ep1. ดาว(ยั่ว)มหาลัยน้องไหวเหรอ

4970 Words
นที "เฮ้ยไออิท ยังไม่เลิกsecเลยมึงจะรีบไปไหน?!" อิทธิ "แดกเหล้า" นที "จะโดดซ้อมเชียร์เหรอ!! วันนี้พี่ประธานมาคุมเองเลยนะเว้ย พี่รหัสมึงไม่ใช่ไง?" อิทธิ "ใคร?" นที "เอ๊าาา นี่มึงไม่รู้จักพี่ลลิลประธานเชียร์ได้ไงวะ พี่เค้าเป็นถึงดาวมหาวิทยาลัยปีที่แล้วเลยนะเว้ย เป็นน้องรหัสจริงป๊ะเนี่ย" อิทธิ "ไม่เคยเจอ" นที "เออ..กูลืมไปว่ามึงเพิ่งย้ายกลับมา บทสนทนาของนักศึกษาเฟรชชี่ปี1คณะวิศวะกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังที่มีชื่อเสียงติดอันดับท๊อป3ของประเทศ อิทธินักศึกษาหัวกะทิระดับต้นๆเดิมทีเค้าศึกษาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาแต่ด้วยเหตุผลส่วนตัวจึงย้ายกลับมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยในประเทศไทย นิสัยส่วนตัวเป็นคนนิ่งๆเข้าถึงยาก พูดน้อยแต่ถ้าลองได้พูดออกมาแล้วจัดอยู่ในประเภทปากสุนัขเลยหละ ไม่รู้ทำไมสาวๆมารุมกรี๊ดคนปากเสียแบบนี้ อาจเป็นเพราะเบ้าหน้าฟ้าประทาน ความอัจฉริยะดั่งเทพบรรดาลให้ และที่สำคัญบ้านรวยดูจากนาฬิกาข้อมือที่เขาใส่ Jacob&Co.Astronomia Solar Planets – Zodiac ที่ในโลกมีแค่ไม่กี่เรือน เรียกได้ว่าโปรไฟรไม่ธรรมดา เข้าสูตร หล่อฉลาดบ้านรวยค..ยใหญ่(ขออภัยในความหยาบโลนก็น้องมันหล่อแบบตะโกนจริงๆมันต้องใช้คำนี้เท่านั้น^o^) แต่มีน้อยคนนักที่จะรู้ถึงประวัติส่วนตัวเขา ส่วนเด็กหนุ่มหน้าตาดี ยิ้มทีโลกละลาย เจมส์จิรายุยังต้องอาย หมากปริญชิดซ้ายไป พูดเลย เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของนายอิทธิ นที หลานชายคณะบดี "มีปัญหาใส่ชุดนักศึกษามาหาพี่เดี๋ยวเคลียร์ให้" คำติดปาก เป็นคนยิ้มมีเสน่ห์ เจ้าชู้ หล่อเท่ห์ สายเปย์ที่แท้ทรู บุคลิกตรงข้ามกับเพื่อนสนิทสิ้นเชิงไม่รู้คบกันได้ยังไง เห็นจะมีที่เข้ากันอย่างไม่ค้านสายตาคือความออร่าพุ่งกับหุ่นนักกีฬาสูง ยาว เข่าดี ดีกรีนักบาสเก็ตบอลมหาวิทยาลัยเดินคู่กันที่ไหนสาวๆใจละลายทันที ด้วยส่วนสูง189cmทั้งคู่ กร้าวใจไรท์ซะจริงๆ(หลงรักตัวละครของตัวเอง) พอรู้จักกันคร่าวๆแล้วโน๊ะ ไปต่อค่ะ... พิมพ์ประภา "ไม่มาอีกแล้วค่ะพี่ลิน" ลลิล "ทั้งสองคนเลยเหรอพิม" น้องรหัสของฉันนี่มันยังไงสงสัยต้องเจอกันหน่อย ปล่อยมานานแล้ว ตอนประชุมสายรหัสก็ไม่เข้า เป็นถึงนักกีฬามหาวิทยาลัยแต่ไม่มีวินัยเอาซะเลย ยิ่งไม่มีความเคารพรุ่นพี่อย่างนี้ด้วยแล้วปล่อยไว้ไม่ได้ ยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันเลยทำตัวลึกลับละเกิน เดี๋ยวได้เจอของจริง แล้วจะหาว่าสวยไม่เตือน.. ฉันผู้บ่นกับตัวเอง ลลิล "ไปกัน พิม" พิมพ์ประภา "ไปไหนคะพี่ลิล" ลลิน "ได้เวลาไปเยี่ยมเยียนน้องรหัสของฉันกันแล้ว" ฉันหันมาชวนลูกพี่ลูกน้องของฉัน เธอชื่อพิมพ์ประภา คือที่จริงเราเรียนปีเดียวกันแต่ยัยพิมเป็นเด็กเรียนเก่งสอบเทียบจบม.ปลายเร็ว เลยตามฉันเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยตั้งแต่อายุ17เรียนคณะเดียวกันอยู่หอด้วยกันอีก เป็นทั้งญาติสนิทและเพื่อนสนิทของฉัน ว่าแต่แล้วฉันจะไปตามหาน้องรหัสของฉันได้ที่ไหนละเนี่ย.. . .. ณ ชมรมบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัย ตึง ตึง ตึง เอี๊ยด เอี๊ยด เสียงเคาะลูกบาสและรองเท้าผ้าใบเสียดสีกับพื้นดังก้องในโรงยิมของชมรมบาสเก็ตบอล ชายหนุ่มรูปร่างกำยำกล้ามเป็นมัดๆพร้อมซิกแพคแน่นนับสิบคนกำลังฝึกซ้อม บ้างก็วิดพื้น บ้างซ้อมชู๊ตสามแต้ม บ้างแบ่งทีม3:3แข่งกันครึ่งสนาม "ขอโทษค่ะ มีใครเห็นนายอิทธิวิศวะปี1บ้างคะ?!?" เสียงหวานใสดังขึ้นที่หน้าประตูทางเข้าโรงยิม ทุกสายตาหันมามองที่ต้นเสียงแล้วต้องตะลึงดั่งถูกสะกดเวลาให้หยุดนิ่ง ต้องมนต์ของคนที่เพิ่งมา คนหน้าหวานชะงักเท้าไม่กล้าเดินต่อด้วยเพราะบรรยากาศในตอนนี้ ตึง ตึง ตึงงงง ลูกบาสเกตบอลกระเด้งพื้นโดยไม่มีผู้เล่นคอยเลี้ยงบอลไม่ช้าก็กระดอนต่ำลงจนกลิ้งไปหยุดที่เท้าของคนงาม "มีไร!!?" เสียงทุ้มห้าวกร้าวใจดังมาจากด้านหลัง ร่างขาวรีบหันกลับไปโดยไม่ทันระวังหน้านวลชนเข้ากับแผงอกแกร่งทิ้งรอยลิปติกสีชมพูบางเบาไว้ที่อกเสื้อของคนมาใหม่ที่ทำให้ตกใจ "ว๊ายยย" เธอเซถอยหลังเหยียบเข้ากับลูกบาสที่กลิ้งเข้ามาเมื่อสักครู่ทำให้กำลังจะล้มหงายหลัง มือหนาของคนตัวสูงรีบเอื้อมคว้าเอวร่างบางโดยอัตโนมัติ โคร้มมมม!!! ปากนุ่มประกบเข้ากับปากของคนตัวสูงในองศาที่พอดิบพอดี คนสวยตกใจรีบผละออกสองแขนยันพื้นทะลึ่งตัวรีบลุกขึ้นยืน "ขอบคุณ เอ่ออ ขอโทษ เอ่ออ ขอบคุณค่ะ" คนสวยรีบพูดอย่างละล่ำละลัก "อืม โอ้ยย!!!" คนตัวสูงพยายามจะลุกขึ้นแต่เจ็บแปร๊บที่ไหล่คงเพราะที่ล้มเมื่อกี๊ตอนเค้ารีบคว้าเอวคนตัวเล็กแล้วเอี้ยวใช้ตัวเองรองเป็นเบาะให้เธอล้มทับโดยใช้ไหล่ลง "เป็นอะไรวะไออิท" นทีรีบเข้ามาประครองแล้วถามอาการเพื่อน "ไหล่เคลื่อน" อิทธิตอบกลับเพื่อนสั้นๆ นักบาส2-3คนวิ่งมาช่วยพยุ่งคนตัวสูงที่ตอนนี้ไหล่เจ็บ "ไปห้องพยาบาลดีกว่านะครับ กัปตัน " "พี่ลิลโอเคมั้ยคะ?" พิมพ์ประภาถามขึ้นเมื่อเห็นว่าลลิลยืนเงียบแก้มแดงก่ำตัวสั่นเทิ้ม คนแก้มแดงหันมาส่งยิ้มส่ายหน้าเล็กน้อยให้ญาติผู้น้องทำนองว่าไม่เป็นอะไร แต่ในใจสั่นไหวก็นั่นมันจูบแรกของเธอแถมมันน่าอายที่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นต่อหน้าทุกคน "หมดกันจูบแรกของฉั้น แต่เอ..นั่นเรียกว่าจูบเหรอแค่ปากชนปากไม่นับ" คนแก้มแดงคิดเองตอบเองในหัว เธอมองประเมินอาการของอิทธิ "ก็ลุกยืนได้ ดูแล้วอาการก็ไม่น่าห่วง" เธอจึงพูดขึ้น "ไม่เป็นไรมากใช่มั้ยคะ? งั้นฉันไปก่อนนะ" คนแก้มแดงตัดจบแล้วหันหลังเพื่อจะก้าวออกไปจากสถานการณ์นี้โดยไม่รอคำตอบ เป็นเพราะตอนนี้เธออายมากอยากจะรีบออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด "เดี๋ยว!! รับผิดชอบ" คนไหล่เจ็บพูดห้วนตอบ ทำให้คนแก้มแดงหยุดกึ๊กแล้วหันกลับมามองเขา "รับผิดชอบเหรอ คืออะไร เค้าให้เรารับผิดชอบยังไง" เธอพูดกับตัวเองอีกแล้ว "ทำไมเราไม่ถามออกไป ทำไมปากมันหนัก ทำไมใจสั่น" "ไปห้องพยาบาล" เสียงทุ้มสั่งอย่างเอาแต่ใจ นทีกำลังจะประคองเดิน คนเสียงทุ้มกร้าวใจก็พูดขึ้นอีก "เธอ" แล้วจ้องมองมาที่ลลิล สายตาบ่งบอกเป็นเชิงออกคำสั่งให้อีกฝ่ายเข้ามาประคองเดาได้ไม่ยาก เพื่อนซี้เก็ตทันทีไม่ต้องให้พูดมากเพราะเป็นเพื่อนกันมานาน เขาหันมาฝากฝังคนแก้มแดงให้ช่วยพาคนไหล่เจ็บไปห้องพยาบาล ทำทีหันมาพูดกับคนเจ็บ "กูต้องรีบไปเอาของที่ล็อคเกอร์ไปส่งอาจารย์เดี๋ยวไม่ทันแกจะกลับซะก่อน" แล้วหันไปหาพิมพ์ประภา "คุณไปช่วยผมถือโมเดลหน่อยได้ไหมครับ ต้องถือสองคน นี่ไออิทก็ไหล่เจ็บต้องรีบไปห้องพยาบาล" พิมพ์ประภาหันมองหน้าลลินเป็นเชิงถามว่าเอาไงดี ลลินจึงบอกญาติผู้น้องให้ไปช่วยนทีถือของ ส่วนตัวเธอก็เข้ามาประคองอิทธิแล้วพาเดินมุ่งหน้าไปห้องพยาบาล ลืมจุดประสงค์ที่มาตามหาเค้าในทีแรกไปซะสนิท ออกมาจากชมรมบาสเก็ตบอลได้ไม่ไกลอิทธิก็บอกให้ลลิลพาเขาไปที่คอนโดก่อนเพื่อแวะไปเอารายงานที่ต้องส่งภายในวันนี้ หากไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้นซะก่อนป่านนี้รายงานคงไปอยู่บนโต๊ะอาจารย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลลินไม่เห็นด้วยในทีแรกเพราะอยากจะพาเขาไปตรวจเช็คอาการให้แน่ใจว่าไม่เป็นอะไรที่ห้องพยาบาลก่อน แต่ก็ไม่สามารถขัดใจคนเจ็บที่ยืนกรานจะกลับไปเอางาน เขาส่งกุญแจรถให้เธอ ลลิลรับมาแล้วก็สตาร์ทรถพอร์ช911 Carrera 4 GTS Cabrioletสีดำรุ่นใหม่ล่าสุด2023 ราคากว่า15ล้านบาท เสียงเครื่องยนต์ดังกระฮึ่มตามแบบฉบับของรถซุปเปอร์คาร์แล้วบึ่งรถออกจากมหาวิทยาลัยจุดหมายคือคอนโดแถว...โดยมีเนวิเกเตอร์ไหล่เจ็บนั่งกำกับคอยบอกทางอยู่ข้างๆ คอนโดหรูแห่งหนึ่ง พอร์ชป้ายแดงขับเข้ามาในลิฟท์โดยมีพนักงานรักษาความปลอดภัยคอยโบกให้บริการ อิทธิใช่การ์ดแล้วกดรหัสที่แผงรับคำสั่งอยู่ครู่หนึ่ง ลิฟต์เลื่อนขึ้นไม่กี่อึดใจประตูลิฟต์ก็เปิดออกเผยให้เห็นถึงความโอ่อ่าภายในห้องโถงกว้างที่ตกแต่งเป็นห้องโชว์ของสะสมมีชุดโซฟารับแขกจัดวางไว้เป็นสัดส่วนคล้ายทำไว้เพื่อให้นั่งดูหนังฟังเพลงไปจนถึงเล่นเกมส์และนอน ลลิลเข้ามาช่วยประคองคนไหล่เจ็บไปนั่งที่โซฟารับแขกขนาดคนนั่งเรียงกันได้สัก10คน(ใหญ่มาก) ไฟและเครื่องปรับอากาศถูกกดเปิดทันทีด้วยรีโมตคอนโทรลที่วางอยู่ตรงโซฟา ในห้องมีตู้โชว์โมเดลหุ่นยนต์กันดั้มเกือบทุกซีรี่ย์ โมเดลตัวละครในเรื่องอเวนเจอร์ครบทุกตัวลิมิเต็ดอิดิชั่นอีกต่างหาก งานสั่งทำเเบบอาตเพ้นท์ก็มี เรียงรายนับสิบสิบตู้ ที่มุมห้องด้านหนึ่งตั้งตู้เกมส์หยอดเหรียญสี่ห้าตู้ถัดจากนั้นเป็นจอมอร์นิเตอร์ใหญ่ยักษ์พร้อมรถมอเตอไซด์จำลองขนาดเท่าของจริงใช้ขี่ในเกมส์เพื่อเพิ่มอรรถรสให้เสมือนจริง แต่ที่ทำให้คนสวยหยุดจ้องอยู่นานสองนานคือตู้กาชาปองมีทั้งตู้วันพีช ตู้ดาบพิฆาตอสูร วันพันช์แมน อะโคโพลิสแลนด์ ไปจนถึงแวนการ์ด วี ไดเมนชั่น สแลมดังก์ก็ยังมีเอากับเค้าสิ และตัวการ์ตูนอีกหลายตู้ที่เธอไม่รู้จัก ไม่ว่าจะมุมไหนของห้องก็สร้างความตื่นเต้นให้คนที่เพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรกสุดๆ อิทธิ "มองอะไรนักหนาไม่เคยเห็นรึไง" เสียงพูดของคนกวนทำเอาคนสวยหลุดออกจากความเพลิดเพลินแล้วหันมาค้อนควับทันที ลลิล "อยู่กันกี่คนเนี่ย" อิทธิ "ก็สองคนกับเธอ" ลลิล "หมายถึงอยู่ประจำย่ะ" อิทธิ "คนเดียว.. อยากมาอยู่ด้วยกันไหมหละ?" คนสวยแก้มแดงขึ้นเล็กน้อย ที่หนุ่มหล่อมาพูดหยอดให้ชวนสยิว ถึงแม้เธอจะเคยเจอคำพูดแบบนี้มาแล้วนับไม่ถ้วน แต่ทำไมถึงรู้สึกหวั่นไหวกับแค่คำของรุ่นน้องอย่างอิทธิก็ไม่รู้ เธอรู้สึกร้อนผ่าวที่แก้ม แม้ว่าอุณหภูมิในห้องแอร์จะถูกตั้งไว้ที่23°ก็ตาม ลลิล "ไหนหละรายงานของนายวางไว้ตรงไหนเดี๋ยวไปหยิบให้ รีบไม่ใช่เหรอ" อิทธิ "ห้องนอน" คนสวยมองตามสายตาของคนกวนก็รู้ได้เองว่าประตูไหนคือห้องนอน เธอเดินไปเปิดประตูแล้วก้าวเข้าไปในห้องสองสามก้าวหันมองซ้ายมองขวาเพื่อหาสวิตไฟ กำลังเอื้อมมือจะเปิดก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีมือหนาคว้าข้อมือเธอจากทางด้านหลัง เธอรีบหันหลังควับก็ถูกจู่โจมโดยคนตัวสูงที่ตอนนี้มือขวาของเขาจับที่ข้อมือ ส่วนมือซ้ายโอบกอดเข้าที่เอวของเธอ แล้วดันร่างบางให้เข้าไปชิดผนังห้อง ลลิล "นี่นายจะทำอะไร!!?" อิทธิ "ช่วยหาไง" ลลิล "ช่วยหาแล้วทำไมต้องถอดเสื้อ? แล้วนี่ไหล่นาย ไหล่นายหายแล้วเหรอ!!?" อิทธิ "เสื้อเปื้อน" ลลิล "ถามว่าไหล่นายหายเจ็บแล้วเหรอ?" ลลิลเริ่มหายใจถี่ด้วยความตื่นเต้นจากสัมผัสที่แนบชิดชนิดที่ว่าหายใจรดต้นคอกันเลยทีเดียวหัวใจเต้นโครมครามจนแทบจะหลุดออกมา แม้ว่าเธอจะมีใบหน้าที่หวานล้ำแต่ตัวตนที่แท้จริงของเธอแล้วนั้นเป็นคนซนๆแก่นๆแสบซ่าไม่กลัวใครแถมไวไฟนิดๆสำนึกผิดไม่ทัน แฮร่^_^ ค่อนข้างจะเป็นคนขี้ใจอ่อนแพ้ความออดอ้อนจากเพศตรงข้าม และที่คนตัวโตกำลังทำรุ่มร่ามกับเธออยู่นั้นเล่นเอาอ่อนระทวยไม่มีแรงจะขัดขืนเลย ก็..เขาหล่อมากกก..แกร๊ๆๆ*๐* อิทธิยิ้มมุมปากอย่างขี้โกงแล้วก้มโค้งลงไปกระซิบที่ข้างหู "หนาวเหรอ สั่นเชียว ช่วยทำให้อุ่นจนร้อนเลยเอาไหม" ไม่พูดอย่างเดียวมือที่โอบเอวก็ลูบไล้แผ่วเบาจากเอวเลื่อนไปที่หลังครู่เดียวตะขอเสื้อชั้นในก็ถูกปลดออก มือข้างที่จับข้อมือคนสวยอยู่ บัดนี้ได้เลื่อนมาเกาะกุมที่ยอดปทุมทรงงาม เคล้นคลึงเร้าอารมณ์ให้สาวเจ้าโก่งตัวลืมอาย อีกมือมิวายเลื่อนลงมาหยุดที่ก้นงามงอนแล้วบีบเคล้นหนักขึ้นอกสาวอื้ออึงสั่นไหวเลื่อนมือลงมาซุกไซ้ปลดกระดุมเปลื้องผ้าอาภรณ์ ไม่ทันไรคนขี้โกงก้มลงมากประทับจูบที่แก้มใช้จมูกลากลงมาที่คอประทับตราเป็นเครื่องหมายจอง แสดงความเป็นเจ้าของเนื้อนวล "อ๊ะ!! นายทำคิสมาร์คเหรอ!" คนขี้โกงตอบกลับด้วยการใช้ริมฝีปากหนากดเน้นลงไปที่ปากชมพูใช้ลิ้นสากโลมเลียริมฝีปากอีกฝ่าย อาศัยทีเผลอตอนปากสาวเจ้าเผยอก็ยัดลิ้นเข้าไปในโพรงปากชุกไซ้ ลิ้นตวัดพันเกี่ยวคดเคี้ยวไปมาเปรียบเหมือนภุมราตามหาความหวานในปากคนงาม .. ลีลาเร่าร้อนไม่ผ่อนผัน ให้คนงามต้องอ้าปากครางรับความเสียว ถูกยกขาขาวขึ้นมาพันเกี่ยว นิ้วเรียวลักลอบเข้าไปเคล้นคลึง คนตัวสูงย่อตัวใช้แขนคล้องขาคนสวยแล้วยกขึ้นทำให้เธออยู่ในท่ายืนขาเดียวเขย่งตัวนิดๆ จากนั้นก็ดึงเข้ามาแนบชิดให้ตรงจุดเสียวเสียดสีกัน คนสวยเลื่อนมือที่จับต้นแขนเขาในตอนแรกขึ้นคล้องคอชาย ส่วนอีกมือหนึ่งของชายก็มุดเข้าไปใต้กระโปรงสั้นเกี่ยวดึงกางเกงในออกมา "ซนจังเลยนะรุ่นน้อง" อิทธิผละออกจากการขย่ำไซ้ซอกคอ แล้วเงยหน้าขึ้นมองคนสวย เป็นครั้งแรกที่เธอพูดขึ้นหลังจากที่เขาเริ่มเล้าโลม ลลิล "ตกลงไม่ได้เจ็บไหล่ตั้งแต่แรกใช่ปะ" อิทธิ "เพิ่งรู้เหรอ" ลลิล "งั้นที่มาเอารายงานก็ไม่จริง" อิทธิ "ยังต้องถาม" ลลิล "งั้นกลับ" คนขี้โกงทำหน้าเจ้าเล่ห์แล้วแหย่นิ้วที่คลึงอยู่ตรงจุดบอบบางของคนสวยเลื่อนลึกเข้าไปในร่องสวาทโดยที่ยังคงจ้องดวงหน้า ตาต่อตา ตัวต่อตัว คนถูกแกล้งผละมือข้างหนึ่งที่คล้องคอชายลงมาจับห้ามปรามมือซน กลัวที่ไหนหละ จ้องมาจ้องกลับไม่โกง คนมือซนถอนนิ้วมือออกจากถ้ำ ช้อนขาคนขาวที่ใช้ยืนค้ำทรงตัว อุ้มช้อนทั้งตัวแล้วเดินไปที่เตียงนอน พรึ่บบบ!! เขาวางร่างสาวอย่างแผ่วเบา ดวงตายังคงปลุกเร้าไฟปารถนา สาวเจ้าก็จ้องไม่วางตา รอคนตรงหน้าเล้าโลม เขาขึ้นค่อมร่าง เดี๋ยวเจอทำให้ครางเดินไม่ไหว สาวเจ้าตอบเลย ให้ไว กลัวคนตัวใหญ่ไม่จริง "หน้ายั่วเยชะมัด ซ่อนรูปนะเรา" ลลิล "เดี๋ยวนะ นี่รุ่นพี่ โปรดให้ความเค้ารพกันด้วย" อิทธิ "แล้วจะทำไม" ลลิล "ไม่ใช่เพื่อนเล่น" อิทธิ "อืม ไม่ชอบเล่นเพื่อนเหมือนกัน" คนซ่อนรูปกระเซ้าคนแกล้ง ความขัดเขิลในตอนแรกเริ่มผ่อนคลาย ลลิล "ชอบเล่นเกมส์เหรอ" อิทธิ "อืม" ลลิล "ไม่มีเพื่อนหรือไงเล่นแต่เกมส์ " คนขี้แกล้งเงียบไปทำให้บรรยากาศกลับมาเงียบและเย็น.. ลลิล "เปลี่ยนคำถามก็ได้ พาผู้หญิงมาที่นี่บ่อยเหรอ?" อิทธิ "ไม่เคย เธอคนแรก" อิทธิตอบแทบจะทุกคำที่ลลิลถาม ผิดกับนิสัยของเค้า ตัวเค้าเองก็ยังรู้สึกงงกับตัวเองเหมือนกัน แค่รู้สึกว่าอยากจะอยู่ใกล้ๆ อยากจะเอาใจ และอยากจะปลดปล่อยความไคล่กับเธอ นี่เค้าคลั่งรักหรือเปล่าเนี่ย เค้าเริ่มเกมรุกต่อทันทีเหมือนว่าไม่อยากตอบคำถามของฝ่ายหญิงอีกต่อไป คนด้านบนยกตัวขึ้นเผยให้เห็นแกนกายที่บัดนี้โผล่ออกมาทักทายและทรานฟอร์มตัวเองใหญ่โตพร้อมใช้งาน(ไปถอดกางเกงตอนไหน!!)เค้าใช้จังหวะในช่วงที่ฝ่ายหญิงพูดคุยซักถามปลดเข็มขัดแต่ค้างไว้ไม่ได้ถอดออกไปซะทีเดียว ตอนนี้เค้าและเธออยู่ในท่าที่ฝ่ายชายคล่อมร่างอยู่หว่างกลางของฝ่ายหญิงแขนข้างหนึ่งยังสอดอยู่ใต้ขาขาวนวลของเธอทำให้ขาเธอตั้งชันเข่าขึ้น ส่วนอีกข้างกำลังใช้มือจับแกนกายรูดขึ้นรูดลงพร้อมที่จะ เด็ดกลีบดอกไม่มาเชยชมให้สมใจ มีเหรอที่ลลิลจะยอมง่ายๆ เธอใช้ข้อเท้าเกี่ยวขาสองข้างของอีกฝ่ายและใช้แขนสองข้างคล้องคอของเขาเหวี่ยงพลิกให้ตัวเองขึ้นมาอยู่ด้านบนโดยที่คนตัวโตไม่ทันตั้งตัว เห็นหน้าหวานอย่างนี้ยังพ่วงตำแหน่งผู้ช่วยครูฝึกยูโดสายดำนะจะบอกให้ มิน่าเธอถึงไม่เคยกลัวใคร จะมาไม้ไหนเธอจัดการได้นี่เอง ลลิล "คิดว่าฉันจะยอมนายง่ายๆหรือไง?!" อิทธิ "ไม่เคยคิดว่าเธอง่าย แต่อยากจะลองเสี่ยงดู" ลลิล "ไม่ใช่นายคนเดียวหรอกนะที่ชอบเล่นเกม นายไม่รู้หละสิฉันมีเพื่อนสนิทเป็นถึงนางเสือสาวเจ้าหญิงแห่งสนามแข่งรถจักรยานยนต์ทางเรียบ อดีตแชมป์เอเชียเชียวนะมีหรือที่ฉันจะขี่ไม่เป็น นายอยากเล่นเกมสนุกๆไหมหละ?" อิทธิขมวดคิ้ว ลลิลพูดต่อไม่ปล่อยให้สงสัยนาน "เรามาคบกัน แต่ห้ามให้ใครรู้ถึงความสัมพันธ์เอาไหมหละ ห้ามตาม ห้ามหึงหวง และห้ามควงคนอื่น(ต่อหน้า)หมายถึงจะไปสนุกซุกซนอะไรยังไงก็ได้แต่ห้ามไปมีความสัมพันธ์ทางกายกับใคร เอาฉัน ได้แค่คนเดียว" อิทธิจ้องตาคนสวยอึ้งคิดอยู่ครู่หนึ่ง "Deal" คนสวยยิ้มออกมาด้วยความพอใจเหมือนว่าตอนนี้เธอจะเป็นคนคุมเกม แต่ก็ต้องสะดุดขนลุกซู่เมื่อมองแววตาร้อนแรงของอีกฝ่ายที่เหมือนมีกองไฟที่รุ่มร้อนลุกโชนอยู่ในนั้น มือไม้ก็กลับมาซุกซนคลึงเคล้นยอดปทุมสองเต้าของเธอ "ตอนนี้ขี่ฉันได้แล้วใช่ไหม" คนสวยไม่สามารถต้านแรงโน้มถ่วงได้อีกต่อไปก้มหน้าลงซุกไซ้ที่ซอกคอ ชายอกแกร่งกล้าก็มิรอ ยกสะโพกสาวมาจ่อที่กลางตัว เหมือนมีแรงดึงดูดให้กายทั้งสองถูกกลืนเข้าด้วยกันร่างสาวน้อยโยกไหวเร็วพลันสร้างความวาบหวามหวั่นให้ฝ่ายชาย โยกเข้าโยกออกสอดประสาน ยอดปทุมสั่นสะท้านพริ้วไหว เด้งสะโพกตอบรับอย่างรัวไว เอวสอบซุกไซ้ที่เนินบัว "อ่าาส์ อืมมม" ปักก ปักก แจ๊ะ แจ๊ะ เสียงครางผสานกับเสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั่วห้อง ต่างฝ่ายต่างปลดปล่อยอารมณ์ความต้องการออกมา "เชี่ย!! ดูดชิบ..เอาโครตมัน เธอต้องเป็นของฉันคนเดียว" อิทธิสบถออกมาด้วยอารมณ์สุขสม "ขอฉันโชว์ลีลาบ้างนะ" พูดจบก็ทะลึ่งตัวลุกนั่งโอบกอดลูบรัดคนเอวบาง ดูดกัดโลมเลียยอดปทุมอย่างตะกละตะกลาม แล้วจับร่างสาวน้อยให้หันหลัง มือหนึ่งดึงลั้งที่ไหล่ขาว อีกมือไม่รีรอรีบสาว ชักเอ็นสอดเข้าที่ร่องสาวอย่างลืมตัว บดขยี้อัดกระแทกไม่ยั้งเอว สาวเจ้าก็เด้งสะโพกโก่งเอวตอบรับ ปั๊บบปั๊บบ หมับหมับ ตอดกระชับ ร่องสวาทบีบรัดแกนชาย ปลดปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่น ลงที่หลังร่างอุ่นกระตุกไหว เสร็จสรรพจับสาวหงายหมายใจ ต่ออีกรอบได้ไหม..คนดี(^_^) "ผัวเอามันส์มั้ย!?" ประโยคคำถามที่ไม่ได้ต้องการคำตอบหรอก เพราะร่างสาวสวยตอนนี้นอนอ่อนระทวยในอกแกร่งของเขา อิทธิ "ไม่สู้แล้วเหรอที่รัก" ลลิน "หิวข้า.." คนสวยเงยหน้าขึ้นตอบ ไม่ทันจะพูดจบก็ถูกขัดจังหวะด้วยริมฝีปากที่บัดนี้ครอบงำปากของเธอ เรียวลิ้นตวัดดูดกัดอย่างดูดดื่ม กระหายไคร่ร่วมรักกับเธอต่อ "หิวเมีย!! ผัวยังไม่อิ่มขอต่ออีกรอบนะครับ เสร็จแล้วเดี๋ยวพาไปกินของอร่อยๆ" จู่ๆก็สุภาพขึ้นมาซะอย่างงั้น พบคนคลั่งรักอีกแล้วหนึ่ง ช่วยไม่ได้ก็หุ่นเธอมันยั่วยวน ทำให้เขาอดใจไว้ไม่ไหวจริงๆ แม่ดาว(ยั่ว)มหาลัย ตกลงมีใครรู้ไหมเกมนี้ใครแพ้ใครชนะ??.. . .. ตัดกลับมาที่ห้องล็อคเกอร์ในชมรมบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัย.. เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับทึ่ลลิลเพิ่งจะพาอิทธิออกไปจากโรงยิม นทีเดินนำพิมพ์ประพาเข้าไปในห้องล็อคเกอร์ ภายในแบ่งซอยเป็นล็อคๆโดยมีตู้ล็อคเกอร์ที่ไว้สำหรับเก็บสัมภาระของนักกีฬาขั้นแต่ละล็อคไว้ เรียงรายกันสูงท่วมหัว เดินลึกเข้าไปข้างในฝั่งขวามือจะเป็นห้องsteam bathสองห้องใหญ่ๆ ฝั่งซ้ายที่อยู่ตรงข้ามจะเป็นห้องอาบน้ำแบบเปิดที่จะมีเพียงประตูสวิงครึ่งบานไว้สำหรับกั้นไม่ให้มองเห็นของสงวนเท่านั้นแต่ก็ไม่ได้มิดชิดอะไรเรียงกัน5ห้อง ถัดเข้าไปด้านในสุดจะเป็นห้องปลดทุกข์หนัก5ห้อง และห้องสเปเชียลไฮไลท์คือ ห้องเก็บอุปกรณ์ ที่ดัดแปลงเป็นห้องพักผ่อนมีทั้งโซฟาและทีวีส่วนใหญ่นักกีฬาจะใช้ห้องนี้ตอนประชุมวางแผนช่วงเก็บตัวนักกีฬาเพราะห้องนี้จะถูกล็อคไว้เพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์กีฬาหาย กุญแจที่จะเข้าห้องนี้ได้มีเพียงกัปตันทีมและรองกัปตันเก็บไว้เท่านั้น ทันทีที่ประตูห้องล็อคเกอร์ปิด นทีหันกลับมายิ้มสดใสให้พิมพ์ประพาเป็นจังหวะที่เธอก็หันมาสบตาพอดี เป็นครั้งแรกที่เค้าได้เห็นหน้าของเธอชัดๆ ดวงหน้าอ่อนหวาน สดใส ดูเป็นคนจริงใจแต่น่าค้นหา อยากจะแกล้งคนน่ารักสักครา อยากจะได้กายามาชิดเชย อยากจะมองหน้าน้องไม่มีเบื่อ อยากกอดเธอทุกเมื่อที่เรียกหา อยากจะกินกายน้องสักครา เด็ดปีกเทพธิดามาเชยชม.. เจ้าชู้ตัวพ่อจริงๆอิตานที เอาใจช่วยน้องพิมกันด้วยนะคะทุกคน.. นทีพยายามชวนเธอคุยเพื่อทำความรู้จักให้มากขึ้น และเพื่อฆ่าเวลา นที "คุณอยู่ปี2จริงๆเหรอครับ ทำไมหน้าเด็กจัง" พิมพ์ประพา "พิมเรียนเร็วหนะค่ะ" นที "ขอเสียมารยาทนะครับ คุณอายุเท่าไรครับเนี่ย พิมพ์ประพา "ใครเค้าถามอายุผู้หญิงกันคะ" นที "อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะครับ ผมเรียนคณะวิศวะปี1อายุ18ย่าง19ปีแล้วครับ ผมเห็นคุณน่ารักผิวใสไม่คิดว่าจะอยู่ปี2ก็เท่านั้นเอง สาวน้อยเริ่มแก้มแดงเป็นลูกตำลึงเมื่อถูกหนุ่มหล่อมาดเท่ห์เอ่ยชมอย่างตรงไปตรงมา เธอยิ้มแล้วตอบกลับชายหนุ่ม พิมพ์ประพา "เดือนหน้าก็จะอายุครบ18ปีแล้วค่ะ" นที "อ๊ะ..งั้นผมก็โตกว่าหนะสิ จะให้เรียกว่าอะไรครับ เรียกน้องได้ไหม?" พิมพ์ประพา "เรียกพิมเฉยๆก็ได้ค่ะ" นที "ได้ครับ น้องพิมเฉยๆ" คนถูกล้อยิ่งแก้มแดงเป็นลูกตำลึงสุกไปอีก พลางเฉไฉหันไปมองทางอื่นไม่กล้าสบตาคนขี้แกล้ง "แล้วจะให้พิมเรียกคุณว่าอะไรคะ?" เธอถามออกไปแต่ก็ไม่ได้หันกลับมามองหน้า คนถูกถามยิ้มร่าแล้วบอก " พี่ที พี่อยากให้เรียกพี่ทีครับ" สาวน้อยตอนนี้นอกจากจะแก้มแดงเป็นลูกตำลึงสุกแล้วเธอยังรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัวและวูบวาบในท้องอาจเป็นเพราะตอนนี้อยู่กันสองต่อสองบรรยากาศชวนให้อึดอัดแต่ก็น่าตื่นเต้นไปพร้อมกัน "โมเดลที่จะต้องเอาไปส่งอาจารย์อยู่ไหนคะ?" พิมพ์ประพาถามขึ้นเพื่อทำลายความรู้สึกกระอักกระอ่วน นทีสังเกตเห็นถึงความใสซื่อไร้เดียงสาของสาวน้อยที่ตอนนี้รู้สึกประหม่าและเขิลจนแก้มแดง ก็คิดหาแผนการณ์ที่จะทำให้เธอได้อยู่สองต่อสองกับเขานานๆ "พี่ก็ลืมว่าวางไว้ตรงไหน น้องพิมลองดูในห้องขวามือทีเดี๋ยวพี่จะดูตรงล็อคเกอร์" พิมพ์ประพาเดินไปเปิดห้องที่อยู่ทางขวามือเลยตู้ล็อคเกอร์ไป เข้าไปข้างในก็พบว่าเป็นห้องอบไอน้ำSteam bathห้องนี้กว้างพอจะจุคนได้ราว5-6คนมีอุปกรณ์ใช้อบตัวอาทิหินทำความร้อนกระบวยใช้สำหรับตักน้ำราดที่หินเพื่อให้เกิดไอน้ำหรือจะเปิดเป็นระบบให้ไอน้ำค่อยๆออกมาทันสมัยสุดๆ มีชั้นทำจากไม้ยื่นออกมาเพื่อใช้นั่งเป็นเก้าอี้ใต้เก้าอี้มีช่องกลวงลึกลงไปเธอก้มๆเงยๆหาก็รู้สึกแปลกๆ โมเดลไม่น่าจะอยู่ในห้องนี้ คิดได้อย่างนั้นเธอก็กำลังจะเดินออกไปจากห้อง "ว๊ายยย!!" ไม่ทันน้ำก็พวยพุ่งออกมาจากท่อส่ง โดนเข้าที่ตัวเธอแต่เคราะห์ดีไม่ใช่น้ำร้อน อิทธิรีบวิ่งมาเปิดประตูถาม "เกิดอะไรขึ้นครับน้องพิม!?" ภาพที่เห็นคือ สาวน้อยที่ทั้งตัวเปียกปอนในชุดนักศึกษา เสื้อขาวเปียกแนบกับเนื้อเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งทรงภูเขาไฟซ่อนรูปเอาไว้ไม่ต่างจากญาติผู้พี่ของเธอ พิมพ์ประพารีบกอดกระเป๋าสะพายเพื่อใช้บดบังความทะลักล้นหลามของเธอ นทีรีบวิ่งไปเอาผ้าขนหนูมาคลุมให้แล้วโอบไหล่เธอพาเดินออกไปจากห้องสตรีม นที "พี่ขอโทษนะครับ พี่ก็ลืมไปห้องนั้นระบบน้ำมีปัญหายังซ่อมไม่เสร็จ ไม่น่าบอกให้น้องพิมไปหาที่นั่นเลย" พิมพ์ประพา "ไม่เป็นไรค่ะ มันเป็นอุบัติเหตุ พี่ทีก็ไม่ได้อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้สักหน่อย" นทียิ้มเจ้าเล่ห์มุมปาก ก็คนที่เปิดวาวน้ำแกล้งสาวจะเป็นใครไปได้หละ นที "พี่มีเสื้อเก็บไว้ในห้องพักนักกีฬา น้องพิมเปลี่ยนชุดก่อนดีกว่าเดี๋ยวจะเป็นหวัดเอา" แล้วเขาก็พาเดินไปยังห้องสุดท้ายด้านใน ห้องเปิดออกโดยที่นทีใช้กุญแจไขเข้าไป เขาพาเธอมานั่งที่โซฟาแต่พิมพ์ประพายืนยันที่จะยืนรอข้างๆ เธอกลัวโซฟาจะเปียก ช่างเป็นคนใส่ใจน่ารักทัชใจพี่จริงๆ เขาลอบมองสาวน้อยแล้วอมยิ้ม ไม่นานก็เดินถือเสื้อนักศึกษาชายสีขาวเอายื่นให้พิม "ไปเปลี่ยนตรงมุมตู้ได้เลยครับ พี่จะยืนหันหลังอยู่ตรงนี้" พิมพ์ประพาตัดสินใจอยู่นานว่าเธอจะโนบราหรือใส่มันทั้งเปียกๆนี่แหละ แต่ถ้าไม่ถอดแล้วจะมีประโยชน์อะไรที่เปลี่ยนชุด.. "เรียบร้อยแล้วค่ะพี่ที" นทีหันกลับมามองสาวน้อยก็ต้องอึ้ง ตกตลึงในความน่ารักเซ็กซี่เบาๆ เสื้อนักศึกษาชายของเขาสวมใส่อยู่ในตัวสาวเจ้ากลายเป็นชุดนอนสั้นเลยเหนือเข่าขึ้นมาช่างเย้ายวนในที คนเรียบร้อยน่ารักเมื่อกี๊ บัดนี้คล้ายแมวป่ารอขยี้ใจชาย คนขี้แกล้งกลืนน้ำลายดังเอื๊อก สาวน้อยก็ยืนบิดๆม้วนๆแล้วเดินมานั่งที่โซฟา ความวาบหวานเริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อสายตาของชายหนุ่มเหลือบไปเห็นยอดปทุมเลือนลางบางเบาในเสื้อขาวที่เธอสวม นี่เธอไม่ได้สวมบรา!! แกนเสน่าหาเริ่มตั้งชูชัน เขาขยับเข้าไปนั่งใกล้น้อง แล้วแกล้งถามว่ามีคนคุยหรือยัง ฝ่ายน้องรีบส่ายหน้าไม่ได้พูดอะไรตอบกลับมา อารมณ์เริ่มพลุ่งพล่านขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่สติจะกระเจิงกว่านี้ นทีไม่รออีกต่อไป เขาหันไปขโมยจูบสาวน้อยที่มีไม่ใช่น้อย อย่างไม่ให้เธอตั้งตัว บดขยี้ครอบงำปากนวลใช้ลิ้นโลมเล้าและพยามจะแทรกเข้ารับความหวานจากด้านใน แต่พิมพ์ประพาตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ นทีผละออกจ้องตาแล้วพูดกับเธอ"ไม่เคยเหรอ?" พิมพ์ประพาพยักหน้าแก้มแดงก่ำ ในอกตอนนี้หัวใจเธอเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ตัวสั่นสะท้านเหมือนดั่งลูกนกที่กำลังถูกจ้องจะกิน นทีใช้สองมือประคองหน้านวลขึ้นมาบรรจงจูบอย่างแผ่วเบาที่ปากใช้ปลายจมูกสัมผัสบางๆลากขึ้นมาที่แก้ม "โตมายังไง ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่สอนเอง" ... สำหรับ "ดาว(ยั่ง)มหาลัยน้องไหวเหรอ" มีตอนแยกออกมา ไปตามอ่านกันนะคะ ขอบคุณที่ติดตามกันน๊า เลิฟๆจุ๊ฟๆ Miel น้ำผึ้งเปรี้ยว

Great novels start here

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD