สวัสดีฉันเองเหอผิงฉันเป็นนางร้าย ตอนนี้ฉันกำลังอยู่ที่ห้างดังแห่งหนึ่ง ฉันกำลังมาออกเดตกับผู้ชาย ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเฮียภูไงล่ะ! วันนี้เฮียภูหล่อมากๆๆหล่อวัวตายควายล้มเลยแหละหล่อลากไส้ลากดินเลย คนอะไรเดินด้วยฉันต้องจับแขนตลอดเกาะแน่นยิ่งกว่าตุ๊กแก เพราะเฮียภูแกหล่อลื่น ฮ่าๆ หยอกๆ เข้าเรื่องเลยแล้วกัน...
ร้านเสื้อสุดหรูในห้างแห่งหนึ่ง...
"เฮียว่าชุดนี้เข้ากับผิงปะ หรือว่าชุดนี้ดีกว่า" มือบางหยิบชุดสีแดงเพลิงขึ้นมาทาบบนตัวสองชุดสลับไปสลับมาเธออยากจะให้ชายหนุ่มรูปหล่อตรงหน้าเลือกให้ อีกหน่อยก็จะแต่งงานกันแล้วเลือกชุดให้ว่าที่ภรรยาสักชุดจะเป็นไรไป ทำหน้าบูดบึ้งยังกับเธอลวงมาฆ่าเธอแค่ขอให้ช่วยเลือกชุดเท่านั้นเอง
" ไม่เข้า! " คำพูดห้วนๆออกจากปากเฮียภู ผู้ไม่ชอบเรื่องไร้สาระ อีกอย่างชุดที่เธอเลือกมาก็ไม่เห็นจะต่างกันตรงไหนสีแดงเหมือนกันทั้งคู่...
" อ้าวหรอ แล้วเฮียภูคิดว่าตัวไหนเข้ากับผิงล่ะ" เหอผิงยังคงใจดีสู้เสือหยิบชุดตัวอื่นให้เขาเลือกให้
"ไม่มี" เขาไม่ชอบสีแดง
"มันต้องมีสักตัวสิเฮีย น่านะเฮียเลือกให้ผิงสักตัวนะ" เธอแค่ถามแค่เนี้ยทำไมต้องโกรธกันด้วย สงสัยจะเป็นเพราะเธอไปกดรับสายโทรศัพท์ของเฮียตอนอยู่ในร้านอาหาร ก็เฮียไปเข้าห้องน้ำ เธอก็เลยหวังดีรับสายให้ เธอหวังดีจริงๆนะ ยิ้มร้าย... และหลังจากนั้นเฮียก็เป็นอย่างที่เห็นเลย หน้าตาบูดบึ้งไม่รับแขก ผู้หญิงคนนั้นสำคัญกับเฮียมากหรือไงถึงได้ร้อนรนโกรธเธอขนาดนั้น กรี๊ดเธออยากจะกรี๊ดให้ลั่นห้าง แต่จะทำอย่างนั้นก็ไม่ได้ มีหวังเฮียโกรธตาย อีกอย่างนางร้ายในละครก็พลาดมาเยอะแล้วกับการเก็บอารมณ์ไม่อยู่ เย็นไว้ผิงเย็นไว้
"เอาตัวนี้ไป" ภูริพัฒน์เดินไปหยิบชุดเดรสสีขาวตรงราวแขวนเสื้ออีกฝั่งมายื่นให้เธอ..
"คะ! ตัวนี้หรอ สีขาวเฮียจะให้ผิงใส่ไปบวชชีหรือไง" เธอไม่ชอบสีขาวเอาซะเลย ชอบแดงๆอะ อะไรก็ได้สีแดงๆไว้ก่อน...สีร้ายๆอะผิงชอบ
"จะเอาไหม ถ้าไม่เอาเฮียจะเอาไปเก็บ" คนยื่นให้หน้าตึงหนักกว่าเดิม
"เอา เอาสิคะ แหม๋ผิงแค่ล้อเล่นนิดเดียวเอง อะไรที่เป็นของเฮียภูผิงชอบหมดแหละ สีขาวสวยจะตาย สวยจริงจริ๊ง" เหลือบตามองบนแป๊บ จะไม่รับก็ไม่ได้นานๆทีผู้จะเลือกให้ไม่เอาก็บ้าแล้ว ผิงจะไม่เรื่องมาก
" เสร็จแล้วกลับเลยใช่ไหม เฮียมีธุระต้องไป"
"ยังค่ะ ผิงอยากไปดูหนัง มีหนังผีเข้าใหม่ผิงอยากดู เฮียภูไปดูเป็นเพื่อนผิงหน่อยนะ นะคะๆ" เหอผิงจับที่แขนล่ำสันข้างแก้มเนียนถูไปตามกล้ามเนื้อแน่นท่าทางออดอ้อนสุดฤทธิ์...วิธีนี้ได้ผลทุกครั้ง
"ไม่ได้ วันนี้เฮียมีธุระสำคัญ เดี๋ยวเฮียจะไปส่งผิงที่บ้านก่อน" ภูริพัฒน์มองดูนาฬิกาก็พบว่าสายมากแล้วเขาต้องรีบไป หากช้ากว่านี้คงไม่ทันแน่
" แต่อาแปะบอกกับผิงว่า เฮียว่างทั้งวันนี่คะ ยังไงผิงก็ไม่ยอม เฮียต้องอยู่กับผิง" เหอผิงเองก็ไม่ยอมก่อนมาเขาก็ยังไม่มีธุระ แล้วอยู่ๆจะมีธุระสำคัญได้ยังไง นางร้ายจะกลายร่างแล้วนะ
"ผิงอย่าดื้อ ผิงเป็นอย่างนี้ไง เฮียถึงไม่ชอบ เฮียไม่ชอบเด็ก" เขาเหนื่อยที่จะพูดกับเด็กไม่รู้จักโต เห็นกันมาตั้งแต่เด็กเหอผิงก็ยังไม่โตสักที...
"ผิงไม่เด็กแล้วนะ เฮียดูสิผิงเป็นสาวเต็มตัวแล้ว นมผิงก็มีตูดผิงก็มี ตรงนั้นผิงก็มีไม่เด็กแล้วด้วย" พูดถึงเรื่องนี้ทีไรเหอผิงของขึ้น คำก็เด็กสองคำก็เด็ก เด็กแล้วไงเด็กก็มีหัวใจนะเว้ยยย... อายุก็ห่างกันแค่สิบกว่าปีทำเป็น
"เด็กก็คือเด็กเฮียปวดหัว ไปขึ้นรถเฮียจะไปแล้ว" ภูริพัฒน์เดินนำไปยังลานจอดรถ เขาไม่มีเวลามาคุยกับเด็กหรอก
" เดี๋ยวสิ เฮียภู รอผิงด้วย" เหอผิงรีบก้าวเร็วตามร่างสูงไป คนอะไรไม่รอให้เธอได้โกรธเลย หายไปละ เดินเร็วชะมัด
ปัง! เสียงปิดประตูรถดังขึ้นเมื่อเหอผิงขึ้นไปนั่งฝั่งข้างคนขับแล้ว
เงียบ.....
ในรถเกิดความเงียบเมื่อไม่มีใครพูดกัน ดูแล้วฝั่งที่เป็นฝ่ายหงุดหงิดคงหนีไม่พ้น เหอผิง ทั้งโกรธทั้งหงุดหงิด...ความอยากรู้อยากเห็นในหัวเต็มไปหมด ผู้หญิงเสียงหวานที่โทรมาหาเฮียภูเป็นใครกัน?
"เฮีย" สุดท้ายเธอก็ทนไม่ได้
"ว่า" สายตามองตรงไปยังถนน
"เฮียมีผู้หญิงอื่นใช่ไหม" ความอัดอั้นกลั่นเป็นน้ำตาจวนจะไหล...สองตาเรียวรีแดงก่ำ
"ผู้หญิงอื่นอะไร" ภูริพัฒน์จำต้องชะลอความเร็วลงเมื่อได้ฟังคำถาม
"ผิงรู้ที่เฮียไม่เหมือนเดิม เฮียมีผู้หญิงใช่ไหม" น้ำตาหยดลงข้างแก้มจนเหอผิงต้องรีบปาดทิ้ง เธอจะอ่อนแอไม่ได้ เพราะมันจะแปลว่าเธอแพ้
"ผิง เฮียยังไม่อยากเถียงกับเด็ก เลิกพูดเรื่องนี้เฮียไม่ได้มีใครทั้งนั้น" เขาเริ่มเหนื่อยละ คุยกับเด็กนี่มันเหนื่อยจริงๆ แล้วอีกอย่างเขาจะมีผู้หญิงอื่นหรือคุยกับใครมันก็ไม่เกี่ยวกับเธอ อย่าคิดว่าเป็นคู่หมั้นเขาแล้วจะเข้ามายุ่งได้ทุกเรื่อง..
" ไม่จริง เฮียมี ก็ผู้หญิงคนนั้นไง ผู้หญิงในโทรศัพท์มันสำคัญกับเฮียมากหรือไง ผิงรู้ว่าเฮียกำลังจะไปหามัน" เธอรักมากเธอก็หึงหวงมาก..มากจนจะสติหลุด บทนางเอกที่พยายามฝึกมาพังลง นางร้ายก็คือนางร้าย
" ผิงอย่าเรียกคนอื่นว่ามัน!"
รถหรูตีไฟเลี้ยวจอดลงข้างทางอย่างกะทันหัน
" ทำไมผิงจะเรียกมันไม่ได้ มันเป็นใคร มันเป็นใครกันทำไมผิงจะเรียกมันไม่ได้" ความโกรธของเหอผิงพุงปี๊ดขึ้นสุด จนเธอควบคุมมันไม่ได้ แค่คำว่ามันยังพูดไม่ได้ ผู้หญิงคนนั้นมันสำคัญแค่ไหนกัน.. กรี๊ดอยากจะกรี๊ด
"ถ้าผิงยังไม่หยุดพูด ก็ลงจากรถไป" ภูริพัฒน์ชี้นิ้วสั่งให้เธอลงจากรถด้วยความเหลืออด
"ไม่ผิงไม่ลง ผิงจะพูด มันๆๆๆมันๆๆ" เหอผิงพูดออกไปราวกับคนเสียสติยิ่งเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นสำคัญกับเฮียแค่ไหนเธอก็เจ็บปวดใจเกินกว่าจะควบคุมได้
ปัง!!!
เสียงปิดประตูรถฝั่งคนขับดังขึ้น เสียงดังสนั่นจนคนด้านในรถสะดุ้งตกใจ
"ลงมา! เฮียบอกให้ลงมา"
เมื่อลงมาอีกฝั่งได้เขาก็เปิดประตูรถไล่ให้ร่างบางลงมา
"ไม่! ผิงไม่ลง เฮียใจร้าย เฮียไล่ผิงเพราะมัน" เขื่อนน้ำตาที่กลั้นไว้ก็ใกล้จะแตกอีกแล้วเป็นนางร้ายนี่มันไม่ง่ายเลยเจ็บปวดยิ่งนักเมื่อรู้ว่าพระเอกกำลังจะไปจากเธอ...
"จะลงหรือไม่ลง"
" ไม่ลง" เหอผิงยังคงนั่งตัวเกร็งยิ่งผยองอยู่บนรถเธอมั่นใจว่าเฮียภูไม่กล้าทำอะไรมากกว่านั้น
" หนึ่ง....สอง..."
" เฮียภู!"
"สาม" มือหนาแข็งดังคีมเหล็กจับลงที่ข้อแขนเล็กเขาออกแรงเพียงนิดเดียวร่างบางก็เซลงมาจากรถ ด้วยส้นสูงทำให้เหอผิงเกือบล้มลงกับพื้นยังดีที่มือหนาคว้าไว้ทัน...
กรี๊ด!!
เสียงกรี๊ดดังลั่นจากปากเล็กสีแดงสด..
"เฮียกล้าไล่ผิงออกจากรถหรอ กรี๊ด! ผิงจะฟ้องอาแปะผิงจะฟ้องอาเตี่ย คอยดูผิงจะฟ้องทุกคน" เหอผิงกรี๊ดไปบ่นไป ในแบบคนเสียสติมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่รถสปอร์ทคันหรูได้เคลื่อนตัวออกไปแล้ว...