ใกล้ค่ำของวันเดียวกันนั้นเขตต์ตะวันขับรถออกไปจากบ้านเพื่อสังสรรค์กับก๊วนเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันนาน เขาใช้เวลาอยู่กับเพื่อนๆ จนดึกดื่น กลับเข้ามาถึงฟาร์มในสภาพเมามาย เมื่อเดินโซเซขึ้นบันไดมาจนถึงชั้นสองของบ้าน แทนที่จะเข้าห้องของตัวเอง แต่กลับมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องนอนของฟางข้าว
ความเมาไม่ได้ทำให้เขาลืมรสชาติจูบแสนหวานของคนตัวเล็กที่คงกำลังนอนหลับอยู่ในห้อง ช่างน่าแปลกที่ผู้หญิงคนนี้สามารถทำให้เขารู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้นมาทุกครั้งเมื่อนึกถึงใบหน้าสะสวย นึกถึงเรือนร่างเอิบอิ่มอรชร นึกถึงทรวงอกอวบใหญ่ที่เบียดกระแทกเข้ากับลำตัวของเขาอย่างจังเมื่อตอนเย็น
น่าแปลกนัก... กลิ่นสาบสาวของเธอยังหอมกรุ่นอยู่ที่ปลายจมูกของเขาราวกับเพิ่งแยกออกจากเหตุการณ์เมื่อตอนเย็น ทั้งที่ก็ผ่านมานานหลายชั่วโมง
ก็อกๆ...
เขตต์ตะวันตัดสินใจเคาะประตูห้อง ฟางข้าวสะดุ้งตื่น เพราะเพิ่งหลับได้เพียงครู่สั้นๆ และเข้าใจว่าคนที่มายืนเคาะประตูห้องตอนดึกดื่น น่าจะเป็นมารดาของเธอ จึงลุกขึ้นจากเตียง เดินมาเปิดประตูโดยไม่คิดว่าจะเจอหน้าผู้ชายคนที่เธอพยายามหลบ
“พ่อเลี้ยง... !”
หญิงสาวอุทานด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าคนที่มายืนเคาะประตูไม่ใช่นางวิไลมารดาของเธอ ทว่าตอนที่กำลังจะดึงประตูกลับเพื่อไม่ให้เขาเข้ามา ร่างสูงใหญ่ก็ดื้อดึงเอาตัวขวางประตูไว้แล้วแทรกเข้ามาจนได้
“อย่าเข้ามานะ”
ฟางข้าวพยายามดันประตู แต่พ่อเลี้ยงเรี่ยวแรงเยอะเหลือเกิน เขาออกแรงไม่เท่าไรก็เบียดเข้ามาอยู่ร่วมห้องกับเธอได้ในที่สุด
“นี่เธอกล้าไล่เจ้าของบ้านเชียวหรือ?”
เสียงเหี้ยมตวาดลั่น เขาเอื้อมมือมาบีบกรามของเธอจนเจ็บ หญิงสาวสะบัดใบหน้าต่อต้าน ทำให้มือใหญ่ของเขาหลุดจากกรามที่โดนบีบแน่น
“แต่นี่มันห้องนอนของฟางนะคะ”
สาวน้อยอ้างสิทธิ์ หากคำตอบของคนพาลก็ถึงกับทำให้เธออึ้งกับความไม่มีเหตุผลของเขา
“ห้องนอนเธอยังงั้นรึ... เข้าใจผิดไปแล้ว เพราะว่าทุกอย่างในบ้านหลังนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของฉัน... ฉันจะถือว่าอะไรที่อยู่ในบ้านหลังนี้เป็นของฉันทั้งหมด เพราะฉะนั้นฉันจำทำอะไรก็ได้ รวมทั้งตัวเธอด้วย”
“มันเป็นเหตุผลที่บ้าบอที่สุด... พ่อเลี้ยงรีบออกไปเถอะค่ะ ตอนนี้มันดึกมากแล้วนะคะ”
เสียงของฟางข้าวอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ด้วยคิดว่าถ้าพูดกับเขาดีๆ ขอร้องเขา บางทีพ่อเลี้ยงอาจจะยอมออกไปจากห้อง แต่เธอคิดผิดถนัด
“ลืมไปแล้วหรือยังไงว่าเมื่อตอนเย็นเธอตบหน้าฉัน คิดหรือว่าคนอย่างฉันจะยอมให้ใครตบฟรีๆ โดยไม่เอาคืน”
“เอาคืน... พ่อเลี้ยงหมายความว่ายังไงคะ?”
หญิงสาวทวนคำด้วยน้ำเสียงหวาดๆ
“เอาคืน... ก็หมายความว่าฉันจะ ‘เอาเธอ’ ยังไงล่ะ อย่าแกล้งทำเป็นเข้าใจอะไรยากหน่อยเลยน่ะ บอกตรงๆ ว่าฉันชอบเธอนะ นมใหญ่ สะโพกใหญ่แบบนี้น่าจะขย่มมันสุดๆ”
ดวงตาของเขาวาวโรจน์ไปด้วยเพลิงราคะ เขตต์ตะวันพูดพลางสืบเท้าเข้าหาฟางข้าว คนที่รู้ว่าภัยกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้รีบตั้งสติแล้วทำท่าว่าจะวิ่งหนีออกไปจากห้อง แต่ช้ากว่ามือของพ่อเลี้ยง
“จะไปไหน”
ท่อนแขนกำยำของเขาเหวี่ยงออกมารัดรวบเอวเธอเอาไว้แล้วกอดแน่น
“อื๊อ... คนบ้า อย่าทำอะไรฟางนะคะพ่อเลี้ยง”
เสียงร้องวิงวอนน่าเวทนา
“เดี๋ยวเราจะสนุกด้วยกัน... เรามาเล่นผัวเมียกันดีกว่า... ฉันอยากเล่นจ้ำจี้กับเธอ”
“ไม่นะ... ฟางไม่เคย”
“ก็ทำแบบที่เธอเคยทำ มีเซ็กส์กันไม่เห็นจะยาก คนที่เคยใช้ชีวิตอยู่กับงานกลางคืนอย่างเธอกับแม่ของเธอน่าจะพบเจอเรื่องแบบนี้บ่อยๆ อย่ามาแกล้งตีหน้าซื่อว่ายังบริสุทธิ์สดใสไร้เดียงสาอยู่เลยน่ะ”
พูดจบเขาก็กระชากเธออย่างแรงแล้วผลักลงไปบนที่นอน
“ทำไมต้องทำรุนแรงด้วยล่ะ”
“ก็เพราะว่าผู้หญิงอย่างเธอไม่คู่ควรกับความนุ่มนวลใดๆ ทั้งนั้นน่ะสิ”
เขตต์ตะวันตอบด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น สายตาของเขากวาดสำรวจไปทั่วเรือนกายของเธออย่างหื่นกระหายที่จะได้เชยชม
“อย่าทำอะไรฟางนะคะพ่อเลี้ยง… ฮือๆ สงสารฟางเถอะค่ะ”
ร่างบอบบางของหญิงสาวสั่นเทาราวกับลูกนก เธอยกมือไหว้วิงวอนทั้งน้ำตา กระถดกายถอยหนีจนแผ่นหลังกระแทกเข้ากับผนังด้านหนึ่งของเตียง ขณะเขตต์ตะวันกำลังถอดเสื้อผ้าของตัวเอง
“อย่าเข้ามานะ… ”
อึดใจต่อมาร่างของพ่อเลี้ยงก็อยู่ในสภาพล่อนจ้อนเปลือยเปล่าโดยไม่มีความกระดากอายต่อสายตาของหญิงสาวแต่อย่างใด
“ทำให้ฉันมีความสุข... ถ้าถูกใจฉันสัญญาว่าจะเก็บเธอเอาไว้เป็นนางบำเรอ... เหมือนอย่างที่พ่อฉันเอาแม่เธอมาอยู่ในบ้านเพื่อเป็นนางบำเรอ”
ร่างซึ่งกำยำและเต็มไปด้วยมัดกล้ามของพ่อเลี้ยงเขตต์ตะวันโถมเข้าหาเรือนร่างน้อยๆ ของฟางข้าวโดยที่หญิงสาวไม่ทันได้ตั้งตัว
“ฮือๆ... อย่าทำอะไรฟางเลยนะคะ”
พ่อเลี้ยงพยายามเบียดลำตัวหนา แทรกเข้าไประหว่างง่ามขาที่ถูกบังคับให้อ้ากว้างออกรับลำตัวใหญ่โตของเขา
“ไม่เอานะ... ฮือๆ ฟางไม่เอา”
กำปั้นน้อยๆ รัวตีปั้นไหล่ของเขาพัลวัน หากแต่ร่างกำยำที่โถมทับอยู่บนเนื้อตัวของเธอกลับไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด
“ไม่นะ... ฟางไม่เอา”
สาวน้อยส่ายหน้าหวาดกลัว
“แต่ฉันอยากเอา”
ดวงตาของเขาวาวโรจน์ขึ้นด้วยความหื่นกระหายไม่ต่างจากซาตานผู้เต็มไปด้วยความกักขฬะ หยาบคาย ฝ่ามือทั้งสองข้างบีบขยำทรวงอกอวบใหญ่ของเธออย่างเมามัน
“ฮือๆ... ”
หยาดน้ำตากลมเกลี้ยงกลิ้งลงมาอาบนวลแก้มของฟางข้าว เขาไม่นุ่มนวลเลยสักนิด กลิ่นสุราที่กรุ่นมาจากลมหายใจของเขาช่วยยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าพ่อเลี้ยงกำลังอยู่ในอาการมึนเมาจนขาดสติ แต่นั่นก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่เขาจะเอามาเป็นเหตุผลในการกระทำย่ำยีกับสิ่งหวงแหนของเธอ
“อู้ว... ของเธอทั้งอวบทั้งใหญ่ดีเหลือเกิน อย่างนี้เค้าเรียกว่านมใหญ่เกินตัว งั้นขอดูข้างล่างหน่อยนะว่าจะใหญ่เหมือนข้างบนหรือเปล่า”
มือใหญ่สอดซุกเข้าใต้ชายชุดนอนบางๆ ล้วงลูบไปตามหน้าขาตึงเต็ม ตะล่อมล้วงหนั่นเนื้อรูปทรงสามเหลี่ยม เบียดกันจนอูมแน่นอยู่ตรงหว่างขา
“ฮือๆ... ”
สาวน้อยร้องไห้สะอึกสะอื้น เขากระชากสายชุดนอนบางๆ จนหลุดรุ่ยออกไปจากลาดไหล่สล้าง มืออีกข้าง