หลายวันผ่านมาและในค่ำคืนที่เหลือไม่กี่วัน ถึงคราที่ฟีฟ่าตต้องตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะทำเช่นไรกับชีวิต ซึ่งในระหว่างที่ฟีฟ่านั่งนิ่งครุ่นคิดอยู่นั้น ยศและสินีผู้เป็นแม่ได้มานั่งข้างๆทั้งสองฝั่งซ้ายขวา
“พ่อกับแม่มีอะไรเหรอครับ”ฟีฟ่าหันมองซ้ายทีขวาที
“พ่อต้องถามฟีฟ่ามากกว่ามั้ง ว่าเป็นอะไรมานั่งซึมคนเดียวหลายวันแล้วนี่”ยศมองหน้าลูกชายแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะความสดใจร่าเริงของฟีฟ่าได้หายไป ในช่วงแรกยศคิดว่าฟีฟ่าอาจคิดถึงไนท์ แต่เมื่อได้ยินเรื่องราวต่างๆที่สินีเล่าให้ฟัง ว่ามีหนุ่มสามคนชวนฟีฟ่าไปเที่ยวหนึ่งในนั้นรวมไนท์ด้วย
“ไม่มีอะไรหรอกครับพ่อนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย”ฟีฟ่าพยายามฝืนยิ้ม แต่เขาก็ไม่สามารถปิดบังซ้อนเร้นความคับอกคับใจได้
“ไม่ต้องปิดบังพ่อกับแม่หรอก แม่รู้ทุกอย่างในวันนั้นแม่ไม่ได้แอบฟังนะ แต่แม่บังเอิญได้เห็นได้ยิน”สินีขยับมือลูบศีรษะของลูกชาย
“พ่อรู้ว่าลูกพ่อชอบแบบไหน พ่อไม่สนหรอก แต่ที่พ่อสนใจ พ่ออยากรู้ว่าลูกจะตัดสินใจอย่างไรมากกว่า ซึ่งพ่อรับได้หมดทุกคนที่ลูกเลือก”ยศยิ้มอย่างผู้ใหญ่ใจดีให้ฟีฟ่าได้เห็นเพื่อจะได้สบายใจ
“พ่อ”
“ไม่ต้องพูด ถึงพ่อจะอยากรู้ว่าลูกจะเลือกใคร แต่พ่อไม่ต้องการคำตอบหรอก แล้วแต่ลูกจะตัดสินใจเลย”
“พ่อ แม่”
“แม่ไม่มีอะไรจะพูดหรอก เหมือนอย่างพ่อของลูกนั่นแหละ ถ้าลูกเลือกใครแม่ก็ชอบคนนั้นด้วยนั่นแหละ แต่แม่อยากแนะนำนิดหน่อยเลือกคนที่เราชอบนั่นแหละดีที่สุด คนที่เราอยู่ด้วยแล้วสบายใจไม่อึดอัดมีความสุข” สินียังยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ฟีฟ่าได้ชื่นใจ
“ในส่วนของพ่อนะ ก็ไม่ต่างกับแม่ของลูกหรอก ไม่ว่าจะไนท์ ช่างกัน ไอโซคนนั้น ลูกจะเลือกไปเที่ยวกับใครตามสบายเลยลูก แต่ตัดสินใจดีๆนะว่าคนนั้นใช่สำหรับลูก มองลึกๆมองนานๆอย่ามองผิวเผิน”ยศยังไม่หยุดมองลูกชายตัวเอง
“พ่อว่าลูกเราเหมาะกับใครในสามคน”สินีเอ่ยขึ้น
“ก็มีทั้งเหมาะและไม่เหมาะในคนเดียวกัน”
“แหมตอบกลางๆแบบนี้ลูกก็ลำบากใจสิ”สินีเอ่ยขึ้น
“ลูกเราโตแล้วคงตัดสินใจเองได้นั่นแหละ ถึงแม้ลูกเราเลือกไปแล้ว ต่อไปอาจไม่ใช่อย่างที่คิดก็เลิกหาใหม่”ยศหัวเราะร่วน
“พ่อพูดไปเรื่อย”ฟีฟ่าหน้าแดงก่ำ
“พ่อพูดจริงนะ ไม่ได้เสียหายอะไรนี่ เราเลือกคนที่รักแต่ในเมื่อไปด้วยกันไม่ได้ก็เลิกหาใหม่ เดี๋ยวมันก็คงเจอคนที่ใช่เองนั่นแหละ”
“พ่อของลูกก็พูดถูกนะ เราเลือกได้นี่ลูก”สินีเอ่ยขึ้น
“แม่ก็พูดซะลูกตัวลอยแล้ว”
“มันเรื่องจริงนี่ ลูกแม่ไม่ต้องไปตามหาความรักที่ไหนเลย มีมาให้เลือกตั้งสามคนสามสไตส์ ลูกแม่เริ่ดมากรู้ตัวไหม”
“พอๆแล้วแม่ เราปล่อยให้ลูกตัดสินใจเองดีกว่า”ยศเอ่ยขึ้น
“ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นพ่อกับแม่ขึ้นไปนอนแล้วนะ ฟีฟ่าก็ขึ้นไปนอนได้แล้วเหมือนกันนะ”
สินีและยศลุกขึ้นมองลูกชายสุดที่รักก่อนเข้าไปนอนในห้อง ส่วนฟีฟ่านั่งครุ่นคิดชั่วครู่เขาก็เข้าไปในห้องตัวเอง ทำธุระส่วนตัวไม่ว่าจะอาบน้ำแต่งตัวและเตรียมตัวที่จะนอน แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดความคิดนั้นทันที เพราะเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเขาจึงรีบรับทันที
“มีอะไร”ฟีฟ่าเอ่ยขึ้น
“คิดถึงพี่ฟีฟ่ามากเลยอดไม่ไหวต้องแอบโทรหา”เสียงไนท์พูดค่อยมาก แต่ฟีฟ่าก็เข้าใจดีว่าเกิดอะไรขึ้น
“จะคิดถึงอะไรพึ่งไปไม่กี่วันเอง”ฟีฟ่าอมยิ้มนิดๆ
“ไม่กี่วันสำหรับพี่แต่เหมือนหลายปีสำหรับผมนะครับ”
“ไม่ต้องมากปากหวานกับพี่เลย เอาเวลาที่จะมาคุยกับพี่น่ะพักผ่อนไม่ดีกว่าเหรอ”
“แหมพี่ฟีฟ่าก็ คนเรามันก็ต้องหากำลังใจบ้างสิ”
“ก็ได้พี่ให้กำลังใจ ขอชนะขอโชคดีนะ”
“แน่นอน แต่จะโชคดีกว่านี้ถ้าพี่ฟีฟ่าไปเชียร์ผมถึงขอบสนาม”
คำพูดของไนท์นั้นทำให้ฟีฟ่าได้คิดจนทำให้เกิดความเงียบขึ้นมาทันที เพราะในใจมันแวบขึ้นมา
“พี่ฟีฟ่าเป็นอะไรไปเหรอเงียบไปเลย”
“เปล่า”
“ถ้าเปล่า อย่าลืมไปเชียร์ผมนะครับ ผมไม่บังคับพี่หรอกแล้วแต่พี่เลย”
“อย่าพึ่งพูดถึงเรื่องนี้เลย ตั้งใจฝีกซ้อมเพื่อตัวเองเถอะ”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
“พี่จะรอความสำเร็จของไนท์นะ”
“ครับพี่ฟีฟ่า คืนนี้ผมไม่รบกวนพี่ฟีฟ่าแล้วนะ เจอกันวันที่ผมกลับมาบ้านพักก็แล้วกัน หลับฝันดีคิดถึงผมด้วยนะ ผมรักพี่ฟีฟ่านะครับ”
“อือ”
ฟีฟ่ารู้สึกอดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมไนท์ถึงพูดแบบนี้ว่าเจอกันที่บ้าน ทำไมไม่พูดว่าเจอกันที่สระว่ายน้ำ แต่เขาก็ไม่มีเวลาคิดเรื่องนี้อีก เพราะเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นอีกครั้ง เขาจึงต้องรับโทรศัพท์มือถือ
“มีอะไร”
“ไม่มีอะไรหรอกแค่อยากมาบอกว่ารักและอย่าลืมที่กูชวนมึงไว้นะ”
“เอ่อ”
“ไม่ต้องมาเอ่อ กูรับได้ไม่ว่ามึงจะตัดสินใจอย่างไร แค่กูโทรมาบอกรักมึงแค่นั้นแหละ ส่วนมึงจะไปหรือไม่ไปแล้วแต่มึงเลย แต่มึงเตรียมเก็บเสื้อผ้าหรือยัง”
“ไหนบอกแล้วแต่เราไง”
“อยากรู้คำตอบจังเลย อดใจรอวันเสาร์ไม่ไหวแล้ว”
ฟีฟ่านิ่งเงียบคิดอีกครั้ง เป็นอีกคราที่ใจของเขาต้องคิดว่าเลือกทางใด จนช่างกันผิดสังเกตว่าทำไมจูจู่ฟีฟ่านิ่งเงียบเสียงขาดหายไป
“ไอ้ฟีฟ่ามึงเป็นอะไร”เสียงช่างกันตะโกนใส่หูของฟีฟ่าอย่างดัง
“จะพูดอะไรเสียงดังเนี่ย”
“กูก็นึกว่ามึงเป็นอะไร หรือหลับไปแล้ว แค่นี้ก็ได้กูไม่รบกวนมึงแล้ววันเสาร์เจอกันนะ”
เพียงช่างกันกดวางมือถือเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครา คราวนี้เป็นของไอโซนัท ซึ่งฟีฟ่าก็ทำแบบเดิมทุกอย่างเหมือนสองครั้งก่อนหน้านี้
“ฮัลโหลพี่นัท”
“พี่นึกว่าน้องฟีฟ่าหลับซะอีก พี่โทรมาสองครั้งไม่เห็นรับโทรศัพท์พี่เลย”
“ฟีฟ่าคุยกับเพื่อนอยู่น่ะ”
“เหรอ ก็ดีคุยกับเพื่อนถ้าฟีฟ่าหลับพี่คงไม่ได้คุยต่ออย่างแน่นอนเลย”
“จะคุยอะไรเหรอครับ”
“ก็เรื่องเดิมนั่นแหละ เรื่องไปเที่ยวมัลดีสฟ์ ฟีฟ่าได้เตรียมเอกสารอะไรหรือยัง”
“เอ่อ ครับ”
ฟีฟ่ายังไม่เตรียมอะไรทั้งนั้นไม่ว่าของใคร และอีกอย่างฟีฟ่ามีเอกสารครบถ้าไปสามารถไปได้ทันที
“พี่จะรอที่สนามบินนะ รอการตัดสินใจของฟีฟ่านั่นแหละ”
“ครับ”
“ทำไมวันนี้ฟีฟ่าดูพูดน้อยจังเลย หรือว่าฟีฟ่าง่วงนอน ถ้างั้นพี่ไม่กวนแล้วนะ แต่ขอพูดอะไรหน่อยได้ไหม”
“ได้ครับ”
“พี่รักน้องฟีฟ่านะ และพี่หวังว่าจะได้รับรักนั้นตอบจากน้องฟีฟ่า ถ้าไม่ขอร้องจนเกินไปแค่นี้น่ะ”
“ครับ”
ฟีฟ่าวางโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอน ส่วนตัวของเขาก็ล้มตัวลงนอนทันที แต่ใม่สามารถข่มตาหลับได้ เพราะเขาต้องคิดแล้วว่าจะต้องตัดสินใจอย่างไรดีกับความรักในครั้งนี้ ฟีฟ่ายังไม่รู้ใจตัวเองเลยว่าชอบใคร และคนไหนที่เขาอยากอยู่ด้วย