญิงสาวเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้
“เธอจะได้รู้แน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้”
เขากระชากเสียงห้วนอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วดึงแขนหญิงสาวให้ออกเดินตาม ทว่าแก้วมุกดาไม่ใช่คนว่านอนสอนง่าย เธอขืนตัวสุดแรงไม่ยอมออกเดิน ยิ่งเขาออกแรงกระชากให้เธอออกเดินเท่าไหร่เธอก็ยิ่งขืนตัวจนกลายเป็นทรุดนั่งลงไปกองกับพื้น อินทัชเห็นดังนั้นก็จัดการลากหญิงสาวอย่างไม่ปรานีจนร่างบางล้มลงและไถลไปกับพื้น
“โอ๊ย! ฉันเจ็บนะ”
หญิงสาวโวยวายเมื่อเธอโดนลากไถลไปกับดินและเศษใบไม้ จนตามเนื้อตัวถลอกไปหมด แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่หยุดเขายังออกแรงดึงเธอไปเรื่อยๆ ขณะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาสั่งการลูกน้องอีกสี่คนที่รอเขาอยู่ที่รถ
“พวกนายกลับไปที่บ้านใหญ่ได้เลย บอกคุณแม่ว่าฉันจะอยู่ที่บ้านป่าหลายวัน ไม่ต้องเป็นห่วง อ้อ...แล้วห้ามบอกเรื่องนี้ให้ท่านรู้โดยเด็ดขาดเข้าใจมั้ย” เมื่อกำชับลูกน้องเรียบร้อยชายหนุ่มก็หันกลับมา เลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ ที่ได้ยินหญิงสาวด่าทอเขาไม่ขาดปาก