บท 10 นอนด้วย

1879 Words
บท 10 นอนด้วย ปังงงงง! เสียงกระแทกประตูดังลั่นจนกำแก้วสะดุ้งโหยง ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยคำถาม ฉลามเดินดุ่มกลับมาหาเธอด้วยสีหน้าบึ้งตึง “เป็นหยัง? สรุปไผมา?” (เป็นอะไร สรุปใครมา?) กำแก้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงระแวดระวังเพราะสีหน้าคนข้างกายลบเลือนความน่าขำของเขาควายที่เธอวาดให้ไปเลย ซ้ำยังแทนที่ด้วยความเกรี้ยวโกรธ ฉลามทิ้งตัวลงนั่งกอดอกสีหน้าเจือไปด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย ชั่วขณะบริเวณมุมปากกระตุกขึ้น “ผีหลอก” “หา?” “บ่เห็นบ่อ้ายแซ่งมันไปผุดไปเกิด” (ไม่เห็นเหรอพี่แช่งมันไปผุดไปเกิด) “ไร้สาระ” กำแก้วยังคงไม่ปักใจเชื่อ ผีอะไรจะมาหลอกเวลานี้ ดวงตาคู่สวยพลันเหลือบไปเห็นนาฬิกาบนผนังหน้าทีวี “เอ๋?” สองทุ่มแล้ว? ทำไมเวลามันผ่านไปไวขนาดนั้น... “แล้วแต่น๊า บ่เชื่ออ้ายกะต่าม” (แล้วแต่นะ ไม่เชื่อพี่ก็ตามใจ) ฉลามไหวไหล่ทำทีไม่สนใจก่อนจะเอ่ยย้ำอีกว่า “จั่งใดอ้ายกะบ่ได้อยู่ห้องนี่อยู่แล้ว สิย่านหยังล่ะ” (ยังไงพี่ก็ไม่ได้อยู่ห้องนี้อยู่แล้ว จะกลัวอะไรล่ะ) “เอ้า คือว่าจั่งซั่น?” (อ้าว ทำไมพูดงั้น?) หรือจะเป็นเรื่องจริงอย่างที่พี่ฉลามพูด ผีมาเคาะห้องเนี้ยนะ? ไม่จริงน่า ไร้สาระ! “เอ้า กะมาเคาะอยู่วั่งใดนี่ บ่เชื่อกะไปเปิดประตูเบิ่ง” (อ้าว! ก็มาเคาะอยู่เมื่อกี้ ไม่เชื่อก็ไปเปิดประตูดู) “บ่เชื่อดอก” (ไม่เชื่อหรอก!) กำแก้วแสร้งใจดีสู้เสือแม้ว่าตัวเองจะกลัวก็ตาม บางทีฉลามอาจจะแกล้งให้เธอกลัวก็เป็นไปได้ กำแก้วไม่เก็บมาใส่ใจ ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายแล้วเข้าครัวไปหุงข้าวเพื่อทำกับข้าว ส่วนฉลามที่หวังจะหลอกผีให้กำแก้วกลัว ใครจะไปคิดว่ายัยเด็กนี่จะหน้ามึนไม่กลัวกระทั่งผี! ความเป็นหญิงสาวน่าทะนุถนอมอยู่ตรงไหนกัน? “เหอะ!” ไม่กลัวก็ไม่ต้องกลัว ว่าแล้วก็ลุกขึ้นเต็มความสูงไปเข้าห้องน้ำ แล้วตอนนั้นเองฉลามแทบอยากชกกระจกให้แตกเป็นเสี่ยงๆ เงาสะท้อนควายสายพันธ์ใหม่นั่นมันอะไร? บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยปากกาเมจิกที่สร้างสรรค์งานศิลปะรูปเขาควายบนหน้าผากพร้อมด้วยจมูกหมูผสมกับขนแมว มือหนากำแน่นจนเส้นเลือดปูด นัยน์ตาลุ่มลึกถมึนทึง “กำแก้ว…” ลำพังกำแก้วแกล้งเขาคนเดียวไม่เท่าไหร่ แต่เมื่อครู่เข้าออกไปเผชิญหน้ากับไอ้อาจารย์ภูมินี่สิ ทั้งที่มันเห็นหน้าเขาแต่กลับไม่บอกสักคำ! ฉลามล้างหน้าตัวเองออกด้วยความโมโห ยัยเด็กแสบนี่ก็กระไร ต้องเอาคืนเขาให้ได้ทุกเรื่อง! แค่เขานอนตักแค่นี้ จะให้นอนเฉย ๆ ไม่ได้เลยสินะ กำแก้วที่อยู่ด้านนอกเหมือนจะรู้ชะตากรรมตัวเอง เธอเดาได้ว่าฉลามที่อยู่ในห้องน้ำคงสีหน้ามืดดำยิ่งกว่าสีเมจิกที่เธอเขียนแน่ ๆ หลังจากล้างหน้าเสร็จ ร่างสูงโปร่งสาวเท้าเดินตรงไปหยิบปากกาเมจิกที่วางอยู่โซฟาแล้วมุ่งหน้าไปยังห้องครัวด้วยสีหน้าบึ้งตึง ในสมองเต็มไปด้วยร้อยแผนการสำหรับคิดบัญชีเด็กแสบ… “กำแก้ววววว!” “จ๋า~” เสียงหวานใสลากยาวพร้อมหันไปหาผู้มาเยือนด้วยรอยยิ้ม เธอวางหม้อข้าวลงก่อนจะเสียบปลั๊กแล้วกดปุ่ม ขณะที่อีกคนราวกับโดนแช่แข็งเพียงได้เห็นรอยยิ้มหวานกับเสียงใส ๆ นั่น ใจฉลามอ่อนยวบเหมือนเยลลี่ถูกแผดเผากลางแสงแดด “มีหยังกินแหน่?” (มีอะไรกินบ้าง?) น้ำเสียงดุดันแปรเปลี่ยนเปลี่ยนอ่อนโยนกะทันหัน แม้กระทั่งฉลามยังงงกับตัวเองจนต้องชะงักไปกับท่าทีของตนเมื่อครู่ ปากกาเมจิกที่อยู่ในมือย้ายไปซ่อนด้านหลังอย่างแนบเนียน “กำแก้วว่าสิผัดเครื่องในไก่ มันเหลือค้างตู้เย็นตั้งแต่วันศุกร์” (กำแก้วว่าจะทำผัดเครื่องในไก่ มันเหลือค้างตู้เย็นตั้งแต่วันศุกร์) “ให้อ้ายซ่อยหยังบ่?” (ให้พี่ช่วยอะไรไหม?) “บ่เป็นหยัง” (ไม่เป็นไร) กำแก้วส่ายหน้าขณะเดินไปเปิดตู้เย็น “งั้นอ้ายไปนั่งรอเด้อ” (งั้นพี่ไปนั่งรอนะ) “อื้มม” หลังจากกำแก้วพยักหน้าฉลามก็ไปเปิดทีวีดูฆ่าเวลา ดวงตากลมใสมองตามแผ่นหลังของฉลามไปอย่างหวาดระแวง เมื่อเห็นเขาทิ้งตัวนั่งลงโซฟาอย่างว่าง่ายเธอก็ยิ่งแปลกใจขั้นสุด เขาไม่โกรธเหรอ? “อะไรของเขาวะ กินยาไม่เขย่าขวด?” ใบหน้าสวยขมวดมุ่น ไม่ชินกับฉลามที่ทำตัวแบบนี้ ส่วนฉลามที่นั่งดูรายการโทรทัศน์กำลังทบทวนตัวเอง เมื่อครู่เขาจะเข้าไปเอาคืนยัยแสบนั่นแล้วแท้ ๆ มันเกิดอะไรขึ้นถึงได้กลับลำกะทันหัน ดวงตาคมกริบดั่งหมาป่าจับจ้องปากกาเมจิกในมือ ขณะกำลังใจลอย เสียงข้อความมือถือก็เข้าพอดี ฉลามจึงได้สติแล้วหยิบขึ้นมาดู อ.ภาคภูมิ : มึงกลับยัง? “ไอ้เวรนี่!” เสียงทุ้มสบถไม่สบอารมณ์ มันยังคิดจะมาหากำแก้วอีกเหรอ? รอยย่นกลางหน้าผากเป็นร่องลึกก่อนจะรัวนิ้วพิมพ์ตอบกลับไป ฉลามไม่ชอบผู้หญิงดังปึ่ง : กูนอนนี่ อ.ภาคภูมิ : กูฟ้องพ่อน้องเขานะ ฉลามไม่ชอบผู้หญิงดังปึ่ง : ไปฟ้องเลย ชื่อปาล์มเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ฉลามพูดเสร็จก็แคปภาพหน้าจอเฟซฯส่งให้ภูมิไปอีกที กลัวที่ไหนก็แค่ผู้ใหญ่บ้าน ฉลามไหวไหล่แล้วโยนโทรศัพท์มือถือไปอีกมุมของโซฟา หงุดหงิด! นั่งรอสักพักกำแก้วทำกับข้าวเสร็จพอดี ทั้งคู่กินข้าวพร้อมกัน หลังจากกินเสร็จฉลามก็อาสาไปล้างจานให้ ส่วนกำแก้วรีดเสื้อผ้าสำหรับเตรียมไปเรียนพรุ่งนี้ฆ่าเวลา แต่ทว่าหลังจากเธอรีดเสร็จฉลามกลับไม่มีท่าทีจะกลับคอนโดของตนเลย “อ้ายบ่กลับติ?” (พี่ไม่กลับเหรอ?) “บ่” (ไม่) “คือบ่กลับ?” (ทำไมไม่กลับ?) คนตัวเล็กทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา ดวงตากลมใสจับจ้องคนตัวโตเพื่อรอคำตอบ อันที่จริงฉลามแวะมาค้างที่นี่บ่อยมากเวลาเมาเพราะคอนโดเธอมันอยู่ใกล้เมือง แต่วันนี้เขาไม่ได้เมาเธอก็เลยสงสัยว่าทำไมไม่ยอมกลับเสียที “…” ฉลามเงียบพยายามคิดหาคำตอบ นั่นสิ! ทำไมเขาไม่กลับ? แต่เมื่อคิดดี ๆ แล้ว เขาเลยตอบออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาไม่เต็มปาก “อ้ายเมื่อยรถ” (พี่ขับรถเหนื่อย) “…” กำแก้วได้ยินน้ำเสียงของฉลามคิดว่าเขาคงเหนื่อยล้าจริง ๆ เธอจึงเดินเข้าไปหาผ้าขนหนูให้ ก่อนจะเอ่ยปากขออาบก่อน ฉลามเห็นกำแก้วไม่ว่าอะไร ทั้งร่างผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก เรียวขายาวนั่งกระดิกขาเปิดโทรทัศน์สบายใจ เหอะ! ยัยเด็กนี่เชื่อคนง่ายชะมัด แล้วแบบนี้เขาจะปล่อยวางเปิดโอกาสให้ไอ้ภูมิมาจีบได้ยังไง ขืนปล่อยให้ไอ้ภูมิมาหาแล้วอยู่สองต่อสอง กำแก้วไม่มีทางทันเล่ห์เหลี่ยมมันแน่! ฉลามเข้าไปหาเสื้อผ้าของเขาที่ฝากไว้ในตู้ของกำแก้วแล้วเดินออกมานั่งดูทีวี บนหน้าจอโทรทัศน์แสดงรายการหนังแอ็กชันแต่มันกลับเรียกร้องความสนใจจากฉลามไม่ได้เลย เสียงหยาดน้ำกระทบกระเบื้องในห้องน้ำต่างหากที่มันกำลังดึงความสนใจจากเขา นึกถึงเหตุการณ์วันก่อน ตอนที่ร่างกายบอบบางของกำแก้วเปียกน้ำจนเสื้อแนบลู่ร่างกายทำให้เห็นสัดส่วนเว้าโค้งชัดเจน มันอดไม่ได้จริง ๆ ที่สมองจะจินตนาการไปถึงไหนต่อไหน… หลังจากกำแก้วอาบน้ำออกมา กลิ่นหอมสบู่ทำเอาคนนั่งรอต้องหันขวับไปมองคอแทบหัก กลิ่นกายประจำตัวที่เขาจำได้เป็นอย่างดี หอมสดชื่น... สดชื่นจนอยากเอาจมูกเข้าไปใกล้ ๆ ดวงตาคมกริบหลับตาพริ้มเอนกายพิงผนักโซฟาอย่างผ่อนคลาย จมูกโด่งเป็นสันพยายามสูดเอากลิ่นหอมอ่อน ๆ นั้นเข้าจมูกให้ได้มากที่สุด กลิ่นแบบนี้มันทำให้นึกถึงลำคอขาว ๆ นั่น ถ้าเอาจมูกไปซุกไซ้จะหอมแค่ไหนนะ เนื้อกายเนียนนุ่มที่เขาพึ่งนวดให้จะหอมละมุนไปทุกส่วนหรือเปล่า? “อ้ายหลามไปอาบแมะ” (พี่หลามไปอาบสิ) เสียงหวานใสดั่งระฆังเรียกสติ ดวงตาคมเข้มลุ่มลึกเบิกขึ้นทันที กำแก้วเดินเช็ดผมตรงไปยังห้องนอนโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีคนบางคนที่เรียกตัวเองว่าพี่ชายกำลังคิดอกุศลกับเธอ “…” ฉลามเม้มปากแน่นด้วยความประหม่า ไอ้บ้าเอ๊ย! เขาคิดเพ้อเจ้ออะไรวะ? คิดจนส่วนกลางลำตัวมันตั้งชัน ใบหน้าคมเข้มสะบัดหัวแรง ๆ เรียกสติตัวเอง ร่างสูงโปร่งเหยียดยืนเต็มความสูงไปเข้าห้องน้ำ ให้ตายสิ! หลังจากอาบน้ำได้ปลดปล่อยจนสบายตัว ฉลามก็เดินออกมาด้วยสภาพเปลือยท่อนบนเพราะเขาไม่ชอบใส่เสื้อนอน ดวงตาคมกริบชำเลืองเห็นผ้าห่มที่กำแก้วนำมาวางให้บนโซฟาก็รู้สึกขัดใจอย่างบอกไม่ถูก “เรื่องหยังสินอนโซฟา” (เรื่องอะไรจะนอนโซฟา) ฉลามหอบผ้าห่มไปเคาะห้องกำแก้วทันที กำแก้วที่อยู่ในห้องดีดตัวขึ้นมาอัตโนมัติด้วยความตกใจ เธอกำลังจะเคลิ้มหลับอยู่แล้วเชียว! ร่างบางในชุดนอนแบบเดรสสายเดี่ยวที่เธอชอบเดินออกไปเปิดประตูให้ฉลามอย่างลืมตัว “อึก” ฉลามกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ลำคอขาวกับผิวเนียนละเอียดที่เขาพึ่งจินตนาการไปเมื่อไม่นานมันดันมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว “ว่า!?” ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยความหงุดหงิดเกาหัวแกร็ก ๆ ขณะที่ดวงตายังคงหลับอยู่ “อ้าย...” (พี่...) ฉลามพยายามเก็บอาการก่อนจะเอ่ยปากด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “อ้ายนอนนำ โซฟามันต้องงอขา อ้ายปวดขา” (พี่นอนด้วย โซฟามันต้องงอขา พี่ปวดขา) “หื้มมมม?” ดวงตากลมแป๋วเบิกขึ้นทันที นอนด้วยกัน? นอนบนเตียงกับเธอด้วยกัน? กำแก้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้คนตัวสูงแล้วมองลึกเข้าไปในดวงตาดำขลับคู่นั้น พี่ฉลามจะทำมิดีมิร้ายเธอหรือเปล่า? “...” ฉลามยืนแน่นิ่ง ยัยเด็กนี่เป็นบ้าเหรอ? กล้าหาญเอาตัวหอม ๆ มาใกล้เขาขนาดนี้ได้ไง ใบหน้าหล่อเหลาแสร้งทำสีหน้าเบื่อหน่ายข่มอารมณ์ดิบในกายของตนเอาไว้ “อืม” เสียงใสเอ่ยในลำคอพร้อมกับพยักหน้าตกลง พี่คนนี้แกล้งเธอราวกับคู่ศัตรูกันแต่ชาติปางก่อน เขาคงไม่ทำอะไรเธอหรอก ที่สำคัญคงมองเห็นเธอเป็นน้องชายด้วยมั้งในสายตาคู่นั้น คงไม่ได้มองเธอเป็นหญิงสาวแน่ ๆ หลังจากพิจารณาถี่ถ้วนแล้วกำแก้วก็วางใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD