“เกรงใจคุณเคนจังเลยค่ะ ความจริงไม่จำเป็นลำบากมาเป็นเพื่อนก็ได้” เกรงใจนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นที่สนใจตนเอง ถึงขั้นชวนไปทำงานและอาสาพามาสำรวจโรงเรียนเตรียมอนุบาลใกล้บ้าน เมื่อเช้าเกือบจะปฏิเสธทางโทรศัพท์ไปแล้ว แต่มานึกขึ้นได้ว่าอยากคุยกับเขาเรื่องงานจึงตกลง คุณเคนมาไทยครั้งนี้อยู่หลายวันและมีกำหนดการเดินทางกลับญี่ปุ่นไฟล์ทบินคืนนี้ช่วงกลางดึก
“ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจดูแลคุณดากับน้องขวัญ”
ภาษาไทยสำเนียงแปร่งๆ ดังจากปากคุณเคน เขาอายุมากแล้วประมาณสี่สิบกลางๆ ผ่านชีวิตมาเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ครอบครัว รวมถึงการหย่าร้างกับภรรยา มิสเตอร์เคน อิชิโมจิ เป็นพ่อม่ายเนื้อหอมที่สาวๆ มักจะเข้ามาเสนอตัวให้ ไม่เกี่ยวว่าอายุเยอะ เพราะเขายังหล่อเหลาและสุขุม ทั้งสองคนรู้จักกันตั้งแต่สมัยดรุณียังทำงานในบริษัทไทยออลสตาร์คอนสตรัคชั่นของคุณภูธเนศ ออกจะเกรงใจหน่อยเพราะทั้งสองบริษัทเป็นคู่แข่งกัน ทำบริษัทเกี่ยวกับการรับเหมาก่อสร้างทั้งในและนอกประเทศ ถือว่านานมากแล้วไม่คิดว่าเขาจะจำได้ เมื่อบังเอิญมาซื้อกาแฟในร้านหล่อนราวๆ หนึ่งปีที่แล้ว จากนั้นเป็นต้นมาคุณเคนก็มักจะแวะมาเยี่ยมทุกครั้งที่มากรุงเทพ
ถึงแม้จะรู้ว่าหล่อนมีลูก เขาก็ไม่เคยแสดงออกถึงความรังเกียจ ออกจะรักลูกหล่อนด้วยซ้ำ
“คุณดากินข้าวมาหรือยังครับ อยากแวะกินอะไรไหม หรือจะดูโรงเรียนต่อ”
“ดากินมาแล้วค่ะ คุณเคนล่ะคะ”
“ผมไม่ค่อยกินมื้อเช้าหรอกครับ แค่ขนมปังกับกาแฟก็อยู่ท้องแล้ว เราไปต่อกันเลยนะครับ” คุณเคนยิ้ม
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ” ดรุณีเกรงใจเขา ภายในรถยนต์ค่อนข้างเงียบสงัดเพราะคุณเคนไม่เปิดเพลงหรือวิทยุ ไฟแดงแยกนี้ติดนานหน่อย หล่อนแก้ความอึดอัดด้วยการมองออกไปรอบๆ กระทั่งสบตากับใครบางคน
ภูดิศ
ใจหาย กว่าจะได้สติก็มีเสียงแตรจากคันหลังบีบไล่ให้รีบออกรถทั้งที่ไฟเพิ่งเปลี่ยนสีไม่ถึงวิ รถยนต์ของคุณเคนเคลื่อนไปข้างหน้า เช่นเดียวกับรถคันนั้นที่เคลื่อนมาขนานกันแต่เร็วกว่าจึงแซงหน้าไป ดรุณีมองตามจนลับสายตา ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอ 'สามี' ในวันนี้ ถึงจะจดทะเบียนกันแต่เอาเข้าจริง เราสองคนแทบจะไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกันเลย หนูขวัญอยู่ในท้องเก้าเดือนเขาก็ไปเรียนปริญญาโทอีกใบที่เมืองนอก กลับไทยก็ยังเมินเฉยใส่หล่อน ถ้าหากอยากเจอลูกวันไหนก็มักจะให้คุณแก้วกัลยามารับไปเล่นที่บ้าน บ้างก็พาแกไปช็อปปิ้ง ไปเที่ยว แต่ไม่เคยมีครั้งไหนได้ออกไปข้างนอกพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกเลย
จะหวังอะไรกับเขามากมายเล่า ทุกวันนี้เจอหน้ากันทีไรไม่ถามหรอกว่าสบายดีไหม มีแต่จะถามว่า ‘หย่ากันไหม’ คนใจร้าย! เขารักลูก แต่ไม่เคยสนใจแม่ของลูกเลย
“คุณดาครับ!”
“คุณเคนพูดว่าอะไรนะคะ”
“ผมถามทางน่ะครับ คุณดายังไม่บอกชื่อโรงเรียนถัดไปเลย”
“จริงด้วย ขอโทษนะคะ” ดรุณีเร่งมือเปิดจีพีเอสเพื่อบอกทาง ลนลานเหลือเกินเหมือนคนไม่มีสติ
เคนสามารถมองทะลุปรุโปร่ง เพียงแค่ไม่รู้ว่าสาเหตุนั้นเกิดจากอะไร
“อีกสามร้อยเมตรเลี้ยวซ้ายนะคะ โรงเรียนอยู่ข้างหน้าทางซ้ายมือค่ะ” บอกทางอย่าละเอียด
ดรุณีเข้าไปพบอาจารย์และดูโรงเรียนเพียงลำพังเช่นเคย วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกแต่นางฟ้าตัวน้อยของหล่อนไม่สบาย ยังไม่หายขาดเท่าไหร่นักจึงประวิงเวลาออกไป ใช้ช่วงเวลานี้ดูโรงเรียนเพิ่มเผื่อจะขอย้ายหนูขวัญมาเรียนแถวนี้ จะได้ลดค่าใช้จ่าย และลดเวลาในการเดินทาง
โรงเรียนที่คุณพ่อกับคุณย่าของหนูน้อยดูไว้ แพงแสนแพง ไกลก็แสนไกล เอาแต่ใจจะให้หนูขวัญไปเรียน แต่ทั้งสองคนไม่เคยพูดถึงเรื่องการเดินทางเลย ถ้าบอกว่าจะมีคนขับรถมารับมาส่งลูกหล่อนก็คงสบายใจมากกว่านี้ ดรุณีนั้นไม่มีรถ หากได้เข้าเรียนที่นั่นจริงก็คงจะมีชีวิตที่ลำบากมากขึ้น นั่นคือเหตุผลหลัก ส่วนเหตุผลรองก็แค่เตรียมใจไว้เผื่อได้หย่ากันจริงๆ หล่อนอยากเลี้ยงลูกด้วยตัวเองจึงอยากหาโรงเรียนที่จ่ายไหว ไม่อยากเอะอะก็รบกวนเงินของภูดิศ เขายิ่งจ้องจะต่อว่าอยู่เนืองๆ ว่าเกาะเขากิน
คุณแม่ยังสาวพูดคุยกับคุณครูราวสิบนาที เข้าไปแอบดูเด็กๆ ในห้องเรียน และตัวอาคารรอบนอก ก่อนกลับคุณครูทักด้วยรอยยิ้ม “คุ้นๆ หน้าจังเลย ใช่เจ้าของร้านขนมแถวบีทีเอส… ไหมคะ”
“ใช่ค่ะ” แม่ค้าคนสวยยิ้มรับ หวานพอๆ กับขนมในร้าน ยกมือไหว้ “ขอบคุณมากนะคะสำหรับข้อมูล”
“ยินดีค่ะ ไว้พร้อมวันไหนให้น้องเข้ามาได้เลยนะคะ” คุณครูเองก็ยินดีมากๆ เช่นกัน
“ค่ะ” ดรุณีขานรับ เดินลงจากอาคารกลับมายังลานจอดรถ ขณะนั้นมีเสียงไลน์ดังขึ้นเมื่อกดเข้าไปดูพบว่ามันถูกส่งมาจากพ่อของลูก ดรุณีเงยหน้าขึ้นมองรอบๆ เมื่อเห็นว่าคุณเคนไม่อยู่แถวนี้จึงพิมพ์ตอบกลับ
Phudit: ทำไมต้องหาโรงเรียนใหม่!
Phudit: ทำไมไม่เลือกโรงเรียนตามที่ฉันกับคุณแม่หาไว้ให้
Darunee: ฉันคิดว่าค่าเทอมที่โรงเรียนนั้นแพงเกินไปค่ะ การเดินทางก็ไม่สะดวก
Phudit: อย่าเรื่องเยอะ ฉันไม่ได้จะให้เธอจ่ายเงินสักหน่อย!
Darunee: โรงเรียนนั้นไกลมาก ฉันไปรับไปส่งลูกทุกวันไม่ไหวหรอก ฉันเป็นแม่นะคะ ควรมีสิทธิ์ได้เลือกอะไรให้ลูกบ้าง
Phudit: ไม่ต้องมาเรื่องเยอะ ถ้าไม่มีพ่ออย่างฉันลูกก็ไม่เกิดหรอก
Phudit: หยุดดูโรงเรียนอื่นได้แล้ว แล้วอย่าให้ฉันเห็นอีกนะว่าเธอไปเที่ยวกับผู้ชาย!
ก็ถ้ามีสามีขับรถพาไปไหนมาไหน คงไม่จำเป็นต้องพึ่งพาผู้ชายคนอื่นหรอก!