โฮกกกกกก!
กรี๊ดดดดดดด!
หญิงสาวหลับตา พร้อมกับกรีดร้องอย่างสุดเสียง
พรึบ พรับ กรร…กรรร!
แต่กลับมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น แทนที่หญิงสาวจะโดนเสือโคร่งงาบคอ กลับกลายเป็นว่า มีเสือโคร่งอีกตัวหนึ่งกระโดดเข้ามารับแรงกัดแทน และใช้อุ้งมือตะปบเข้าไปที่ใบหน้าของเสือโคร่งตัวนั้น ทำให้ผู้ล่าที่กำลังแสดงความดุร้าย เป็นแค่แมวตัวใหญ่ที่รีบถอยหลัง แล้วทำหน้าหงอยทันที
พรึบ!
มินตราทรุดตัวลงนั่งอย่างอ่อนแรง ขณะที่ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายกำลังสั่นระรัว ด้วยความตื่นเต้น และหวาดกลัว ที่ต้องอยู่ในสถานการณ์ ที่ตนเองต้องเอาชีวิตรอดจากเสือโคร่ง
แผล่บ~
ระหว่างที่หญิงสาวกำลังสติหลุดลอย หลังจากผ่านเหตุการณ์สุดช็อก เสือโคร่งตัวที่เข้ามาช่วย ก็ใช้ลิ้นสากโลมเลียบริเวณใบหน้าสะสวย ทว่ามันมีลักษณะคล้ายหนาม เธอจึงรีบถอยห่างเพราะรู้สึกเจ็บ แต่นั่นก็ทำให้เธอเห็น ว่าบริเวณลำตัวของเสือตัวนี้ มีรอยกัดชุ่มเลือด เพราะเข้ามารับแทนเธอ
“เจ็บมากใช่ไหม?”
มินตราเอ่ยถามสิ่งมีชีวิต ที่มีขนาดตัวใหญ่กว่าถึงสามเท่า พอลองยืนเทียบเธอกลายเป็นมนุษย์ตัวเล็กนิดเดียว
กรึบ!
เสียงเหยียบกิ่งไม้ มาพร้อมกับการปรากฏตัวของเจ้าพ่อมาเฟียที่เธอกำลังหนี แต่พอเสือโคร่งอีกตัวเห็น ก็รีบวิ่งเข้าไปหาเขา แต่คนละฟิวกับตอนที่วิ่งเข้ามาหาเธอ มันกลายเป็นแมวตัวใหญ่แสนเชื่อง และกระโดดกอดเหมือนเขาเป็นพ่อมัน
“สร้างปัญหาจนได้สินะ”
แน่นอนว่าคำพูดนั้น เขาต่อว่าเธอ ก่อนจะย่างกรายเข้ามาดูแผลให้เสือโคร่งอีกตัวที่บาดเจ็บ ระหว่างดู ร่างใหญ่ก็ถอดเสื้อคลุมลายมังกรสีทองตัดดำ ส่งให้คลุมร่างกาย เพราะตอนนี้เธอสวมใส่เพียงบราเซียกับกางเกงผ้า ไม่ได้ใส่สวมเสื้อ
“มันจะเป็นอะไรมากไหมคะ?”
มินตราถามต่อ เพราะรู้สึกเป็นห่วงเสือตัวที่โดนกัด
“ไม่เป็นอะไร แต่ถ้าเป็น ฉันจะฆ่าเธอเป็นคนแรก”
ประโยคสวนกลับ ทำเอาคนฟังนั่งอึ้งไปหลายนาที
“จะอยู่รอเป็นอาหารเสือหรือไง?”
“อะ อ้อค่ะ จะออกไปเดี๋ยวนี้เลย”
พูดจบ ร่างเพรียวบางก็ชันตัวลุกขึ้นยืน แล้วรีบเดินออกไปจากกรง ที่เปรียบเสมือนป่าขนาดย่อม เมื่อเทียบป่าใหญ่ที่ล้อมรอบ ภายในกรงยังมีพื้นที่กว้างขวาง จึงไม่แปลกที่มีเสือโคร่งอาศัยอยู่ หากเจ้าของได้รับอนุญาตอย่างถูกกฎหมาย แต่ถ้าไม่ถูกต้อง ก็ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจ เพราะเขาเป็นถึงเจ้าพ่อมาเฟีย แค่ลักลอบเลี้ยงสัตว์คุ้มครองคงไม่ใช่ปัญหา
“คุณญาณีเป็นอะไรหรือเปล่าคะ!?”
หญิงร่างท้วมรีบ วิ่งเข้ามาไถ่ถามด้วยความเป็นห่วง
“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ” มินตราตอบกลับ ก่อนที่คุณป้ากลิ่นหยด จะช่วยประคองตัวเธอ พากลับไปที่บ้านไม้สัก แล้วช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้า รวมไปถึงทำแผลที่เกิดจากกิ่งไม้ข่วนต่างๆ
“เดี๋ยวดิฉันเอาชุดคลุมไปคืนคุณท่านนะคะ”
ดวงหน้าสะสวยผงกหัวรับ ขณะที่นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน จ้องมองไปยังชุดคลุมตัวนั้น แล้วนึกถึงตอนที่ชายหนุ่มหน้าคม เจ้าของรูปร่างสูงใหญ่กำยำ กำลังถอดชุดคลุมส่งให้เธอ ซึ่งสัดส่วนกายแกร่ง ที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้าม และรอยสักลายเสือ มันทำให้เธอลบภาพเหล่านั้นออกจากสมองไม่ได้
“ไม่ๆๆๆ ต้องไม่คิดว่าเขาหล่อ”
มินตราพูดโพล่ง พร้อมกับสะบัดศีรษะไปมา เพื่อไล่ความคิดแปลกๆ ออกจากหัวสมอง ถึงแม้ว่าผู้ชายคนนั้น จะหล่อสมาท์สมกับเป็นชายชาตรี ทว่าสเปกของเธอไม่ใช่แบบนี้
เธอไม่ชอบผู้ชายตัวใหญ่กล้ามโต หน้าคม ผิวเข้ม แต่เธอชอบหนุ่มตี๋ ตัวสูง มีซิกซ์แพ็กพองาม ไม่เล่นกล้าม ผิวขาว ตามเนื้อตัวไม่มีลายสัก บุคลิกสุภาพ อ่อนโยน เหมือนลูกคุณ
ซึ่งผู้ชายคนนั้น อยู่ตรงข้ามกับสเปกของเธอทุกอย่าง
และเธอก็ไม่ชอบผู้ชาย ที่ใช้ความรุนแรงในเรื่องเซ็กซ์
“เออ คุณญาณีพักผ่อนก่อนนะคะ”
คุณป้ากลิ่นหยด ที่ยังคงอยู่ภายในห้องพูดขึ้น
“เดี๋ยวดิฉันจะกลับมาพร้อมมื้อเย็นของคุณค่ะ”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ”
มินตรากล่าวคำขอบคุณด้วยความสุภาพ ก่อนจะทิ้งน้ำหนักตัว นอนลงบนเตียงอย่างอ่อนแรง ซึ่งภายในหัว ยังมีเรื่องให้คิดอีกมากมาย แต่สิ่งที่เธอทำได้ในตอนนี้ คือนอนพัก
พลังงานต่อวันของเธอหมดแล้ว ไม่มีแรงแม้แต่จะฝืนตาตื่นรอทานมื้อเย็น เธอจึงชิ่งนอนหลับ แล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน
วันต่อมา
“อือออ~”
ร่างเพรียวบางชันตัวลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับยกมือขยี้ตา เพราะรู้สึกระคายเคืองบริเวณนั้น แต่พอนึกได้ ว่าลืมถอดคอนเเทคเลนส์ก่อนนอน จึงรีบลุกขึ้นจากเตียง ไปส่องกระจกบนโต๊ะเครื่องแป้ง นั่นเลยทำให้เธอเห็นว่า ดวงตาทั้งสองข้างเริ่มแดงก่ำ เธอจึงรีบหันไปหยิบขวดน้ำตาเทียมในกระเป๋าเป้มาหยอดตา ลดการเกิดแผล ก่อนจะค่อยๆ ถอดสิ่งนั้นออกไป
“ฟู่ว! เกือบตาบอกแล้วไหมละ สะเพร่าจริงๆ เลยแก”
มินตราอดที่จะด่าทอตัวเองไม่ได้ เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่น่าลืม ยังดีที่ไม่ได้รู้สึกแสบขนาดนั้น แค่พักการใส่คอนแทคเลนส์สักสองสามวัน ก็น่าจะดีขึ้น แต่! เธอจะพักได้ยังไง ในเมื่อสีตาของเธอ กับสีตาของญาณีแตกต่างกัน ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังไม่มีแว่นตาช่วยบดบัง แถมโทรศัพท์ยังอยู่ในกรงเสือโคร่งอีก (อ้ากกกก!) คิดแล้ว มีแต่ปัญหาใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลย
เป็นการตื่นรับวันใหม่ที่มีแต่ปัญหา ทั้งที่เธออยู่ที่นี่แค่สามวัน แต่มีเรื่องมากมายเกิดขึ้น ราวกับอยู่มานานกว่าสิบปี
“โอเค มินตรา แกต้องตั้งสติ”
หญิงสาวกลับไปนั่งบนเตียง แล้วพยายามรวบรวมสติ ในการคิดหาทางออก ซึ่งเธอคิดว่าตัวเธอเองสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ โดยการสารภาพผิด ว่าเธอไม่ใช่ญาณีตัวจริง มันอาจจะเป็นวิธีที่โง่เง่า เหมือนเอาชีวิตตัวเองไปทิ้งลงเหว แต่การโกหกต่อไป เธอจะต้องรับมือกับเรื่องตั้งท้อง ไหนจะเรื่องเซ็กซ์ป่าเถื่อนนั่นอีก แน่นอนว่าเธอรับไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวจริงๆ
“แค่สารภาพผิด เขาคงจะเข้าใจแหละ~”
มินตรามองโลกในแง่ดี พลางคลี่ยิ้มหวานให้กับการตัดสินใจ จากนั้นก็ลุกขึ้นจากเตียง ไปอาบน้ำอาบท่า แต่งตัวด้วยชุดเซตไหมพรม ที่เหลืออยู่เพียงชุดเดียว เพราะเธอคิดว่าหลังจากไปสารภาพผิด อาจจะถูกส่งตัวกลับบ้านภายในวันนี้
“นั่นคุณญาณีกำลังจะไปไหนเหรอคะ?”
คุณป้าเอ่ยทัก ขณะที่เธอกำลังเดินออกจากบ้าน
“อ้อ หนูกำลังจะไปหาท่านพญาเสือค่ะ”
“ได้แจ้งคุณท่านเอาไว้ก่อนไหมคะ?”
“ถ้าไม่ได้แจ้ง ไม่ให้เข้าพบเหรอคะ?”
“ให้เข้าพบค่ะ ถ้าคุณท่านอยู่บ้านสวน”
คิ้วเรียงสวยเลิกขึ้น ก่อนจะถามต่อทันที
“ตอนนี้ท่านไม่ได้อยู่บ้านสวนเหรอคะ?”
“ไม่อยู่ค่ะ คุณท่านออกไปตั้งแต่เมื่อคืน”
“โอ๊ะ ท่านพาเสือโคร่งไปหาหมอเหรอคะ?”
คุณป้าสีหน้าเจื่อนลง เมื่อเธอถามถึงเสือโคร่ง
“ขออภัยนะคะ ที่เคยบอกคุณว่าเป็นกรงเปล่า”
“ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว”
มินตราบอกปัด เพราะไม่คิดมากเรื่องนี้ แต่แอบเป็นห่วงเสือโคร่งตัวนั้นมากกว่า กลัวบาดแผลที่โดนกัด จะรุนแรง
“แม่มณีปลอดภัยดีค่ะ”
“แม่มณี?”
“เสือโคร่งตัวที่โดนกัด ชื่อแม่มณี ส่วนตัวที่โจมตีคุณญาณี ชื่อเจ้าป่า ทั้งสองเป็นคู่รักกัน แต่เจ้าป่าค่อนข้างหวงถิ่น พอเห็นคุณญาณีเลยโจมตี แต่มณีใจดีเลยเข้ามาช่วยค่ะ”
“อ้อ~ เข้าใจแล้วค่ะ”
มินตราพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ แต่จะว่าไปแล้ว เจ้าแมวดุตัวนั้น ก็แอบกลัวเมียอยู่เหมือนกันนะ เธอจำได้ ตอนที่มันเผลอกัด แล้วโดนเมียตะปบ หน้านี่หงอยเป็นแมวป่วยเลย
“แม่มณีตั้งท้องอยู่นะคะ อีกสองสัปดาห์ถึงจะคลอด”
“จริงเหรอคะ!?”
หญิงสาวเบิกตาโตด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่าแม่เสือสาวตัวนั้น จะช่วยเธอทั้งที่ตัวเองตั้งท้องอยู่ แต่พอได้ยินแบบนี้ ก็แอบรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุ ทำให้แม่มณีโดนเจ้าป่ากัด
“จริงค่ะ แต่คุณญาณีไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ แม่มณีปลอดภัยดี ส่วนที่คุณท่านไม่อยู่ เพราะออกไปคุยงานในตัวเมือง กลับมาอีกทีก็อาทิตย์หน้าเลยค่ะ” อะ อาทิตย์หน้าเลยเหรอ แล้วต่อจากนี้เธอจะอยู่ยังไง ในเมื่อโทรศัพท์ก็ยังอยู่ในกรงเสือโคร่ง ยาคุมก็ยังไม่ได้กิน แบบนี้เธอต้องพลาดท้องแน่
“คุณตาแดงนะคะ ให้ดิฉันไปหายามาให้ไหม?”
“ค่ะ เออ...หนูขอยืมโทรศัพท์คุณป้าได้ไหมคะ?”
“ดิฉันอยากให้ยืมนะคะ แต่คุณท่านไม่อนุญาต”
“ขะ ขอร้องนะคะคุณป้า หนูจำเป็นต้องใช้จริงๆ”
มินตราถึงกับยกมือไหว้ขอร้อง เพราะถ้าเธอไม่ติดต่อกับเพื่อน มีหวังนางได้เอาเรื่องนี้ไปฟ้องคนในครอบครัวของเธอ แล้วถ้าติณห์รู้เรื่องนี้ จากเรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่!
แม้ในทางกลับกัน
การขอความช่วยเหลือจากพี่ชายจะเป็นทางออกที่ดี แต่เธอไม่อยากให้คนในครอบครัว มีปัญหากับเจ้าพ่อมาเฟีย เพราะเธอไม่มีทางรู้เลย ว่าผู้ชายคนนั้น สามารถทำอะไรได้บ้าง การเจรจา และยอมสารภาพผิด จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
อย่างน้อย คนในครอบครัวของเธอก็ปลอดภัย
“ถ้าดิฉันให้คุณยืมโทรศัพท์ คุณสัญญาได้ไหมคะ ว่าจะไม่ทิ้งคุณท่านไปไหน จนกว่าจะสิ้นสุดสัญญา เออ…ดิฉันรู้นะคะ ว่าไม่สมควรพูดแบบนี้ แต่ว่าคุณท่านอยากมีทายาทสืบสกุลจริงๆ กว่าจะหาผู้หญิงที่ยินยอมได้ มันไม่ง่ายเลยค่ะ”
คุณป้ากลิ่นหยดพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล เพราะกลัวว่าให้ยืมโทรศัพท์แล้ว เธอจะหาช่องทางในการหลบหนี และยกเลิกสัญญา ซึ่งเธอคิดว่าหลังจากสารผิด เขาอาจจะหาแม่อุ้มบุญคนใหม่ได้ไม่ยาก แต่พอได้ยินแบบนี้แล้ว เธอคงคิดผิด
“หน้าตาของท่านพญาเสือดูไม่แย่เลยนะคะ ไหนจะมีเงิน มีอำนาจ มีทุกอย่างที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ อยากจะเข้าหา แล้วทำไมคุณป้าถึงได้กลัว ว่าท่านจะหาคนใหม่ไม่ได้ละคะ?”
“ในสัญญา ไม่ระบุเรื่องหน้าตาของคุณท่านนะคะ มีแต่รายละเอียดสำคัญในการมีบุตร (อันนี้คุณป้าน่าจะร่วมถึงลักษณะองคชาติ เพราะถ้าเขาไม่ลงรายละเอียดในสัญญา คงไม่กล้าพูด ว่านี่เป็นสิ่งที่เธอต้องยอมรับมัน) หากฝ่ายหญิงยินยอมจะตอบรับกลับมา แต่ส่วนน้อยที่จะยอมรับเรื่องนี้ได้”
อ่า...พอเข้าใจได้ เพราะความเป็นชายที่มีลักษณะตะปุ่มตะป่ำน่ากลัว และใหญ่ยาวเกินมาตรฐาน ทำให้ผู้หญิงคิดหนักเรื่องนี้ ไหนจะรูปแบบการมีเซ็กซ์ ที่มีแต่ความรุนแรง ดุดัน และป่าเถื่อน แบบนี้เป็นใครก็ต้องชั่งใจ ว่าจะคุ้มกันไหม
ดีไม่ดี อาจจะขิตก่อนตั้งท้องได้เลยนะนั่น
เพราะขนาดเธอตอนนี้ ยังรู้สึกแสบอยู่เลย
“หนูยังไม่สัญญาได้ไหมคะ?”
คำตอบของมินตรา ทำให้คุณป้าทำหน้าเศร้าสร้อย
“แต่หนูจะพยายามหาทางช่วย เพื่อให้ท่านพญาเสือสมหวังในเรื่องทายาท แต่คนที่อุ้มท้อง อาจจะไม่ใช่หนูนะคะ”
“แต่คุณท่านถูกชะตากับคุณญาณีนะคะ”
“อะไรทำให้คุณป้าคิดอย่างนั้นเหรอคะ?”
“เพราะถ้าคุณท่านไม่ถูกชะตา คุณท่านจะไม่ช่วยค่ะ”
“หมายถึงเรื่องเมื่อคืนเหรอคะ?”
“ใช่ค่ะ เพราะปกติคุณท่านไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนมาก่อน แต่พอเป็นคุณญาณี คุณท่านกลับให้ความสนใจในทุกทุกเรื่อง ถึงแม้ว่าจะเผลอใช้ความรุนแรงไปบ้าง แต่ถ้าคุณบอกกล่าวกับคุณท่าน ว่าต้องการแบบไหน ดิฉันเชื่อเหลือเกิน ว่าคุณท่านจะทำตามความต้องการของคุณอย่างแน่นอนค่ะ”
“เออ…ขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
มินตรายิ้มแห้งๆ เพราะไม่คิดว่าฝ่ายชายจะเป็นคนแบบนั้น แต่ถึงแม้ว่าเขาจะยอมปรับบางสิ่ง เพื่อทำให้เธอพึงพอใจ แต่ยังไงเรื่องเซ็กซ์ก็ต้องผูกติดกับเรื่องความรู้สึก ถ้าไม่รักกัน เธอไม่สามารถทำเรื่องอย่างว่ากับเขาได้ เพราะมันจะขาดความสุขสม มีแค่ความเจ็บปวด เหมือนครั้งแรกที่ผ่านมา
ทว่าเหตุผลที่ทำให้เธอไม่โกรธเขา เรื่องการบังคับขืนใจ เพราะเขาไม่รู้ว่าเธอไม่ใช่แม่อุ้มบุญตัวจริง จึงรีบเร่งทำเรื่องอย่างว่า เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ และเธอก็ดันเข้ามาในสถานะที่ต้องยอม เลยเป็นเรื่องยากที่จะโทษว่าเขาเป็นคนผิด
ฉะนั้นแล้ว เธอจะลืมเรื่องเซ็กซ์ระหว่างเรา และรอจนกว่าเขาจะกลับมา เพื่อสารภาพผิด จากนั้นก็กลับไปตรวจร่างกาย หากพลาดท้อง การเอาออกโดยมีเหตุผลจำเป็นก็คงไม่ใช่เรื่องผิด แต่เธอก็ภาวนาขอให้อย่าติดท้องในครั้งแรกเลย
ส่วนเหตุผลที่เธอยังไม่บอกเรื่องนี้ กับคุณป้ากลิ่นหยด เป็นเพราะว่าเธอยังไม่รู้จักคุณป้าดีพอ จึงไม่รู้ว่า หากบอกไปแล้ว จะเกิดอะไรขึ้น แล้วจะมีผลเสียตามมาหรือเปล่า เธอเลยอยากรอคุยกับท่านพญาเสือ เพื่อทำให้ทุกอย่างซอฟต์ลง