ไนต์คลับ เที่ยงคืน
"มึงเครียดอะไรวะ?" แฟรงค์เอ่ยถามเพื่อนสนิทขึ้นระหว่างเดินเข้ามาในไนต์คลับ เขาสังเกตเห็นว่าชายหนุ่มเอาแต่ถอนหายใจ
"เรื่องไม่เป็นเรื่องน่ะ"
"คนอย่างมึงมีด้วยหรอเรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่ถ้ายังไม่สบายใจที่จะเล่าให้ฟังก็ไม่เป็นไร วันนี้กูเลี้ยงเอง" แฟรงค์พูดจบจึงหันไปสั่งเครื่งดื่ม
"ไว้ถึงเวลากูจะเล่าให้ฟังก็แล้วกัน"
"อืม กูก็พอจะเดาออกว่าเรื่องอะไร แต่ก็เอาเถอะ พยายามอย่าคิดมากเรื่องคุณหนูอันนาเลย" เขาพูดพลางหันไปรับเครื่องดื่มและยื่นแก้วเหล้ามาวางตรงหน้าเพื่อนสนิท ทั้งสองชนแก้วและกระดกเหล้าเข้าปากพร้อมเพรียงกัน
"อันไหนยิ่งพยายามทำตัวใกล้ชิดกูมากยิ่งขึ้น และเรื่องราวมันก็กำลังจะถลำลึกไปมากขึ้น กูไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี" คริสตินรู้สึกอัดอั้นตันใจจึงพูดออกมา แฟรงค์กำลังจะเอ่ยปากพูดแต่ทว่าเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้นเสียก่อน
"คิดไม่ถึงเลยนะคะว่าจะได้เจอคริสตินกับแฟรงค์ที่นี่" สองบอดี้การ์ดหนุ่มหล่อที่สาวๆต่างหมายปอง" ซาราห์ เอ่ยขึ้นระหว่างถือแก้วเหล้าของตนเองตรงเข้ามาทักทาย หล่อนจ้องมองคริสตินด้วยแววตาเป็นประกาย
"คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าคุณหนูซาราห์ที่นี่ ลูกสาวมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลทำไมถึงมาดื่มเหล้าเข้าผับที่มีแต่เสือสิงห์กระทิงแรดแบบนี้ล่ะครับ" เแฟรงค์ตอบกลับด้วยรอยยิ้มเหยียดหยัน เขารู้ดีว่าหล่อนให้ความสนใจคริสตินมากเป็นพิเศษ
"แล้วทำไมวันนี้ถึงออกมาดื่มกันล่ะคะ?" ซาราห์แสร้งถามต่อเพราะไม่อยากต่อปากต่อคำกับคำพูดกระแนะกระแหนของแฟรงค์
"ไม่ใช่เรื่องของเธอ" เพราะหล่อนไม่ใช่เจ้านาย คริสตินจึงตอบแบบขอไปทีโดยที่ไม่สนใจความรู้สึกของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย
"ฉันพยายามติดต่อคุณตลอดนะคะ ทำไมคุณถึงไม่เคยรับสายฉันเลยคะ?" หล่อนต้องการคำตอบว่าเพราะเหตุใดคริสตินถึงได้ปฏิเสธผู้หญิงอย่างตนได้
"ฉันไม่เคยว่าง"
"ไม่ว่างแต่ทำไมออกมาดื่มกันแบบนี้ได้คะ?"
"วันนี้ฉันออกมาดูงานที่โกดังให้นายใหญ่ พอเสร็จงานแล้วเลยแวะมาดื่ม" คริสตินตอบน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อยพร้อมทั้งกระดกเหล้าเข้าปากอีกครั้ง
"งั้น...แปลว่าคืนนี้ซาราห์ก็พอจะมีโอกาสได้ลิ้มรสรักบนเตียงของคุณแล้วสินะคะ" คำพูดชัดเจนของหญิงสาวทำให้คริสเตียนกระตุกยิ้มมุมปากเหยียดหยัน
"ระดับลูกสาวมาเฟีย ไม่มีผู้ชายตกถึงท้องแล้วหรอครับ ถึงได้คิดจะมาขึ้นเตียงกับผู้ชายที่เป็นเพียงแค่บอดี้การ์ดอย่างพวกเรา" แฟรงค์พูดแทรกขึ้นเพราะรู้ดีว่าคริสตินไม่ได้รู้สึกพิศวาสอะไรในตัวผู้หญิงคนนี้เลยแม้แต่น้อย
"คุณแฟรงค์! ฉันกำลังพูดกับคริสอยู่ กรุณามีมารยาทหน่อยสิคะ" หล่อนหันมาทำตาดุใส่อีกฝ่าย แฟรงค์แสร้งมองไปทางอื่นพร้อมกับกระดกเหล้าเข้าปาก ด้านคริสตินไม่ตอบกลับอะไรออกไป
"ตกลงไหมคะคริสติน?" หล่อนถามย้ำอีกครั้ง
"เธอแน่ใจนะ ว่าอยากจะขึ้นเตียงกับฉัน?" บอดี้การ์ดหนุ่มเลิกคิ้วถามด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน ซาราห์คลี่ยิ้มยั่วยวนพร้อมกับโน้มใบหน้าลงมาใกล้แผงอกแกร่ง หล่อนบรรจงจูบสัมผัสปกคอเสื้อเชิ้ตของคริสตินหนักๆจนรอยลิปสติกสีแดงสดเปื้อนเป็นรอยริมฝีปากชัดเจน
"ผู้หญิงอะไร...ร่านชะมัด" แฟรงค์พึมพำและเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
"เธอคิดว่าคุณทำแบบนี้แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร?"
"อย่างน้อยก็ทำให้สาวๆพวกนั้นสงสัย ว่าใครกันที่เป็นเจ้าของรอยลิปสติกสีแดงบนปกเสื้อของคุณ"
"ไร้สาระ" คริสตินชักสีหน้าบึ้งตึงและกระดกเหล้าเข้าปากจนหมดแก้ว
"ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงได้รังเกียจฉันนักหนา"
"ฉันไม่ได้รังเกียจ เพียงแค่ว่าไม่อยากเอาขึ้นเตียงก็เท่านั้นเอง"
"คริสติน!" หล่อนตะคอกเสียงดังด้วยสีหน้าบึ้งตึง ความรู้สึกราวกับกำลังถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรี
"กลับไปนั่งที่โต๊ะของเธอได้แล้ว ฉันรู้สึกอึดอัด"
"พอคุณเมาแล้วปากจัดดีนะคะ ท่าทางบนเตียงก็คงจะดุดันน่าดู"
"ใช่! แต่ไม่ใช่กับเธอแน่นอน"
"คริสติน!"
"ฉันไม่มีความปรารถนาหรือพิศวาสในตัวเธอ"
"จะต้องพิศวาสด้วยหรอคะ ก็แค่ทำให้มันเสร็จๆแล้วก็แยกกันไปคนละทาง มันยากขนาดนั้นเลยหรอคะ?" ซาราห์ถามเสียงดังโวยวายแข่งกับเสียงดนตรี
"ฉันไม่ใช่ผู้ชายแบบนั้น"
"หรือเหตุผลที่ทำให้ผู้ชายอย่างคริสตินไม่ยอมขึ้นเตียงกับผู้หญิงเลย เพราะว่ามีผู้หญิงที่คุณพึงพอใจอยู่แล้ว?" บอดี้การ์ดหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากเหยียดหยัน เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็นึกถึงใบหน้าของอันนาขึ้นมา
"ใช่! เพราะว่าฉันไม่อยากขึ้นเตียงกับผู้หญิงคนไหน นอกจากผู้หญิงคนนั้นที่ฉันต้องการ" คำพูดของคริสตินทำให้ใบหน้าสวยบึ้งตึงยิ่งขึ้น แฟรงค์เหยียดยิ้มมุมปากกับคำพูดของเพื่อนสนิท ซาราห์รู้สึกอับอายจึงกระแทกแก้วเหล้าลงบนโต๊ะเสียงดัง
"คุณพูดแบบนี้มันเหยียดหยามกันเกินไปแล้วนะคะ ซาราห์อุตส่าห์ลดตัวลงมาเกลือกกลั้วกับบอดี้การ์ดอย่างคุณ แต่คุณกลับปฏิเสธกันได้ขนาดนี้ ระวังจะเสียใจทีหลังนะคะ" หล่อนพูดเท่านั้นแล้วจึงเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปทันที
"กูนึกว่ามึงจะไม่กล้าปากจัดกับผู้หญิงซะอีก" แฟรงค์เอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นแก้วเหล้ามาตรงหน้าเพื่อนสนิท
"บางทีมันก็เหลืออดเหลือทน"
"เออ ปฏิเสธไปแบบนี้แหละดีแล้ว ว่าแต่ผู้หญิงคนที่มึงชอบอยู่แล้วน่ะ เป็นใครกันวะ?" แฟรงค์นึกสงสัย
"กูก็แค่พูดเพื่อให้เรื่องมันจบๆไปเท่านั้นแหละ ไม่มีอะไรหรอก"
"อืม ก็ดีแล้ว" สองหนุ่มพูดคุยและยังคงนั่งดื่มกันอยู่ต่ออีกแล้วราวหนึ่งชั่วโมง จากนั้นจึงกลับไปยังคฤหาสน์ของนายใหญ่ในเวลาเกือบตีสาม
คฤหาสน์อันเดรส
คริสตินกวาดสายตามองรอบบริเวณหน้าบ้านจึงได้รู้ว่ารามอสกลับไปแล้ว บอดี้การ์ดหนุ่มตัดสินใจเดินขึ้นไปยังชั้นสอง ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เขาเดินตรงไปยังห้องของอันนา มือหนาเอื้อมไปหมุนประตูลูกบิดก็เห็นว่าหญิงสาวไม่ได้ล็อค ร่างสูงกำยำจึงถือวิสาสะแทรกกายเข้าไป
"หนูรอคริสตินตั้งแต่สี่ทุ่ม จนตอนนี้ตีสามแล้วนะคะ ทำไมถึงเพิ่งกลับมาป่านนี้คะ?" อันนาเอ่ยขึ้นท่ามกลางความมืด เธอปิดไฟทุกดวงเพื่อเป็นการเก็บอารมณ์ความโกรธไว้ลึกสุดในใจ
"ผมคิดว่าคุณหนูหลับไปแล้วซะอีกนะครับ"
"จะหลับได้ยังไงคะในเมื่อหนูนัดกับคริสตินไว้ตอนสี่ทุ่ม จะให้หนูหลับลงได้ยังไงคะ?" หญิงสาวหยัดกายลุกขึ้นจากเตียงนอน เธอเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟตรงหัวเตียงและเดินตรงเข้ามาหาร่างสูงกำยำ
"คุณหนู..." วงแขนเรียวสวมกอดเอวสอบไว้แน่น ใบหน้าสวยจิ้มลิ้มซบลงบนแผงอกแกร่งด้วยความโหยหา
"ผมขอโทษครับที่ทำให้คุณหนูต้องรอ"
"คริสตินดื่มมาหรอคะ กลิ่นเหล้าหึ่งเลย" อันนาได้กลิ่นเหล้าคละคลุ้งผสมกับกลิ่นบุหรี่ที่ยังคงติดอยู่ที่ริมฝีปากของอีกฝ่าย
"ครับ ผมออกไปดื่มกับแฟรงค์มานิดหน่อยหลังเสร็จงาน"
"คุณทำแบบนี้กับหนูได้ยังไงคะ คุณไม่คิดว่าหนูจะรอคุณหรอคะ คุณเคยสนใจความรู้สึกของหนูบ้างหรือเปล่า?" หญิงสาวถามน้ำเสียงโวยวาย
"ก็ผมยังไม่อยากกลับเข้ามาเจอคุณหนูกับคุณรามอสนั่งดื่มด้วยกันในบ้านนี่ครับ" คริสตินตอบออกมาด้วยน้ำเสียงตัดพ้อน้อยใจ เขารู้ดีว่าตนมีความรู้สึกหึงหวงมากเป็นพิเศษ ชายหนุ่มกลัวว่าตนจะไม่สามารถเก็บอารมณ์ความรู้สึกไว้ได้ จึงเลือกที่จะไม่กลับมาเห็นภาพเหล่านั้น
"หนูพูดจาหว่านล้อมรามอสทุกวิถีทางให้เขากลับไปหนูทำแบบนั้นเพราะหนูมีนัดกับคริสตินตอนสี่ทุ่ม แต่นี่อะไรคะ คุณเป็นคนที่ไม่มีความรับผิดชอบเลย ทำแบบนี้กับหนูได้ยังไง?" ระหว่างใบหน้าสวยผละออกจากแผงอกแกร่ง วินาทีนี้จึงทำให้อันนาสังเกตเห็นรอยลิปสติกสีแดงที่บริเวณคอปกเสื้อเชิ้ตสีขาวของคริสตินได้ชัดเจน
"ถึงยังไงผมก็กลับมาหาคุณหนูแล้วนี่ครับอีก ผมจะชดเชยเวลาห้าชั่วโมงที่ทำให้คุณหนูต้องรอผมนะครับ"
"นี่มันเรื่องอะไรกันคะ?" วงแขนเรียวขยับออกจากเอวสอบ ร่างบางถอยหลังออกห่างจากคริสตินไปถึงสองก้าว ดวงตากลมโตเอ่อล้นด้วยน้ำตาอุ่น มันไหลอาบแก้มลงมาราวกับกำลังรู้สึกเจ็บปวดจนเก็บกั้นความรู้สึกไว้ไม่ได้