พาทีมองไปเบื้องหน้าที่เด็กสาวตัวเล็กๆ ที่เคยร้องไห้ตามตัวเอง งอแงตัวติดตัวเองในวันนั้น ตอนนี้โตเป็นสาว เดหลีในวัย 22 ปี ทิ้งกระเป๋าเดินทางใบเล็กที่ลากมาแล้ววิ่งมาสวมกอดเขาเต็มแรงและเขาที่ยืนรอรับไม่คิดว่าเด็กน้อยจะวิ่งมาสวมกอดเกือบหงายหลังล้มไปกับพื้น
“คิดถึงคุณพาทีที่สุดเลยค่ะ”
เดหลีในวัยยี่สิบสองปีเอ่ยพร้อมผละออกมาพร้อมเขย่งเท้าขึ้นหอมแก้มสากของผู้มีพระคุณของตัวเองและพาทีก็ได้แต่ยืนนิ่งอึ้งกับสิ่งที่เด็กสาวทำเหมือนสมัยเด็ก แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่เด็กน้อยตัวอ้วนกลมแล้ว พาทีรีบผลักเด็กสาวออกห่าง
“ไม่เหมาะสมเดหลี” เขาบอกเธอเสียงเข้มพร้อมกับถอยหลังออกห่าง
“เมื่อก่อนเดหลีก็ยังทำได้เลยนี่คะ” เด็กสาวเอ่ยเอาแต่ใจ
“นั่นเมื่อก่อน แต่ตอนนี้เธอโตแล้วเดหลี ไม่ใช่เด็กอ้วนกลมคนนั้นแล้ว”
เขาตอบเธอกลับแล้วหมุนตัวล้วงกระเป๋ากางเกงเดินเข้าไปในตัวบ้าน ส่วนเดหลีก็เดินกลับไปลากกระเป๋าตัวเองแล้วเดินเข้าบ้านตามเจ้าของบ้าน ผ่านมาจนตอนนี้ผู้มีพระคุณของเธอยังคงหนุ่มแน่น น่าเกรงขาม แม้จะสงสัยในตัวผู้มีพระคุณที่ทำตัวลึกลับ แต่ก็ไม่กล้าถาม
“ฉันบอกเดหลีว่ายังไงหลังเรียนจบ”
เมื่อเด็กสาวเดินเข้ามาพร้อมกับกระเป๋านั่งลง พาทีก็เอ่ยถามถึงคำสั่งของตัวเองก่อนหน้านี้
“ให้เดหลีทำงานที่กรุงเทพค่ะ”
“แล้วทำไมถึงกลับมาที่นี่” เขาถามเธอ
“ก็คุณพาทีอยู่ที่นี่ เดหลีอยากมาช่วยงานคุณพาทีค่ะ”
เธอบอกอย่างไม่สนใจแล้วก็หยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ด้านหลังออกมากดเล่น
“ฉันบอกแล้วยังไงว่างานที่นี่ไม่เหมาะกับเธอเท่างานที่กรุงเทพ”
“ตรีศูลบอกว่าตอนนี้ที่ฟาร์ม ที่โรงงานของเรางานเยอะมาก และตรีศูลก็จะกลับมาช่วยงานคุณมังกรกัณฐ์กับคุณณิสาเหมือนกันค่ะ” เธอเงยหน้าจากหน้าจอโทรศัพท์ตอบแล้วก้มลงเขี่ยหน้าจอเล่นต่อ
“เดี๋ยวนี้ไม่เชื่อฟังกันแล้วเหรอเดหลี”
น้ำเสียงของพาทีเข้มขึ้นและห้วนแข็งพร้อมกับดวงตาของเขาทอไปด้วยความกรุ่นโกรธ
“ทำไมคุณพาทีถึงอยากผลักไสเดหลีไปอยู่ในที่ไกลๆ ด้วยคะ”
“ฉันทำเพื่อเธอนะเดหลี”
“ไม่ใช่! คุณพาทีทำเพื่อตัวเองต่างหาก” แล้วเธอก็ลุกขึ้น
“นั่งลงเดหลี” พาทีสั่งเสียงดัง
“เดหลีจะเอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องค่ะ คุณพาทีไล่เดหลียังไง เดหลีก็ไม่ไป เดหลีโตมากับบ้านหลังนี้ เดหลีไม่ไป เดหลีจะอยู่ที่นี่” แล้วเธอก็เดินไปหยิบกระเป๋า
“ฉันสั่งให้นั่งลงเดหลี! นั่งลง!” พาทีตะโกนสั่งเสียงดังกว่าเดิมและใบหน้าเต็มไปด้วยความเดือดดาล
“ทำไมคะ ทำไมต้องผลักไสเดหลีไปที่อื่นด้วย” แล้วเธอก็ยอมปล่อยมือจากกระเป๋านั่งลงเหมือนเดิม
“เดี๋ยวนี้ต่อปากต่อคำเก่งเกินไปแล้วนะเดหลี ไม่เชื่อฟังฉันแล้วเหรอ?” น้ำเสียงของพาทีแสดงถึงความโกรธ ไม่พอใจในตัวสาวน้อยที่ตัวเองเลี้ยงมาตั้งแต่ตัวแดงแบเบาะ
“เดหลีไม่ได้เถียง เดหลีแค่อธิบายค่ะ”
“นั่นแหละเขาเรียกเถียง พรุ่งนี้กลับกรุงเทพแต่เช้า ฉันจะไปส่งเอง”
แล้วเขาก็ลุกขึ้นเดินหนีออกจากห้องนั่งเล่นทิ้งให้เด็กสาวนั่งหน้างอคนเดียว
“คนใจร้าย! ใจร้ายๆๆๆ ใจร้ายที่สุด เดหลีเกลียดคุณพาที ได้ยินไหมคะ เดหลีเกลียด!”
เธอตะโกนไล่หลังคนตัวโตที่เดินจากไปแล้วก็ลุกขึ้นคว้ากระเป๋าเดินทางตัวเองแล้วลากออกจากบ้าน