บทที่ 1
สายลมในฤดูหนาวโบกสะบัดเข้าใส่ร่างอรชรที่กำลังก้าวออกมาจากเรือนจำกลางในกรุงมอสโกอย่างไร้ความปรานี เส้นผมสีดำขลับที่เจ้าของปล่อยสยายเอาไว้เต็มแผ่นหลังพลิ้วไหวตามแรงของพระพายที่โหมเข้าใส่จนยุ่งเหยิง น้ำตาแห่งความอาดูรไหลทะลักออกมาเต็มใบหน้านวล เสียงสะอื้นแผ่วเบาเล็ดลอดออกมาจากกลีบปากอิ่มเต็มสีกุหลาบตลอดเวลา
ขวัญชีวา ซีร์ยานอฟยกมือเรียวขาวสะอาดขึ้นป้ายน้ำตาทิ้งเมื่อเดินมาหยุดหน้ารถลีมูซีนสีดำสนิทเงาวับตรงหน้า ความสูญเสียทำให้น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด แม้ว่าจะพยายามสะกดกลั้นเอาไว้มากแค่ไหน แต่สุดท้ายหล่อนก็พ่ายแพ้ยับเยินกับความเสียใจที่มันถล่มอัดเข้าใส่อยู่ดี
อังเดรติดคุกถูกตัดสินโทษด้วยการจองจำอยู่ในคุกหลายสิบปี! แม้มันจะเป็นแค่การตัดสินของศาลชั้นต้น แต่มันก็ทำให้หัวอกของคนเป็นลูกอย่างหล่อนเจ็บร้าวได้อยู่ดี ภาพของบิดาในชุดนักโทษที่มีโซ่ตรวนล่ามขาเอาไว้ทำให้หล่อนสงสารท่านเหลือเกิน หล่อนพยายามติดต่อขอประกันตัวให้กับท่านแต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือจากใครเลย แม้แต่วินซ์ เอเมอร์ตัน
“ขึ้นรถได้แล้ว ผมไม่ได้มีเวลาว่างทั้งวันเพื่อคุณหรอกนะ” เสียงกระด้างของวินซ์ เอเมอร์ตันช่วยดึงหญิงสาวออกมาจากภวังค์ร้ายได้สำเร็จ
ขวัญชีวากะพริบตาถี่ๆ เพื่อหยุดหยาดน้ำตาเอาไว้เพียงแค่นั้น ก่อนจะลดตามองผ่านกระจกรถที่ถูกลดลงจนเหลือครึ่งบานเข้าไปสบตาสีน้ำเงินอมดำของผู้ชายที่หล่อลากไส้ตรงหน้า แล้วก็ได้เห็นว่าใบหน้าสี่เหลี่ยมที่สมบูรณ์แบบทุกอย่างของเขาไร้ความรู้สึกจนน่าตกใจแค่ไหน
แน่ล่ะ ตอนนี้หล่อนคือสมบัติของเขาแล้วนี่ ในเมื่ออังเดรไม่สามารถนำเพชรสีทองมาไถ่ตัวหล่อนออกไปได้ ผู้ชายเลือดเย็นคนนี้ก็มีสิทธิ์ที่จะยึดสิ่งค้ำประกันเอาไว้เป็นสมบัติส่วนตัวโดยที่หล่อนไม่มีสิทธิ์จะร้องอุทธรณ์เลยแม้แต่น้อย
ความอดสูแล่นเข้าสู่หัวใจราวกับหอกแหลม และมันก็ทำให้หล่อนแทบจะกระอักออกมาเป็นเลือดกับสายตาเหยียดหยามที่คนตรงหน้าจงใจขว้างเข้าใส่ สาวน้อยกัดปากแน่นจนเจ็บระบมไปทั่วทั้งปากแต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะโต้ตอบผู้ชายใจร้าย ปากร้ายออกไป
“ฉันไม่ได้ขอร้องให้คุณมาด้วยสักหน่อย คุณต่างหากที่บังคับให้ฉันนั่งรถมากับคุณ บอกตรงๆ มันไม่ใช่ความต้องการของฉันเลยแม้แต่น้อย”
กัดเขาเล็กๆ หวังว่าจะชนะ แต่ตรงกันข้าม เพราะคำพูดที่เขาตอกหน้ากลับมานั้นยิ่งทำให้หล่อนจมดิ่งลงสู่ทะเลหายนะอย่างไม่เหลือทางช่วยตัวเองได้ซะอย่างงั้น
“ผู้หญิงค้ำประกันอย่างคุณมีสิทธิ์ต่อปากต่อคำกับผมตั้งแต่เมื่อไรกัน”
วินซ์แค่นยิ้ม มองสตรีที่ก้าวขึ้นมานั่งเคียงข้างด้วยสายตาไม่บอกความรู้สึก
“จำเอาไว้นะ ว่าผมน่ะไม่ใช่ผู้ชายใจดี และในเวลาที่ถูกขัดใจ ผมจะร้ายยิ่งกว่ามัจจุราชเสียอีก ฉะนั้นถ้าไม่อยากถูกทำโทษละก็ จงหุบปากสวยๆ ของคุณซะ เอามันไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นจะดีกว่า”
แก้มสาวร้อนผ่าวราวกับถูกลวกด้วยไฟกัลป์ คำพูดของผู้ชายที่หล่อเลิศที่สุดในปฐพีกำลังทำให้หล่อนควบคุมตัวเองไม่ได้ หล่อนเกลียดเขา เกลียดวินซ์ เอเมอร์ตัน เกลียดผู้ชายคนนี้ที่สุดในโลก หญิงสาวตะโกนกึกก้องอยู่ภายในอก จ้องมองคนตรงหน้าอย่างไม่นึกเกรงกลัว
“แต่ฉันไม่จำเป็นต้องกลัวคุณ ฉันเกลียดผู้ชายวางอำนาจแบบคุณ ไม่อยากเข้าใกล้ คนอย่างคุณมันก็ดีแค่หล่อ ดีแค่รวย แต่คิดหรือว่าไอ้ข้อดีพวกนี้มันจะทำให้ฉันระทวยเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ ได้ ฝันไปเถอะ!” สาวน้อยเชิดหน้าสูง พยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ให้คู่สนทนาจับได้ว่าตัวเองกำลังสั่นระริกทั้งกายและหัวใจ
หนุ่มหล่อแสยะยิ้ม คว้าหมับที่ต้นแขนกลมกลึงของสาวน้อย ทำเอาขวัญชีวาสะดุ้งเฮือก จ้องมองเขาด้วยความไม่พอใจพร้อมๆ กับพยายามสะบัดตัวให้หลุดจากนิ้วแกร่งที่แข็งแรงยิ่งกว่าปลอกเหล็กของวินซ์ให้ได้ แต่จนแล้วจนรอดก็ทำไม่สำเร็จ แถมยิ่งดิ้นก็ยิ่งรับรู้ถึงไออุ่นจากฝ่ามือใหญ่มากขึ้นเท่านั้น และมันก็มีผลอย่างรุนแรงต่อกายสาวจนน่าตกใจ
‘ทำไมถึงรู้สึกอึดอัดแบบนี้นะ แถมหน้าอกหน้าใจของตัวเองก็รู้สึกว่ามันจะขยายใหญ่โตขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ มันไม่น่าเป็นไปได้ นี่หล่อนกำลังต่อสู้กับอะไรกันนะ’
คิดถึงตรงนี้ก็หยุดดิ้น ช้อนสายตาขึ้นจ้องคนตัวโตที่มองมาพอดีด้วยความพิศวง แล้วก็เหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุนเมื่อสายตาของคนสองคนได้ประสานกัน ปฏิกิริยาเคมีบางอย่างพุ่งเข้าใส่กันอย่างบ้าคลั่ง พานให้หัวใจสาวเต้นระรัวจนแทบจะทะลุออกมาจากอก
‘สรุปก็คือ วินซ์ เอเมอร์ตันเป็นผู้ชายที่น่าหลงใหลเหลือเกิน’
ขวัญชีวาแทบจะอาเจียนออกมากับความคิดของตัวเอง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหล่อนก็เป็นผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่คลั่งไคล้ในตัวของผู้ชายที่หาความนุ่มนวลไม่ได้เลยอย่างวินซ์ เอเมอร์ตันไปแล้ว
‘ใช่ ผู้ชายนี้หล่อ รวย เพอร์เฟ็กต์ทุกอย่าง แล้วไงล่ะ?’ สาวน้อยหยันตัวเองอยู่ภายในอก เกลียดตัวเองนักที่ไม่สามารถใจแข็งกับผู้ชายหล่อลากไส้คนนี้ได้ หล่อนก็เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ นั่นแหละที่ตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกเห็น แต่หล่อนจะต้องต่างจากคนอื่นๆ นั่นก็คือ หล่อนจะไม่มีวันยินยอมให้คนตัวโตรู้หรอกว่าตัวเองนั้นมีอิทธิพลต่อสมองและจิตวิญญาณของหล่อนเช่นไร และการที่จะปิดบังความในใจเอาไว้อย่างมิดชิดได้นั้น หล่อนจะต้องโต้ตอบเขาทุกวิถีทาง จะต้องไม่ยอมโอนอ่อนเด็ดขาด
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนจะเป็นฝ่ายหลบตาก่อน และเค้นเสียงเย็นชาโต้ตอบออกไป
“ปล่อยฉัน!”