“หงุดหงิดอันใดงั้นรึ” หลังรอให้หญิงสาวใจเย็นลง ไคเฉิงจึงได้เอ่ยถาม ความจริงเรื่องในตระกูลจ้าวนั้นเขาก็ไปสืบมาแล้ว แต่ก็ไม่ลึกเท่าคนใน ไม่น่าจะเป็นไปได้หากว่าจ้าวจื่อเวยผู้นี้จะโกรธแค้นแทนพี่สาว ท่าทางดูจะมีปากเสียงกับคนอื่น ๆ เสียมากกว่ากระมัง “พระองค์ทรงอยากจะรู้เรื่องของหม่อมฉันเสียจริงนะเพคะ” “หึหึหึ เจ้าอย่าลืมสิว่าตั้งแต่เจ้าตัดสินใจใส่เครื่องประดับชุดนี้ เจ้านับเป็นสตรีของข้าแล้ว หืม...ว่าอย่างไร ใครทำให้ว่าที่พระชายาไม่พระพระทัยหรือพ่ะย่ะค่ะ” จื่อเวยไม่อยากจะเชื่อว่าบุรุษตรงหน้าของนางจะสามารถเอ่ยคำหยอกล้อเป็นกับเขาด้วย นางได้แต่มองเขาตาปริบ ๆ ดูเหมือนสวี่ไคเฉิงจะชมชอบของสวย ๆ งาม ๆ อย่างข่าวลือจริง ๆ ชายหนุ่มไม่สนใจว่าใครจะมองมาที่พวกตนอยู่แม้แต่น้อย เขายกมือขึ้นมากุมใบหน้าของนาง ก่อนจะเกลี่ยเบา ๆ ราวกับกลัวว่าหากทุกแรงใบหน้างาม ๆ นี่จะมีรอยช้ำ มันเป็นการกระทำที่ชวนให้เขินอายไม่น