แกร๊ก~
มือเรียวบางจัดการประกอบปืนยาว ตั้งแต่ปลายลำกล้องจรดพานท้าย เพื่อความแม่นยำสูงเธอเลือกปืนสังหารที่มีซองกระสุนขนาดบรรจุห้านัด มีน้ำหนักรวมเมื่อติดกล้องเล็งระยะไกลประมาณหกจุดสองกิโลกรัม มีระยะยิงหวังผลไกลกว่าแปดร้อยถึงหนึ่งพันเมตร เป็นอย่างต่ำ
สายตาของเพชฌฆาตจ้องมองเหยื่อผ่านกล้องส่อง มือเรียวสวยหันเล็งปากกระบอกปืนไปยังศีรษะของเป้าหมาย นิ้วชี้เรียวบรรจงสอดเข้าโกร่งไกอย่างใจเย็น ความเร็วในขณะที่กระสุนพ้นปากลำกล้องสองพันสี่ร้อยฟุตต่อวินาที กระสุนจะเจาะเข้าตรงกลางกะโหลกของเหยื่อและจะเสียชีวิตทันที
ปังง!!
เสียงปืนดังสนั่นซ้อนกันทันทีที่นิ้วเรียวกดลั่นไก รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏอยู่ใบหน้าสวยหวาน ซึ่งมันขัดต่อบุคลิกของเธออย่างสิ้นเชิง เรติกาจัดเก็บอาวุธปืนเข้ากับกระเป๋าสีดำขนาดกลาง มือเรียวดึงแว่นดำกันแดดที่เกยทัดผมไว้มาสวมใส่ ก่อนเดินจากไปท่ามกลางความวุ่นวายและเสียงกรีดร้องของผู้คนที่ดังอยู่ไกลๆ จากจุดที่เธออยู่
“เมื่อเวลา 11:30 น. วันนี้ มือปืนจ่อยิง ส.ส. ......พรรคXXXX ด้วยอาวุธปืนขนาดXX เข้าที่บริเวณโหนกแก้มขวาทะลุโพรงจมูก อาการสาหัส
ด้าน พล.ต.อ. เผยว่า ขณะนี้ยังอยู่ในการดำเนินการสืบสวนสอบสวนผู้อยู่เบื้องหลัง ยังมีความเชื่อมั่นว่าทีมตำรวจภาค 2 สามารถจับได้แน่ ส่วนรายละเอียดยังไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้
เชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องการเมือง
ย้อนไปก่อนหน้านี้ มีเหตุการณ์ความรุนแรงที่เชื่อมโยงกับการเมืองหลายเหตุการณ์...”
“ฝีมือแก?” คาริสาเอียงคอถามคนที่นั่งดูทีวีอย่างสบายใจอยู่ข้างๆ มือเรียววางแท็บเล็ตลงบนหน้าตัก หลังจากได้อ่านข่าวที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จึงอดที่จะสงสัยเพื่อนรักของตัวเองไม่ได้ หากว่าวันนี้เรติกาหายไปตั้งแต่เวลาช่วงเช้าสายและกลับมายังแชร์เฮาส์ในเวลาบ่ายโมง
“...” คนโดนถามเหลือบตามองเพื่อนรักเพียงนิด ก่อนเอียงคอยักไหล่ให้ แล้วหยัดกายลุกขึ้นไปหยิบเบียร์กระป๋องในตู้เย็นมากระดกลงคอ
“ทำท่าแบบนั้นหมายความว่าไงเรย์ อธิบายให้มันเคลียร์” คาริสาเอี้ยวหน้ามองตามเพื่อนรักพลางซักถามไม่หยุด
“แล้วทำไมแกจะต้องมาหงุดหงิดใส่ฉันด้วยเนี่ย” เรติกาตอบโต้กลับไปเชิงย้อนถาม หลังจากที่กลืนน้ำสีอำพันลงคอ
“ก็เหยื่อทุกรายที่แกลงมือ แกจะให้ฉันตรวจสอบข้อมูลของเหยื่อก่อนไม่ใช่เหรอ แกถึงจะตัดสินใจรับงาน แล้วนี่อะไร?”
“คำสั่งบิ๊กบอส” เรติกาตอบเพื่อนรักกลับไปแค่นั้น ทำให้คาริสารู้ทันทีว่าไม่ควรซักถามอะไรต่อ หากว่าเป็นคำสั่งของบอสใหญ่ ไม่มีสิทธิ์หลีกเลี่ยงที่จะไม่รับงาน และทุกอย่างจะเป็นความลับ “ไปเที่ยวกับฉันไหมเคส”
“เที่ยวเหรอ?” คนที่งุดหน้ามุ่ยเมื่อครู่เงยขึ้นมาอย่างดี้ด้า เมื่อได้ยินคำชวนจากเพื่อนสาว
“โดนเตชินสั่งพักงาน ไม่ได้เข้าองค์กรตั้งหลายวันแกคงเบื่อแย่”
ไปเที่ยวเปิดหูเปิดตากับฉันหน่อยไหม? ถ้าเตมันกล้าโวยวายเดี๋ยวฉันจัดการมันเอง” คาริสาฉีกยิ้มกว้างจนตาหยี เมื่อเพื่อนรักอย่างเรติการู้ใจเธอเสมอ
@ผับz
“พี่เรย์ขา วันนี้ไม่ให้พวกหนูไปนั่งเป็นเพื่อนเหรอคะ”
“ห๊า?” เป็นคาริสาที่ชะงักไปก่อนส่งเสียงอุทานแล้วหันมองหน้าเพื่อนรักข้างๆ ซึ่งเริตกาก็ได้แต่ยิ้มกริ่มกลับมา
“ให้เด็กมันได้มีค่าเทอม” เรติกาวางแขนพาดกับพนักเก้าอี้ของคาริสาพร้อมเอียงคอไปกระซิบเบาๆ ที่ข้างกกหูของเธอ ก่อนที่จะเงยมาพูดตอบโต้กับเด็กสองคนตรงหน้า
“พี่มีคนนั่งด้วยแล้วจ๊ะ ไว้วันหลังนะ”
“พี่คนนี้ แฟนพี่เรย์เหรอคะ”
“หือ?” คาริสาอุทานอีกครั้งพร้อมไล้สายตามองเด็กรุ่นน้องมหาลัยเดียวกันกับที่เธอเรียนจบหมาดๆ พลางส่งยิ้มเจือนให้พวกหล่อน
“เพื่อนของพี่เองจ๊ะ ชื่อพี่เคส” เด็กรุ่นน้องสองคนก้มหน้าทักทายคาริสาแล้วหันมากล่าวลาเรติกาก่อนเดินจากไป
“อะไรยังไง?” คาริสาเอียงคอถามเพื่อนสาวสุดห้าวหาญ
“บางวันนั่งคนเดียวมันก็เหงา เลยให้ทางร้านจัดหาเด็กมานั่งเป็นเพื่อนเฉยๆ” เรติกาพูดพลางเอื้อมมือไปหยิบน้ำสีอำพันมากระดกลงคอกลบเกลื่อน ในขณะที่อีกฝ่ายมองเธออย่างจับผิด
“อะไรๆ อะไรของแก หึ” คาริสาทำทีส่งเสียงโวยวายอย่างไม่ใส่ใจนัก เมื่อถูกเพื่อนรักใช้มือสัมผัสกับท่อนขาเหนือหัวเข่า จากเรียวขาที่นั่งอยู่ในท่าไขว่ห้างถูกดันลงให้นั่งในท่าที่สุภาพขึ้น
“มีไอ้พวกหน้าหื่นมันมองขาอ่อนแก ไม่ชอบ!” คาริสาถอดหายใจพรืดใหญ่ ก็ที่เธอใส่เกาะอกสั้นรัดรูปสีแดงจัดเต็มมาขนาดนี้ ก็กะจะมาอวดเรือนร่างสักหน่อย ในขณะที่เรติกาใส่เสื้อยืดสีดำกับกางเกงขาเดฟรัดรูปสีเดียวกัน ใครก็ตามที่มองมายังพวกเธอทั้งคู่ ก็คงคิดว่าเป็นเลสเบี้ยน
“ไปเต้นกัน”
เสียงเพลงภายในผับดังขึ้นต่อเนื่องอย่างครึกครื้น จนกลบทุกเสียงร้องโห่และเสียงพูดคุย คาริสาจึงต้องตะโกนชวนเพื่อนรักให้ออกไปวาดลวดลายท่าเต้น
“ไม่ไป” นอกจากจะปฏิเสธไม่ไปเต้นเป็นเพื่อนคาริสาแล้ว เรติกายังโยนเสื้อแจ๊คเก็ตสีดำของเธอให้เพื่อนรัก
พรึ่บ!
“เอาไปพันไว้รอบเอว แล้วอย่าอยู่ห่างจากสายตาของฉัน”
“เป็นเพื่อนหรือผัวห๊ะ ไม่ทำตามเว้ย”
คาริสาโยนเสื้อแจ๊คเก็ตคืนกลับไป ซึ่งกระทบเข้าตรงกลางใบหน้าของเพื่อนรักเหมาะเจาะ ก่อนสะบัดหน้ากึ่งวิ่งกึ่งเดินไปโยกย้ายส่ายสะโพกตามจังหวะเพลง ท่ามกลางผู้คนนับร้อยที่ต่างก็ออกแบบลวดลายท่าเต้นแข่งกันอย่างครึกครื้น
พรึบ!
ครื๊ด! ครื๊ด!
เสียงโทรศัพท์สั่นในกระเป๋ากางเกง เรติกาขมวดคิ้วยุ่งเมื่อเห็นตัวเลขที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ
“เบอร์ใครวะ” เธอพึมพำกับตัวเองก่อนกดรับสาย แต่เสียงเพลงในผับดังมากจนเธอไม่สามารถได้ยินเสียงจากปลายสาย เรติกาละสายตาจากเพื่อนรักที่สะบัดสะโพกส่ายไปมาเข้ากับจังหวะเพลง เพื่อลุกขึ้นเดินไปยังห้องน้ำ “ใครมันมาโทรกวนวะ”
เรติกาพูดบ่นหลังจากที่วางสายจากเบอร์แปลกถึงสองรอบ และกำลังจะมีรอบที่สามเมื่อโทรศัพท์ในมือสั่นขึ้นมาอีกครั้ง
“เห้ย!” เธอยังไม่ได้พูดอะไรก็ได้ยินเสียงเค้นหัวเราะอย่างเย้ยหยันดังออกมาจากปลายสาย
‘หึหึ’
“เหี้ยอะไรวะ กะ..แกเป็นใคร?” เรติกาสบถถ้อยคำหยาบคาย ก่อนจะหัวเสียหนักกว่าเดิมเมื่อโดนปลายสายตัดทิ้งไป เธอพยายามติดต่อกลับไปแต่ก็ไม่มีใครกดรับสายจากเธอ “ไอ้เวรเอ๊ย!”