MAFIA05:กฎของผัวมาเฟีย

2233 Words
MAFIA 05 ************************* พัดชา : ไตรภูมิคะคุณอยู่ที่ไหนเหรอ พัดชา : กลับบ้านมาหาฉันได้แล้วนะคะ ฉันขอโทษที่ดื้อกับคุณนะ ต่อไปนี้ฉันจะไม่ดื้อกับคุณแล้วค่ะ พัดชา : ยกโทษให้ฉันนะคะ ฉันจะเชื่อฟังคุณทุกคำเลยค่ะ กลับบ้านมาหาฉันนะคะ พัดชา : ไตรภูมิฉันขอร้อง พัดชา : ฉันต้องการคุณนะคะ คุณหายไปหลายวันแบบนี้ฉันคิดถึงคุณนะ พัดชา : ถ้าคุณหายไปแบบนี้ฉันจะอยู่ยังไงคะ ฉันอยู่ไม่ได้นะคะถ้าไม่มีคุณ ฉันอ่านข้อความไลน์ที่พัดชาส่งไปหาสามีตัวเอง เขาอ่านข้อความทั้งหมดแต่ไม่คิดที่จะตอบกลับมาหาเธอเลย และฉันก็รู้ด้วยว่าความรู้สึกของเธอในตอนนั้นน่ะมันคงเจ็บปวดน่าดู แต่เธอก็เลือกที่จะไม่ไปไหนเพราะว่าเธอรักเขามาก แต่เขาก็ยังคงทำร้ายเธออยู่อย่างนั้น ถ้าเกิดว่าเธอเข้มแข็งมากกว่านี้ฉันเชื่อว่าเธอจะรักตัวเองมากกว่ารักคนอื่น และจะไม่เอาหัวใจไปผูกไว้ที่ปลายเท้าของคนที่ไม่คิดจะรักเธอเลย หลังจากที่เลิกงานแล้วฉันก็เดินมาที่ลานจอดรถของบริษัท แต่พอสตาร์ทรถแล้วรถดันไม่ติด นี่อย่าบอกนะว่าฉันจะต้องนั่งแท็กซี่กลับเองอ่ะ ดีนะที่ก่อนหน้านี้ฉันให้ลิลลี่พานั่งรถดูเส้นทางของที่นี่หลายครั้งแล้ว ไม่งั้นฉันก็คงกลับบ้านไม่ถูกหรอก การที่มาอยู่ในร่างพัดชามันเป็นอะไรที่เหนื่อยเหมือนกันนะ เพราะต้องทนดูสายตาของผัวไม่รักดีอย่างคุณไตรภูมิ ไหนจะคนที่บ้านของเขาหลายคนที่ไม่ได้ให้ความเคารพฉันเลยทั้งๆ ที่ฉันเป็นเมียเจ้านายของพวกเขา การที่คนใช้ไม่ยอมให้ความเคารพก็คงจะเป็นเพราะว่าเธอยอมคนอื่นง่ายเกินไปสินะ ฉันกำลังจะเดินไปเรียกรถแท็กซี่แต่คุณบูมก็เดินเข้ามาทักฉันซะก่อน “กำลังจะกลับบ้านเหรอคุณพัดชา?” “ใช่ค่ะ แต่รถสตาร์ทไม่ติดเลยจะไปเรียกแท็กซี่ค่ะ” “ให้ผมไปส่งมั้ยครับ บ้านของคุณเป็นทางผ่านบ้านผมพอดี” “จะไม่เป็นการรบกวนใช่มั้ยคะ?” “ไม่หรอกครับ ถ้าสามีคุณไม่ว่าอะไรนะ” “เขาจะว่าอะไรได้ล่ะคะในเมื่อเขาไม่ได้สนใจฉันมานานแล้ว” “ถ้างั้นเดี๋ยวผมไปส่งเองครับ” “ขอรบกวนหน่อยนะคะ” ฉันยิ้มให้คนตรงหน้าที่อาสาจะไปส่งฉันที่บ้าน เขาเป็นหัวหน้างานที่มีแต่ลูกน้องรักมากเลยนะ ตอนแรกก็คิดว่าเขาจะใจดีแค่กับฉันคนเดียวซะอีก แต่พอฉันได้ทำงานวันแรกฉันก็รู้ได้เลยว่าเขาไม่ได้ใจดีกับฉันแค่คนเดียวแต่เขาใจดีกับลูกน้องทุกคน ที่บอกว่าเขาใจดีกับฉันแค่คนเดียวน่ะเพราะเขารู้ว่าฉันเป็นเมียของมาเฟียเถื่อนอย่างคุณไตรภูมิไง และไม่มีใครกล้ามายุ่งกับฉัน แต่ฉันก็บอกทุกคนแล้วนะว่าจะไม่มีใครมาทำร้ายพวกเขาได้ การที่ฉันอยากมีเพื่อนมันคือสิทธิ์ของฉันเองหรือเปล่าล่ะ คุณไตรภูมิเขาไม่มีสิทธิ์มาห้ามหรือมาทำร้ายคนของฉัน พอพูดไปแบบนั้นทุกคนก็เริ่มคลายความกังวลและยอมที่จะพูดคุยกับฉันมากขึ้น แต่บางคนก็ยังมีเกร็งๆ อยู่บ้างเหมือนว่ายังไม่อยากเจ็บตัว แต่ฉันก็เข้าใจพวกเขานะ การที่ได้แต่งงานกับมาเฟียเถื่อนไร้หัวใจอย่างคุณไตรภูมิเป็นใครก็ต้องกลัวทั้งนั้นนั่นแหละ เพราะกิตติศัพท์ความเถื่อนของเขามันเลื่องลือไปเยอะนี่ ฉันมาอยู่ในร่างของพัดชาได้ไม่นานยังรู้สึกได้ถึงความใจร้ายของเขาเลย “คุณอยากไปไหนก่อนกลับหรือเปล่า ผมจะได้พาไป” “กลับเลยก็ได้ค่ะ ดูเหมือนว่าคุณไตรภูมิน่าจะมีเรื่องอยากคุยกับฉัน” “คุณดูเปลี่ยนไปเยอะมากเลยนะพัดชา เมื่อก่อนคุณไม่ได้ดูเข้มแข็งแบบนี้เลยนะ” จู่ๆ คุณบูมก็พูดขึ้นมาและสายตาที่เขามองฉันก็ดูเหมือนว่าเขาแปลกใจที่ฉันดูเปลี่ยนไปแบบนี้ จากคนที่อ่อนแอและยอมคนอื่นมาตลอดตอนนี้กลับดูไม่เหมือนคนที่จะให้ใครมารังแกได้ ไม่ใช่แค่เขาหรอกนะที่พูดแบบนี้ แต่พี่แป้งกับลิลลี่ก็พูดเหมือนกัน ร่วมถึงสามีของฉันด้วยที่บอกว่าฉันเปลี่ยนไป ก็ถ้ายังอ่อนแออยู่เหมือนเดิมก็จะถูกคนอื่นรังแกได้ง่ายๆ ไง เพราะงั้นแล้วฉันไม่อยากอ่อนแอให้คนอื่นรังแก “เมื่อก่อนคุณไม่กล้าที่จะพูดคุยกับใครเลยด้วยซ้ำ และไม่กล้าที่จะขัดคำสั่งสามีคุณด้วย” “ฉันดูเป็นคนอ่อนแอมากขนาดนั้นเลยเหรอคะ?” “ก็ไม่เชิงหรอก แต่คุณแค่เป็นคนที่ไม่อยากมีเรื่องมากกว่า ไม่ว่าใครเข้ามาพูดจาไม่ดีใส่คุณ คุณก็จะนิ่งแล้วปล่อยให้คนพวกนั้นต่อว่าคุณเองน่ะ” “ตอนนั้นคุณรู้จักฉันด้วยเหรอคะ?” ได้ยินที่คุณบูมพูดแบบนั้นฉันก็เอ่ยถามขึ้นมาทันที ก่อนที่เขาจะหันมามองหน้าฉันได้แค่แป๊บเดียวเท่านั้นแล้วหันกลับไปขับรถต่อ เขายิ้มให้ฉันแล้วบอกว่าเมื่อก่อนเราสองคนสนิทกันมาก ก่อนที่ฉันจะไปแต่งงานกับคุณไตรภูมิ พอฉันย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านหลังนั้นแล้วเราสองคนก็แทบไม่ได้เจอกันเลย เพราะฉันไม่ยอมออกไปไหนเอาแต่อยู่บ้านรอสามีตัวเองกลับมา อีกอย่างคุณไตรภูมิก็ไม่อยากให้ฉันได้ออกไปไหนมาไหนเหมือนกัน เหมือนไม่อยากให้ใครรู้ว่าฉันคือเมียของเขา และเรื่องที่ฉันจำอะไรไม่ได้ลิลลี่เองก็ได้บอกกับคุณบูมแล้วว่าความทรงจำบางส่วนของฉันได้หายไป อาจจะจำอะไรไม่ค่อยได้ เขาก็เลยคิดว่าการที่ฉันจำเขาไม่ได้มันเป็นเพราะฉันความจำเสื่อม “เราเคยสนิทกันมาก่อนนะพัดชา แต่คุณอาจจะจำไม่ได้เพราะความจำคุณได้หายไป แต่หลังจากที่คุณแต่งงานเราก็ไม่ค่อยได้เจอกันเลย เพราะคุณจะต้องอยู่ที่บ้านและเชื่อฟังสามีของคุณไง” “ดูเหมือนว่าตอนนั้นฉันจะรักสามีตัวเองมากเลยนะคะ” “รักมากสิ เพราะคุณยอมเขาทุกอย่างเลยนะ ถึงแม้ว่าเรื่องนั้นมันจะไม่ใช่เรื่องที่ควรจะยอมก็ได้” “แล้วคุณรู้เรื่องนี้ได้ยังไงเหรอคะถ้าเกิดว่าเราไม่ได้เจอกันเลย” “ลิลลี่เพื่อนของคุณกำลังดูใจกับผมอยู่น่ะ” เรื่องนี้ฉันเองก็เพิ่งรู้เหมือนกันนะ เพราะลิลลี่ไม่ได้บอกฉันเลยว่าเธอกำลังดูใจกับหัวหน้าของฉันแบบนี้ แต่ดูๆ แล้วพวกเขาสองคนก็ดูเหมาะสมกันมากเลยนะ ก็มีแค่คู่ของฉันกับคุณไตรภูมิเท่านั้นที่ดูยังไงก็ไม่มีอะไรที่มันลงตัวได้เลยสักอย่าง “ลิลลี่คงยังไม่ได้บอกคุณสินะ” “ยังหรอกค่ะ” “ผมแค่ไม่อยากให้คุณดูกลัวผมเท่านั้นเองที่ผมรู้เรื่องของคุณมากเกินไป” “ฉันขอถามได้มั้ยคะว่าทำไมฉันถึงได้เอาแต่เชื่อฟังคุณไตรภูมิ แล้วไม่ยอมออกจากบ้านไปไหนเลย” ฉันหันไปมองเสี้ยวหน้าของคุณบูมก่อนที่จะถามเขาออกไป เพราะฉันคิดว่าการที่เราสองคนเคยสนิทกันมาก่อนอาจจะทำให้เขารู้เรื่องพวกนี้ก็ได้ ฉันก็แค่อยากรู้เท่านั้นเองว่าทำไมพัดชาถึงได้เชื่อฟังคุณไตรภูมิมากขนาดนั้น “ก็เพราะว่าคุณรักเขามากไง คุณแทบไม่อยากให้เขาหายไปจากคุณ คุณเคยมาระบายให้ผมฟังด้วยนะว่าถ้าคุณสามารถเลิกรักเขาได้ คุณเองก็อยากจะทำอย่างนั้นเหมือนกัน แต่มันเป็นเพราะว่าคุณทำแบบนั้นไม่ได้” “นี่ฉันรักเขามากเลยเหรอคะ?” “ใช่ ยิ่งเขารู้ว่าคุณรักเขามาก เขาก็ทำให้คุณเสียใจอย่างที่ผ่านมาไง” “เขาคงจะทำให้ฉันเจ็บปวดมากเลยสินะคะฉันถึงได้พูดแบบนั้นออกมา” “ผมเองก็ไม่รู้หรอกนะ แต่คุณเป็นคนพูดให้ผมฟังเท่านั้นและไม่ได้ลงรายละเอียดเยอะน่ะ” ฉันเงียบไปหลังจากที่ได้ฟังเรื่องของตัวเองกับคุณบูม นี่ฉันจะต้องอยู่กับผู้ชายใจร้ายอย่างคุณไตรภูมิต่อไปน่ะเหรอ ตอนแรกก็ไม่คิดเหมือนกันนะว่าเขาจะใจร้ายกับเมียตัวเองได้มากขนาดนี้ แต่ตอนนี้ฉันเริ่มเข้าใจความรู้สึกของพัดชาแล้วล่ะว่าทำไมเธอถึงเลือกที่จะทำร้ายตัวเองด้วยการฆ่าตัวตาย เพราะเธอคงทนอยู่กับผู้ชายที่ทำร้ายจิตใจเธอแทบทุกวันไม่ได้สินะ “แต่ตอนนี้ผมดีใจนะที่คุณเข้มแข็งแบบนี้ ไม่ได้ยอมคนอื่นเหมือนที่ผ่านมาแล้ว” “ฉันคิดว่าโลกใบนี้มันไม่มีที่ยืนให้สำหรับคนอ่อนแอเท่านั้นเองค่ะ” “มันก็ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะ แต่ผมดีใจที่คุณกลับมารักตัวเองได้แล้ว” “ขอบคุณนะคะ” คุณบูมขับรถเข้ามาจอดในบ้านก่อนที่เราสองคนจะลงจากรถ เพราะฉันเป็นคนชวนเขามากินข้าวที่บ้านเองเพื่อเป็นการขอบคุณที่เขามาส่งฉัน แต่พอเดินเข้ามาในบ้านก็เห็นว่าคุณไตรภูมิก็นั่งอยู่ที่ห้องโถงก่อนแล้ว และสายตาของเขาก็หันมามองหน้าฉันก่อนที่จะหันไปมองหน้าคุณบูม การที่ฉันจะพาเพื่อนเข้ามาในบ้านก็ไม่เห็นแปลกตรงไหนเลยไม่ใช่เหรอ ทีเขาพาผู้หญิงเข้ามาเอาในบ้านและขึ้นไปเอาบนเตียงที่ฉันนอนอยู่ตอนนั้นฉันยังไม่ได้ว่าอะไรเขาเลยด้วยซ้ำ สายตาของคนตรงหน้าดูจะไม่พอใจมากที่ฉันพาผู้ชายเข้ามาในบ้านแบบนี้ ฉันเองก็อยากจะถามเขาเหมือนกันนะว่าทำไมจะต้องไม่พอใจด้วยในเมื่อเขาเองก็ไม่ได้รักฉันเลยสักนิดถึงได้ทำร้ายจิตใจกันตลอดเวลา แต่ฉันก็เลือกที่จะไม่ถามอะไร ฉันกำลังจะพาคุณบูมไปที่ห้องครัว แต่คุณไตรภูมิก็เดินมาขวางเอาไว้แล้วจ้องหน้าฉันเหมือนว่าเขาไม่พอใจที่ฉันไม่เชื่อฟังเหมือนเมื่อก่อนแล้ว “พาใครมา?” “รถของฉันสตาร์ทไม่ติดหัวหน้าฉันก็เลยอาสามาส่ง ฉันเลยอยากจะเลี้ยงข้าวตอบแทนเขาค่ะ ส่วนรถคุณช่วยบอกลูกน้องของคุณเอากลับมาด้วยนะคะ” “กฎของของฉันคือห้ามพาใครเข้ามาในบ้านเด็ดขาดนะพัดชา” “ฉันจำกฎของคุณไม่ได้แล้วค่ะคุณไตรภูมิ ช่วยหลีกทางให้ฉันด้วยนะคะ” “คิดจะดื้อกับฉัน?” “การที่ฉันพาหัวหน้ามากินข้าวที่บ้านไม่ได้หมายความว่าฉันดื้อกับคุณนะคะ” “แต่ฉันไม่อนุญาต!!!” “พัดชาผมว่าเดี๋ยวผมกลับก่อนก็ได้ครับ ส่วนเรื่องเลี้ยงข้าวเอาเป็นพรุ่งนี้ที่ร้านอาหารก็ได้” “ถ้างั้นก็ได้ค่ะ ขอบคุณคุณบูมมากนะคะที่มาส่ง” ฉันยิ้มให้คุณบูมก่อนที่เขาจะเดินออกไป เขาก็คงไม่อยากให้ฉันทะเลาะกับคุณไตรภูมิสินะถึงได้ยอมที่กลับไปก่อน พอเราอยู่ด้วยกันสองคนแล้วสายตาคู่คมของคนตรงหน้าก็จับจ้องมาที่ฉันทันที แต่ฉันไม่ได้กลัวและไม่ได้แคร์หรอกนะว่าเขาจะไม่พอใจหรือโกรธมากแค่ไหนที่ฉันไม่คิดที่จะทำตามกฎของเขาน่ะ ฉันเองก็พอจะรู้กฎของเขามาบ้างแล้วล่ะจากการที่ถามพี่แป้ง “คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันคะ?” “อย่าพาคนนอกเข้ามาในบ้านอีก ฉันไม่ชอบ!!!” “แล้วทำไมคุณพาผู้หญิงคนอื่นเข้ามาในบ้านได้ล่ะคะ ไหนจะพาไปนอนที่ห้องบนเตียงของฉันอีกด้วย พวกเธอก็เป็นคนนอกไม่ใช่เหรอ?” “จำได้ขึ้นมาแล้วเหรอ?” “ค่ะ จำได้ว่าคุณมันเป็นผัวที่ใจร้ายกับฉันมากแค่ไหน และจำได้ว่าคุณมันเลวมากด้วยที่ไม่คิดจะรักและปกป้องเมียตัวเองเลย” “งั้นก็รู้แล้วสินะว่ากฎของฉันถ้าคิดจะแหกมัน บทลงโทษจะเป็นยังไง?” “กฎของคุณน่ะฉันจะแหกมันให้หมดเลย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD