บทที่ 1 พี่น้อง (ไม่) แท้

2039 Words
-Other- บ้านหลังใหญ่โตโอ่อ่าสองชั้น ตกแต่งด้วยสไตล์โอเรียนทอล กลิ่นอายจีน สะท้อนวัฒนธรรมตามแบบของเจ้าบ้าน รูปปั้นส่วนใหญ่แสดงถึงอานุภาพความยิ่งใหญ่ของตระกูลอย่างมังกร ซึ่งสถานที่แปลกใหม่นี้ทำให้รูม่านตาของเด็กหญิงตัวน้อยเบิกกว้าง แขนน้อย ๆ กอดตุ๊กตาเจ้าเน่ากระต่ายกินแครอทไว้แน่น แก้มใสในวัยเจ็ดขวบนั้นหวาดหวั่น เธอเงยหน้าขึ้นมองมารดาที่ลงจากรถพร้อม ๆ กันนี้ “คุณแม่คะ” “จ๋า ว่าไงจ๊ะ” วิกานดานั่งยอง ๆ คุยกับลูกสาว ลูบศีรษะเบา ๆ อย่างคนนึกเอ็นดูเด็กหญิงที่หวาดกลัวกับสถานที่ใหม่ “...หนูกลัว” “ไม่เป็นไรน้า เดี๋ยวลุงภูจะมารับเรานะ” “ลุงภู...” ตัวเล็กพึมพำเรียกชื่อตาม ด้วยความที่ยังพูดไม่ชัดเท่าไรนัก แต่ก็รับรู้ว่าคนที่แม่พูดถึงนั้นเป็นใคร เขาคือพ่อเลี้ยงของเธอ “นั่นไง มาแล้ว” วิกานดาพยักพเยิดหน้าไปทางผู้ชายร่างสูงใหญ่เชื้อสายจีนแต้จิ๋ว ชาวจีนแต้จิ๋วอพยพที่มาร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีที่ประเทศไทย หยางหมิงเช่อหรือชื่อใหม่ที่เป็นที่รู้จักกันในวงการธุรกิจว่าภูดิศ หรือเสี่ยภูเจ้าของอู่ โรงงานสำหรับประกอบชิ้นส่วนรถยนต์นำเข้าจากต่างประเทศ แม้นจะเปลี่ยนทั้งชื่อทั้งนามสกุล แต่เชื้อสายทางสายเลือดนั้นชัดเจนบนใบหน้าของเขา “มากันแล้ว เดี๋ยวเอาของอาวิเข้าไปไว้ที่ห้องอั้วเลยนะ” เดินมาชี้นิ้วสั่งคนรับใช้ ก่อนจะเดินเข้ามาหาสองแม่ลูกด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “รถติดมากค่ะ ดีแล้วที่พี่ไม่ได้ไปรับ” “หืม...บอกให้เรียกเฮียไงเล่า เรียกพี่ ๆ อยู่ได้ บอกไม่เคยจำเลยนะ ถ้าอาม่าอยู่คงเอาหลังมือเขกกระบาลอั้วแล้วว่าไม่สอนเมียให้เคารพผัว” เขาพูดออกมาว่าผัว ทำเอาคนที่เฝ้ารอคำคำนี้รู้สึกดี วิกานดาฉีกยิ้มอ่อนหวานไม่หยุด ก่อนที่ภูดิศจะโน้มตัวลงอุ้มหนูน้อยที่ยืนมองตาแป๋วขึ้นมา “เป็นไง ได้มาอยู่บ้านหลังใหญ่แล้วนะ ไม่ต้องอยู่แต่ในห้องคอนโดฯ สูดอากาศสดชื่นทุกวัน สดใสเหมือนกับชื่อของหนูนะ” ว่าแล้วก็หอมแก้มเล็กของหนูน้อยแรง ๆ ซึ่งแก้มใสก็ได้แต่ยิ้มน้อย ๆ อย่างคนกล้า ๆ กลัว ๆ เธอดันคางของผู้ชายคนนี้ออกเบา ๆ ด้วยความที่คิดว่าเขาเป็นแค่พ่อเลี้ยง ไม่จำเป็นต้องถึงเนื้อถึงตัวกัน แต่สำหรับคนเป็นแม่แล้ว เธอยินดีมาก ๆ “เข้าบ้านกันดีกว่า พี่ชายหนูรออยู่ข้างใน” ว่าแล้วก็อุ้มหนูน้อยเข้าไปในบ้าน เด็กหญิงวัยเจ็บขวบนั้นตัวเล็กมาก ผิวขาวอมชมพู และนัยน์ตาสีดำกลมโตนั้นทำให้เหมือนกับลูกแมวขี้อ้อน แถมยังมัดผมสองของข้างเหมือนกับหูแมวอีกด้วย ...ซึ่งเสียงของคนเป็นพ่อนั้นทำให้เด็กชายที่ถูกสั่งให้นั่งรอบนโซฟาเงยหน้าขึ้นมองหยางเฟยหลงเป็นชื่อที่คนรับใช้ภายในบ้านนั้นใช้เรียก รวมถึงญาติ ๆ ฝั่งพ่อรับรู้ แต่ชื่อไทยของเด็กชายวัยสิบขวบนี้มีความหมายเดียวกับชื่อภาษาจีนกลางว่ามังกร “อาหลง...หรือเฮียหลง ต่อไปนี้หนูเรียกพี่ว่าเฮียหลงนะ” คนเป็นพ่อแนะนำเด็กหญิงและเด็กชายให้ได้รู้จัก เธอมองเขาดวงตาใสแป๋วพร้อมกับก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายที่เต้นตึกตักตามสัญชาตญาณที่ไวต่อเพศตรงข้าม ส่วนเด็กชายมีใบหน้านิ่งเรียบ ไม่รู้ร้อนหรือหนาวราวกับเป็นคนไร้ความรู้สึก “ค่ะ” เธอตอบรับอย่างนอบน้อม “ส่วนลูก เรียกน้องว่าหมวยแก้มใสนะ” แม้นจะอพยพมานาน แต่บรรพบุรุษก็สั่งเสียว่าอย่างไรก็อย่าลืมขนบธรรมเนียมที่เคยพลัดถิ่นมา ภูดิศจึงยังใช้ภาษาบ้านเกิดและยังให้ลูกใช้สรรพนามเรียกญาติกันตามเดิม เพราะลำดับญาตินั้นสำคัญมากในครอบครัวชาวจีน กระนั้นเด็กชายก็เพียงแค่มองนิ่ง มังกรนั้นรู้ความแล้ว ซึ่งแม่ของเขาจากไปได้สามปี วันดีคืนดีคนเป็นพ่อก็บอกว่าจะแต่งงานใหม่ เขาไม่พอใจเท่าไรนัก แถมแม่ใหม่ยังมีลูกติดอีกด้วย “อาหลง ทำไมไม่ตอบล่ะ” “อย่าเร่งเลยค่ะ ให้เวลาเด็กหน่อยนะคะ” วิกานดาเห็นท่าไม่ดี เธอเดินเข้ามาใกล้ นั่งยอง ๆ ลงตรงหน้าเด็กชายคนนี้ “หน้าตาหล่อเหลาตั้งแต่เด็กเลย น้าฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ ฝากน้องแก้มใสด้วยนะ” เธอยื่นมือออกไปข้างหน้าหมายจะแตะไหล่อย่างเป็นมิตร แต่มังกรก็ขยับออกราวกับว่ารังเกียจนักหนา การกระทำของเขาทำให้เด็กหญิงแก้มใสรับรู้ว่าเขาไม่พอใจเท่าไรนักที่จะรับเธอและแม่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน แต่แล้ว หมับ! “อ๊ะ!...” อยู่ ๆ คนเป็นพ่อก็ยื่นมือมาคว้าต้นแขนของเขาอย่างแรง กระชากเบา ๆ ให้เด็กชายไปคุยด้วย “เตี่ย...อั้วเจ็บนะ!” สายตานั้นเพ่งเล็งไม่พอใจ เด็กชายมองคนเป็นพ่อด้วยสายตาเกลียดชัง “อั้วบอกลื้อแล้วใช่ไหมว่าถ้าอั้วพาอาวิมาที่บ้าน ลื้อต้องเคารพ” มังกรไม่ได้ตอบ เพียงแต่ทำสายตาถมึงทึงใส่ผู้เป็นพ่อ แววตานั้นแข็งกร้าว สายตาของคนทั้งคู่ฟาดฟันกันไม่หยุด แต่ท้ายที่สุดแล้วภูดิสก็ยอมจำนน มองแววตาเศร้าหมองของลูกชายก็รู้สึกผิด ยอมผ่อนปรนในที่สุด “ถ้าลื้อไม่รับอาวิเป็นม๊า ลื้อก็อย่าทำตัวไม่น่ารักก็แล้วกัน ต่างคนต่างอยู่เข้าใจม้าย” ในบางคำที่คนเป็นพ่อพูดนั้นมีภาษาจีนแต้จิ๋วบ้านเกิด เด็กชายฟังออกและพูดได้ แต่เขาไม่ชอบเท่าไรนัก “ลื้อได้ยินที่อั้วพูดม้าย” มังกรไม่ตอบ เขาดึงแขนออกจากการเกาะกุมของผู้เป็นพ่อ ก่อนจะเดินหนีหายขึ้นไปบนบ้าน “เฮ้อ เมื่อไหร่จะโตนะอาหลง” คนเป็นพ่อพ่นลมหายใจออกมา หากว่าโตขึ้นแล้วความคิดอ่านเขียนของคนเป็นลูกคงดีขึ้น อย่างน้อยก็อยากให้เข้าใจความรู้สึกของพ่อ ว่าการถูกบังคับให้แต่งงานกับผู้เป็นแม่นั้นรู้สึกเช่นไร “เฮีย...เป็นไงคะ ฉันเห็นเงียบไปนานเลยมาตาม” วิกานดาเดินมาหา เอ่ยพูดปดไม่ให้อีกฝ่ายรู้ มาตามอย่างนั้นหรือ...เธอแอบฟังนานแล้วต่างหาก “ก็ไม่เป็นไรมากหรอกจ้ะ” “ค่ะ ว่าแต่เมื่อไหร่เฮียจะบอกว่าจริงกับเขาล่ะคะว่าหนูแก้มใสเป็น...” “อั้วบอกให้รอก่อนไง ให้อาหลงโตกว่านี้อีกหน่อย เขาเพิ่งเสียแม่ไป ยังทำใจไม่ได้หรอกที่จะบอกความจริง” เธอยังพูดไม่ทันจบเสียด้วยซ้ำ วิกานดาเพียงแค่ยิ้มรับบาง ๆ เพิ่งเสียไปอย่างนั้นหรือ เสียไปตั้งสามปีแล้ว เวลาที่ผ่านมาคนรออย่างเธอใจจะขาดรอน ๆ ส่วนคนไม่ได้รออย่างเขาจะไปเข้าใจอะไร.... หลายเดือนต่อมา... ตุ๊กตากระต่ายเน่าของอาหมวยแก้มใสระเกะระกะสายตาของเขาเป็นอย่างมาก มังกรเลือกที่จะอยู่เงียบ ๆ เพียงลำพัง แต่น้องสาวต่างพ่อต่างแม่คนนี้ก็ช่างกวนใจ ชอบมาเดินวนและทำเสียงกุ๊งกิ๊งปัญญาอ่อนให้เขาได้ยิน “หนวกหู! ไม่เห็นหรือไงว่าฉันกำลังทำการบ้าน!” เด็กหญิงสะดุ้งเฮือก เพราะเล่นบทบาทสมมติกับเจ้าตุ๊กตาจึงต้องทำเสียงพูดคุย แต่พี่ชายคงไม่ชอบใจเท่าไรนัก “ขะขอโทษค่ะ” “ออกไปให้พ้น ๆ เลยนะ อย่าเข้ามาใกล้!” มังกรชี้นิ้วไล่เด็กหญิงให้ออกจากห้องนั่งเล่นที่เขากำลังทำการบ้านอยู่ แต่ทว่า “ฮึก ฮือ~” ความตกใจทำให้เธอส่งเสียงร้องไห้ออกมาเสียอย่างนั้น ทำเอามังกรทำตัวไม่ถูก เด็กชายรีบลุกขึ้นเดินไปหา ยกมือขึ้นตะปบปากให้น้องสาวหยุดร้อง “หยุดร้องนะ!” ขู่เสียงเข้ม ถ้าผู้เป็นพ่อได้ยินคงไม่ดีแน่ ผู้เป็นพ่อมาทำโทษเขาแน่ หาว่ารังแกน้อง ทั้ง ๆ ที่เขาไม่คิดยุ่งด้วย ต่างคนต่างอยู่แล้วแท้ ๆ “ฮึก...” กระนั้นเธอเองก็เป็นห่วงพี่ชายไม่อยากให้ถูกตี ยอมกลั้นเสียงร้องไห้ของตัวเองไว้ หลายวันมานี้เฮียหลงถูกพ่อเลี้ยงตีบ่อยมาก ด้วยความที่คนเป็นพี่ไม่เชื่อฟังคำสั่งของผู้เป็นพ่อ “ดีมาก เอานี่...ลูกอม” เขาล้วงมือเข้ากระเป๋ากางเกงก่อนจะยื่นอมยิ้มให้เธอ หนูน้อยมองแล้วก็ฉีกยิ้มทั้งน้ำตา เพราะชอบอมอมยิ้มเป็นอย่างมาก เด็กหญิงยื่นมือไปรับโดยไว “แล้วทีหลังก็อย่าร้องไห้อีกนะ” “ค่ะ” เธอแกะเปลือกลูกอมไม่ได้ จึงยื่นให้พี่ชายช่วยแกะให้ ซึ่งเขาก็รับมาด้วยใบหน้าเบื่อหน่าย “ขอบคุณค่ะ” “เฮ้อ...” เขาพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ อาหมวยแก้มใสมีใบหน้าจิ้มลิ้ม แก้มใสกิ๊กเหมือนกับชื่อนี้ทำให้เขาลอบมองอยู่หลายครั้ง “อย่าพูดเสียงดังล่ะ เอากระดาษไปเขียนหนังสือดีกว่า” “คะ?” เด็กหญิงยังเขียนไม่ได้เสียด้วยซ้ำ นี่เขากะจะบังคับเธอหรือ แต่พอเห็นสายตาของเขาก็ทำให้เธอเป็นอันต้องหลบสายตา ยอมเดินไปนั่งข้าง ๆ พร้อมกับรับกระดาษมาคัดก.ไก่ที่ชายเขียนให้ “เขียนให้หมด แล้วจะให้อมยิ้มอีก” “จะจริงเหรอคะ” “อือ” “เย่ ดีใจที่สุดเลย” เธอยกกำปั้นขึ้นชูเหนือศีรษะด้วยความดีใจที่จะได้อมอมยิ้มอีก ทำให้เด็กชายกระตุกยิ้มบาง ๆ อันที่จริงเขาก็ไม่ได้รังเกียจน้องสาวต่างพ่อต่างแม่คนนี้นักหรอก เพียงแต่ว่าไม่ชอบที่พ่อบังคับเขาทุก ๆ อย่าง หากว่าพ่อบังคับให้รับน้องคนนี้มาเป็นน้องแท้ ๆ ของเขา เด็กชายก็อยากฝืนขัดคำสั่ง ขัดทุก ๆ อย่างที่คนเป็นพ่อสั่งก็เท่านั้น แต่แล้ว “แก้ม!! แม่ได้ยินเสียงร้องไห้แว่ว ๆ” อยู่ ๆ เสียงของวิกานดาก็ดังลั่นเข้ามาในห้องนั่งเล่น ทำให้คนทั้งคู่ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง “แม่คะ...” “ทำไมหนูร้องไห้!!” เสียงโหวกเหวกโวยวายของวิกานดาทำให้มังกรกำมือเข้าหากันแน่น ดูก็รู้ว่าหล่อนอยากให้พ่อของเขามาได้ยิน “อึก นะหนูไม่ได้ร้องไห้” เธอซ่อนแววตาไม่ให้คนเป็นแม่เห็น แต่ใบหน้าที่ยังมีคราบน้ำตาอยู่นี้ทำให้วิกานดาไม่เชื่อ ซึ่งไม่นานเสียงของภูดิศก็ดังตามหลังมา “เกิดอะไรขึ้น!” เสียงทุ้มสำเนียงแปร่ง ๆ ภาษาจีนนี้เต็มไปด้วยความโมโห เดินมาถึงก็คว้าต้นแขนของลูกชายอย่างแรง “แกทำอะไรอาหมวยอีก!!” “ผมไม่ได้ทำนะเตี่ย!” “ไม่ได้ทำได้ไง ทำไมน้องร้องไห้!” ว่าเสียงดัง ก่อนจะลากแขนของลูกชายออกมา มองหาไม้เรียวไม่เจอเลยถอดเข็มขัดออกจากหัวกางเกงด้วยความรวดเร็วอย่างไร้เหตุผล นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อาหมวยแก้มใสร้องไห้ ซึ่งเขามองว่าถ้าไม่ตีสั่งสอน เจ้าลูกชายคนนี้ก็จะรังแกหนูแก้มใสอีก “ฮึก เฮียไม่ได้ตีหนูนะ!” แก้มใสพยายามช่วย แต่มารดาก็หันมาเขม้นสายตาใส่อย่างไม่พอใจ ขู่ไม่ให้ลูกสาวพูดอะไร ซึ่งเธอก็กลัวคนเป็นแม่มาก เพียะ! เพียะ! เพียะ! สายเข็มขัดถูกฟาดลงที่ก้นของเด็กชายหลายต่อหลายครั้ง มังกรเจ็บแปล๊บทั้งกายและใจ “อึก เตี่ย...ผมบอกว่าไม่ได้ทำ” เขากัดฟันกรอดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลพรากออกมา เด็กชายอายุสิบย่างสิบเอ็ดขวบนี้กำมือเข้าหากันแน่น มองสองแม่ลูกด้วยความโกรธแค้น จากที่คิดไม่รังเกียจ แต่พอเห็นแม่ของเธอที่มองมาด้วยความสะใจนี้...เด็กชายก็เกลียดน้องสาวคนนี้ขึ้นมาเสียดื้อ ๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD