EP 2 : ยังคิดเหมือนเดิมไหม

1161 Words
“นั่งหน้าบึ้งอะไรขนาดนั้น” “ก็ลองเป็นผิงที่โดนคนนั่งจ้องดูสิ” “หึ ๆๆ เขาหวงน้องสาวน่า” “เหอะ!” คำตอบที่มาพร้อมน้ำเสียงอารมณ์ดีทำฉันหงุดหงิดมากขึ้นจนถึงขั้นเบ้ปากและกรอกตามองบน ...หวงสมบัติน่ะสิไม่ว่า “ไม่เอาไม่เครียดเดี๋ยวไม่สนุกนะ” “...อือ” ฉันพยักหน้ารับแล้วฝืนยิ้มทั้งที่ความจริงหมดสนุกตั้งแต่เห็นลูกชายของคุณพ่อคุณแม่แล้ว ไม่สนุกจริง ๆ นั่งจ้องอยู่ได้ ทั้งไม่สนุกทั้งน่ารำคาญ​ “บาส” “ว่าไง” “คืนนี้ไปค้างห้องบาสนะ” “ไม่เอาน่า เดี๋ยวพี่ชายผิงก็มากระทืบเราหรอก” คนตรงหน้าส่ายหน้าปฏิเสธด้วยรอยยิ้มแต่คนอย่างน้ำผิงบอกว่าจะทำอะไรก็คือตามนั้น “เราจะปกป้องบาสเอง” “ผิง ไม่ดื้อ” “...” “จริง ๆ ขอร้อง” “โอเค” เจ้าของบ้านไม่ให้นอนจะนอนได้ยังไงกันล่ะ สุดท้ายคนมีมารยาทก็ต้องยอมตกลงถูกไหมคะ พอเลิกดื้อแฟนคนล่าสุดของฉันก็ยิ้ม “เก่งมาก” “แต่ขอแวะไปดื่มกาแฟสักแก้วนะคะสุดหล่อ” ฉันฉีกยิ้มส่วนคนที่เพิ่งยิ้มก็ถึงกับกรอกตามองบนทันที “...อ่าส์~” ถอนหายใจไปเถอะ ถอนหายใจหนักกว่านี้เยอะกว่านี้ก็จะไป บอกแล้วไงคนอย่างน้ำผิงบอกว่าจะทำอะไรก็คือตามนั้น -วันต่อมา- “พี่เมฆ” “ครับ” ผมหันไปตามเสียงเรียกแล้วก็รีบเดินไปหาเจ้าของเสียงเรียกที่กำลังยืนยิ้ม “จะไปทำงานแล้วเหรอลูก” “ครับมี๊” ผมตอบคนสวยตรงหน้าแล้วก็มองหาอีกคน “ป๊าล่ะครับ” “นั่งดูทีวีอยู่ในห้องอาหาร คงดูข่าวนั่นล่ะลูก ไปกันเถอะจ้ะจะได้ทานข้าวเช้ากันเลย” “ครับผม” ผมยิ้มรับประคองแม่หรือหม่ามี๊ของไอ้เมฆที่ผมรักสุดหัวใจ รักเหมือนแม่แท้ ๆ เพราะผู้หญิงคนนี้เลี้ยงผมมาตั้งแต่ผมอายุแค่ 5 ขวบ ดึงผมออกมาจากโคลนตมชุบเลี้ยงผมให้มีชีวิตที่ใครต่อใครก็มองว่าอยู่ในจุดที่สูงส่งเหมือนชื่อของผมเอง ...เมฆา “อ้าว มาแล้วเหรอลูก” ผมประคองมี๊เข้ามาในห้องอาหารป๊าก็เอ่ยทักทาย ผู้ชายที่รับผมเป็นลูกทั้งที่ไม่มีความเกี่ยวพันกันทางสายเลือดแถมแม่แท้ ๆ ก็เคยสร้างเรื่องให้ท่านทั้งสองคนวุ่นวาย แต่ท่านทั้งสองก็ยังชุบเลี้ยงให้ไอ้เมฆคนนี้ได้มีทุกอย่างที่ตัวผมเอง...ไม่ควรจะมี “ครับ ดูข่าวเหรอครับป๊า” ผมถามแต่สายตาผมมองไปที่ทีวีกลับไม่เห็นข่าว ในจอทีวีเป็นช่องยูทูปที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวต่างหาก “เปล่า ป๊าดูรายการท่องเที่ยวน่ะ ว่าจะพาแฟนไปเที่ยวหน่อย” ป๊าของผมเอ่ยอย่างอารมณ์ดี พูดจบก็กระตุกยิ้มมุมปากแล้วมองมาที่มี๊ส่วนคนที่ผมเพิ่งลากเก้าอี้ให้นั่งก็ตาโต “เซอร์ไพรส์เหรอคะ?” “หึ ๆๆ ทัวร์ยุโรปสักเดือนสองเดือนฉลองครบรอบ 22 ปีของเราไงคะ” “พี่เวล~” มี๊ของผมมองสามีตัวเองแล้วน้ำตาคลอ ป๊าก็ยิ้มอบอุ่นแล้วกุมมือเรียวบางของผู้หญิงที่ท่านรักก่อนจะหันมามองผม “ดูบ้าน ดูบริษัทให้ป๊าด้วยนะไอ้ลูกชาย” “เที่ยวให้สนุกเลยครับ” ผมเอ่ยออกไปแล้วก็คุยเล่นกันต่อพร้อมกับเริ่มกินข้าวเช้า กินไป คุยไป สายตาก็คอยมองว่าอีกคนจะมาเมื่อไหร่ แต่สุดท้ายจนถึงตอนที่ผมเดินออกจากบ้านถึงได้รู้ว่ารถของคนที่ผมรอไม่ได้จอกอยู่ที่โรงรถ หึ ๆๆ สมเพชมึงว่ะไอ้เมฆ -เวลาต่อมา- “ผมมีประชุมบ่ายใช่ไหม” “ค่ะคุณเมฆ” “ครับ” ผมพยักหน้ารับแล้วก้มหน้าอ่านเอกสารต่อ “รับกาแฟไหมคะ” “ครับ” ผมพยักหน้ารับอีกรอบนิชาเลขาส่วนตัวของผมก็เดินออกไป ติ๊ด! (ครับนาย) “ยังอยู่ไหม” (...ครับ จอดอยู่บ้านของผู้ชายคนนั้นครับนาย) “...” ติ๊ด! คำตอบที่ตอบสั้น ๆ แต่เต็มไปด้วยความลำบากใจของคนสนิททำให้ผมพูดอะไรไม่ออกทำได้แค่กดวางสายแล้วเอามือลูบหน้าตัวเองเพราะไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นตอนนี้ยังไง ...ทำไมทำตัวแบบนี้น้ำผิง ...จะทำให้พี่ห่วงไปถึงไหน ...จะทำให้ไอ้เมฆคนนี้ทุกข์ใจไปถึงเมื่อไหร่ -สองอาทิตย์ต่อมา- “พี่เมฆ” “อ้าว มี๊เองเหรอครับ มีอะไรครับทำไมเดินมาถึงที่นี่โทรเรียกก็ได้เดี๋ยวผมเดินไปหา” ผมรีบลุกไปหามี๊ที่เดินมาหาผมตอนค่ำมืดทันทีที่เห็นท่าน “เดินแค่นี้เองครับแม่มีเรื่องอยากคุยกับลูก พี่เมฆไม่ได้ยุ่งใช่ไหมครับ” “ไม่ครับ มี๊มีอะไรเหรอครับ” “มี๊อยากคุยเรื่องน้อง” “ครับ ทำไมเหรอครับ น้องดื้ออะไรอีก” ผมยิ้มถามแต่ก็สังเกตเห็นสายตาเครียดของท่าน “มี๊กับป๊าจะเดินทางคืนพรุ่งนี้แล้ว ไปเที่ยวรอบนี้นานเลยเมฆก็รู้ มี๊ห่วงน้อง บ้างช่องก็ไม่ค่อยกลับ ยิ่งโตยิ่งดื้อ” น้ำเสียงหวานบ่นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของท่านทำผมอมยิ้มตาม ยิ่งโตยิ่งดื้อจริง ๆ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าน้องผิงของผมไม่ค่อยน่ารักเหมือนเมื่อก่อนเท่าไหร่ “ผมทราบครับ” “พี่เมฆดูแลน้องให้มี๊ได้ไหม” “ไม่ต้องห่วงหรอกครับมี๊ ผมจะดูแลทุกอย่างให้ น้องเป็นน้องสาวคนเดียวของผมผมจะไม่ดูแลได้ไง มี๊กับป๊าไม่ต้องเป็นห่วงเที่ยวให้สนุกเถอะครับ” “จ้ะ” ท่านยิ้มรับคำแล้วชวนผมคุยอะไรต่ออีกนิดหน่อยก่อนจขอตัวกลับผมเองก็อาสาเดินไปส่งท่านที่เรือนใหญ่แต่เดินไปได้แค่ครึ่งทางท่านก็หยุดแล้วหันกลับมามองผม “พี่เมฆ” “ครับมี๊” “มี๊ขอถามอะไรตรง ๆ ลูกตอบมี๊ตรง ๆ ได้ไหม” ผมไม่รู้ว่าท่านจะถามอะไรแต่คำพูดกับรอยยิ้มอ่อนโยนไม่ได้ทำให้ผมไม่ตื่นเต้นกับคำถามของท่าน “มีอะไรเหรอครับ” “ตอนเด็ก ๆ พี่เมฆเคยถามว่าโตขึ้นพี่เมฆแต่งงานกับน้องได้ไหม” “...” ผมตัวแข็งทันทีที่ได้ยินคำถามจากน้ำเสียงหวานของผู้มีพระคุณ ผมไม่คิดว่าท่านจะพูดเรื่องนี้ออกมาเพราะมันผ่านมายี่สิบกว่าปีแล้ว “มี๊อยากรู้ว่าจนถึงตอนนี้พี่เมฆยังคิดเหมือนเดิมไหม” “...ไม่ครับ ผมไม่คิดแล้ว”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD