บทที่ 2/2

927 Words
ทุกความฝันที่วาดไว้กำลังจะพังทลายลงต่อหน้า แต่มัทนากลับทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากปล่อยให้ธารน้ำตาไหลหลั่งออกมาตอกย้ำและซ้ำเติมความโง่เขลาของตนที่หลงไว้ใจอรทัยผู้เป็นน้า เป็นน้องสาวแท้ๆ ของมารดา ผู้ซึ่งเห็นหน้ามาตั้งแต่จำความได้ ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายคนที่ไว้ใจที่สุดจะทำร้ายหลานสาวกำพร้าได้ลงคอ "เขาจะขายเท่าไหร่" น้ำเสียงสั่นเครือถามผู้เป็นน้าออกไป หัวใจดวงน้อยบีบรัดเจ็บปวด นับพันครั้งที่มัทนาขอโทษพ่อแม่ที่อยู่บนสวรรค์ ลึกๆ รู้ดีว่าตัวเองกำลังจะสูญเสียบ้านไป แต่อีกใจก็หวังลมๆ แล้งๆ ว่าจะได้คืนมา เธอพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง เป็นเงินที่ผู้รับอุปการะมอบให้ในแต่ละเดือนเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย และเงินจากการรับจ้างทำความสะอาดบ้านให้คนในหมู่บ้านเดียวกัน ตามแต่ที่ว่าใครจะว่าจ้าง เงินเพียงเล็กน้อยกับความหวังริบหรี่ที่จวนเจียนจะมอดดับเต็มทีเมื่อนึกถึงความเป็นจริง อ้อยเข้าปากช้างฉันใด บ้านที่ตั้งอยู่ในทำเลทอง ผู้ที่ได้ครอบครองก็ไม่มีวันขายง่ายๆ ฉันนั้น หากไม่ได้ราคาที่พอใจ ซึ่งราคาที่พอใจคงสูงลิ่วจนเด็กสาวอายุสิบแปดเกินจะเอื้อมถึง กระนั้น.. มัทนาก็ยังหวัง หวังว่าบ้านหลังน้อยหลังนั้น บ้านที่เป็นของพ่อแม่ บ้านที่เคยมีเราครอบครัวเล็กๆ อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาจะกลับมาเป็นของเธอ ผู้เป็นน้าหรี่ตามมองหลานสาวที่อยู่ในความดูแลตนมาตลอดสามปี อรทัยหัวเราะเสียงดังลั่นกับคำถามที่เด็กสาวเอ่ยออกมา นางไม่ได้เกลียดหลานหรอกนะ แต่หมั่นไส้ในความจองหองอวดดีของมัทนา "น้ำหน้าอย่างแกอย่ามาถามฉันเรื่องนี้เลย แค่ปัญญาจะเลี้ยงตัวเองยังไม่รอด จะเอาเงินที่ไหนไปซื้อบ้านพ่อแม่แกคืน" "ถึงไม่มี หนูก็จะหามาจนได้ แล้วน้าจำไว้เลยนะ น้าจะไม่มีวันได้อะไรจากหนูอีก บุญคุณที่ดูแลกันมา ถือว่าเงินหนึ่งล้านกับเงินที่น้าเอาบ้านหนูไปจำนองเป็นของที่หนูตอบแทนน้าแล้วกัน และต่อจากนี้ไป แม้แต่ความเป็นญาติ หนูก็ไม่มีให้น้า" "นี่แกกล้าตัดญาติกับฉันเชียวเหรอผักกาด แกรู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกมา หรือคิดว่าเพราะมีผู้อุปการะ แกถึงกล้าปากดีกับฉัน" "เรื่องที่น้าทำ หนูควรด่าน้ามากกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่เพราะเห็นแก่แม่ที่ตายไปแล้วหรอกนะ หนูถึงไม่ว่าน้าชั่ว น้าเลว น้ามันเกินคน โกงได้แม้กระทั่งหลาน" ยิ่งมองเสื้อผ้าที่อรทัยสวมใส่ นึกไปถึงสมาร์ตโฟนราคาครึ่งแสนที่นุดีลูกสาวอรทัยใช้ และข้าวของราคาแพงอีกมากมายที่สองแม่ลูกมี มัทนายิ่งเดือดดาลในอก "ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่ได้โกง! แต่ที่ฉันทำไปเพราะต้องหาเงินมาเลี้ยงแก" "เลี้ยงหนู? เลี้ยงหนูหรือเอาเงินมาถลุงเล่นกับลูกสาวน้ากันแน่ ถามจริงเถอะค่ะ ในแต่ละเดือนน้ามีรายได้สักกี่บาทกัน ถึงได้มีข้าวของราคาแพงใช้ ไหนจะลูกสาวน้าอีก ทำตัวเหมือนคุณหนู ทั้งกระเป๋าแบรนด์ โทรศัพท์เปลี่ยนไม่ซ้ำรุ่น เครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์ เสื้อผ้าที่ไม่เคยใส่ของตลาดนัดเลยตั้งแต่พ่อแม่หนูตาย เงินทั้งหมดที่น้ากับลูกสาวน้าใช้ เอามาจากไหนเหรอคะ จากพ่อของพี่นุดีที่เงินเดือนไม่ถึงสองหมื่นห้า หรือเงินของหนูที่น้าโกงไป" อรทัยโกรธจนตัวสั่น นางหันซ้ายหันขวา คนบ้านใกล้เรือนเคียงเริ่มมามุงดูเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น แน่นอนว่าอีกไม่นานคนทั้งหมู่บ้านคงซุบซิบเรื่องที่นังเด็กเวรนี่พ่นออกมา "หยุดเดี๋ยวนี้นะผักกาด แกพูดบ้าอะไร! ฉันอุตส่าห์เลี้ยงดูแกมาอย่างดี แต่แกกลับอกตัญญูเพราะแค่ฉันไม่ยอมให้เงินแกไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอย่างนั้นเหรอ" "เอาดีเข้าตัว เอาชั่วใส่คนอื่น พึ่งรู้นะคะว่าน้าน้ำถนัด" มัทนาเกลียดนักพวกสันดานอย่างอรทัย อกตัญญูงั้นหรือ เธอขอเงินไปใช้ฟุ่มเฟือยงั้นหรือ เฮอะ! "ที่ผ่านมาน้าให้เงินหนูไปโรงเรียนวันละหนึ่งร้อยรวมค่ารถไปกลับและอุปกรณ์การเรียน ซึ่งแค่ค่ารถก็สี่สิบบาทแล้ว ไหนจะค่าข้าวทั้งเช้าทั้งเที่ยงอีก ถ้าน้าคิดว่าหนึ่งร้อยคือฟุ่มเฟือย งั้นหนูถามหน่อยว่าไอโฟนเครื่องละครึ่งแสนที่ลูกสาวน้าใช้ กระเป๋าแบรนด์เนมราคาหลายหมื่นที่พี่นุดีสะพาย อันนั้นเรียกว่าอะไรคะ แล้วน้าเอาเงินมาจากไหนไปซื้อให้ลูกสาว" ชาวบ้านมองไปที่อรทัยเป็นตาเดียว แม้มัทนาไม่พูด หลายคนก็พอรู้ว่าอรทัยทำอะไรกับหลานสาวผู้น่าสงสาร "เสื้อผ้าที่หนูผักกาดใส่ ขาดจนไม่รู้จะซ่อมจะปะยังไงแล้ว เอาอะไรมาฟุ่มเฟือยกันแม่น้ำ" เพื่อนบ้าน บ้านใกล้เรือนเคียงที่เห็นมัทนามาแต่เล็กแต่น้อยพูดออกไปตามที่คิด "นั่นสิ ต่างจากยายนุดีลูกสาวแก รายนั้นนะ กลับบ้านมาแต่ละทีฉันล่ะนึกว่าไฮโซไฮซ้อที่ไหน"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD