ตอนที่ 5

1193 Words
ใกล้ค่ำของวันเดียวกันนั้นเขตต์ตะวันขับรถออกไปจากบ้านเพื่อสังสรรค์กับก๊วนเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันนาน เขาใช้เวลาอยู่กับเพื่อนๆ จนดึกดื่น กลับเข้ามาถึงฟาร์มในสภาพเมามาย เมื่อเดินโซเซขึ้นบันไดมาจนถึงชั้นสองของบ้าน แทนที่จะเข้าห้องของตัวเอง แต่กลับมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องนอนของฟางข้าว ความเมาไม่ได้ทำให้เขาลืมรสชาติจูบแสนหวานของคนตัวเล็กที่คงกำลังนอนหลับอยู่ในห้อง ช่างน่าแปลกที่ผู้หญิงคนนี้สามารถทำให้เขารู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้นมาทุกครั้งเมื่อนึกถึงใบหน้าสะสวย นึกถึงเรือนร่างเอิบอิ่มอรชร นึกถึงทรวงอกอวบใหญ่ที่เบียดกระแทกเข้ากับลำตัวของเขาอย่างจังเมื่อตอนเย็น น่าแปลกนัก... กลิ่นสาบสาวของเธอยังหอมกรุ่นอยู่ที่ปลายจมูกของเขาราวกับเพิ่งแยกออกจากเหตุการณ์เมื่อตอนเย็น ทั้งที่ก็ผ่านมานานหลายชั่วโมง ก็อกๆ... เขตต์ตะวันตัดสินใจเคาะประตูห้อง ฟางข้าวสะดุ้งตื่น เพราะเพิ่งหลับได้เพียงครู่สั้นๆ และเข้าใจว่าคนที่มายืนเคาะประตูห้องตอนดึกดื่น น่าจะเป็นมารดาของเธอ จึงลุกขึ้นจากเตียง เดินมาเปิดประตูโดยไม่คิดว่าจะเจอหน้าผู้ชายคนที่เธอพยายามหลบ “พ่อเลี้ยง... !” หญิงสาวอุทานด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าคนที่มายืนเคาะประตูไม่ใช่นางวิไลมารดาของเธอ ทว่าตอนที่กำลังจะดึงประตูกลับเพื่อไม่ให้เขาเข้ามา ร่างสูงใหญ่ก็ดื้อดึงเอาตัวขวางประตูไว้แล้วแทรกเข้ามาจนได้ “อย่าเข้ามานะ” ฟางข้าวพยายามดันประตู แต่พ่อเลี้ยงเรี่ยวแรงเยอะเหลือเกิน เขาออกแรงไม่เท่าไรก็เบียดเข้ามาอยู่ร่วมห้องกับเธอได้ในที่สุด “นี่เธอกล้าไล่เจ้าของบ้านเชียวหรือ?” เสียงเหี้ยมตวาดลั่น เขาเอื้อมมือมาบีบกรามของเธอจนเจ็บ หญิงสาวสะบัดใบหน้าต่อต้าน ทำให้มือใหญ่ของเขาหลุดจากกรามที่โดนบีบแน่น “แต่นี่มันห้องนอนของฟางนะคะ” สาวน้อยอ้างสิทธิ์ หากคำตอบของคนพาลก็ถึงกับทำให้เธออึ้งกับความไม่มีเหตุผลของเขา “ห้องนอนเธอยังงั้นรึ... เข้าใจผิดไปแล้ว เพราะว่าทุกอย่างในบ้านหลังนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของฉัน... ฉันจะถือว่าอะไรที่อยู่ในบ้านหลังนี้เป็นของฉันทั้งหมด เพราะฉะนั้นฉันจำทำอะไรก็ได้ รวมทั้งตัวเธอด้วย” “มันเป็นเหตุผลที่บ้าบอที่สุด... พ่อเลี้ยงรีบออกไปเถอะค่ะ ตอนนี้มันดึกมากแล้วนะคะ” เสียงของฟางข้าวอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ด้วยคิดว่าถ้าพูดกับเขาดีๆ ขอร้องเขา บางทีพ่อเลี้ยงอาจจะยอมออกไปจากห้อง แต่เธอคิดผิดถนัด “ลืมไปแล้วหรือยังไงว่าเมื่อตอนเย็นเธอตบหน้าฉัน คิดหรือว่าคนอย่างฉันจะยอมให้ใครตบฟรีๆ โดยไม่เอาคืน”             “เอาคืน... พ่อเลี้ยงหมายความว่ายังไงคะ?”             หญิงสาวทวนคำด้วยน้ำเสียงหวาดๆ             “เอาคืน... ก็หมายความว่าฉันจะ ‘เอาเธอ’ ยังไงล่ะ อย่าแกล้งทำเป็นเข้าใจอะไรยากหน่อยเลยน่ะ บอกตรงๆ ว่าฉันชอบเธอนะ นมใหญ่ สะโพกใหญ่แบบนี้น่าจะขย่มมันสุดๆ”             ดวงตาของเขาวาวโรจน์ไปด้วยเพลิงราคะ เขตต์ตะวันพูดพลางสืบเท้าเข้าหาฟางข้าว คนที่รู้ว่าภัยกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้รีบตั้งสติแล้วทำท่าว่าจะวิ่งหนีออกไปจากห้อง แต่ช้ากว่ามือของพ่อเลี้ยง “จะไปไหน” ท่อนแขนกำยำของเขาเหวี่ยงออกมารัดรวบเอวเธอเอาไว้แล้วกอดแน่น “อื๊อ... คนบ้า อย่าทำอะไรฟางนะคะพ่อเลี้ยง” เสียงร้องวิงวอนน่าเวทนา “เดี๋ยวเราจะสนุกด้วยกัน... เรามาเล่นผัวเมียกันดีกว่า... ฉันอยากเล่นจ้ำจี้กับเธอ” “ไม่นะ... ฟางไม่เคย” “ก็ทำแบบที่เธอเคยทำ มีเซ็กส์กันไม่เห็นจะยาก คนที่เคยใช้ชีวิตอยู่กับงานกลางคืนอย่างเธอกับแม่ของเธอน่าจะพบเจอเรื่องแบบนี้บ่อยๆ  อย่ามาแกล้งตีหน้าซื่อว่ายังบริสุทธิ์สดใสไร้เดียงสาอยู่เลยน่ะ” พูดจบเขาก็กระชากเธออย่างแรงแล้วผลักลงไปบนที่นอน “ทำไมต้องทำรุนแรงด้วยล่ะ”  “ก็เพราะว่าผู้หญิงอย่างเธอไม่คู่ควรกับความนุ่มนวลใดๆ ทั้งนั้นน่ะสิ” เขตต์ตะวันตอบด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น สายตาของเขากวาดสำรวจไปทั่วเรือนกายของเธออย่างหื่นกระหายที่จะได้เชยชม             “อย่าทำอะไรฟางนะคะพ่อเลี้ยง… ฮือๆ สงสารฟางเถอะค่ะ” ร่างบอบบางของหญิงสาวสั่นเทาราวกับลูกนก เธอยกมือไหว้วิงวอนทั้งน้ำตา กระถดกายถอยหนีจนแผ่นหลังกระแทกเข้ากับผนังด้านหนึ่งของเตียง ขณะเขตต์ตะวันกำลังถอดเสื้อผ้าของตัวเอง             “อย่าเข้ามานะ… ” อึดใจต่อมาร่างของพ่อเลี้ยงก็อยู่ในสภาพล่อนจ้อนเปลือยเปล่าโดยไม่มีความกระดากอายต่อสายตาของหญิงสาวแต่อย่างใด “ทำให้ฉันมีความสุข... ถ้าถูกใจฉันสัญญาว่าจะเก็บเธอเอาไว้เป็นนางบำเรอ... เหมือนอย่างที่พ่อฉันเอาแม่เธอมาอยู่ในบ้านเพื่อเป็นนางบำเรอ” ร่างซึ่งกำยำและเต็มไปด้วยมัดกล้ามของพ่อเลี้ยงเขตต์ตะวันโถมเข้าหาเรือนร่างน้อยๆ ของฟางข้าวโดยที่หญิงสาวไม่ทันได้ตั้งตัว “ฮือๆ... อย่าทำอะไรฟางเลยนะคะ” พ่อเลี้ยงพยายามเบียดลำตัวหนา แทรกเข้าไประหว่างง่ามขาที่ถูกบังคับให้อ้ากว้างออกรับลำตัวใหญ่โตของเขา       “ไม่เอานะ... ฮือๆ ฟางไม่เอา” กำปั้นน้อยๆ รัวตีปั้นไหล่ของเขาพัลวัน หากแต่ร่างกำยำที่โถมทับอยู่บนเนื้อตัวของเธอกลับไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด “ไม่นะ... ฟางไม่เอา” สาวน้อยส่ายหน้าหวาดกลัว “แต่ฉันอยากเอา” ดวงตาของเขาวาวโรจน์ขึ้นด้วยความหื่นกระหายไม่ต่างจากซาตานผู้เต็มไปด้วยความกักขฬะ หยาบคาย ฝ่ามือทั้งสองข้างบีบขยำทรวงอกอวบใหญ่ของเธออย่างเมามัน “ฮือๆ... ” หยาดน้ำตากลมเกลี้ยงกลิ้งลงมาอาบนวลแก้มของฟางข้าว เขาไม่นุ่มนวลเลยสักนิด กลิ่นสุราที่กรุ่นมาจากลมหายใจของเขาช่วยยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าพ่อเลี้ยงกำลังอยู่ในอาการมึนเมาจนขาดสติ แต่นั่นก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่เขาจะเอามาเป็นเหตุผลในการกระทำย่ำยีกับสิ่งหวงแหนของเธอ “อู้ว... ของเธอทั้งอวบทั้งใหญ่ดีเหลือเกิน อย่างนี้เค้าเรียกว่านมใหญ่เกินตัว งั้นขอดูข้างล่างหน่อยนะว่าจะใหญ่เหมือนข้างบนหรือเปล่า” มือใหญ่สอดซุกเข้าใต้ชายชุดนอนบางๆ ล้วงลูบไปตามหน้าขาตึงเต็ม ตะล่อมล้วงหนั่นเนื้อรูปทรงสามเหลี่ยม เบียดกันจนอูมแน่นอยู่ตรงหว่างขา “ฮือๆ... ” สาวน้อยร้องไห้สะอึกสะอื้น เขากระชากสายชุดนอนบางๆ จนหลุดรุ่ยออกไปจากลาดไหล่สล้าง มืออีกข้าง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD