ตอนที่1 โลกที่ไม่มีเธอ
อีกด้านของสนามบินสุวรรณภูมิ
ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งเดินออกมาจากประตูทางออกพร้อมเลขาฯ อย่างคุณอนุชิต สีหน้าตึงเครียดของชายหนุ่มทำให้ใคร ๆ ต่างก็ไม่กล้ามองมาที่เขาทั้ง ๆ ที่เวหาเป็นผู้ชายที่หล่อมากคนหนึ่งเขาสูง 185 เซนติเมตร ผอมแต่มีกล้ามเเน่นไปหมด แต่ทว่าใบหน้าที่บอกบุญไม่รับของเขาแถมอารมณ์เอาแต่ใจของชายหนุ่มทำให้น้อยคนนักที่จะเข้าหาเขาได้
รถเก๋งสีดำคันหรูมาจอดรอรับเขาที่สนามบินก่อนร่างกำยำจะเข้าไปนั่งพร้อมหยิบไอแพดขึ้นมาดูงานต่าง ๆ ตั้งแต่เขาเรียนอยู่ลอนดอน เวหาทำงานไปด้วยช่วยคุณหญิงธารทิพย์ดูแลธุรกิจไปด้วย ครอบครัวเขาตอนนี้เหลือเพียงมารดาอย่างคุณหญิงธารทิพย์เพียงคนเดียว
“เรื่องที่ผมให้ไปจัดการถึงไหนแล้ว?” น้ำเสียงเข้มถามเลขาคนสนิทที่รู้จักกันมานานหลายปี
“ทางเรากำลังรวบรวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดครับ อาจจะได้ไม่เกินพรุ่งนี้ คุณเวหาจะจัดการกับบริษัทนั้นยังไง”
“บริษัทที่ทำเงินได้ทุกปี แต่ไม่มีปัญญาผ่อนเงินที่ติดไว้คุณคงรู้นะว่าควรจะทำยังไง!”
“เข้าใจแล้วครับ วันนี้คุณหญิงโทรมาให้คุณชายเข้าไปหาทันทีที่กลับมา” อนุชิตรายงานเจ้านายหนุ่ม เขาพอรู้ว่ามาเวหานั้นไม่ค่อยกลับมาหาคุณหญิงธารทิพย์สักเท่าไร เพราะหลังจากเรียนจบกลับมาประเทศไทยได้ไม่ถึงสามเดือน เขายังไม่เคยเข้าบ้านเลย
“มีเรื่องอะไรด่วนรึเปล่า?”
“คุณชายน่าจะกลับไปหาคุณหญิงบ้างนะครับ ท่านคงเป็นห่วง”
“งั้นก็ตรงไปที่บ้านเลย อยากรู้จริง ๆ ว่ามีเรื่องอะไรจะสั่งอีก!” เขาพูดอย่างไม่พอใจสักเท่าไร เพราะคำว่ากตัญญูทำให้เขาต้องเสียใจมาตลอดหลายปี
ทันทีที่รถจอดนิ่งเวหาก้าวเท้ายาวเข้าไปในบ้านด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง พอหญิงชราได้พบหน้าลูกชายก็ดีใจอยู่มาก แต่พอจะเข้าไปใกล้ชายหนุ่มกลับถอยเท้าหนีก่อนจะเปลี่ยนมานั่งลงบนโซฟาห้องรับแขกแทน
“สบายดีนะครับ?” สีหน้าคุณหญิงธารทิพย์ดูเศร้าเล็กน้อยก่อนจะยิ้มพยักหน้าออกมา
“ลูกทานอะไรมารึยัง นั่งเครื่องคงเหนื่อยมากวันนี้พักที่นี่นะลูก แม่จะให้คนทำของโปรดไว้ให้”
“ไม่ละครับ พรุ่งนี้ผมมีประชุมแต่เช้าจะกลับไปที่คอนโดฯ เลย” เขาเปลี่ยนไปจริง ๆ แตกต่างจากลูกชายที่เชื่อฟังเธอมาตลอด สีหน้าหญิงชราซีดลงอย่างเห็นได้ชัด เธอไม่คิดว่าที่เธอต้องการจะกลับกลายมาเป็นแบบนี้
“วันนี้หนูจินก็มาหาแม่ นั่นคู่หมั้นของลูกแม่ว่าลูกควรจะติดต่อหาน้องบ้างนะ”
“แค่นี้ใช่ไหมครับที่แม่จะสั่งผม ถ้าแค่นี้ผมขอตัวก่อน” ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งพูดจบก็ลุกพรวดขึ้นก่อนจะเบี่ยงสายตาไปอีกทาง เขาไม่แม้แต่จะมองหน้ามารดาด้วยซ้ำ
“เวย์ เมื่อไหร่ลูกจะเลิกเย็นชาใส่แม่สักที?”
“ผมก็เป็นแบบนี้แม่ยังไม่ชินอีกเหรอครับ?”
“สิ่งที่แม่ทำทั้งหมดก็เพราะรักลูกนะ หนูจินเธอดีพร้อมทุกอย่างเหมาะสมกับลูกที่สุด หรือว่าที่ลูกยังเป็นแบบนี้เป็นเพราะนังผู้หญิงชั้นต่ำนั้น!” หญิงชราพูดเสียงดังขึ้น จนคนรับใช้ละเเวกนั้นไม่กล้าจะออกมากันสักคน
“หึ! ผมพึ่งรู้นะครับว่าความรักที่แม่มอบให้ผมคือการพรากทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมรักไปจนหมด รวมถึงความสุขของผมด้วย ผมยอมให้แม่มาขนาดนี้แล้วนี่ยังไม่พออีกเหรอครับ?”
“เวย์! นี่ลูกพูดแบบนี้ออกมาได้ยังไงกันไม่มีแม่คนไหนหรอกนะที่ไม่รักลูกตัวเอง ทุกสิ่งทุกอย่างที่แม่ทำให้ลูกก็เพราะต้องการให้ลูกได้ดี!”
“แล้วแม่เคยถามผมไหม ว่าผมอยากได้รึเปล่าแต่ละสิ่งที่แม่ให้ผมมา ผมไม่เคยต้องการมันโปรดจำไว้ด้วยนะครับ ดูแลตัวเองด้วยนะครับผมมีธุระต่อขอตัว” เวหาพูดจบก็เดินออกมาอย่างรวดเร็วมีเพียงหญิงชราที่ถอนหายใจออกมาดังเฮือกก่อนจะทรุดลงไปนั่งที่เดิม
“คุณหญิงไม่เป็นอะไรนะคะ”เสียงแม่บ้านคนเก่าคนแก่อย่างป้าประนอมเดินเข้ามาจับเข่าหญิงชราเบา ๆ
“ฉันคงผิดมากสินะพี่ ตาเวย์ถึงได้เกลียดฉันมากขนาดนี้ ทุกอย่างที่ฉันทำไปก็เพราะรักลูกอยากเห็นลูกได้ดีทั้งหน้าที่งานการทั้งภรรยา”
“เอาเถอะวัยรุ่นก็เป็นแบบนี้ ปล่อยให้คุณหนูเขาได้ทำอะไรด้วยตัวเองบ้าง พี่ว่ามันอาจจะดีก็ได้ค่ะ”
“จะให้ฉันยอมรับในตัวผู้หญิงคนนั้นหรือ ไม่มีทาง ฉันภาวนาให้พวกเขาไม่ได้เจอกันอีกทั้งชีวิตจะดีมาก”
คอนโดฯ ของเวหา
ชายหนุ่มกลับมาถึงที่พักก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงคิงไซซ์แววตาคมนิ่งจ้องมองเพดานอย่างไร้จุดหมาย เขาคิดถึงช่วงเวลานั้นไม่เคยลืม ช่วงเวลาที่เขามีความสุขมากที่สุดในชีวิต การที่จะเป็นเวหา บุตรชายของคุณหญิงธารทิพย์กับท่านอนุสรณ์มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เขาต้องอยู่ในจุดกดดันต่าง ๆ นานาแต่พอมีเธอเข้ามาในชีวิตเธอทำให้เขารู้ว่าโลกใบนี้มันสดใสมากขนาดไหน
“เธอเป็นยังไงบ้างมิน สบายดีใช่ไหม? เวย์คิดถึงมินนะ คิดถึงมากที่สุด” จู่ ๆ ใบหน้าคมเข้มตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นเศร้าสลดแทน
“ถ้าเรายังคบกันป่านนี้เราคงแต่งงานใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุขแล้ว ทำไมทุกอย่างต้องเป็นแบบนี้ด้วย! ทำม่ายยยย!” มือหนาทุบลงบนเตียงดังอัก ก่อนจะกำมือเข้าหากันแน่น
@ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
นพดลพามินธิดามาทานอาหารเย็นก่อนจะพูดคุยเรื่องทำโฆษณาใหม่ไปด้วย แววตาของนพดลที่มองมายังหญิงสาวทำเอาเจ้าตัวทำตัวไม่ถูก เพราะแววตานั้นมันช่างหวานซึ้งจนเธอไม่กล้าจะมองตาของชายหนุ่มตรงหน้า
“หลบตาพี่ทำไมน้องมิน คุยกับพี่ก็ต้องมองหน้าพี่สิ”
“พี่นพเลิกมองมินแบบนั้นได้ไหมคะรู้สึกแปลก ๆ”
“สายตาพี่มันไม่ชอบโกหกมินเลยมองมินแบบนี้ มินครับ มินไม่คิดจะเปิดใจให้พี่บ้างหรอครับ?”
“พี่นพ!” จู่ ๆ เขาก็ถามเธอขึ้นมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวแล้วจะให้เธอตอบเขาว่าไงละ
“ในสายตาพี่ ไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนนอกจากมินเลยนะ มินให้โอกาสพี่ได้ไหมครับ?”
“คือว่ามิน มินยังไม่คิดที่จะรักใครตอนนี้ค่ะมินเคยเจ็บปวดกับความรัก มันทำให้มินกลัว กลัวที่จะมีความรักอีกครั้ง” เธอพูดออกมาตรง ๆ ระยะเวลาสองปีเธอยังเจ็บปวดไม่เคยหาย พยายามเท่าไรหัวใจเธอก็ไม่พร้อมที่จะเปิดรับใครเข้ามา
“พี่รอได้ ให้พี่รอนะครับ” นพดลยังคงพูดออกมาทำให้มินธิดาจำต้องพยักหน้าให้ชายหนุ่ม เขายิ้มดีใจออกมาก่อนจะตักอาหารใส่จานให้หญิงสาวตรงหน้า มินธิดาเอ่ยปากขอบคุณก่อนจะทานอาหารที่เขาตักให้ ชายคนตรงหน้านี้ดีเกินไปจนเธอไม่กล้าที่จะดึงเขาลงมาให้ตกต่ำเพราะผู้หญิงจน ๆ อย่างเธอ เธอรู้มาตลอดว่าเขาคิดอย่างไรกับเธอ แต่เพราะคำว่าไม่เหมาะสมทำให้เธอไม่กล้าจะคิดเกินเลยมากกว่าคำว่าพี่ชาย แต่พอมาวันนี้เธอจะลองให้โอกาสหัวใจตัวเองอีกครั้งบ้าง ลองดูอีกสักคนให้เวลาเป็นเครื่องมือพิสูจน์