สาวน้อยที่เพิ่งได้รู้จักอาการออกัสซั่มเป็นครั้งแรก ร้องครางเหมือนเพ้อ เสียวมากจนสองมือเผลอลูบไล้กอดรัดแผ่นหลังเลื่อมลื่นไปด้วยเหงื่อ กล้ามเนื้อของพ่อหมอเต้นระริกอยู่ใต้ฝ่ามือหล่อน
หล่อนซบหน้ากับอกเขา…
กำซาบกลิ่นเหงื่อกลิ่นกายของจอมขมังเวทย์หื่นกามที่ยามนี้มันช่างหอมหวนรัญจวนอารมณ์เหลือเกิน
“นังผีร้ายออกไปจากร่างของเจ้าแล้วใช่ไหม… ”
พ่อหมอถามขณะขยับเอวถอนความแข็งแกร่งออกจากกลีบเนื้อระบมบวมของคุณหนู ถามทั้งที่รู้ว่าความจริงเป็นเช่นไร
“ค่ะ… ผีออกไปแล้วค่ะ.. ”
ฮานะตอบเขินๆ จำต้องเล่นไปตามบท อย่างน้อยก็ทำให้หล่อนไม่รู้สึกอาย เหมือนตัวเองทำไปโดยไม่รู้ตัว
“ถ้าวันไหนนังผีร้ายมันกลับมาสิงร่างของเจ้าอีก… ข้าจะรีบมาฉีดน้ำมนต์ให้เจ้า… ”
พ่อหมอกล่าวขณะสายตาจ้องมองง่ามขาของหญิงสาวที่ยังมีอาการสั่นน้อยๆ
หลังจากโดนซอยจนกล้ามเนื้อช่วงล่างต้องรับศึกหนัก เห็นกลีบสวาทเบ่งบวม ขมิบน้ำกามสีขาวข้นราวกะทิ กะปริบออกมาหมุบๆ
“ไม่ต้องกังวลนะ… ที่โดนกระแทกนั่นคือนังผีร้าย… ไม่ใช่ตัวเจ้า… น้ำขาวๆ นั่นก็น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ของข้า… ”
พ่อหมอรีบปลอบ…
เมื่อเห็นว่าสาวน้อยทำท่าตกใจ เอื้อมมือมาลูบศีรษะของฮานะที่ยังนอนนิ่งหายใจแรง
“สวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย… ”
พ่อหมอคว้าเสื้อผ้ามาให้หญิงสาว…
เมื่อสวมเสื้อผ้ากันเสร็จเรียบร้อยพ่อหมอก็เปิดประตูออกมาท่ามกลางความดีใจของบัวตองและเสี่ยอนันต์ที่ยืนรออย่างกระวนกระวายอยู่นอกห้อง
“เป็นไงบ้างคะพ่อหมอ… ผีออกจากร่างคุณหนูหรือยังคะ… ”
ป้าบัวตองรีบถาม เมื่อพ่อหมอเดินออกมาจากห้องนอนของคุณหนู
“เรียบร้อยแล้ว… ตอนนี้ข้าไล่ผีไปแล้ว แต่ว่าวิญญาณนังผีร้ายตนนี้ท่าทางมันจะดื้อ… ข้าสู้กับมันจนเหนื่อยตก แต่ยังเรียกวิญญาณของมันมาลงหม้อไม่ได้… มันร้ายนัก… ”
พ่อหมอกล่าว
“ห๊ะ… งั้นก็แสดงว่าวิญญาณของนังผีร้ายตนนี้ยังวนเวียนอยู่แถวนี้ใช่ไหมครับพ่อหมอ… ”
เสี่ยอนันต์ที่กลัวผีมาก รีบถามด้วยแววตาวิตกกังวล มือกุมพระเป็นพวงคล้องอยู่รอบคอ
“ใช่แล้ว… วิญญาณของมันคงวนเวียนอยู่แถวนี้… เอาไว้วันหลังข้าจะต้องกลับมาเรียกวิญญาณมันอีกครั้ง… ”
พ่อหมอตอบ
“ห๊ะ… ถ้าเป็นอย่างนี้ ระหว่างนี้พวกเราคงต้องอยู่กันอย่างหวาดๆ กลัวๆ ใช่ไหมพ่อหมอ”
มีความกังวลผุดวาบขึ้นบนใบหน้าเสี่ยอนันต์ผู้เป็นเจ้าของบ้าน
“ไม่ต้องห่วง… ไม่ต้องกลัว ข้ามีของดีเอาไว้ให้พวกเจ้าป้องกันผี… ”
เมื่อกล่าวจบ… พ่อหมอเอื้อมมือลงไปในย่ามสีขาว ควักปลัดขิกดุ้นเท่าๆ กล้วยน้ำว้าออกมาสามอัน ทำจากไม้แกะสลัก ส่งให้กับบัวตองและเสี่ยอนันต์คนละอัน
“อันนี้ฝากไว้ให้นังหนูที่โดนผีเข้า… ”
พ่อหมอยื่นปลัดขิกมาให้…
ป้าบัวตองรีบรับเอาไว้พร้อมกับยกมือไหว้ ก่อนจะเข้าไปดูคุณหนูฮานะที่ยังนอนซมอยู่บนเตียงเพราะโดนพิธีไล่ผีแบบพิสดารของพ่อหมอจอมหื่นเล่นงานจนระบม
“คุณหนู… ”
บัวตองทอดสายตามองร่างของหญิงสาวในชุดนอนสายเดี่ยวบางๆ ยังนอนนิ่งอยู่บนเตียงที่สภาพของผ้าปูที่นอนยับยู่ราวกับเพิ่งมีคนขึ้นมาต่อสู้กันบนเตียง
“คุณหนูเป็นยังไงบ้างคะ… ”
บัวตองทรุดร่างลงนั่งข้างขอบเตียง เอื้อมมือมาลูบแขนลูบไหล่ของหญิงสาวที่เนื้อตัวยังร้อนผะผ่าวเพราะเพิ่งผ่านเพลิงสวาทมาหมาดๆ
“เมื่อกี้หนูเป็นอะไรคะ… ”
สาวน้อยจำต้องเล่นไปตามบทที่ตัวเองสร้าง
“คุณหนูไม่รู้ตัวใช่ไหมคะ… ”
“ค่ะ… ไม่รู้… ”
“งั้นก็ช่างมันเถอะค่ะ… ”
บัวตองไม่อยากให้คุณหนูเป็นกังวลกับเรื่องที่เกิด นึกในใจว่าไม่รู้ก็ดีแล้ว ถ้าหล่อนเล่าให้ฟังอาจเป็นการสร้างความหวาดกลัวให้กับหญิงสาว
“ป้าบัว… หนูอยากนอนพักสักครู่… ”
ฮานะกล่าว…
นึกขึ้นได้ว่าถ้าป้าบัวอยู่ในห้องนี้นาน หล่อนอาจจะสังเกตเห็นร่องรอยพิรุธของพายุสวาทเมื่อครู่
“คุณหนูจะเอาอะไรไหมคะ… น้ำดื่มหรือของว่างไหมคะกินแล้วจะได้มีแรง… ”
บัวตองสังเกตเห็นอาการอ่อนล้าหมดแรงของหญิงสาว
“ไม่ค่ะ… หนูไม่เอาอะไรทั้งนั้น”
ฮานะส่ายหน้า
“ค่ะ… งั้นคุณหนูนอนพักเถอะนะคะ เดี๋ยวป้าขอตั้งปลัดขิกแท่งนี้ไว้ที่หัวเตียงตามคำสั่งของพ่อหมอนะคะ… ป้องกันนังผีร้ายมันย้อนกลับมา… ”
บัวตองกล่าวแล้วลุกขึ้นจากเตียง พอดีกับเสี่ยอนันต์เข้ามาดูอาการของลูกสาว
“ฮานะ… เป็นไงบ้างลูก… ”
เสี่ยอนันต์ถามด้วยความเป็นห่วง ทอดสายตามองหญิงสาวที่ทอดร่างดูอ่อนล้าอยู่บนเตียง
“คุณหนูหลับแล้วค่ะเสี่ย… อย่าเพิ่งกวนเลยนะคะ… ปล่อยให้คุณหนูพักเถอะค่ะ… ”
“ก็ฉันห่วงลูกสาว… ”
“ถ้าห่วงลูกสาวก็ต้องให้พักค่ะ… ไม่เห็นหรือคะว่าคุณหนูหลับแล้ว… ตอนนี้คุณหนูต้องการพักผ่อนค่ะ”
บัวตองเตือน…
เสี่ยอนันต์จำต้องเดินตามบัวตองออกมา แต่เมื่อครู่สายตาก็กวาดสำรวจไปทั่วห้องของลูกสาวอย่างนึกสงสัย เห็นสภาพเตียงนอนยับยู่กระจัดกระจายแล้วอดห่วงไม่ได้ ว่าจอมขมังเวทย์ทำพิธียังไงจึงไล่ผีออกไปได้
“บัว… ”
ก่อนที่บัวตองจะเดินจากไป เสี่ยอนันต์รีบสะกิดแขนของหล่อนเอาไว้
“มีอะไรคะเสี่ย… ”
บัวตองหันมามองหน้าผู้เป็นนาย
“เธอไม่สงสัยบ้างหรือ… ”
“สงสัยอะไรคะเสี่ย… ”
หัวคิ้วของบัวตองขมวดมุ่น ชิดเข้าหากัน
“สงสัยว่าพ่อหมอไล่ผียังไงเตียงนอนลูกสาวฉันจึงเละเทะขนาดนั้น… ”
เสี่ยอนันต์ตั้งข้อสังเกต
“แหม… เสี่ยอย่าคิดอะไรให้มากเลยนะคะ… บัวเห็นที่นอนคุณหนูเละเทะตั้งแต่ก่อนที่พ่อหมอจะมาอีกนะคะ เพราะว่าตอนที่ผีเข้าสิงคุณหนูโวยวายอาละวาดขว้างปาข้าวของไปทั่ว… เดี๋ยวรอให้คุณหนูตื่นนอนบัวจะเข้าไปเก็บกวาดทำความสะอาด… ”
บัวตองตอบแล้วเดินจากไป ทิ้งให้เสี่ยอนันต์ยืนนิ่วหน้า หัวคิ้วขมวดมุ่นอยู่คนเดียว