ก่อนที่ไนท์จะออกไปเก็บตัวฝึกซ้อมอีกเขาได้เข้ามาหาฟีฟ่าในบ้าน ซึ่งยศผู้เป็นพ่อก็เห็นอยู่แต่เขาแสร้งไม่เห็น แต่ไม่อยากไปขัดขวางเพราะจะทำให้ไนท์เกิดความเครียดอาจส่งผลต่อการแข่งขัน เมื่อทั้งคู่ได้อยู่ในห้องโถง มีโซฟาสามตัวต่อติดกันไว้ ไนท์นั่งลงข้างๆฟีฟ่าจนตัวติดกันทีเดียว
“นั่งห่างๆก็ได้ เดี๋ยวพ่อพี่มาให้”ฟีฟ่าสอดสายตามองไปรอบๆบ้าน
“ถึงเห็นโค้ชก็ไม่ว่าอะไรหรอก ผมว่าโค้ชคงเห็นอะไรบ้างแหละ ตอนที่เราอยู่สองคนตั้งหลายครั้ง”ไนท์อมยิ้ม
“พูดไปเรื่อยมาหาพี่มีอะไร”
“เดี๋ยวสายๆผมต้องไปเก็บตัวแล้วครับ อาทิตย์หน้าต้องลงแข่งเพื่อคัดตัวไปแข่งซีเกมส์”
“เหรอ พี่อวยพรให้โชคดีนะ”ฟีฟ่าเปลื่ยนสีหน้าหันมายิ้มแย้มให้กำลังใจ
“ผมชอบรอยยิ้มพี่ฟีฟ่าจังเลย”
“อย่ามัวมาชอบรอยยิ้มพี่เลย เอาเวลาไปซ้อมเพื่อชัยชนะเถอะ”
“ถ้าเกิดผมพลาดการคัดเลือกพี่ฟีฟ่าจะมีรางวัลอะไรให้ผมไหม”
“จะเอาอะไรล่ะ รถเบนซ์เหรอ”
“เอาไปทำไมผมอยากได้ใจพี่ฟีฟ่ามากกว่า เมื่อไรพี่จะให้ใจผมซักทีล่ะครับ”
“เอาอีกแล้ว เอาคำพูดหวานๆไปฝึกซ้อมดีกว่า”
“ซ้อมก็ส่วนซ้อมสิ ช่วงเวลานี้ไม่ใช่นี่ครับ”
“ก็ได้ ถ้าชนะพี่จะพาไปเที่ยวก็แล้วกัน”
“ก็ได้ แต่ต้องเป็นสถานที่ผมอยากไปนะ”
“ได้คืบจะเอาศอก แต่ก็ไม่มีปัญหา”
ไนท์เอื่อมมือมาจับมืออันเรียวของฟีฟ่า ซึ่งในช่วงเวลานั้นฟีฟ่ารู้สึกตกใจพยายามดึงมือออก แต่ฟีฟ่าจับไว้แน่นจนฟีฟ่าปล่อยตามเลย
“วันแข่งพี่ฟีฟ่าไปเชียร์ผมได้ไหม”
“คราวนี้จะเอาเป็นวาเลยเหรอ”
“ได้ไหมวันเสาร์นี้ไปเชียร์ผมนะครับ”ไนท์พูดเสียงอ่อยพร้อมสายตาอันหวานฉ่ำ
“คือพี่ไม่รู้จะว่างหรือเปล่า”
“ถ้าว่างพี่ฟีฟ่าต้องไปนะครับ เพราะถ้าเกิดผมชนะขึ้นมาก็ไม่สามารถไปเที่ยวกับพี่ได้ อย่างน้อยได้เห็นหน้าพี่ตอนไปแข่งผมก็ดีใจอย่างมากแล้วครับ”
“พี่ยังรับปากไม่ได้หรอก ถ้าพี่ว่างจะไปก็แล้วกัน”
ด้วยความคิดของฟีฟ่าในตอนนี้เขายังไม่สามารถติดสินใจอะไรได้ เพราะยังไม่แน่ใจหลายเรื่องในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ยังต้องคิดไตร่ตรอง
“ผมไม่รู้แล้วแหละ ผมถือว่าพี่ฟีฟ่ารับปากผมก็แล้วกัน”
“อะไร พี่ยังไม่ได้รับปากว่าจะทำอย่างนั้นเลย”
“ผมไม่สนหรอกครับ ผมถือว่าพี่รับปากแล้ว”
ไนท์พูดจบมองซ้ายมองขวาและมองไปอีกครั้งรอบๆบ้าน หลังจากนั้นเขายื่นหน้าหอมแก้มฟีฟ่าทันที ในส่วนของฟีฟ่ายังไม่ทันหายตกใจเลยทีเดียว ไนท์รีบลุกขึ้นแล้วโบกมือให้ฟีฟ่า
“ผมไปแล้วนะ เดี๋ยวผมจะรอพี่ฟีฟ่าที่สระว่ายน้ำในสโมสรนะครับ”
ฟีฟ่าลูบแก้มตัวเองและมองไปรอบๆบริเวณในบ้าน เพราะเขากลัวพ่อและแม่แอบเห็นในสิ่งที่ไนท์ทำไว้ ฟีฟ่านั่งครุ่นคิดและสับสนในตัวเองอย่างมาก เขานั่งนิ่งๆคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง แต่ก็ใช้เวลาคิดนั้นไม่ได้นาน เพราะช่างกันเดินเข้ามาในบ้านของเขา และนั่งลงตรงข้ามฟีฟ่า
“กูมีเรื่องจะบอกมึง”ช่างกันทำหน้านิ่งๆเข้ม
“เรื่องอะไร”ฟีฟ่ามีสีหน้าสงสัยพอสมควร
“วันเสาร์กูจะไปตั้งแคมป์คนเดียว อยากชวนมึงไปด้วย”
“เหรอ”ฟีฟ่ายังอึ้งพูดไม่ออกบอกไม่ถูกกับไนท์ แล้วต้องตะลึงซ้อนสองครั้งติดกัน
“อือ ไปไหม กูเห็นมึงไม่ค่อยได้ไปไหนอยู่แต่บ้าน กูเลยมาชวนมึงไปด้วย”
“ไปอย่างไง”
“ก็บิ๊กไบค์ไง มึงไปกับกูไม่ต้องกลัวลำบากหรอก กูจะไปในที่คนเยอะๆมีสิ่งอำนวยความสะดวก”
“ที่ไหนล่ะ”
“ภูทับเบิก”
ฟีฟ่านั่งคิดอีกครั้ง เพราะตั้งแต่เขาเรียนจบก็ไม่เคยได้ไปไหนเลย อย่าว่าแต่ตอนเรียนจบเรียน แม้แต่สมัยเรียนฟีฟ่าแท่บจะไม่ได้ไปไหน อยู่แต่บ้านกับโรงรียนและมหาวิทยาลัยแค่นั้น
“สนใจใช่ไหม เราไปกางเต็นท์นอนด้วยกัน ทำกับข้าวกินแล้วก็นั่งชมวิวถ่ายรูปสวยๆ มึงว่าดีไหมอยากไปแล้วซิ ตอนไปก็ขับบิ๊กไบค์ไปค่ำไหนก็นอนนั่น ไม่ใช่กลางป่านะ แต่นอนในโรงแรมไปแบบชิลๆ”
“อือ”ฟีฟ่าคิดว่าน่าสนใจอยู่ไม่ใช่น้อย เพราะครั้งหนึ่งเขาเคยหนีความวุ่นวายจากบ้านไอโซนัท แล้วไปนั่งท้ายรถบิ๊กไบท์ของกัน เพื่อเข้าแข่งขันในสนามแข่งรถ
“ว่าไงจะไปไหม”ช่างกันมีสีหน้าที่ลุ้นพอสมควร
“คือว่า”
ฟีฟ่าอยากไปเหมือนกัน แต่เขายังติดสินใจไม่ได้ เพราะเมื่อครู่ไนท์ได้มาชวนไปดูเขาแข่งว่ายน้ำ ถึงแม้จะยังไม่ได้ตอบรับ แต่ฟีฟ่าก็สองจิตสองใจไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ใจหนึ่งก็อยากไปเชียร์ไนท์ อีกใจหนี่งเขายังอยากไปเที่ยวกับช่างกัน เพราะเป็นอะไรที่แปลกใหม่และน่าลอง
“ว่าไง”
“เรายังให้คำตอบไม่ได้หรอกว่าจะไปหรือไม่ไป”
“ไม่เป็นไรยังเหลือเวลาอีกหลายวัน”
“คือ”ฟีฟ่าอ่ำอึ้งพูดไม่ออก
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะ กูจะรอมึงที่อู่รถ และกูหวังว่ามึงจะไปกับกูนะ”
ช่างกันจับมืออันแสนนุ่มของฟีฟ่ามากุมไว้ ในส่วนของฟีฟ่าใจคอไม่ค่อยดีเท่าไร เพราะกลัวพ่อกับแม่มาเห็น ฟีฟ่าจึงหันมองซ้ายมองขวาและพยายามดึงมือออก แต่ไม่ทันเพราะช่างกันไวมากยกมือของฟีฟ่ามาดมทันที
“ทำอะไรนะน่าเกลียด”ฟีฟ่ารีบดึงมือออกทันที
“ถือว่าเป็นจูบมัดจำ วันเสาร์กูจะรอมึงที่อู่ซ่อมรถนะ”
ช่างกันไม่รอคำตอบรับหรือปฏิเสธของฟีฟ่าแต่อย่างใด ทันทีเมื่อพูดจบเขารีบลุกขึ้นแล้วรีบหันหลังเดินออกจากบ้านของฟีฟ่าอย่างรวดเร็ว
ฟีฟ่าเริ่มปวดหัวหนักขึ้นมาอีก แค่ไนท์มาชวนเขาก็เครียดพอสมควร ยิ่งโดนช่างกันมาชวนย้ำอีกครั้ง ตอนนี้ใจของเขาว้าวุ่นอย่างหนัก แต่แล้วยังไม่จบแค่นั้นเพราะไอโซนัทได้เดินเข้ามอง และร้องเรียกฟีฟ่าที่กำลังนั่งนิ่งๆคิดว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี
“น้องฟีฟ่า”เสียงไอโซนัทดังขึ้น
“อ่ะ”ฟีฟ่าเงยหน้ามองไอโซนัท
ไอโซนัทนั่งลงข้างๆฟีฟ่าแล้วจ้องมองใบหน้าของฟีฟ่าอย่างไม่กระพริบตา เพราะการมาวันนี้เขาอยากได้คำตอบที่เคยเกริ่นไว้เมื่ออาทิตย์ก่อนโน้น
“พี่มาย้ำอีกครั้งว่าจะไปเที่ยวต่างประเทศกับพี่ไหม”ไอโซนัทได้จองตั๋วไว้สองใบ พร้อมกับเตรียมทุกอย่างไว้ไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย
“ไปที่ไหนเหรอครับ”
“มัลดีฟส์”
เพียงฟีฟ่าได้ยินชื่อแค่นั้น หัวใจของเขาเต้นแรง เพราะเป็นความฝันของฟีฟ่าเลยก็ว่าได้ เขาจึงหันมาจ้องหน้าไอโซนัท
“พี่บอกตามตรงก็ได้ พี่ถามเจมี่ว่าฟีฟ่าอยากไปเที่ยวที่ไหน”
“ครับ”
ถึงแม้ไอโซนัทจะไม่บอก เขาก็พอคาดเดาได้ว่าคงรู้มาจากเจมี่อย่างแน่นอน แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่ต้องคิดมาก
“พี่รู้นะว่าฟีฟ่าอยากไปมาก เป็นความใฝ่ฝันของน้องฟีฟ่า พี่เลยอยากทำให้ความฝันของฟีฟ่าได้เป็นจริง”
“คือพี่”ฟีฟ่ารู้สึกเกรงใจไอโซนัทพอสมควร เพราะค่าใช้จ่ายสูงอย่างแน่นอนในการไปครั้งนี้
“เรื่องค่าใช้จ่ายน้องฟีฟ่าไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก พี่ทำได้เพื่อคนที่พี่รักและฟีฟ่าก็คือคนนั้น”ไอโซนัทยิ้มอย่างจริงใจกับฟีฟ่า
“พี่นัทคือ”
ฟีฟ่าหนักอกคิดไม่ตกว่าจะจัดการอย่างไรดีกับชีวิต เพราะเป็นครั้งที่สามในวันนี้กับโดนชายหนุ่มชวนไปเที่ยว และเป็นสถานที่เขาอยากไปทั้งนั้น
“พี่ก็ไม่อยากบังคับน้องฟีฟ่า เอาแบบนี้ก็แล้วกัน พี่จะรอน้องฟีฟ่าที่สนามบิน เตรียมเอกสารให้พร้อม พี่จะรอน้องฟีฟ่าอยู่ที่นั่น”ไอโซนัทก้มหน้าต่ำลงนิดหน่อย
“คือ”
“ยังไม่ต้องบอกพี่ตอนนี้ก็ได้ เอาเป็นว่าพี่จะรอน้องฟีฟ่าไปหาพี่ก็แล้วกัน”
ฟีฟ่านั่งนิ่งคิดอย่างหนักและอัดอั้นจึงพูดไม่ออก แต่ไอโซนัทก็ไม่คาดคั้นเอาคำตอบแต่เขาก็แอบหวังว่าฟีฟ่าคงไม่ปฏิเสธ
“ถ้างั้นพี่กลับก่อนนะ พี่มีธุระหลายอย่างต้องเคลียร์ก่อนพี่จะไปมัลดีสฟ์กับน้องฟีฟ่า”
ไอโซนัทนัทลุกขึ้นยืนและรีบจุมพิตบริเวณหน้าผากของฟีฟ่าอย่างอ่อนโยน หลังจากนั้นเขายิ้มให้ฟีฟ่า แต่ไอโซนัทก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ได้แต่ยิ้มและเดินจากไปด้วยใจที่มีความหวังอย่างมากว่าฟีฟ่าคงไม่ปฏิเสธเขาอย่างแน่นอน