“ไม่มาหรอกค่ะ ดิฉันทำตามหน้าที่แล้ว “ คนเป็นทีเอบอกเสียงเรียบ เพราะคิดว่าเค้าพูดเกินไปแล้ว
“ครับ ผมทราบว่าคุณทีเอทำตามหน้าที่ ถ้าเป็นคนอื่นคุณก็คงทำแบบนี้เหมือนกัน “
ไม่รู้ว่าทำไมเค้าถึงโกรธขึ้นมาแบบนี้ เค้าคาดหวังอะไรจากเธอ คนตรงหน้าเป็นทีเอ เเละที่มาหาเพราะเป็นหน้าที่เท่านั้น
รถมินิขับมาจอดหน้าอพาร์ตเมนต์ใกล้มหาวิทยาลัย คนในรถเงียบมาตลอดทาง มองไปข้างหน้า เพียงอย่างเดียว ก่อนจะเปิดประตูรถลงไป
“ทานยาตามที่หมอสั่ง พักผ่อนนะคะ “ เธอย้ำกับเค้าอีกครั้ง ก่อนจะเดินเข้าตึกไป
คนที่อยู่ในรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว เค้าไม่สนใจเธอสักนิดไม่เลย
พราวรุ้งมองรถมินิที่ขับออกไปจนสุดสายตา เธอพูดอะไรผิดไป ก็เค้าพูดแบบนี้กับเธอได้ยังไง เธอเป็นห่วงเค้า แค่ในฐานะ คนที่ต้องรักษางานของตัวเองเอาไว้ เธอเป็นแค่ทีเอเท่านั้นเอง
อาจารย์หนุ่มยิ้มกับน้องใหม่ที่กำลังนั่งทำงานอยู่เพียงลำพัง เกือบ1เดือนแล้ว ที่เค้าพยายามรุกจีบเธอ แต่ก็ไม่เป็นผล ผู้หญิงแบบนี้ไว้ตัวมาก แต่ถ้าลองได้แล้ว รับรองว่าไม่ไปไหนแน่นอน
“เป็นไงบ้างครับ ทำงานเกือบจะครบเดือนแล้ว “ เค้าถามชวนคุย และเดินมาที่โต๊ะทำงานของเธอ
“ดีค่ะ สนุกดี “
“แล้วกับนายอิทธิพัทธ์ละครับ เทอมนี้ คาดว่าจะเรียนจบไหม”
ชื่อของคนที่ทำให้เธอหงุดหงิดใจ ดังขึ้นมาอีกแล้ว ตั้งแต่วันนั้นที่เธอไปหาหมอกับเค้า อิทธิพัทธ์ก็กลับมาเรียนตามปกติ มาแต่เช้ากว่าเดิม จนไม่ต้องโทรปลุก ส่งงานตามเวลา และเวียบขรึมเย็นชากับเธอเหลือเกิน
“จบแน่นอนค่ะ อาจารย์สุนทรก็สบายใจขึ้นมาก “ ชายหนุ่มยิ้มออกมาด้วยความพอใจ ที่คนตรงหน้าจะได้ต่อสัญญาทำงานแน่นอน เค้ากำลังติดเด็กช่วงนี้ ไม่มีเวลามาเก็บแต้มกับเธอ แต่เค้าก็ไม่มีวันปล่อยให้เธอ หลุดมือไปแน่นอน
ชายหนุ่มนั่งกินข้าวอยู่ที่โรงอาหารแวดล้อมไปด้วยรุ่นน้องชายหญิงกลุ่มใหญ่ มองเห็นคนที่เดินเข้ามาในโรงอาหารเพียงลำพัง ก่อนจะมองไปทางอื่น ไม่อยากสนใจคนที่ทำให้ตัวเองเสียหน้า เมื่อหลายวันก่อน
“ว้าวววดูนั่น อีตาชัยวัฒน์เทียวจีบทีเอแน่นอนวะ “ คนพูด พูดตามที่เห็น เพราะตามปกติ อาจทรย์หนุ่มจะไม่ค่อยมาทานข้าวที่โรงอาหารใต้ถุนตึก แต่จะทานอาหารที่ร้านกาแฟ หรือ ทานข้างนอกเสมอ
“ทีเอก็น่ารักดีนะ ใจดีมาก “ นักศึกษาสาวบอกกับเพื่อน
“แบบนั้นหรอน่ารัก “ คนที่กำลังกินข้าววางช้อนลงทันที
“ก็พี่อิฐไม่ได้ชอบแบบนี้ใช่ไหมคะ ชอบแบบตู้มาเซ็กซี่ใช่ไหมละ พี่พราวรุ้งเค้าเรียบร้อย สวยหวานแบบน้ำเย็นค่ะ ชื่นใจดี “ คำเปรียบเทียบทำให้เห็นภาพชัดเจน ว่าเธอเป็นแบบนั้น
“ไม่แน่นะคะ เจ้าชู้แบบนั้น อาจจะมาตายน้ำตื้นกับพี่พราวรุ้งก็ได้ “ คนฟังมองไปที่ทั้งสองคน ที่กำลังทานข้าวด้วยกัน แล้วลุกขึ้นยืน เดินไปอีกทางหนึ่งทันที
“น้องพราวรุ้ง ชอบทานอาหารอะไรเป็นพิเศษครับ พี่จะแนะนำให้ “ คนอยากทำคะแนนชวนคุย มองจานข้าวราดแกงตรงหน้าของเธอ
“รุ้งทานง่ายค่ะ แค่รสไม่จัดก็ทานได้ ไม่ได้เลือกมากอะไร” คนที่ตั้งใจจะทานข้าวให้อร่อย ตอบแบบสุภาพเป็นกลาง แล้วตักอาหารทานอย่างเร่งรีบ ไม่ค่อยสบายใจที่นั่งทานข้าวกับเค้า ต่างจากที่ทานกับนักศึกษาคนนั้นเหลือเกิน
คนที่เพิ่งรู้ตัวว่าคิดถึงแต่เด็กคนนั้นส่ายหน้ารัวๆด้วยความไม่เข้าใจตัวเอง จนคนที่นั่งข้างๆยิ้มออกมา
“เป็นอะไรครับ ส่ายหน้าทำไม “ คำถามทำให้เธอยิ้มเขิน อยู่ดีดีก็คิดถึงแต่นายคนนั้น
“พอดีลืมไปว่า มีงานด่วน ขอตัวนะคะ” อาหารยังเต็มจาน แต่คนที่ไม่อยากปั้นหน้าลุกขึ้นเอาจานไปเก็บแล้วเดินออกมาทันที เกือบสองสัปดาห์มาแล้ว ที่เค้าทำตัวดี เธอน่าจะสบายใจแต่มันกลับไม่ใช่เลย
นมสตอเบอร์รี่ และขนมปังอีกชิ้น ถูกยื่นให้ตรงทางเดินที่ไร้ผู้คน คนตัวสูง ยื่นให้คนที่เดินผ่านมา ตรงหน้า
“อะไรคะ “ พราวรุ้งมองมือของเค้า แล้วมองใบหน้าของคนที่อยู่ตรงหน้าอีกที
“เผื่อหิว “ เค้าบอกเสียงเรียบ
“คือเพิ่งทานข้าวมาค่ะ “ เธอตอบเค้าออกไป
“แน่ใจว่าเพิ่งกิน แล้วอิ่มไหม “ เพราะคำพูดที่เค้าพูดมา ทำให้คนฟังยิ้มออกมาจนได้ แสดงว่าเค้ามองเธออยู่
“ขอบคุณนะคะ จะทานให้หมดเลย “
รอยยิ้มจางๆแวบเดียวของเค้า ทำเอาหัวใจของเธอเต้นแรง ความอาทรที่มีให้ มันคงไม่ง่ายนักที่เค้าจะทำแบบนี้กับใคร แล้วทำไมเธอต้องปฏิเสธด้วย เพราะเธอก็อยากได้ความใส่ใจจากเค้า มากกว่าความเย็นชา
เสียงคนเดินมาแล้ว ทำให้เค้าต้องเดินจากไป คนที่ยืนนิ่งอยู่ มองนมและขนมในมือที่ได้รับมา แล้วเดินเข้าไปที่ห้องทำงานของตัวเอง ก่อนจะทานของที่ได้รับมาทันที มื้อนี้อิ่มทั้งท้องอิ่มทั้งใจเลยพราวรุ้ง เสียงเธอบอกกับตัวเอง
อิทธิพัทธ์ไม่ชอบที่ตัวเองเป็นคนแบบนี้ ไม่ชอบที่ตัวเองเหินห่างออกไป แม้ปากจะบอกว่า ทีเอเป็นคนไม่มีเสน่ห์ไม่น่าสนใจแต่ความจริงแล้ว เธอน่ารักมากพอ ที่จะทำให้เค้ากลายเป็นคนแบบนี้
มินิคันเล็กขับออกจากมหาวิทยาลัย ไปจอดรอตรงหน้าอพาร์ตเมนต์ที่เคยไปส่งเธอ รอแค่เพียงเวลา ให้เธอกลับออกมาก่อน เท่านั้นเอง
อีก5นาที5โมงเย็น คนที่รอก็มาถึงแล้ว มือหนากดโทรศัพท์โทรหาคนที่เพิ่งเดินมาถึงทันที
”เดินมาขึ้นรถได้มั้ยครับ อยากคุยด้วย “ เค้าบอกอย่างตรงไปตรงมา แล้วมองเธอที่กระจกหลัง ก่อนจะเห็นว่าเธอเดินมาแล้ว
“มีอะไรคะ” เธอเปิดประตูรถเข้ามานั่งแล้วถามออกมา
“ก็อยากคุยด้วย “ เค้าบอกเสียงเรียบ แล้วขับรถออกมาทันที
“ไปไหนคะ “ เธอถามออกมา เมื่อเห็นเค้าขับออกมาทางถนนใหญ่
“คุยกันหน่อยได้ไหม “ เค้าบอกตรงไปตรงมากับเธอ
“พราวรุ้ง คุณคบใครหรือยัง “ คนที่เพิ่งถูกถามนิ่งไปทันที
“ทำไมละคะ ทำไมถึงถาม “ เธอย้อนถามเค้าออกมา
“ไม่น่าถาม โตกันแล้ว คุณน่าจะเข้าใจ “ เค้าย้อนกลับมา แล้วเปิดไฟเลี้ยว เข้ามาจอดบริเวณสวนสาธารณะ ก่อนจะจอดรถ แล้วหันมามองหน้าเธอ
“คุณรู้ไหม รู้สึกได้หรือเปล่า ว่าระหว่างเรา มันมีอะไรมากกว่านั้น “
เค้าถามเธอ เพื่อให้เธอตอบ พราวรุ้งอยากจะปฏิเสธแต่เธอก็ไม่มั่นใจ ว่าระหว่างเค้าและเธอ มันไม่มีอะไรจริงหรือ เพราะเธอก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน