ตอนที่ 2.2

3583 Words
ตอนที่ 2 ศิลามองไปตามทางเดิน ที่แต่งตกด้วยหินกรวดงดงาม มุ่งตรงไปยังตึกใหญ่ที่เป็นที่อยู่ของประมุขของบ้าน และแม่เลี้ยงของเขา ส่วนเขากับ น้าสาวอยู่อีกฝั่งหนึ่งของตึก “วันนี้วันอาทิตย์ รถยนต์จอดอยู่ คงไม่ได้ออกไปไหน” น้ำทิพย์บอกหลานชาย สายตามองไปอย่างใช้ความคิด “แม่เลี้ยงหินคงอยู่บ้านด้วย ตัวแทบติดกันแล้ว”เธออดประชดประชันไม่ได้ “ไม่เป็นไร ผมเข้าบ้านอาบน้ำก่อนแล้วกัน” “หินชอบทำแบบนี้ ไม่ยอมเข้าไปหาคุณพ่อก่อน น้าว่าไม่ช้า นังแม่เลี้ยงมันจะได้ฮุบสมบัติไป ดูๆเจ้าสัวยิ่งทั้งรักและหลงมันด้วยล่ะ” “ผมไม่อยากได้พอดี” ชายหนุ่มพูดอย่างคนขวางโลก “ให้มันได้อย่างนี้ซิ ไม่สนใจใครทั้งนั้น อะไรที่มันเป็นของหลาน มันต้องเป็นซิ”น้าสาวบ่นตามหลังชายหนุ่มที่ไม่สนใจอะไร ห้องนอนชมจันทร์ เธออาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งตัวนั่งหน้ากระจก “ฉันต้องกลายมาเป็นเมียนายแล้วหรือ นายหิน” แค่คิดเธอขนแขนลุกตั้งชัน ความโกรธพุ่งปรี๊ดขึ้นมา “นายมีสิทธิ์อะไร ทำอย่างนี้กับฉัน” เสียงโทรศัพท์ดัง หญิงสาวมองเบอร์โทร “ว่าไงยายจันทร์ เมื่อคืนกลับบ้านกี่โมงล่ะ” “อ่อกลับมาประมาณตีสามอ่ะ” “คุณเพชร เป็นอย่างไรบ้าง ทั้งหล่อ รวย เป็นที่หมายปองของ หญิงสาว”ส้มซ่าสาธยาย “ฉันไม่สนใจหรอก ผู้ชายแบบนี้” ชมจันทร์ของขึ้น “เกิดอะไรขึ้น เล่ามา” เพื่อนรักไม่สบายใจ “เขา...ฮื่อๆ”หญิงสาวร้องไห้อย่างหนัก “ยายจันทร์ หยุดร้องไห้ก่อน มีอะไรเล่าให้ฉันฟัง” ชมจันทร์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้ฟังอย่างละเอียด “มันชั่วร้ายจริงๆ เลย”ส้มซ่าน้ำเสียงเกรี้ยวกราด “เป็นฉันที่ผิดเอง วิ่งเข้าไปหาเสือร้าย ฮื่อๆ แค่คิดว่า มันจะเป็นสะพานไปหานายพลเข็มทิศเท่านั้น” “หล่อนยังโชคดีที่พี่หินมาช่วยได้ทันเวลา”ส้มซ่าพยายามปลอบประโลมเพื่อนรัก “เป็นคนอื่นมาช่วยฉันมันจะดีกว่าเป็นนายหิน”หญิงสาวอดกลั้นเสียงลอดออกมาจากไรฟัน “ยายจันทร์ฉันเข้าใจหล่อน บางครั้งคนที่เราดูภายนอกว่าดี แต่ภายในมันอาจโหดร้ายก็ได้ อย่างเช่นคุณเพชรอ่ะ” “ไม่เป็นไรเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว จะไปทำอะไรได้” “แล้วพี่หินล่ะ เขาว่าอย่างไรบ้าง” “นายนั้นจะว่าอะไร พวกฉวยโอกาส” พูดอย่างแค้นเคืองไม่หาย “หล่อนควรขอบใจพี่หินมากกว่า ไม่งั้นหล่อนต้องตกเป็นเหยื่อ ยาปลุกเซ็กนายเพชรให้แล้ว” “แต่ว่า..”เธออยากแย้งแต่ไม่แย้งดีกว่า “ทำใจให้สบายดีกว่า เรื่องอะไรที่มันผ่านมา ขอให้มันผ่านไปแล้วกันเนอะ” ชมจันทร์อยากบอกเหลือเกินว่า “มันไม่เกิดขึ้นกับตัวเอง ใครก็พูดแบบนี้ได้ทั้งนั้น” ห้องโถงใหญ่บ้านเจ้าสัววิชัย “คุณหินเข้ามาก่อนค่ะ” ชมดาวน้ำเสียงดีใจที่ลูกชายคนเดียวของเจ้าสัววิชัยเดินเข้ามา “สวัสดีครับน้าดาว สบายดีนะครับ” ชายหนุ่มถามตามมารยาท “คุณวิชัยกำลังจะลงมา ประเดี๋ยวน้าขึ้นไปตามให้นะคะ คุณหิน กินนมกับน้ำเย็นๆก่อนนะจ๊ะ”ชมจันทร์ขยับตัวจะลุกขึ้น ศิลารีบห้าม “ไม่เป็นไร ผมไม่รีบร้อนไปไหน” ชายหนุ่มนั่งตรงกันข้าม เขากับชมดาวที่เป็นแม่เลี้ยงคุยกันนับครั้งได้ เธอแต่งงานกับพ่อเขา และมีลูกสาวมาอยู่ด้วยเป็นครั้งคราว หินจำได้ว่าเขากับชมจันทร์ พูดจาดีๆกันไม่เกิน 5 นาที่ ที่เหลือทะเลาะกัน อีกทั้งน้าสาวไม่ชอบเมียใหม่พ่อตน เขาต้องเป็นฝ่ายห้ามทัพเสียมากกว่า แต่เขาก็รู้ว่าแม่เลี้ยงรักและเกรงใจเขามากด้วย “คุณหินเจอยายจันทร์บ้างไหม รายนี้เหมือนกัน อยู่ไม่ค่อยเป็นที่เดินทางไปเรื่อยๆเลย” ศิลาสะดุ้งเล็กน้อย หน้าเปลี่ยนสี “อ่อ ไม่ค่อยได้เจอครับ น้าดาวมีอะไรกับเธอหรือเปล่า” “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่คิดถึง ไม่ได้เจอหน้ากันเลย”คนเป็นแม่ถอนหายใจเบาๆ “เธอคงสบายดี” ตอบตะกุกตะกักอย่างวัวสันหลังหวะ “น้าอยากให้เธอแต่งงานมีคู่ครองที่ดี แต่คงหายาก นิสัยแบบนั้นใครจะไปทนได้ เอาแต่ใจตนเอง ขี้วีนเป็นที่หนึ่ง” ชมดาวบ่นลูกสาวแต่ไม่จริงจังอะไร “เธอก็คงมีคนที่รักอยากแต่งงานด้วยมั้ง”ศิลายิ้มแห้งๆหัวเราะเบาๆ “อ้าว นายหิน มาเมื่อไร ไม่ได้เจอกันเสียนานเลย” “คุณพ่อก็พูดเกินไป ผมแค่ไปทำงานต่างจังหวัดเท่านั้น ไม่ได้ล้มหายตายจากไปเสียหน่อย” “น้าขอตัวก่อนนะคะ ไปดูในครัวหน่อย”หญิงสาวเปิดโอกาสให้พ่อลูกได้คุยกัน “เมื่อไรจะมีครอบครัวเสียที เราอ่ะ”คนเป็นพ่อถามอย่างเป็นห่วง กลัวไม่มีหลานไว้อุ้ม “คงอีกนาน อยู่อย่างนี้ก็สบายดี ไม่ต้องมีห่วง งานของผมมันไม่ค่อยอยู่กับที่ อันตรายด้วย” “บอกให้มาทำงานที่บริษัทก็ไม่ยอมมา นายมันจริงๆเลย ไม่เคยคิดทำอะไรตามใจพ่อบ้างเลย” เจ้าสัววิชัยพูดอย่างน้อยใจตัวลูกชาย แต่เขาทำเป็นไม่สนใจ ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งไม่อยากคุยเรื่องเดิม “ได้ข่าวว่าน้าสาวเราเลือกผู้หญิงมาให้ ไม่ใช่หรือ” ท่านถามที่เล่นที่จริง “ผมไม่รู้ ยังไม่อยากมีใครเป็นตัวตนตอนนี้” บนโต๊ะอาหารมื้อค่ำ “ยายจันทร์เป็นอย่างไรบ้าง พักนี้ไม่เห็นค่อยมาที่นี่เลย”เจ้าสัวถามหาลูกเลี้ยงสาว “อ่อ.เธอกลับไปอยู่บ้านพักใหญ่ มันเกิดเรื่องขึ้น กำนันทิวถูกจับ” ชมดาวเล่าสิ่งที่รับรู้จากข่าว “เธอเป็นอย่างไงบ้าง” เจ้าสัวเริ่มร้อนใจแทนภรรยาที่ส่ายหน้าอย่างไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร “มันเกิดอะไรขึ้น หินพอรู้เรื่องบ้างไหม” เกิดคำถามกลางวงข้าว ศิลาจำเป็นต้องเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง มันทำให้เจ้าสัววิชัยเป็นห่วงลูกเลี้ยงมากขึ้น “คุณดาว ถ้าไงชวนหนูจันทร์มาเที่ยวบ้านเราบ้าง” “ดาวก็เป็นห่วงเธออยู่เหมือนกัน ดินก็พานักกีฬาไปแข่งขันที่ต่างประเทศด้วย” นางอดคิดถึงบุตรชายที่อยู่แดนไกล “เรื่องบางเรื่องต้องใช้เวลา คดีของกำนันทิวติดคุก ถ้าทำตัวดีเป็นประโยชน์ทางราชการ โทษก็มีสิทธิ์ลดผ่อนลงครับ” ศิลาพูดอย่างเป็นกลางๆ ทำให้สองผัวเมียเบาใจขึ้นมากบ้าง “ดาวขอให้มันเป็นอย่างนั้นเถอะ สงสารยายจันทร์” หลังอาหารค่ำ “ผมว่าลูกๆโตกันแล้ว อยากให้เขามีครอบครัว” เจ้าสัววิชัยรักศิลาลูกตนเองและรักลูกๆ ของชมดาวเหมือนกัน เป็นสิ่งที่ชมดาวยิ่งรักท่านและเกรงใจมากขึ้น “ถ้าอย่างไงเราลองมองหาหนุ่มๆ ที่นิสัยดี แนะนำให้ยายจันทร์ดีไหม”เจ้าสัวพูดอย่างอารมณ์ดี “ดาวก็เห็นดีด้วยค่ะ ยายจันทร์จะได้ลดความขี้วีนลงบ้างนะคะ คุณหินว่าไง คงเบื่อยายจันทร์มากซิคะ” สองคนผัวเมียวกกลับมาหาศิลา “ผมไม่มีความเห็นครับ”เสียงห้วนสั้น “ดีเหมือนกันนะคะ ชมจันทร์แต่งงาน แล้วยังคุณหินอีกคู่ บ้านเรา คงอบอวลไปด้วยกลิ่นอายความรักนะคะ” ศิลาทำหน้าไม่ถูก ขณะที่ชมดาวและวิชัยยิ้มอย่างมีความสุขกับสิ่งที่คิดและหวังไว้ลึกๆ “แต่ใจจริง น้าอยากให้คุณหินแต่งงานกับยายจันทร์ แต่มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก”ชมดาวคิดในใจ รุ่งเช้า น้ำทิพย์เดินมาตามศิลาให้ลงไปข้างล่าง “สวัสดีค่ะพี่หิน ลูกหยีคิดถึงพี่หินมากๆ ค่ะ” หญิงสาวร่างเล็ก ดวงตากลมโต ผมยาวตรง น้ำเสียงอ่อนหวาน สดใส ใครอยู่ใกล้อดหลงรักไม่ได้ บ้านเธออยู่ใกล้ๆ บ้านเขา ทั้งสองคนรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ แถมแม่เธอเป็นเพื่อนรักกับน้ำทิพย์อีกด้วย “ลูกหยีมาหาพี่มีธุระอะไรหรือเปล่า ครับ” ศิลาถามอย่างเอ็นดูหญิงสาวเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง และเธอก็ติดเขามาก อาจเป็นเพราะเธอเป็นลูกสาวคนเดียว “น้าจะให้หินพาเราสองคนไปทานอาหารนอกบ้านเสียหน่อย ตั้งแต่หลานไม่อยู่บ้าน น้าก็แทบไม่ได้ออกไปไหนเลย มีแต่ลูกหยีมาคุย มากินข้าวเป็นเพื่อน” “โธ่..น้าน้ำอย่าน้อยใจนะคะ ลูกหยีรักน้าน้ำนะคะ”เสียงออดอ้อนเข้ามากอดหญิงสาว “ยังดีนะที่มีลูกหยีเป็นเพื่อนคุยให้คลายความคิดถึงหินไปในตัว ไม่งั้นน้าไม่รู้จะอยู่ได้อย่างไร” น้าสาวกอดตอบ น้ำทิพย์ซับน้ำตาที่ไหลออกมา “ผมขอโทษครับ ต่อไปผมจะหาเวลาอยู่กับน้าน้ำให้มากขึ้น” “ดีเลย งั้นวันนี้เราไปหาอะไรกินกันนะคะ” ยาหยีแอบลอบยิ้มกับน้ำทิพย์ อย่างมีเลศนัย “วันนี้ทั้งวันของผมเป็นของน้าน้ำ อยากไปไหนบอกมาได้เลย อยากกินอะไรบอกมา ผมพาไปได้ทุกที” ชายหนุ่มพูดออกมาจากใจที่รักน้ำทิพย์เหมือนแม่บังเกิดเกล้า ท่านเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เล็ก “งั้นลูกหยีกลับไปแต่งตัวสวยๆ เดี๋ยวนายหินกับน้าน้ำไปรับนะคะ” น้ำทิพย์บอกหญิงสาวอย่างดีใจที่จะได้เห็นศิลากับยาหยีไปไหนด้วยกัน แม้ว่าจะมีตนเองไปด้วยก็ตาม “ได้เลยค่ะ ลูกหยีจะแต่งตัวให้สวยที่สุดเลยค่ะ” สวนอาหารที่เปิดใหม่ใจกลางกรุงเทพ ศิลาลงมาเปิดประตูรถยนต์ให้น้าสาว ทั้งสามคนเดินเข้าไปในร้านอาหาร “ลูกค้าเยอะจังเลยนะคะ อาหารคงอร่อยมากๆ เลย” ยาหยีถือโอกาสควงแขนศิลาอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ ชายหนุ่มพยายามถอยห่างแต่สายตาน้าสาวปรามไว้ “น้าน้ำริอ่านอยากเป็นแม่สื่อแล้วงานนี้ คิดว่ามากับน้องสาวแล้วกัน”ชายหนุ่มบอกตนเอง อาหารหลากหลายวางเรียงบนโต๊ะใหญ่ “น่าทานทั้งนั้นเลย เดี๋ยวลูกหยีตักให้น้าน้ำนะคะ” ลูกหยีเอาอกเอาใจน้ำทิพย์เหมือนทุกครั้งที่ทานข้าวด้วยกัน ศิลาอดยิ้มตามไม่ได้ “หิน ทำไมไม่กินล่ะ อาหารไม่ถูกปากหรือ สั่งใหม่ไหม น้ากับลูกหยีสั่งที่เป็นเมนูเด็ดของร้านทั้งนั้นเลย” “ไม่ต้องหรอกครับ แค่ผมเห็นน้าน้ำยิ้มมีความสุข กินอาหารอร่อยผมก็ดีใจแล้ว”ชายหนุ่มพูดจาเอาใจ “พี่หินทานปลาทอดนี้ซิคะ มันอร่อยมากๆ ลูกหยีการันตีเลยค่ะ” ศิลามองและยิ้มตาม อะไรที่ทำให้น้ำทิพย์มีความสุข เขายินดีทำให้ แต่มันต้องไม่ฝืนตัวเขาจนเกินไป หลังจากไปส่งลูกหยี และศิลากำลังจะเข้าบ้าน “ได้ข่าวว่าเจ้าสัวให้แม่เลี้ยงหินชวนลูกสาวมาอยู่บ้านเราหรือ”น้ำเสียงไม่พอใจ น้ำทิพย์ไม่ชอบชมดาว เลยพาลไปถึงชมจันทร์ด้วย “ข่าวมาเร็วจังเลย คุณพ่อแค่ให้ชวนมาเที่ยวบ้านเราครับ น้าน้ำอย่าคิดอะไรมาก ต่างคนต่างอยู่” “ขอให้มันเป็นอย่างนั้นเถอะ เห็นอยู่แม่นั้นไวไฟ คงเหมือนแม่..ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นหรอก”น้ำทิพย์มองหน้าหลานชายอย่างคาดคั้น “หินอย่าไปหลงกลมันอีกคนแล้วกัน” “ผมกับเธอต่างคนต่างอยู่ครับ” เช้าวันต่อมา บ้านชมจันทร์ แม่เธอไม่โทรมาหา แต่มาเยี่ยมถึงบ้าน “คุณแม่มาได้อย่างไรคะ ทำไมไม่บอกหนูก่อนค่ะ” ชมจันทร์ตัดพ้อเล็กน้อย เธอไม่อยู่ในอารมณ์ที่ต่อปากต่อคำเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา “ลูกเป็นอย่างไรบ้างจ้ะ” คำพูดที่แสดงความรักความห่วงใย ทำให้ทำนบน้ำตาที่พยายามอดกลั้นมาไหลออกมาเป็นทาง ชมดาวลูบผมให้กำลังใจลูกสาว “หนูคิดถึงพ่อมากๆเลย” ความอ่อนแอมันชัดเจน ทำให้คนเป็นแม่แอบเช็ดน้ำตา “จันทร์ไปอยู่กับแม่สักพักไหม” “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันอยู่คนเดียวได้” หญิงสาวส่ายหน้า “จันทร์ยังมีแม่ ถึงแม้ที่ผ่านมาแม่คนนี้ทำหน้าที่แม่ไม่ดีเลย แต่แม่ขอโอกาสทำหน้าที่แม่ที่ต้องดูแลลูก ในวันที่ลูกอ่อนแอไม่เหลือใครได้ไหม” ชมดาวพูดออกมาจากความรู้สึกส่วนลึกๆ ภายในใจ เธอรักลูกๆ ไม่แพ้กำนันทิว อดีตสามี “หนูเกรงใจเจ้าสัวค่ะ หนูไม่รู้จะบอกว่าอย่างไงดี” “ท่านเป็นคนขอให้แม่มาชวนหนูไปอยู่ด้วย อย่างน้อยระหว่างรอนายดินกลับมาก็ยังดี” “แล้วนายหินล่ะ” หญิงสาวไม่อยากคิดถึงคนนี้เลย “อ่อคุณหินนานๆจะกลับบ้านครั้ง ถึงอยู่บ้านก็จะอยู่กับน้าสาวเขาเป็นส่วนใหญ่ หนูไม่ต้องกังวลใจ” ชมจันทร์ตัดสินใจไปอยู่บ้านพ่อเลี้ยง อย่างน้อยยังมีแม่ค่อยให้กำลังใจดูเธอยามอ่อนไหว ศิลาปิดประตูห้องใหญ่ที่มีความทรงจำที่ดีระหว่างพ่อแม่ลูก แม้มันจะจำได้รางเลือนก็ตามแต่ “คุณแม่ ไม่ว่าคุณแม่จะอยู่ที่ไหน แม่ยังอยู่ในใจลูกคนนี้เสมอนะครับ” ชายหนุ่มมองรูปวาดพ่อแม่ที่ติดผนังห้องนอน “น้าดาวดีกับผมมาก คุณแม่สบายใจได้” ยิ้มระบายที่ริมฝีปาก ดวงตาเปี่ยมความสุข “ผมสัญญาจะดูแลน้าน้ำเป็นอย่างดี เท่าที่หลานชายคนหนึ่งจะดูแล ท่านได้ครับ” จู่ๆ ชายหนุ่มได้ยินเสียงดังมาจากห้องน้ำดังขึ้นมา “ใครเข้ามาในห้องนั้น” ห้องน้ำใหญ่มีประตูสองบาน มันเชื่อมต่อระหว่างห้องนอนใหญ่ของพ่อแม่กับห้องนอนของเขาในวัยเด็ก ซู่ๆ “นายเข้ามาได้อย่างไง” หินตกใจผลักประตูห้องน้ำเข้ามาเห็นชมจันทร์กำลังอาบน้ำอยู่ “ผมไม่ได้ตั้งใจ แค่ผลักประตูเข้ามาเท่านั้น” ชายหนุ่มหาข้อแก้ตัว เขาเริ่มอารมณ์พลุ่งพล่านปิดประตูห้องน้ำ “นายจะทำอะไรของนาย” หญิงสาวหลังปะทะห้องน้ำ ชายหนุ่มใช้มือยันผนัง ร่างกายหญิงสาวอยู่ในอ้อมกอด ชมจันทร์กายอ่อนแรง แววตาไหวระริก หยาดน้ำเกาะตามตัว “ฮื่อๆ..” เสียงครางในลำคอ ชายหนุ่มบรรจงจูบอย่างดูดดื่ม บดขยี้ริมฝีปากบางอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ หญิงสาวทรงตัวไม่ไหว “นายออกไปเลยนะ”หญิงสาวคิดว่าตะโกนสุดเสียง แต่มันเบาหวิวในลำคอ ใบหน้าชายหนุ่มซุกไซ้หน้าอกใหญ่ มันแอ่นอกรับลมหายใจอุ่น มันร้อนรินรดต้นคองามระหงส์ มือร้อนๆ วางตรงไหนเหมือนมีไฟติดตรงนั้นกายหญิงสาวตอบสนองเขาอย่างดี แม้ภายในใจจะคิดต่อต้าน แต่ร่างกายไม่เป็นใจ “นายอย่า” ยิ่งชายหนุ่มเล้าโลม กายสองกายเริ่มเป็นหนึ่งเดียวกันแต่ทันใดนั้น “ชมจันทร์ ลูกอยู่ไหน” เสียงชมดาวตะโกนถามเบาๆ ทำให้ ชายหนุ่มตรงหยุดกลางคัน “ฮื่อ..” “หนูกำลังอาบน้ำอยู่ค่ะ”สองเต้างามลุกตั้งชัน “คุณออกไปก่อน” ชายหนุ่มกระซิบที่ริมหูเบาๆ ถือโอกาสขบติ่งหูแสดงความเป็นเจ้าของมัน “ซู่ๆ..” ชายหนุ่มเปิดน้ำเสียงดังกลบเสียงร้องครวญครางหญิงสาว “มือนายอย่าซนได้ไหม” ชมจันทร์เดินออกมาจากห้องน้ำตัวสั่นเล็กน้อย “อาบน้ำนานเลย หนาวใช่ไหม รีบแต่งตัวออกไปหาอะไรกินกันดีกว่า” “ได้ค่ะ” หญิงสาวมองประตูห้องน้ำ เธอเดินไปปิดประตู เห็น ชายหนุ่มเนื้อตัวเปียกปอนไม่แพ้เธอ “หนูนอนห้องนี้ก่อนนะจ๊ะ มันติดกับห้องเดิมของแม่คุณหิน ห้องนี้เป็นห้องคุณหินเดิม” “ว่าแล้วทำไมนายหิน เดินเข้าออกจากเป็นเจ้าของ”หญิงสาวคิดในใจ อาหารค่ำบนโต๊ะที่พร้อมหน้าตา เจ้าสัววิชัยยิ้มมองลูกชายคนเดียวที่แทบไม่ค่อยกินข้าวร่วมกัน ชมจันทร์นั่งข้างมารดา “หินกลับบ้านมาหลายวันนะครั้งนี้”พ่อถามลูกชาย “อ่อ..พอดีผมเข้ามาฝึกงานสืบสวนพิเศษต่อ เจ้านายใช้มาสามเดือนครับ” ลอบมองหญิงสาวที่นั่งตรงข้าม “ดีจังเลยค่ะ พวกเราจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา”ชมจันทร์ยิ้มออกมาทางแววตา มองหน้าศิลาอย่างผู้ใหญ่ใจดี “ผมอยู่หลายวัน เกรงว่าจะมีคนลำบากใจ ไม่อยากอยู่บ้านหรือเปล่าครับ” “ทุกคนดีใจทั้งนั้นแหละค่ะ อยากให้คุณหินกลับมาอยู่บ้านเราเลยทั้งนั้น” ชมจันทร์แอบย่นจมูก ทำหน้าบึ้งไม่พอใจให้ชายหนุ่ม แต่เขากลับยิ้มอย่างมีความสุข “สงสัยผมต้องมาคิดทบทวนดูใหม่แล้ว กลับมาอยู่บ้านเราดีกว่า5555” หลังจากทานอาหารค่ำ ชมจันทร์หาโอกาสคุยกับศิลา “อ้าวคุณจันทร์ มายืนมุมมืดทำไม หรือว่า..” ศิลาส่งสายตาเจ้าชู้ มองแทบทะลุเข้าไปในเสื้อผ้าหญิงสาว มันไม่สามารถพรางสายตาเขาได้เลย “นายอย่ามาคิดบ้าๆ” เธอปรามเสียงเข้มแต่เบาๆ “เรามีอะไรต้องตกลงกันหรือเปล่า” ชายหนุ่มมองลึกในดวงตาที่มีอาการหวาดกลัวอย่างเห็นชัดเจน “เรื่องของเรา..”มันจุกขึ้นมาในอก ทำให้หญิงสาวไม่รู้ว่าจะพูดออกมาอย่างไรดี “ผมกับคุณ ไม่บอกใครก็ไม่มีใครรู้ หรือว่าคุณอยากให้ใครรู้ ผมจะช่วยบอกให้ก็ได้” ชายหนุ่มแกล้งพูด “นายไม่ต้องมาเพิ่มเรื่องให้ฉันเลย เอาตามที่นายพูดแล้วกัน ทำเหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้นระหว่างเราสองคน เข้าใจตรงกันนะ” หญิงสาวสะบัดหน้า ก้นงอนงามเดินจากไป “นึกว่าเก่งกล้าสามารถ ที่แท้ไม่รู้เดียงสาสักเรื่อง” น้ำทิพย์รอหลานชาย เธอนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ “น้าทิพย์มีอะไรหรือเปล่า ทำไมไม่ยอมเข้านอนเสียที่ “ศิลานั่งข้างๆน้าสาว “เห็นลูกสาวแม่เลี้ยงเราอยู่ในบ้านอ่ะ” จ้องหน้าหลานชาย ที่ราบเรียบไร้ความรู้สึกใดๆทั้งสิ้น “น้าน้ำอย่าคิดอะไรมาก เขาก็อยู่ส่วนเขา เราก็อยู่ส่วนเรา ไม่เกี่ยวกันอยู่แล้ว” ชายหนุ่มปลอบประโลม “น้าไม่ไว้ใจแม่ลูกคู่นี้ เดี๋ยวนังลูกสาวมันจับหินเป็นสามีอีกคนหนึ่ง” “น้าน้ำคิดมากเกินไปไหม..”ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ “ขอให้อย่าเป็นแบบที่น้าคิดแล้วกัน ที่สำคัญหินต้องอยู่ห่างๆพวกนี้ไว้ให้ดี” นางสั่งการอย่างวางอำนาจ ชมจันทร์เดินปิดประตูหน้าต่างอย่างดี “ไว้ใจไม่ได้เลยนายหิน ประเดี๋ยวเปิดประตูเข้ามาอีก” หญิงสาวยิ้มออกมาได้ “นายไม่มีวันได้ แตะต้องตัวฉันอีกแล้ว” ชมจันทร์หยิบโทรศัพท์หาสิงห์ราช “สวัสดี จันทร์เป็นไงบ้าง สบายดีไหม พี่เป็นห่างนะครับ” สิงห์ถามเป็นชุดอย่างเป็นห่วง “จันทร์สบายดีค่ะ คิดถึงพี่สิงห์มากๆเลย หนูอัญเป็นอย่างไงบ้างคะ” หญิงสาวอยากขอโทษหนูอัญ สำหรับเรื่องไม่ดีที่เธอทำไว้ ไม่ว่าจะเป็นความคึกคะนองหรือความไม่ตั้งใจก็ตาม “หนูอัญสบายดี เธอยังถามหาจันทร์ว่าไปอยู่ที่ไหน”ชายหนุ่มบอกสิ่งที่เมียรักพูดให้หญิงสาวสบายใจ “หนูอัญเป็นคนดี พี่สิงห์โชคดีที่ได้เมียแบบหนูอัญ” น้ำเสียงแสดงความยินดีออกมาใจ คนฟังรับรู้ได้ “ว่าแต่ตอนนี้จันทร์อยู่ที่ไหน” “จันทร์มาอยู่กับคุณแม่ค่ะ..”เธอบอกเท่าที่บอกได้ สิงห์ราชนึกอะไรขึ้นมาได้ “ได้ข่าวนายหินบ้างไหม เห็นว่าไปอบรม ที่กรุงเทพ” “อ่อ เขามาอยู่บ้านเจ้าสัววิชัยเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยได้เจอกันหรอกค่ะ ต่างคนต่างอยู่” แค่ได้ยินชื่อทำให้หญิงสาวขนลุกแล้ว ถ้าเจอตัวจริงจะขนาดไหน “ฮ่าๆ มันล่ะ เสือดีๆ นี่เอง ไปคราวนี้คงได้สานสัมพันธ์กับสาวทรงโต ลูกสาวนายพลอีกมั้ง ร้ายจริงๆ เลย” “จันทร์ไม่ค่อย อยากรู้เรื่องของเขาหรอกค่ะ”หญิงสาวปฏิเสธกลายๆ “แต่มันก็มีผู้หญิงที่รักจริงหวังแต่งเหมือนกัน ไม่เคยคิดเลยว่าคนอย่างมันจะชอบผู้หญิงเรียบร้อย น่ารัก ฮ่าๆ” สิงหราชนึกถึงความสัมพันธ์ของครูนาริน ที่มันเริ่มจากเขากับหนูอัญถูกจับตัว ศิลาและนารินเข้ามาช่วยเหลือ จนสานสัมพันธ์เป็นความรู้สึกที่ดีต่อกัน “จันทร์มีเรื่องอะไร โทรหาพี่ได้ตลอดเวลานะครับ” หลังจากคุยกับสิงห์ราชเสร็จ สิ่งที่เขาพูดมันยังวนเวียนอยู่ในหัว ยิ่งคิดทำให้เธอยิ่งเจ็บใจ ที่ชายหนุ่มทำกับเธอเป็นขนมหวานข้างทาง คิดอยากจะกินก็หยิบจับมากิน “นายจะรักชอบใคร ไม่เกี่ยวกับฉัน ออกไปจากความคิดของฉันเลยนายหิน” ฝ่ายศิลานอนเล่นอย่างสบายใจ “คิดถึงครูนาเหมือนกัน ไม่ได้เจอกันหลายวันแล้ว.”ชายหนุ่มจับโทรศัพท์จะโทรหาแต่… “มันดึกแล้ว ตั้ง 3 ทุ่มครึ่ง ป่านนี้เธอคงหลับแล้วมั้ง” นารินเป็นสาวรักสุขภาพ นอนแต่หัวค่ำตื่นเช้า เป็นสิ่งที่หินชื่นชอบในตัวเธอ แล้วเขาทำไม่ได้ “ผิดกับยายจันทร์ รายนั้นนอนดึกตื่นสาย ปาร์ตี้สะบั้นหั่นแหลก ใครได้เป็นเมียโชคร้ายตายห่าล่ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD