Ep.2 : สัญญา 1 ปี Nc

3760 Words
​ หลังจากวันที่เรากลับมาจากโรงพยาบาล ตอนไปเยี่ยมอาป๊าของเฮียหลง เฮียหลงดูมีสีหน้าเป็นกังวลมาก นั่นสินะ อยู่ๆ ต้องมารู้ว่าป๊ามีสิทธิ์ที่จะเป็นโรคหัวใจสูงมากแบบนี้ เค้าคงจะช็อกไปเลย "เฮียยยย ไม่เป็นอะไรนะคะ" ฉันถามคนที่นิ่งเงียบอยู่นานแล้ว เงียบจนฉันเองรู้สึกกลัว อย่างน้อยด่าฉันเหมือนทุกทีก็ยังดี "หลิน 1 ปี เราหย่ากันดีไหม เธอจะได้ไม่เสียเวลาในชีวิตกับคนที่ไม่ได้รักเธอ จะได้ไม่ต้องมาเสียใจที่อยู่กับฉัน ฉันจะยอมเป็นคนเลวเองก็ได้ จะไม่แตะต้องให้เธอมีราคีเลย" คำพูดที่เหมือนขวานบินร่อนแล้วปักเข้ากลางหัวใจ ฉันรักเค้ามา 16 ปีเลย มันซื้อเวลาจากเค้าได้แค่ปีเดียวเองหรอ ฉันแต่งงานเข้าบ้านเฮียมา เพื่อมาให้เฮียบอกว่า แต่งกันแค่ปีเดียวก็เลิกกันงั้นหรอ???? นี่มันคืออะไร "ฉันไม่ตกลง ฉันไม่โอเค ฉันไม่อะไรทั้งนั้น เฮียเห็นแก่ตัวเกินไปรึเปล่าคะ ฉันไม่ได้ทำแค่หน้าที่ผู้สืบทอด แต่ฉันยังทำตามหัวใจด้วย คำพูดที่เฮียพูดมาฉันจะเป็นไม่ได้ยินละกันนะคะ" ไม่อยากจะวิ่งหนีความจริงแบบนี้เลย แต่ฉันรู้สึกแย่เกินกว่าจะตั้งรับมันได้ ฉันขออยู่ให้ใจสงบลงกว่านี้อีกหน่อย แล้วจะกลับไปสู้ต่อ เมื่อก่อนเฮียหลงไม่ได้ใจร้ายแบบนี้ เค้าใจดีและน่ารักกว่านี้มาก ฉันทรุดตัวนั่งลงกอดเข่าอยู่ริมสระน้ำ แล้วปล่อยให้ภาพความทรงจำเดิมๆ ย้อนกลับไป 16 ปีที่แล้ว @การปิกนิคบนเขา อดีต "เฮียหลง อาเฟิงหายไปไหน หาอาเฟิงไม่เจอเลย" หลินหลิน เดินเกาะแขนชิงหลง เพื่อตามหาน้องสาวของชิงหลงที่หายไปขณะเล่นซ่อนแอบ "เกาะไว้ดีๆ นะ ถ้าหาไป เฮียไม่หาแล้วนะ" "อื้อ" หลินหลินเกาะแขนชิงหลงเอาไว้แน่น เพราะความมืดจากการลับลาจากไปของพระอาทิตย์ ทั้งสองคนตะโกนหาไป๋เฟิง ที่หนีไปแอบจนไม่มีใครหาเจอ เสียงตะโกนเรียกดังจนทั่วทุ่งหญ้าที่ตอนนี้แทบไม่เห็นแสง มีเพียงไฟแฟลชจากโทรศัพท์มือถือเท่านั้น ที่ส่องแสงนำทาง "อาเฟิงงงงงงง อาเฟิงงงงง อยู่ไหนส่งเสียงหน่อย" ชิงหลงตะโกนเรียกน้องสาวจนสุดเสียง โดยมีหลินหลินคอยตะโกนเรียกเป็นเพื่อน "อาเฟิงจะต้องกลัวมากแน่ๆ เลยเฮีย" "อื้อ งั้นเราเร่งฝีเท้ากันหน่อย อาหลินกลัวผีรึเปล่า" ชิงหลงถามเด็กสาวที่ตอนนี้เกาะแขนเค้าแน่น จนเค้าพอจะเดาออกว่าหลินหลินกำลังกลัว "ไม่ ไม่กลัว หลินมีเฮีย หลินไม่กลัวอะไรเลย" แม้เสียงที่ตอบจะสั่นรัว แต่หลินหลินก็พยายามจะเข้มแข็ง แล้วก้าวเดินต่อ ฟิ้ววววว~* เสียงลมพัดผ่านใบไม้ และต้นหญ้า ความมืดและเสียงแปลกๆ มันทำให้คนที่กลัวอย่างหลินหลินขาแข็งไปหมด หลินเผลอปล่อยแขนของชิงหลงอย่างไม่รู้ตัว กว่าจะรู้ตัวอีกที ความมืดก็ทำให้ทั้งคู่หากันไม่เจออีกแล้ว "เฮียหลงงงงงง!!!!! " "อาหลินนนนนน" เสียงตะโกนเรียกของชิงหลงทำให้หลินวิ่งเข้าไปหาต้นเสียงในความมืด แม้จุดที่ตัวเองเข้าไปใกล้จะมีกลิ่นของสิ่งเน่าเหม็น กว่าจะรู้ตัวอีกทีตัวเองก็โดนกระชากแขนจนกระเด็น ภาพทุกอย่างมันเร็วไปหมด สิ่งที่ทำให้เธอเห็นชิงหลงได้ มีเพียงแฟลชจากโทรศัพท์เท่านั้น ภาพของชิงหลงที่ตกลงสู่หลุมที่คนขุดไว้ใช้กลบฝังขณะของเน่าเสีย และสิ่งปฏิกูลต่างๆ "เฮียยยยยยย หลินจะไปหาคนมาช่วยนะ" ปัจจุบัน "คุณนายครับ คุณนายครับ" เสียงของกรีนที่เรียกทำให้ฉันต้องปาดน้ำตา แล้วหันไปมองต้นเสียง "ร้องไห้จริงๆ ด้วย ท่านชิงหลงขอให้ผมมาดู ว่าคุณโอเคไหม" กรีนมองฉันด้วยรอยยิ้ม "แต่เค้าจะมาสนใจทำไมกันคะ เค้าอยากจะหย่ากับฉันใจจะขาด อย่าโกรธเค้าเลยนะครับ เค้าไม่ได้แย่ขนาดนั้น แต่เค้าคิดเสมอว่าสิ่งที่เค้าเป็น มันไม่สามารถทำให้เค้าอยู่ร่วมกับใครได้ เข้าไปในบ้านเถอะครับ ฟ้าเริ่มมืดแล้ว" กรีนขอให้ฉันเข้าไปในบ้าน เพราะตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว "เชื่อเถอะค่ะ ถ้าฉันรู้ตั้งแต่ตอนนั้น ว่าถ้าเฮียตกลงบ่อของเสียงแล้วจะเป็นแบบนี้ ฉันยอมเป็นคนที่จะตกลงไปเอง" ฉันถอนหายใจยาวๆ ก่อนจะเดินตามกรีนเข้าไปในบ้าน แม้ฉันจะดีขึ้นก็ไม่ได้แปลว่าฉันจะหายโกรธคนที่มาขอหย่าหรอกนะ ฉันไม่คุยอะไรกับเฮียอีก แล้วตรงดิ่งขึ้นห้องทันที ไม่กินข้าวร่วมโต๊ะด้วย ที่โกรธไม่ใช่เพราะเค้าขอหย่าอย่างเดียว แต่เฮียตีค่าความรัก 16 ปีของฉัน ได้เล็กน้อยบ้าง เมื่อขึ้นมาถึงห้อง ฉันก็เปิดอินเทอร์เน็ตค้นหาโรคกลัวเชื้อโรคขึ้นมาทันที จะต่อสู้กับคนอารมณ์ไม่ปกติได้ ต้องเข้าใจเค้าก่อน มีคนเป็นแบบนี้ด้วยแฮะ แล้วจะรักษายังไง ฉันอ่านบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้เยอะมาก ​ ฉันดูทุกอย่างที่มีความจะเป็นไปได้ เคสนี้คล้ายฉันผิดตรงที่สามีฉันเช็ดแต่ตรงที่เค้าจะไป แต่ที่อื่นๆ จะมีกรีนเป็นคนเช็ดให้ ฉันคิดว่าฉันอาจจะต้องพบแพทย์แบบจริงจัง เกี่ยวกับโรคของสามี ถ้าเค้าหาย ฉันก็จะแตะตัวเค้าได้ แล้วเค้าก็จะแตะตัวฉัน แบบนี้ความคิดที่จะหย่ากับฉัน มันจะได้หายไป ฉันจะไม่ยอมหย่ากับเค้าเด็ดขาดเลย เช้าวันต่อมา......... วันนี้หลังจากทำอาหารเช้าให้สามีเสร็จ ฉันก็รีบตรงบึ่งมาที่โรงพยาบาลทันที เป้าหมายของฉันคือเฮียไค ถ้าใน The Heaven จะมีหมอที่เก่ง คงจะต้องเฮียไคนี่แหละ พอฉันได้คิวพิเศษมาเจอหมอที่เจอยากที่สุด ทำให้ฉันต้องรีบรวบรัด คุยปัญหาของฉันเพื่อไม่ให้รบกวนเวลาของเฮียไคมากนัก "เฮียไคคะ ฉันจะมาสอบถามเรื่อง โรคกลัวเชื้อโรคค่ะ มันมีทางรักษาไหม" ฉันจิ่งตรงประเด็นไม่อ้อมค้อม "เฮียว่าแล้ว ว่าอาหลินจะต้องมาสักวันหนึ่ง แต่ไม่นึกว่าจะเร็วขนาดนี้ โรคกลัวเชื้อโรค OCD (Obsessive Compulsive Disorder) หรือโรคย้ำคิดย้ำทำ เป็นอาการทางจิตที่ผู้ป่วยจะมีรูปแบบความคิดหรือความกลัวที่ไม่สมเหตุสมผลจนนำไปสู่การทำพฤติกรรมบางอย่างซ้ำไปซ้ำมา อย่างอาหลง คือจะนั่งเก้าอี้กได้แต่ละตัวเช็ดแล้วเช็ดอีก จะกินข้าวก็ต้องเอาผ้ามารองแขนไม่ให้สัมผัสกับโต๊ะ เฮียอาจจะไม่ได้เก่งเรื่องนี้นะ แต่มีคนที่เก่งเรื่องนี้ เฮียจะแนะนำให้รู้จัก" เฮียไคลุกขึ้นจากเก้าอี้ในห้องทำงานแล้วเดินนำฉันจนไปถึงห้องตรวจ ที่หน้าห้องเขียนชื่อแพทย์ที่ทำการตรวจอยู่ห้องนี้ นพ.เรย์ "หมอเรย์เป็นหมอที่รักษาทางด้านประสาทที่เก่งที่สุดเลย ลองคุยกันนะ เฮียลัดคิวให้แล้ว อย่าทำให้เสียเปล่าล่ะ เฮียก็รำคาญนิสัยรักสะอาดเกินไปของมันเต็มทนแล้ว นับวันยิ่งรุนแรง เรย์ผมฝากน้องสะใภ้ผมหน่อยนะ ไม่นานหรอก" เฮียไคส่งยิ้มให้ฉัน ก่อนที่จะไปยิ้มให้คุณหมอที่อยู่ด้านหลังของฉัน แล้วเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ฉันอยู่กับคุณหมอเรย์เพียงสองคน คุณหมอที่ดูจะอายุไม่เท่าไหร่ไม่น่าจะถึง 30 ปีแน่ๆ หน้าสวยราวกับรูปปั้น ​ หมอเรย์ =========================== ฉันไม่พูดพร่ำทำเพลงใดๆ เข้าเรื่องทันที บอกทุกประสงค์ที่มาทันที "คุณหมอเรย์คะ ดิฉันอยากทราบว่า โรคกลัวเชื้อโรค มันรักษาได้ไหมคะ" ฉันถามคุณหมอด้วยสีหน้าจริงจัง ทำให้คุณหมอยิ้มให้ฉันตามมารยาท "หายได้ครับ แต่ต้องใช้เวลาและความร่วมมือของคนไข้ ต้องมีกำลังใจที่ดี งานแต่งคุณผมได้ไปนะ แต่เราอาจจะไม่รู้จักกัน เข้าเรื่องนะครับ คุณกลัวเชื้อโรคหรือครับ" "ไม่ค่ะ ไม่ใช้ฉัน แต่สามีฉันเป็น ฉันต้องการรักษาเค้าให้หาย มีอะไรที่ฉันพอทำได้ไหมคะ" ฉันยิงคำถามใส่คุณหมอที่ตอนนี้มีสีหน้าครุ่นคิดก่อนจะหันมามองหน้าฉัน "พาเค้ามาเจอผมได้ไหม นอกรอบก็ได้ เพราะเอาจริงคิวงานผมเยอะจนไปถึงปีหน้าเลย ถ้าแทรกวันหยุดของผม อาจจะได้อยู่ แล้วสามีคุณ คุณชื่ออะไรครับ" หมอเรย์ถามชื่อของฉัน "หลินหลินค่ะ แต่จะหลินเดียวก็ได้" "อ่า แล้วสามีของคุณหลินเป็นในระดับไหนครับ" คุณหมอเรย์ถามฉันอีกครั้ง "ระดับที่ว่า ฉันแค่ปล่อยผม เปลี่ยนผ้าปูที่นอนไล่ออกจากห้องเลยอ่าค่ะ" ฉันถือคติอายหมอก็ไม่มีทางหาย ฉันเล่าอาการของคนเป็นสามีให้คุณหมอฟังอย่างละเอียด "โรคนี้ฉีดยาแล้วไม่หาย กินยาก็ไม่หาย หรือจะบำบัดที่โรงพยาบาลมันก็ไม่หาย เว้นแต่คนไข้เต็มใจที่จะรักษามันด้วยตัวเองนะครับ แต่มีภรรยาที่รักและดูแลขนาดนี้ผมว่าไม่ยากหรอกครับ คุณหลินต้องจำไว้อย่างนะครับ OCD คือความผิดปกติ ไม่ใช่อาการเจ็บป่วย" ต้องเต็มใจมารักษาเองงั้นหรอ ยากกว่าสร้างบ้านก็เอาเฮียมารักษาเนี่ยแหละ ฉันขอบคุณแล้วกล่าวลาคุณหมอโดยไม่ลืมเมมเบอร์ของหมอเรย์เอาไว้ถามในยามสงสัย ปัญหาของฉันมาแล้วสิ จะทำยังไงให้เฮียหลงยอมมารักษากันนะ เพื่อชีวิตรักของเฮียกับฉันเลยนะ เมื่อกลับมาถึงบ้าน คำถามแรกที่ฉันต้องเจอเลยคือ "ไปไหนมา" เสียงทุ้มต่ำของคนเป็นสามีถามขึ้นเมื่อก้าวแรกของฉันเหยียบพื้นบ้าน "โรงพยาบาลค่ะ" "ที่จริงมันก็ดีที่เธอไม่โกหก เพราะวันนี้ฉันไปเยี่ยมป๊าที่โรงพยาบาลมา แล้วเจอเธอกับอาไคทำอะไรลับๆ ล่อๆ จะไม่ถามหรอกนะว่าไปทำอะไร แค่อยากจะรู้ว่าเธอจะโกหกรึเปล่า ไปอาบน้ำซะตัวเชื้อโรค" นี่คือคำทักทายก่อนเข้าบ้านของคนเป็นสามีงั้นหรอ "หึงฉันหรือคะ" ฉันแกล้งแหย่คนที่เหมือนจะไปกินรังแตนมา เพราะพอฉันกลับมาถึงก็ใส่ฉันยับเลย "ไป...อาบ...น้ำ!!!! " เสียงที่เคล้นมาจากลำคอทำเอาฉันต้องถอนหายใจออกมา ในความเอาแต่ใจของคนเป็นสามี "คุณนาย ท่านชิงหลงรอทานข้าวอยู่นานแล้วครับ รีบไปอาบน้ำดีกว่าครับ" กรีนแทรกบทสนทนา เพื่อที่ฉันจะไม่โดนสามีหงุดหงิดไปมากกว่านี้ "ที่จริงทานก่อนก็ได้นิคะ ถ้าหิวก็ทานก่อน ไม่เห็นต้องอาบน้ำก่อนเลย" "เอ่ออออ" "ตามนั้น!!!! ....กรีนแกจัดการแล็บตัวตั้งแต่คอ จนถึงขาเลย อย่างให้มีเชื้อโรคกระเด็นออกมาเลยนะ สั่งให้ทำอะไรไม่ทำ ต้องเจอแบบนี้แหละ" แล้วคนชอบสั่งก็ตักอาหารเข้าปาก จะกินก่อน แล้วรอฉันกลับมาทำไมละคะ ไม่เห็นจะเข้าใจเลย แต่ไม่ทันที่ฉันจะสงสัยนาน กรีนก็เอาแผ่นแล็บอาหาร มาพัดรอบตัวฉันด้วยสายตาลำบากใจสุดๆ ตั้งแต่คอจนถึงขา รัดจนตึงเปรี๊ยะไปทั้งตัว แบบนี้จะนั่งกินกันยังไงละทีเนี้ยยยยย เฮียนี่มันเกินไปแล้วนะคะ!!!!!! ฉันต้องทนนั่งกินข้าวอย่างยากลำบาก แต่ก็นะ รอกินข้าวพร้อมฉันงั้นหรอ ไม่นึกเลยว่าจะมีอารมณ์แบบว่าอยากนั่งกินข้าวพร้อมฉันด้วย แต่จะให้ดี เราไม่ควรนั่งคนละฝั่งแบบนี้นะเฮีย เมื่อหันกลับมาสนใจอาหารบนโต๊ะของตัวเอง ชาตินี้หลินหลินจะกินไหมนะ เฮ้อออออ สู้!!!! ฉันเอื้อมมือที่ติดแล็บไปตักอาหารบนจาน "คุณนายครับ คนฝั่งนั้นฝากมาบอกว่า ขอโทษเรื่องเมื่อวาน แต่คำขอของเค้าอยากให้พิจารณาครับ" กรีนที่ต้องเล่นเป็นคนส่งสาร ช่างน่าสงสาร "ฝากไปบอกเค้าหน่อยนะคะ ฉันไม่หย่า จะอีกกี่สิบชาติก็ไม่หย่า" ฉันมองกรีนที่เอาประโยคของฉันไปบอกคนเป็นสามี แล้ววิ่งกลับมา "เค้าบอกว่า เค้าไม่มีวันรักคุณ ไม่อยากทำให้คุณต้องแปดเปื้อนเพียงเพราะหน้าที่ 1 ปี ที่คุณต้องทนอยู่ที่นี่ หลังจากนั้นคุณจะมีความสุขกับชีวิตโสด" ประโยคของกรีนทำเอาฉันเลือดขึ้นหน้า "ไปบอกเค้าค่ะ ฉันไม่หย่า ฉันรักเค้า" ฉันตะโกนขึ้นมาอย่างดัง ดังพอให้คนที่อยู่อีกฝั่งของโต๊ะได้ยิน "จะฝืนทนทำไม ไข่แดงก็ไม่ได้เจาะ ฉันเป็นแบบนี้ ฉันไม่มีวันจะให้สิ่งที่เธออยากได้ได้หรอก" แล้วคนที่อยู่อีกฝั่งก็ตะโกนขึ้นมาเสียงดัง "เฮ้อออออ คุยกันตั้งแต่แรกก็จบ" กรีนบ่นออกมาเสียงดัง "เงียบปากไปไอ้เขียว ฉันกำลังหงุดหงิด" "กระผมชื่อกรีน" "รักษาสิคะ ถ้าเฮียยอมรักษา ภายใน 1 ปีนี้ ฉันทำให้เฮียรักฉันไม่ได้ ฉันจะยอมหย่า แล้วหายไปจากชีวิตเฮียเลย" ฉันรีบเอามือปิดปาก เพราะตัวเองพลั้งปากอะไรไม่คิดออกไป "รักษางั้นหรอ คิดว่าฉันไม่เคยลองงั้นหรอ!!! เธอทิ้งฉันให้จมอยู่ในบ่อนั้น!!!!! เธอกล้ามาพูดกับฉันงั้นหรอ!!!!! " อารมณ์ที่ใส่มาเต็มของคนเป็นสามี มันเหมือนพายุที่แทบจะพังทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า วันนั้นฉันทิ้งเค้างั้นหรอ จำไม่ได้เลยแฮะ จำได้แค่ฉันจะไปหาคนมาช่วย แล้วก็จำเรื่องวันนั้นไม่ได้อีกเลย "ฉันไม่ได้ทิ้ง" "เธอทิ้ง!!!! ทิ้งฉัน จะไปไหนก็ไปเลยไป ไม่อยากเห็นหน้าแล้ว!!!! " เสียงตะคอกดุๆ ทำเอาน้ำตาของฉันซึมไหลเป็นทาง เค้าไม่ให้ฉันอยู่ ฉันก็จะไม่อยู่ ฉันพาร่างกายที่ถูกพันแล็บไปทั้งตัวกระดึ๊บๆ ขึ้นไปบนบ้าน ไม่สนใจคนงี่เง่าแบบนี้แล้ว อะไรของเฮีย เอาแต่ตะคอก เอาแต่ใส่อารมณ์ เอาแต่พูดจาไม่ดี ฉันเป็นเมียเฮียนะ ฉันได้แต่ปาดน้ำตาบนใบหน้าที่ไหลมาแล้ว ไหลลงมาอีก มันเจ็บปวดรู้ไหม ที่เฮียหลงที่แสนดี กลายมาเป็นคนแบบนี้อะ พอฉันขึ้นมาถึงห้อง ก็นึกขึ้นได้ จะแกะแล็บนี้ออกยังไง ฮื่ออออ ช่างมัน นอนมันทั้งแบบนี้เลยก็แล้วกัน ฮื่ออออออ แล้วอบบนี้ฉันจะฉี่ยังไง!!!! ชิงหลง Say :: ผมไม่พวกขี้เมา แต่วันนี้มันอดไม่ได้จริง กล้ามาพูดให้ผมไปรักษางั้นหรอ เธอนั่นแหละทำให้ผมเป็นแบบนี้ ผู้หญิงใจร้ายที่ผมอยู่ในบ่อของเสียงนั่นจนข้ามคืน ผมทั้งกลัว ขยะแขยง น้ำแฉะๆ ที่เต็มไปด้วยหนอน และแมลง ผมกระดกบรั่นดีชั้นลงผ่านคอแก้วแล้วแก้วเล่า ก็บอกอยู่ว่าจะยอมปล่อยไป ทำไมถึงไม่ยอมไป รักผมงั้นหรอ หายไป 16 ปี เพิ่งจะโผล่หัวมา ตลก ผมไม่มีทางรักเธอ เกลียดเธอละไม่แน่ อุตส่าห์อยู่รอกินข้าว ดันมาทำให้อารมณ์เสียอีก "ท่านชิงหลง ดื่มเยอะไปแล้วนะครับ" "ยุ่ง....แกไม่เข้าใจฉันหรอกหน่า ไอ้เขียว" "กระผมชื่อกรีน ผมเริ่มชักอยากจะมีน้ำโหกับเจ้านายแล้วสิ" "กินเป็นแก้วไม่สะใจ จะกินทั้งทีกินให้มึนๆ กินทำไม จะกินก็ต้องกินให้อ้วกสิวะ" ผมหยิบขวดบรั่นดีมากระดกลงคอ ให้แอลกอฮอล์มันล้างเชื้อโรคในเลือดกันสักหน่อย สติที่มีมันเริ่มรางเลือนและนี่ล่ะคือสิ่งที่ผมต้องการ เพราะผมไม่จำเป็นต้องใช้สมอง "เหล้าหมดแล้ว กระผมไปส่งที่ห้องดีกว่านะครับ ท่านชิงหลงเมามากแล้ว" "ไม่มาว ไม่ต้องมายุ่ง บ้านฉัน ฉันเดินเองได้" "ตอนไม่เมาก็นิสัยไม่ดี ตอนเมายิ่งนิสัยไม่ดี เจ้านายใครน้า เฮ้ออออ ของกระผมเอง" ผมพาร่างกายเซๆ เดินไปตามทางที่คุ้นชินตามสัญชาตญาณ ผมเดินผ่านทางเดินจนไปถึงประตูห้อง ผมควรจะโทรไปให้ไคมันส่งเด็กมาให้รึเปล่านะ ถึงเตียงก่อนก็แล้วกัน ผมเปิดประตูผ่านเข้าไปในห้องที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ แล้วทิ้งตัวลงบนเตียง ที่ตอนนี้ อ่าววว มีคนอยู่งั้นหรอ ส่งเด็กมาไวแบบส่งกระแสจิต เดี๋ยวนี้แกเก่งเกินคิวจิตสัมผัสแล้วไครี่ "เฮีย ไปเมาอะไรมาขนาดนี้" "อาหลิน ยัยผู้หญิงอำมหิต เธอกล้าทิ้งฉันไว้เป็นคืนๆ ฉันเกลียดเธอ" ทำไมผู้หญิงที่อาไคส่งมา มันหอมจังวะ ขอดมหน่อย ผมงับเข้าที่ซอกคอขาว "อ๊า!!! เฮียเมามากแล้ว" "อีหนู ทำไมเสียงเหมือนเมีย สงสัยจะเริ่มหลอน สงสัยเฮียจะด่ากับเมียมาก ไม่สิแต่งงานแล้วจะมากินนอกบ้านไม่ได้ ขอโทษนะอีหนู เฮียดันแต่งงานแล้ว" แต่ไม่ทันที่ผมจะไป ผู้หญิงบนเตียงกับดึงผมมาประกบริมฝีปาก "จูบหลินหน่อยสิคะ" "หลินงั้นหรอ ทำไมชื่อเหมือนเมีย" ผมกดร่างเล็กกับเตียงแล้วป้อนจูบที่ผมไม่รู้สึกถึงอะไรเลย เพราะจูบของเธอแม่งโคตรห่วยเลย จูบไม่อร่อยเลย แต่แววตาของเธอเนี่ยสิ มันปนเขินอายไปหมด ยิ่งเธออายในตัวของผมมันก็ยิ่งร้อนเร่า "อื้ออออออ" เสียงครางอย่างพอใจในลำคอมันทำให้ผม ต้องหาหมวกกันน็อค แต่หายังไงก็หาไม่เจอ สรุปผมเอาใครอยู่นะ เด็กไอ้ไคหรืออาหลิน ผมเริ่มสับสนเพราะฤทธิ์สุราที่กำลังเล่นงานผมอย่างหนัก มันทำให้สติของผมเบลอไปหมด "หนูชื่ออะไรนะ" "ฉันอาหลินไงเฮีย" "อ่อ เมีย...เอาได้ อาหลิน ฉันเกลียดเธอรู้ไหม เกลียดตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้เลย เธอก็ควรจะเกลียดเฮีย" "แต่หลินรักเฮียนะ" แววตาใสซื่อของเธอมันทำเอาผมใจเต้น "แต่ฉันไม่มีทางรักเธอได้" ผมกระตุกเชือกชุดคลุมอาบน้ำที่เธอใส่ แล้วเอาอะไรที่มันเกะกะลูกตาออก แพนดิ้นตัวจิ๋ว ถูกผมใช้มือที่สวมถุงมือรูดออกผ่านเรียวขายาว "มันเป็นครั้งแรกของหลินนะ แต่ถ้าเป็นเฮียหลินโอเค" "เมีย....เมียก็ต้องเอาสิ ไม่เอาแล้วจะมีเมียทำไม" ผมงับลงที่ปากเล็กๆ ของเธออีกครั้ง พร้อมกับถอดเสื้อผ้าของตัวเอง มันจะได้ทำอะไรสะดวก อื้มมมมม "เฮีย ขอหลินเตรียมใจก่อน เฮียยย เฮียยย หลับแบบนี้เลยหรอ" เช้าวันต่อมา........ ผมลืมตาขึ้นมาในห้องที่ไม่คุ้นเคย กลิ่นก็ไม่คุ้นเคย แถมยังมี.......คนนอนข้างๆ!!!!!! คำถามแรกของผมคือ...ใคร????????? ผมเปิดผ้าห่มออก เจอหญิงสาวในร่างที่เปลือยเปล่า แล้วหญิงสาวนั้นก็คือ เมียผม ที่ผมอยากสลัดเธอออกจากชีวิต คำถามต่อมา....ฟันรึยัง ทำไมเรื่องเมื่อคืนผมถึงจำอะไรไม่ได้เลยนะ แต่เราโป๊ด้วยกันทั้งคู่แบบนี้ คำตอบมันแทบเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย จะถามยัยนี่ จะรู้ได้ยังไงว่าเธอจะไม่โกหก ผมค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียง เพื่อไม่ให้เธอตื่น แต่ยังไม่ทันที่ผมจะพ้นเตียง มือเล็กๆ ก็จับเข้ากับมือที่สวมถุงมือของผม "ไปทำงานแล้วหรือคะ" "อะ...อื้ม" จะตอบยังไงดีวะ มองหน้าไม่ติด ทำอะไรไม่ถูกเลย "ฉันจะรีบลงไปทำอาหารให้นะคะ ขอฉันแต่งตัวแป๊บเดียว เฮียรีบไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะค่ะ" ท่าทีของเธอทำเอาผมตกใจไม่น้อย ผมทำในสิ่งที่ผมบอกจะไม่ทำกับเธอนะ หรือผมไม่ได้ทำวะ จะขอเปิดดูน้องหนูของเธอก็ใช่เรื่อง "ไม่โกรธเฮียหรอ" "เฮียเป็นสามีฉันนะคะ มันเป็นหน้าที่ของภรรยา" หน้าที่!!!! อะไรวะ??? ได้หรือไม่ได้ ถามเอาให้รู้เรื่องเลยดีไหม ผมหันไปหาเธออีกครั้งที่ตอนนี้เตรียมตัวใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย "ไปอาบน้ำสิคะ ไปทำงานสายนะคะ" "ไม่ต้องมาสั่งหรอกหน่า ฉันรู้หน้าที่ตัวเอง" ผมลุกขึ้น จะใส่เสื้อผ้าชุดเมื่อคืนก็ไม่กล้า เพราะมันผ่านอะไรมาบ้างผมก็จำไม่ได้ ใส่ใช้ผ้าเช็ดตัวร่วมกับคนอื่นผมก็ไม่เอา อาหลินเลยเปิดตู้เอาชุดคลุมสีกรมที่ยังไม่ได้มาให้ผม "แบบนี้ดีไหมคะ" รอยยิ้มจากอาหลินทำเอาผมต้องหลบตา "อื้อ" "เราไปรักษากันนะคะ โรคของเฮีย ฉันสัญญาถ้าเฮียไม่รักฉันจริงๆ ฉันจะไป แต่ฉันเป็นต้นเหตุทำให้เฮียเป็นแบบนี้ ฉันอยากให้เฮียหาย นะ นะคะ เมื่อคืนฉันรู้สึกดีมากเลย แม้มันจะเจ็บปวด แต่ฉันก็อยากจะให้มันเกิดขึ้นอีก" อาหลินมีสีหน้าเศร้าลง แต่ผมกลับงงเต็ก เกิดอะไรขึ้นวะ!!!!! ใครก็ได้ช่วยบอกผมที!!!! ==================== เรื่องนี้คือไทม์ไลน์ช่วงที่อาเฟิงคลอดลูกนะคะ ก่อนที่จีจี้จะทิ้งดิ่งลงมา ​
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD