เฮือก!
เสียงหายใจดังเฮือกราวกับก่อนหน้านั้นเธอขาดอากาศหายใจชั่วขณะ อุณหภูมิเย็นเฉียบจากเครื่องปรับอากาศปลุกให้เรติกาตื่นขึ้นมาจากห้วงนิทรา ถึงอย่างนั้นเธอก็พบพานแต่ความมืดสนิทเมื่อดวงตาถูกปกปิดด้วยผ้าสีดำ
อึดอัด! เหมือนมีปลอกคอเย็นเฉียบแนบอยู่รอบลำคอ และโซ่ตรวนพาดอยู่บนเนินอกเปลือยเปล่าของเธอ แผ่นหลังเปลือยเปล่าแนบสัมผัสกับเบาะหนังเทียม ข้อมือทั้งสองถูกล็อกเข้ากับเตียงโครงเหล็ก
เงียบ! จนได้ยินเสียงหายใจของตัวเอง และเสียงของเหล็กกระทบเหล็กดังก้องแม้เธอจะขยับตัวเพียงเล็กน้อย หน้าอกใหญ่เกินขนาดกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะหายใจหนักหน่วง ความมืดมิดทำให้คนที่ไม่เคยกลัวอะไรอย่างเธอเริ่มหวาดหวั่น
“หึ” ปีแสงเค้นเสียงหัวเราะออกมาในลำคอ เมื่อเห็นว่าเรติการู้สึกตัว หลังจากที่หลับใหลด้วยฤทธิ์ยามานานถึงสามวันนับตั้งแต่ที่เขาได้ตัวเธอมาอยู่ในเงื้อมมือ รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏอยู่บนใบหน้าคมคาย รู้สึกพึงพอใจกับสภาพที่น่าเวทนาของคนตรงหน้า เธอไม่รู้หรอกว่าเขาทำอะไรกับเธอไว้แล้วบ้าง และเธอกำลังจะได้รู้หลังจากนี้
เอี๊ยด!
ปีแสงลากชั้นสเตนเลสที่บรรจุเครื่องมือแพทย์มากชิ้นมาไว้ข้างๆ ร่างเปลือย
“ทะ..ทำอะไร! จะทำอะไรฉัน” เสียงแหบแห้งพยายามตะโกนถามอย่างหมดเรี่ยวแรง เมื่อถูกมือหน่ายกเรียวขาขึ้นไปวางบนเหล็กวางขาทีละข้าง แม้จะพยายามออกแรงถีบส่ง แต่ข้อเท้าเล็กๆ ทั้งสองข้างกลับไม่มีความรู้สึกราวกับถูกฉีดยาชา
“ฉะ..ฉันไปทำอะไรให้แก!”
“ทบทวนความชั่วของตัวเองดูสิ”
“ฉันไม่เข้าใจ!”
“ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน! เพราะอะไรเธอถึงลั่นไกใส่พ่อของฉัน” เรติกาตะโกนถามเสียงเกรี้ยว แต่อีกฝ่ายกลับตอบโต้กลับมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ในเมื่อเธอปลิดชีวิตคนอื่นได้ ฉันก็จะลองเป็นคนควบคุมชะตาชีวิตของเธอดูบ้าง”
“กะ..แกเป็นใคร?”
“เดี๋ยวเธอก็รู้”
“ไอ้ชั่ว!”
“เร็วเกินไปหรือเปล่าที่จะด่าฉันแบบนั้น ถ้ายังไม่รู้จักฉันดีพอ”
“ไอ้เดรัจฉาน! ไอ้สัตว์นรก!”
“เก็บไว้ด่าตัวเองบ้างก็ดีนะ เพราะคำพวกนี้มันเหมาะกับเธอสุดๆ เลยล่ะ”
“อื้อ~”
ตึบ! ตึบ! ตึบ!
รู้สึกปวดหนึบที่หัวสมองซีกซ้าย ในตอนที่เธอพยายามออกแรงต่อต้าน เหมือนมีก้อนอะไรเล็กๆ ฝั่งอยู่ในนั้น เขาทำอะไรกับเธอเกิดคำถามมากมายที่เรติกาต้องการคำตอบ ความหวาดกลัวมันถาโถมเข้ามาในจิตใจของคนที่ไม่เคยกลัวอะไรอย่างเธอ
“แกทำอะไรกับหัวของฉัน”
“สมองของคนทำหน้าที่ควบคุมสั่งการ จะเป็นยังไงถ้าฉันได้ควบคุมสมองของคนอีกที โดยเฉพาะคนอย่างเธอ”ปีแสงแสยะยิ้มออกมาอย่างน่าสมเพช เมื่อเห็นว่าคนที่ดิ้นพล่านอย่างกับปลากรายเมื่อครู่เริ่มแน่นิ่งไป เขาหย่อนตัวลงนั่งตรงกลางหว่างขาของเธอ หลังจากที่จัดการสวมถุงมือแพทย์เรียบร้อย
โรคจิต! เกิดความรู้สึกเย็นวาบสลับกับร้อนวูบ ไรขนอ่อนลุกชูชันตามเรือนร่างเปลือยเปล่าล่อนจ้อน สัญชาตญาณมันบอกว่าพื้นที่สงวนของเธอกำลังถูกจับจ้องจากใครบางคนที่ทำให้เธอตกอยู่ในสภาพนี้
“หึหึ” เสียงแค่นหัวเราะดังเล็ดลอดออกมาจากลำคอหนา พึงพอใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า โนนโหนกสามเหลี่ยมอวบอูมปกคลุมไปด้วยไรขนอ่อน ร่องสวาทสวยจรดเข้าหากันสนิท เยื่อพรหมจรรย์อยู่ในสภาพไม่เคยผ่านการฉีกขาดเลยสักครั้ง
“เธอต้องชดใช้ด้วยการเป็นที่อยู่อาศัยของลูกฉัน ก่อนที่ฉันจะส่งเธอให้ไปเกิดใหม่”