เธอแค่อยากระบายให้ใครสักคนได้รับรู้ความคับข้องใจของเธอ “ท่านประธานปลอบใจเพลินเหรอคะ” “ปกติผมไม่เคยปลอบใครแบบนี้เลยนะ” “แต่ท่านประธานสงสารและเวทนาเพลินใช่ไหมคะ” คนที่เคยปากเก่งทำเสียงเศร้าจนเขาต้องเลื่อนมือมาโยกศีรษะของเธอไปมา “คุณไม่เหมือนตอนแรกที่เจอกับผมเลยนะ” “ตอนแรกเพลินปากเสียใส่ท่านประธานใช่ไหมคะ” “ตอนแรกน่ะคุณดูเป็นผู้หญิงมั่นใจมากๆ เลยนะ กล้าแย่งแครอทกับผมอย่างเอาเป็นเอาตายเลย” ประโยคของเขาเหมือนแกล้งแหย่เธอเสียมากกว่า ทำให้เธอดูผ่อนคลายขึ้นมาก “ไม่ใช่แค่เขาแอบไปคบกันลับหลังเพลิน โดยไม่บอกให้เพลินรู้ แต่เขายังเอาเงินเก็บที่จะแต่งงานกันไปให้ผู้หญิงอีกคนด้วย เพลินพยายามประหยัดเก็บเงิน ไม่ซื้อของฟุ่มเฟือย พอเพลินหมดตัวเพราะพ่อแม่ตายทิ้งหนี้สินเอาไว้ เขาก็ตีจาก” เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นหนักกว่าเดิมเสียอีก “แสดงว่าโชคดีมากๆ ที่คุณเลิกกับเขาได้” นิรันดร์ได้ฟังแบบนั้นเขาก็รู้สึกโก