เช้าวันต่อมา...
ศาลาพักใจเป็นได้แค่ที่พักพิงชั่วคราว ไม่มีศาลาที่ไหนที่เป็นที่พักตลอดกาลหรอก ศาลาก็เป็นแค่ศาลาจะสำคัญได้อย่างไร
“หรือไม่ก็อาจจะลองดูอีกสักหน่อยดีไหมคะ” อลินเสนอ วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เธอมาหาเขาและก็พบกับใบหน้าซังกะตายของอีกฝ่าย หมอแผ่นดินเข้าใกล้คำว่าอกหักเต็มที
“นั่นสิ จริง ๆ แล้วฉันก็ยังไม่เคยลองตื๊อเลย” เขาว่าพร้อมกับมองหน้าเธอ กลืนน้ำลายลงคอที่ตอนนี้กำลังตามตื๊อผู้หญิงคนอื่นอยู่ สถานะของเขาไม่ต่างจากอลินสักเท่าไร
“หึ หนู...”
“ก็บอกว่าห้ามแทนตัวเองว่าหนู” อลินหน้ามุ่ย หลายวันก่อนเขาเคยบอกไม่ให้เธอแทนตัวเองว่าหนูแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน
“ฉันคิดว่าลองไปคุยกับเธอดี ๆ อีกสักครั้งน่าจะดีกว่า” เผื่อว่าคุณหมอจะได้ตัดใจได้สักที ประโยคหลังเธอไม่ได้พูดออกมาเพราะเกรงว่าเขาจะรู้ว่าเธอรออยู่
“นั่นสิ โอเค เดี๋ยวฉันไปคุยจริง ๆ จัง ๆ ด้วยสักครั้ง เผื่อว่าเธอจะเปลี่ยนใจ” เด็กสาวรู้สึกเจ็บหน่วง ๆ ที่อกข้างซ้าย ตอนนี้ทั้งคู่นั่งอยู่ที่ศาลาหน้าโรงพยาบาล จริงอย่างที่เธอว่าเขาต้องไปลองคุยกับคุณแพตตี้ให้ชัด ๆ อีกสักครั้งว่าเธอจะเอายังไงกันแน่
...อลินหมดประโยชน์เขาก็เดินจากไปทำงานเหมือนกับทุกวันที่เธอมาเป็นศาลาพักใจให้กับเขา ช่วงนี้คุณหมอต้องการที่ระบาย เพราะเขากำลังอยู่ในช่วงอกหัก อลินยินดีที่จะเป็นคนรองรับอารมณ์ของเขา มันทำให้เธอรู้สึกดีที่เห็นใบหน้าผ่อนคลายของเขา เข้าใจว่าทำไมเขาถึงชอบเธอคนนั้น เพราะอายุของเขาเหมาะที่จะสร้างครอบครัวแล้ว การชอบผู้หญิงเคยแต่งงาน มีลูก มันก็ไม่แปลก
เด็กสาวนั่งมองฝ่ามือของตัวเองภายในศาลาพักใจนี้ ก่อนที่เขาจะไปคุยกับเธอคนนั้นจริง ๆ จัง ๆ เธอก็อยากจะไปพูดกับเธอคนนั้นสักหน่อย เห็นพี่ภัสสรบอกว่าคุณแพตตี้กำลังเปิดร้านอาหารอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลแห่งนี้
...อยู่ ๆ รอบดวงตาก็ร้อนผ่าวขึ้นมา เฝ้าถามตัวเองถ้าหากเขาลงเอยกับเธอคนนั้นจะดีจริงหรือเปล่า แต่เขาก็คงมีความสุขมากเลยทีเดียว...เธอควรยินดีด้วย แม้ในใจจะไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นก็ตาม
เวลาต่อมา...
ภายในคาเฟ่หรูจำหน่ายขนมเค้กหลายชนิด อลินมองผู้หญิงคนหนึ่งด้วยใบหน้านิ่งเรียบ ต่างจากหญิงสาวเจ้าของร้านที่กำลังมองมาที่เธอด้วยสายตาไม่เข้าใจ แพตตี้ขมวดคิ้วมุ่น เด็กสาวคนนี้อยู่ในชุดนักเรียน และอมอมยิ้มอยู่ในปากด้วยท่าทีกวน ๆ
“ฉันชื่ออลิน เป็นแฟนพี่แผ่นดินในอนาคต” อลินโพล่งเสียงขึ้นก่อน
“ห้ะ...”
“ได้ยินไม่ผิดหรอก” แพตตี้อ้าปากเหวอ ร่างบางยังคงงุนงงตั้งแต่ที่เธอคนนี้เข้ามาในคาเฟ่ขนมแล้วบอกว่าอยากคุยกับเธอ โดยไม่ได้บอกว่ามีเรื่องอะไร ทว่าพอนั่งลงที่เก้าอี้เจ้าหล่อนก็มองเธอด้วยสายตามีปัญหาทันที
“ฉันไม่เข้าใจว่าเธอต้องการอะไร แฟนในอนาคตหมายความว่ายังไง”
“ก็...หมายความว่าฉันจะเป็นแฟนพี่แผ่นดินในอนาคต แต่ว่าตอนนี้พี่เขาชอบเธออยู่ และฉันอยากจะบอกกับเธอว่า...ถ้าเธอชอบพี่แผ่นดินก็คบกับเขาสิ” กลืนน้ำลายลงคอหลังพูดจบ ท่องมาตั้งแต่บ้านว่าจะพูดอย่างนี้ ทว่าพอได้พูดกลับเจ็บจี๊ดที่หน้าอกข้างซ้าย
“ห้ะ...” ยิ่งพูดก็ยิ่งงง แพตตี้ไม่เข้าใจเด็กสาวที่ชื่ออลินคนนี้เลยสักนิด
“เมื่อวานเธอไม่ไปกินข้าวกับพี่เขา รู้ไหมว่าพี่แผ่นดินเสียใจมากแค่ไหน ถ้าชอบก็ตอบตกลงคบกับพี่เขา ถ้าไม่ชอบก็บอกเขาตรง ๆ อย่าให้เขาคั่นเวลานานเลยค่ะ”
“_” แพตตี้กลืนน้ำลายลงคอ สิ่งที่เธอคนนี้พูดมันไม่ผิด เธอรู้ตัวว่ากำลังใช้คุณหมอแผ่นดินคั่นเวลาเพื่อพิสูจน์ความรักกับอดีตสามี
“ถึงฉันจะชอบพี่แผ่นดิน แต่...ถ้าความสุขของเขาคือเธอฉันก็ยินดีด้วย แต่ถ้าเธอไม่ได้ชอบเขาก็อย่าปล่อยให้เขารอนานเลยค่ะ ฉันขอร้อง...ในฐานะผู้หญิงด้วยกันก็ได้”
“คือ...ฉันกลัวเขาเสียใจ” แพตตี้พึมพำออกมา แผ่นดินดีกับเธอมาก และเขาพร้อมจะดูแลเธอกับลูก ทว่า
“ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ ถ้าเขาเสียใจ ฉันจะได้มีโอกาสปลอบใจเขา ถ้าเธอมัวแต่กั๊ก มันจะเสียเวลาเปล่า ๆ” เธอคนนี้พูดมีเหตุผล แถมคำพูดยังเกินวัยตัวเองอีกด้วย
“_”
“ฝากไว้ให้คิด” ร่างบางลุกพรวดขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เธอเดินจากไปทิ้งให้แพตตี้จมอยู่กับความคิดของตัวเอง
...อลินเดินออกมาจากร้านขนมนี้ เดินไปได้ไม่ไกลนักก็มองเห็นรถของหมอแผ่นดินแล่นผ่านหน้า เธอยกกระเป๋าขึ้นบังใบหน้าไว้ แต่ดูแล้วเขาคงไม่เห็นเธอ
“เจ็บจัง...” พึมพำออกมาเบา ๆ ก่อนจะเดินไปหลบหลังพุ่มไม้ มองเข้าไปภายในคาเฟ่ เห็นหมอแผ่นดินลงจากรถพร้อมกับช่อดอกกุหลาบช่อใหญ่ หัวใจของเด็กสาวชาวาบ น้ำตาไหลพรากออกมาในทันที
อลินหมุนตัวเดินหนี ไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไง ตอนนี้เธอไม่อยากรู้อะไรทั้งนั้น รู้แค่ว่าความเจ็บปวดแบบนี้เธอไม่ชอบเอาเสียเลย ไม่อยากให้เขาลงเอยกับเธอคนนั้นเสียด้วยซ้ำ ไม่ต้องการ แต่สุดท้ายก็ต้องยอม...
วันต่อมา...
“คุณหมอลางานค่ะวันนี้” แต่ถึงจะอกหักมากแค่ไหนก็อยากมาหาเขาอยู่ดี วันนี้ก็เลยมาหาอีกตามเคย อลินกะพริบเปลือกตาปริบ ๆ เมื่อได้ยินคำตอบจากพี่ภัสสร ในใจจินตนาการไปต่าง ๆ นานา หรือว่าหมอแผ่นดินกับเธอคนนั้น...
“ได้ยินหมอภัทรบอกว่าหมอแผ่นดินอกหักค่ะ” ภัสสรยกมือขึ้นป้องปากทำทีกระซิบกระซาบให้อลินได้ยิน ทำเอาเธอตกใจ แต่ถึงกระนั้นกลีบปากสวยก็ค่อย ๆ คลี่ยิ้มออกมา นึกว่าเขาจะลงเอยกับเธอคนนั้น แสดงว่าคุณแพตตี้เลือกสามีเก่าของเธอ
“แล้วคุณหมออยู่ไหนคะ”
“น่าจะอยู่บ้านนะคะ เห็นบอกว่าลาพักร้อนทีเดียวเลย”
“อ้อ” ใบหน้าเล็กพยักหน้ารับหงึกหงัก ไม่ถือว่ามาเสียเที่ยวเสียทีเดียว แถมยังถือว่าเป็นข่าวดีมากอีกด้วย
“หึ...” สั่นหัวดุ๊กดิ๊กอย่างคนอารมณ์ดี อลินเดินไปนั่งในร้านคาเฟ่เพื่ออ่านหนังสือเหมือนกับทุกวัน ทว่าภายในใจก็กำลังปั่นป่วนกับเรื่องของเขาคนนั้นอยู่ดี
“เป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้” พึมพำออกมาเบา ๆ ด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะมองไปยังโทรศัพท์ของตัวเอง ฝ่ามือบางคว้าโทรศัพท์ขึ้นมา สองจิตสองใจว่าจะส่งข้อความไปหาดีไหม ซึ่งข้อความก่อนหน้านี้เขายังไม่ตอบเลย
สุดท้ายก็อดใจไม่ไหวส่งไปหาเขาอยู่ดี
“ไม่มาทำงานเหรอคะ”
พิมพ์ข้อความไปอย่างลุ้น ๆ หลับตาปี๋ไม่กล้าดูว่าเขาอ่านหรือยัง
ติ๊ง!
“โอ๊ะ ตอบด้วยแฮะ”
[ทำไม]
อลินกะพริบเปลือกตาปริบ ๆ ไม่คิดว่าเขาจะตอบมาแค่นี้ แอบหวังไว้เยอะเลยทีเดียว
“ไม่มีอะไรค่ะ แค่สงสัยเฉย ๆ”
เธอส่งข้อความไปพร้อมกับสติกเกอร์ตัวการ์ตูนน่ารัก แต่รอบนี้เขาก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมาดังเดิม เด็กสาวสาวถอนหายใจออกมาเบา ๆ มองดูหน้าจอโทรศัพท์ด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความเสียใจ ทว่า
ติ๊ง!
[มานี่]
ข้อความของเขาเด้งเข้ามา อลินรีบคว้าโทรศัพท์มาดู เปลือกตาบางขมวดเข้าหากัน ไม่กี่วินาทีต่อมาข้อความของเขาก็เด้งเข้ามาอีก ซึ่งรอบนี้เป็นรูปภาพ
[สวนXX]
เห็นข้อความก็รีบกวาดข้าวของลงกระเป๋าทันที อลินเดินไปจ่ายเงินก่อนจะรีบไปเรียกแท็กซี่เพื่อไปหาเขาคนนั้นในสาวสาธารณะตามที่เขาบอก แอบสงสัยว่าเขาไปอยู่ที่นั่นทำไมเวลานี้
ไม่นานรถแท็กซี่ก็พาสาวคนตัวเล็กมาถึงสวนสาธารณะในกลางเมือง เวลาเกือบเที่ยงคืนนี้ยังมีคนวิ่งออกกำลังกายกันอยู่เลย ร่างบางเดินหาคนตัวโตตามรูปภาพที่เขาส่งมาให้ ก่อนจะเห็นร่างหนานอนราบอยู่บนม้านั่ง
“คุณหมอ...” ริมฝีปากบางเผยอขึ้น หรือเขาหลับไปแล้วหรือเปล่า ร่างหนานอนบนม้านั่งไม้กลางสวนสาธารณะ อลินรีบเดินเข้าไปใกล้
“พี่คะ พี่ดิน” ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำ กลิ่นเหล้าเหม็นหึ่งจนคนตัวเล็กต้องส่ายหน้าเบา ๆ เขาเปิดเปลือกตาขึ้นมองเธอ
“มาแล้วเหรอ” เอ่ยถามเสียงงัวเงีย ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นนั่ง ผมเผ้าของเขากระเซอะกระเซิง ทำเอาคนที่มองอยู่นั้นอ้าปากค้าง เพราะหมอแผ่นดินไม่เคยเผยมุมนี้ให้เธอได้เห็นเลย
“นั่งสิ ไม่มีใครบอกหรือไงว่าห้ามยืนค้ำหัวผู้ใหญ่”
“เอ่อ ค่ะ” เธอนั่งลงที่ม้านั่งข้าง ๆ เขา หรือที่หายไปทั้งวันนี้เขาไปเมามา “ไม่กลับบ้านเหรอคะ”
“ไม่ล่ะ ขี้เกียจตอบพ่อแม่ ขอนั่งนี่ให้สร่างก่อน” ว่าพร้อมกับมองทะเลสาบน้ำจืดตรงหน้า แสงไฟของเมืองหลวงทำให้ผืนน้ำเป็นประกายระยิบระยับ
“เมื่อวานฉันไปคุยกับคุณแพตตี้” เขาว่าเสียงอ่อน ใบหน้าหล่อเหลานิ่งเรียบ แต่แววตานั้นเศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัด
“เฮ้อ ฉันซื้อดอกไม้ไปให้ คุกเข่าขอความรักเลยนะ แต่ว่าเธอก็ไม่เลือกฉัน” เขาว่าน้ำเสียงอ่อน ๆ ทำเอาคนได้ยินรู้สึกเจ็บแปล๊บตามไปด้วย
“แล้ว...คุณหมอจะทำอะไรต่อคะ”
“ไม่รู้” ส่ายหน้าเบา ๆ เขารู้สึกเสียศูนย์ ตอนรู้ว่าเธอแต่งงานแล้วก็ยังไม่เจ็บใจเท่าวันที่เธอกลับไปหาคนเดิม อุตส่าห์ดีใจที่เธอหย่า แต่สุดท้ายเธอก็ไม่เลือกเขา
“กลับไปได้แล้ว นึกว่าเธอจะไม่มา”
“หึ ฉันมาหาได้ตลอดเลยค่ะ แค่คุณหมอเรียก” เธอว่าพร้อมกับกุมมือตัวเองที่หน้าตัก หันไปมองคนข้างกายก็เห็นว่าเขาหลับคอพับแล้ว
“อ้าว...” อลินลุกขึ้นยืน กระตุกยิ้มบาง ๆ ออกมาอย่างคนเอ็นดูคนเมา ดีที่เขายังไม่ฝืนกลับบ้านในเวลาเมาแบบนี้ ร่างบางหันซ้ายแลขวา ก่อนจะกดเรียกแกร็บให้มารับ รอไม่นานก็มีรถของพนักงานขนส่งเอกชนมารับ
“แถวนี้มีโรงแรมใกล้ ๆ ไหมคะ”
“มีนะครับ”
“โอเคค่ะ ช่วยพยุงเขาคนนี้หน่อยค่ะ” อลินมองคุณหมอด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อว่าเขาหลับไปแล้วจริง ๆ
เวลาต่อมา...
“เฮ้อ...บ่นแต่เราว่าเด็ก ตัวเองโตแล้วยังไม่ดูแลตัวเองเลย” อลินบ่นอุบอิบ มองร่างหนาที่นอนแผหลาอยู่บนที่นอนขนาดใหญ่ภายในโรงแรมระดับห้าดาว เธอจัดแจงที่นอนให้กับเขา ทว่า
“อืม~” เขากลับลืมตาขึ้น “เธอ...ทำอะไรฉัน”
“หึ อะไรของพี่เนี่ย ตื่นมาก็ใส่ร้ายฉัน” อลินหัวเราะเบา ๆ ก่อนที่คนตัวโตจะลุกขึ้นนั่งบนที่นอน ไล่สายตาสำรวจตัวเองว่ามีตรงไหนสึกหรอหรือเปล่า ท่าทีของเขาทำให้เด็กสาวกลอกตามองบน
“หนูยังไม่ได้ทำอะไรเลย”
“อย่าเรียกว่าหนู” เขายกมือขึ้นลูบต้นแขนตัวเองหลังจากได้ยินคำว่าหนูจากปากของเธอ ‘หนู’ มันทำให้เขารู้สึกสยิวกิ้ว
“แล้ว...” สายตาคมเลื่อนมองไปรอบกาย ยกมือขึ้นกุมขมับพร้อมกับส่ายหน้าแรง ๆ
“ฉันพามานอนโรงแรมค่ะ” รูม่านตาเบิกกว้าง แผ่นดินกะพริบเปลือกตาไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะพาเขามาโรงแรม “พามานอนเฉย ๆ หนู...อะ...เอ่อ...ฉันกำลังจะกลับค่ะ”
“อย่าเพิ่ง กี่โมงแล้วตอนนี้”
“หือ...อ้อ เที่ยงคืนค่ะ” อลินยกแขนขึ้นมองนาฬิกาข้อมือของตัวเอง พอได้ยินเวลาใบหน้าหล่อเหลาก็รีบส่ายปฏิเสธทันที
“นอนนี่แหละ กลับดึก ๆ อันตราย”
“แต่...”
“ก็นอนด้วยกันนี่แหละ เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำ” เขามองเห็นชุดคลุมอาบน้ำสองตัวที่แขวนอยู่บนหน้าตู้เสื้อผ้า “ขืนกลับเวลานี้เดี๋ยวเกิดเรื่องไม่ดีอีก”
“แต่...” จะให้หนูนอนกับพี่สองต่อสองเหรอคะ อลินอยากพูดประโยคหลังออกไปแต่ก็กลืนมันลงคอ เธอพยักหน้ารับหงึก ๆ
“เดี๋ยวฉันอาบน้ำก่อน” เขาว่าเสร็จก็ลุกขึ้น แต่ก็โซซัดโซเซทำให้อลินรีบไปพยุง แต่คนตัวโตก็ตัวใหญ่กว่ามากทำให้เขาเสียหลักล้มลงบนที่นอน ส่วนคนตัวเล็กก็ล้มตามอย่างช่วยไม่ได้
ตุบ!
...ร่างนุ่มนิ่มของสาววัยละอ่อนนั้นนอนแนบลำตัวของเขา แผ่นดินตกใจรีบผลักเธอออกในทันที
ผลั่ก!
“โอ๊ย! ทำไมต้องผลักแรงขนาดนี้ด้วย” ชายหนุ่มกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ จากที่เมาอยู่ตอนนี้สร่างเมาเป็นปลิดทิ้ง แผ่นดินรีบเดินเข้าห้องน้ำไม่สนใจว่าเด็กสาวจะโวยวายมากแค่ไหน
ให้ตายเถอะ เขาไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่จะทนได้
ชายหนุ่มเข้าห้องน้ำรีบอาบน้ำดับความร้อนรุ่มในอกที่ก่อตัวขึ้นฉับพลันนี้ ความเย็นของสายน้ำนั้นแทบไม่ได้ช่วยอะไร เลือดในกายของเขามันพลุ่งพล่านอย่างหักห้ามไม่อยู่
“เชี่ย...ไอ้ดิน” เขายกมือขึ้นลูบใบหน้าของตัวเองแรง ๆ พยายามระงับอารมณ์บางอย่างที่ก่อตัวขึ้นฉับพลันนี้ สายน้ำเย็น ๆ ไหลชโลมกาย หมอหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองเพดานห้องน้ำ ข่มเปลือกตาปิดลง พยายามระงับอารมณ์ความต้องการในเรือนร่างของสตรีเพศ กลิ่นกายของเธอเหมือนกับกลิ่นของดอกไม้แรกแย้ม ร่างบางก็นุ่มนิ่มจนเขาแทบทนไม่ไหว...