บทที่ 2 พ่อคนที่สอง (2)

1214 Words
ธามขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ วันนี้พลอยพัดชาแปลกไปจากเดิมจริง ๆ เธอไม่เซ้าซี้ให้เขาไปกินข้าวด้วยเช่นทุกครั้ง เพราะปกติแล้วหากเขาบอกว่าไม่ไป หญิงสาวก็จะออดอ้อนและตื๊อให้เขาไปด้วยให้ได้ ซึ่งเธอจะยืนอยู่หน้าประตูตรงนั้นนานหลายนาที หากแต่วันนี้ดูเหมือนเธอชวนเขาพอเป็นพิธีเท่านั้น “ช่างเถอะ คงอารมณ์ไม่ดีมั้ง” ชายหนุ่มได้แต่ปล่อยให้เรื่องของพลอยพัดชาลอยหายไปจากหัว ก่อนจะก้มหน้าก้มตามองแบบแปลนตรงหน้าต่อ พลอยพัดชาเดินใจลอยมาจนถึงลานจอดรถ แต่พอมายืนอยู่ข้างรถของตนเธอก็ไม่รู้จะขับไปไหนดี สุดท้ายก็เดินกลับเข้าไปในโรงแรมตามเดิมแล้วไปนั่งกินมื้อเที่ยงที่ภัตตาคารของโรงแรมแทน หญิงสาวสั่งอาหารมาสองอย่าง ระหว่างนั่งรอก็ได้แต่ปล่อยใจให้ล่องลอยไปเรื่อยเปื่อย ตามองถนนที่รถราขวักไขว่กับพนักงานออฟฟิศที่เดินสวนกันไปมาบนทางเท้าผ่านกระจกของทางร้านแล้วก็ได้แต่ทอดถอนใจ แม้เธอจะโชคดีกว่าคนอื่นตรงที่บิดามารดามีธุรกิจส่วนตัวไว้ให้สานต่อ ไม่ต้องไปเตร็ดเตร่หางานทำ แต่สิ่งที่เธอต้องเรียนรู้และมีมากกว่าคนอื่นนั่นก็คือความรับผิดชอบที่ต้องแบกไว้เต็มสองบ่า เธอต้องแบกรับธุรกิจอัญมณีและหาวิธีทำให้มันเติบโตต่อไปให้ได้ตั้งแต่ยังไม่เข้ามหาวิทยาลัย เพราะมีอีกหลายสิบชีวิตที่ต้องอาศัยพึ่งพาธุรกิจนี้ ถ้าเธอล้มพวกเขาก็จะล้มไปด้วย ถ้าเธอท้อพวกเขาก็จะรู้สึกไม่มั่นคง เพราะฉะนั้นเธอจะอ่อนแอไม่ได้เด็ดขาด “ว่าไงหนูพลอย” เสียงทุ้มที่ดังมาจากด้านข้าง ปลุกให้พลอยพัดชาตื่นจากภวังค์ หญิงสาวหันไปมองเจ้าของเสียงพร้อมกับลุกขึ้นยืนทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นใคร “สวัสดีค่ะคุณลุง มากินมื้อเที่ยงหรือคะ” เธอยกมือไหว้ชายวัยกลางคนตรงหน้าอย่างนอบน้อมเพราะเขาคือธเนศ บิดาของธาม “ใช่ ขอลุงนั่งด้วยคนได้ไหม” “ยินดีมาก ๆ เลยค่ะคุณลุง เชิญค่ะ” หญิงสาวรอจนอีกฝ่ายนั่งลงฝั่งตรงข้ามแล้วจึงนั่งบนเก้าอี้ของตัวเองบ้าง เป็นเวลาเดียวกับที่พนักงานนำเมนูอาหารมาวางไว้ให้ธเนศพอดีโดยที่ไม่ต้องขอ “หนูไม่สบายรึเปล่า ทำไมเสียงเป็นแบบนั้น” “เปล่าค่ะ หนูสบายดี เพียงแต่เมื่อวานหนูไปร้องคาราโอเกะกับเพื่อนและน้าจินนี่มาค่ะ เสียงก็เลยแหบ” พลอยพัดชาตอบอย่างอาย ๆ จนคนสูงวัยกว่าหัวเราะเบา ๆ “น่าสนุกจริง ๆ ดีแล้วละ ปลดปล่อยความเครียดซะบ้าง คนหนุ่มคนสาวก็ดีอย่างนี้แหละนะ ว่าแต่เจ้าธามมันไม่มากินข้าวกับหนูหรือ หนูถึงได้มากินคนเดียวเนี่ย” “พี่ธามงานยุ่งค่ะ พลอยไม่ได้ขึ้นไปชวนพี่เขาด้วยแหละเพราะไม่อยากรบกวนเขา” เธอปดไปเพราะตนเพิ่งขึ้นไปชวนเขาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนนี้เอง และคำตอบก็เป็นเช่นเคยคือเขาปฏิเสธ หากแต่ครั้งนี้เธอไม่อยากเซ้าซี้เขาอีกแล้ว เพราะตั้งใจไว้ว่าจะค่อย ๆ ดึงใจตัวเองออกมาจากธามทีละนิดด้วย เมื่อคืนพลอยพัดชาเจอแรงยุจากนลินทราและจินตวาตีว่าควรจะถอยกลับมาอยู่ในมุมของตัวเองได้แล้ว หลังจากที่พยายามจะเข้าไปอยู่ในพื้นที่ของคนอื่นมานานหลายปี จะว่าไปแล้ว เธอก็รักธามได้มาราธอนอย่างที่นลินทราพูดไว้จริง ๆ เธอมอบใจให้เขาตั้งแต่ตอนเรียนจบใหม่ ๆ จนตอนนี้ผ่านมาห้าปีแล้วก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า คิดแล้วก็อดนึกถึงคำพูดเตือนสติของน้าจินนี่ไม่ได้ ‘ถ้าเขาสนใจแก เขาก็เซย์เยสตั้งแต่ปีแรกแล้วย่ะ ไม่ลากยาวมาป่านนี้หรอก หล่อนมองตัวเองในกระจกซิ หน้าสวย หุ่นดี แถมมีทุนทรัพย์ หล่อนจะซื้อผู้ชายมานอนกกกี่คนก็ได้ เพราะฉะนั้นเลิกสนใจอีตานั่นได้แล้ว’ นั่นสินะ เธอควรตัดใจสักที พลอยพัดชาลอบถอนหายใจแผ่ว ในหัวนึกย้อนไปในอดีต วันที่เธอเจอกับธามครั้งแรก วันนั้นไม่น่าเป็นเขาเลยที่มาช่วยเธอเอาไว้ ... งานเลี้ยงวันเกิดของธเนศ ศิวะเดชา ประธานใหญ่และผู้บริหารโรงแรมลักซ์ แกรนด์ มิราจนั้น ทำให้พลอยพัดชาต้องมาร่วมงานแทนบิดามารดาที่ล่วงลับของตน และมาในฐานะของผู้บริหารพัดชา เจมส์อีกด้วย ในงานเธอแทบไม่รู้จักใครมากนักเพราะส่วนใหญ่มีแต่นักธุรกิจในแวดวงการโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่เธอคลุกคลีอยู่ในแวดวงอัญมณีมากกว่า หญิงสาวกะไว้ว่าจะอยู่แค่ถึงตอนที่ธเนศกล่าวเปิดงานเสร็จเรียบร้อยก็จะเดินกลับร้านจิวเวลรี่ของตน แต่ไม่คาดคิดว่าขณะที่เธอกำลังเดินไปเดินมาอยู่นั้น จู่ ๆ ก็รู้สึกแน่นหน้าอก หายใจติดขัด ร่างกายเริ่มรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมา ซึ่งอาการแบบนี้พลอยพัดชาคุ้นเคยเป็นอย่างดี นั่นคืออาการแพ้อย่างรุนแรง เธอแพ้ถั่ว! พลอยพัดชารีบเดินออกจากงานเพื่อหาที่สงบในการจัดการกับตัวเอง แต่ดูเหมือนครั้งนี้อาการจะรุนแรงกว่าทุกครั้ง เธอหายใจไม่ออก ได้แต่อ้าปากพะงาบ ๆ พยายามสูดอากาศเข้าปอดให้มากที่สุด รู้สึกว่าริมฝีปากเริ่มหนา หน้าและบริเวณรอบดวงตาเริ่มบวม หญิงสาวทรุดตัวกับพื้นทันที มือพยายามควานหาหลอดยาอีพิเพ็นในกระเป๋า ซึ่งเป็นยาที่ใช้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อที่ต้นขาเมื่อเกิดอาการแพ้ ทว่าคงเป็นเพราะมือของเธอสั่นเกินไป เมื่อหยิบหลอดยาขึ้นมาได้มันจึงร่วงหลุดมือแล้วกลิ้งไปอีกทาง พลอยพัดชาพยายามจะคลานไปทางนั้น แต่แล้วก็มีอัศวินขี่ม้าขาวเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน “คุณ! คุณเป็นอะไรมากรึเปล่าครับ” เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก แต่หญิงสาวไม่ได้สนใจมองว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร เธอชี้ไปที่หยอดยาอีพิเพ็น เขาจึงรีบวิ่งไปเก็บมาให้ เมื่อได้ยามาอยู่ในมือแล้วพลอยพัดชาก็ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ถกกระโปรงขึ้นจนถึงต้นขาแล้วปักยาเข้าเนื้อไปทันที เมื่ออาการเริ่มดีขึ้น พลอยพัดชาจึงเพิ่งสังเกตผู้ชายที่มาช่วยตนไว้ เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี รูปร่างสูงโปร่ง แต่งตัวด้วยสูทเต็มยศ จึงเดาว่าเขาคงมาร่วมงานเลี้ยงของโรงแรมในห้องจัดเลี้ยงห้องใดห้องหนึ่งเป็นแน่ “ไปโรงพยาบาลดีกว่าไหมครับ ผมจะพาคุณไปเอง คุณแพ้อาหารใช่ไหม” สีหน้าของเขาดูกังวลและเป็นห่วงเธออย่างจริงจัง หญิงสาวจึงพยักหน้าให้แล้วตอบเขาไปสั้น ๆ “ถั่ว”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD