4

1418 Words
“จะเผาทิ้งก็เสียดาย คู่นี้คู่โปรดเก็บไว้เป็นที่ระลึกก่อนละกัน” ดั่งฝันหรือหนิงซูเยว่ดันมันกลับเข้าไปที่เดิมก่อนที่ใครจะเข้ามาเห็น คนอื่นจะเชื่อเรื่องการย้อนเวลาหรือไม่เธอไม่รับรู้ แต่เธอเชื่อสนิทเพราะไม่เช่นนั้นเธอคงไม่ได้มานั่งชูคออยู่ในตำแหน่งฮองเฮาในเวลานี้ ยังโชคดีที่เคยดูซีรี่ส์ในราชวงศ์ชิงมาบ้างบวกกับทำการบ้านเพิ่มมากหน่อยด้วยการเรียนรู้จากขันทีและนางกำนัล เท่านี้ก็ไม่ยากที่จะสวมบทจอมนางแห่งวังหลวงแล้วเสวยสุขในตำแหน่งฮองเฮาต่อไป คิดได้ดังนั้นหนิงซูเยว่ก็เริ่มปฏิบัติการอ่อยเหยื่อเพราะตามประวัติศาสตร์แล้วฮ่องเต้หยางจื่อไม่โปรดฮองเฮาแต่โปรดสนมองค์หนึ่งมาก ตามประวัติศาสตร์บอกว่าทั้งรักทั้งหลงเลื่อนยศให้อย่างก้าวกระโดดจากสนมขั้นผินขึ้นเป็นหวงกุ้ยเฟยในระยะเวลาไม่นาน ต่อจากนั้นนางก็เดาได้ไม่ยากว่าฮ่องเต้คงกำลังทำทุกวิถีทางเพื่อให้สนมคนนั้นขึ้นเป็นฮองเฮาแทนเธอ “สายแอ๊บต้องเจอสายอ่อย” หลังจากที่ได้พบหน้าเสวียอวี้เจินหรือเสวียหวงกุ้ยเฟยแล้วหนิงซูเยว่ก็ลงความเห็นว่านางเป็นสาวงามสายแอ๊บ ดังนั้นเธอจะช้าอีกไม่ได้ต้องรีบทำตัวให้ฮ่องเต้โปรดปรานเร็วที่สุด แผนการอ่อยจึงเป็นหมัดเด็ดที่เธอจะพิชิตฮ่องเต้ให้อยู่หมัดแล้วค่อยกำราบสนมชายาที่เหลือ หยางจื่อยืนอยู่ในอุทยาน ข้างๆ กันคือจางกงกงขันทีคนสนิท เขาเพิ่งได้รับรายงานจากจางกงกงที่ต้องคอยรายงานเรื่องฝ่ายในให้เขารู้ตลอด เขาเพิ่งได้ยินมาว่าฮองเฮาสั่งให้สนมชายาไปเข้าเฝ้าแต่เช้าทุกวัน การไปถวายพระพรนั้นเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ทำกันสืบมาไม่มีอะไรผิดปกติ แต่การให้ไปก่อนพระอาทิตย์ขึ้นนั้นเป็นเรื่องทรมานเหล่าสนมชายายิ่งนัก หนิงซูเยว่ให้เหตุผลว่าเพื่อเสริมดวงชะตาให้แก่ราชวงศ์ดังนั้นจึงไม่มีสนมคนใดกล้าบ่ายเบี่ยง แต่นั่นก็ทำให้เหล่าสนมชายาของเขาหน้าตาอิดโรย ดวงตาดำคล้ำกันไปมากโดยเฉพาะสนมที่ถูกเลือกให้ถวายงานในตอนกลางคืนแล้วรีบลุกมาถวายพระพรฮองเฮาในตอนเช้า มันจึงเป็นเรื่องพิลึกเมื่อฮ่องเต้ตื่นมาแล้วไม่พบสนมข้างกาย เมื่อถามจางกงกงฮ่องเต้ก็มีสีพระพักต์ดำทะมึน “พระสนม และพระราชชายาทุกพระองค์ถูกสั่งให้ไปถวายพระพรฮองเฮาก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ไม่เว้นแม้แต่พระสนมที่ถูกเลือกให้ถวายงานพ่ะย่ะค่ะ” จางกงกงอ้อมแอ้มตอบ พลางเหลือบมองสีหน้าของโอรสสวรรค์ที่ดำคล้ำขึ้นเรื่อยๆ “หนิงซูเยว่นางเกิดบ้าอะไรขึ้นมา นางทำเกินไปแล้วข้าจะไปดูหน้านางสักหน่อย” หยางจื่อเองก็เกือบจะลืมไปแล้วว่าฮองเฮาของพระองค์หน้าตาเป็นยังไง ก่อนหน้านี้เคยมองผ่านๆ จากหางตาในยามที่จำเป็นต้องร่วมพิธีสำคัญเท่านั้น “ยังมีเรื่องแปลกกว่านั้นอีกฝ่าบาท...” จางกงกงอ้อมแอ้มรายงานอีกเช่นเคย “รีบพูดมา” เรื่องที่ว่าแปลกกว่านั้นคือฮองเฮาหนิงซูเยว่ที่แสนจะจืดชืดวันๆ เอาแต่เก็บตัวในตำหนัก หรือไม่ก็สวดมนต์อยู่เสมอกลับลุกขึ้นมาจัดระเบียบตำหนักในใหม่ นางสั่งโรงอาภรณ์ตัดเย็บชุดคลุมหงส์ จนเป็นที่ล่ำลือในตำหนักในทั้งหกตำหนักว่างามล้ำเลิศ ทำให้เหล่าสนมชายาอยากให้ฮองเฮาออกแบบให้พวกนางบ้างแต่ไม่มีใครกล้าบอกเพราะใครจะกล้าสั่งฮองเฮาล่ะ อีกทั้งอาจมีโทษถึงตายหากมีชุดแบบเดียวกับฮองเฮาเอาไว้กับตัว พวกนางจึงได้แต่แอบมองด้วยความริษยา เพราะทั้งผ้าไหมแพรต่วนที่ส่งตรงมาจากต่างบ้านต่างเมืองเพื่อเป็นบรรณาการ ฮ่องเต้จะส่งมอบให้ฮองเฮาได้คัดเลือกก่อนแล้วให้แจกจ่ายไปแก่สนมขั้นสูงคนอื่นๆ เรื่องพวกนี้หยางจื่อไม่ได้เก็บมาใส่ใจ เขาเพียงเลือกไว้ชิ้นหนึ่งให้เสวียอวี้เจินซึ่งเป็นสนมคนโปรด ทว่านางกลับทำให้เขาลำบากใจด้วยการบอกว่าอยากได้ผ้าชิ้นเดียวกับที่ฮองเฮามี เขารับปากนางไปแล้ว จึงต้องมาหาฮองเฮาวันนี้และเพื่อดูความเปลี่ยนแปลงที่เหล่าสนมชายาเล่าลือกันนักหนาว่าหนิงซูเยว่เปลี่ยนแปลงการแต่งกายใหม่จนงามเลิศล้ำ “เห็นทีข้าต้องไปดูหน้านางสักหน่อย ข้าเองก็จำไม่ได้แล้วว่าฮองเฮาหน้าตาเป็นยังไง” หยางจื่อก้าวยาวๆ ไม่กี่ก้าวก็ไปถึงศาลาพักร้อนกลางอุทยานหลวง ที่นั่นมีร่างงามดุจนางพญาหงส์ของฮองเฮานั่งหันหลังให้ จางกงกงเห็นดังนั้นจึงส่งเสียงประกาศ “ฝ่าบาทเสด็จ” เป็นผลให้ผู้ที่นั่งอยู่ในศาลาหมุนตัวลุกขึ้นก่อนจะรีบย่อตัวคำนับ “ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นๆปีเพคะ” เสียงหวานใสของหนิงซูเยว่ที่อยู่ในชุดงามแปลกตาแต่ก็ยังคงเอกลักษณ์เดิมไว้ดังกังวานขึ้น แต่นางยังไม่เงยใบหน้าขึ้นมา “ฮองเฮา ไม่ต้องมากพิธี” ฮองเฮาในชุดงดงามสีแดงกำลังมองที่ครอบนิ้วทำจากทองฉลุลายดอกไม้อย่างพึงพอใจ ฮ่องเต้มาตอนนางอารมณ์ดีนางจึงให้อภัย ‘อยู่วังหลังถ้าทำตัวอ่อนแอก็แพ้ไป แต่นี่หนิงซูเยว่คนใหม่ไม่ใช่คนเก่าต้องอยู่ให้ได้และสบายที่สุด’ นางช้อนดวงตาหงส์ขึ้นมอง หยางจื่อขมวดคิ้ว รู้สึกว่าหนิงซูเยว่เปลี่ยนไปมากจริงๆ ใบหน้าแต่งแต้มสีสันงดงามไม่จืดชืดทั้งยังเครื่องแต่งกายที่นางเลือกมาสวมใส่ นางดูพิถีพิถันและมีชีวิตชีวาขึ้น เห็นได้ชัดว่าหลังจากถูกเขาหมางเมินใส่ นางคงกลับไปปรับปรุงตัวให้งดงามขึ้นหวังจะดึงดูดพระทัยสวามีให้สนใจนางบ้าง “ฮองเฮามีอารมณ์สุนทรีย์ยิ่งนัก นั่งจิบชาชมดอกไม้ เรามานั่งด้วยคงไม่ทำให้ฮองเฮาเสียบรรยาศหรอกกระมัง” หนิงซูเย่วปั้นยิ้มหวาน ใช้สายตาที่แต่งแต้มด้วยดินสอถ่านเขียนขอบตาอย่างดีเพราะยุคนี้ไม่มีอายไลน์เนอร์ไม่งั้นนางคงจะกรีดตาให้โฉบเฉี่ยวกว่านี้ ดวงตาหงส์ปรายมองอย่างเขินอายนิดๆ ให้ดูมีจริตมารยา “มีฝ่าบาทเป็นเพื่อนจิบชาถือเป็นพระมหากรุณาอย่างที่สุดแล้วเพคะ หม่อมฉันจะรินชาถวาย” มือขาวผ่องที่สวมปลอกเล็บทองฉลุลายดอกไม้เรียวยาวยิ่งขับให้นิ้วมือดูงดงามราวกับเทียนไขแกะสลัก อีกทั้งอาภรณ์ที่นางสวมก็ตัดเย็บได้เข้ารูปเข้าทรง ไม่ดูเทอะทะ ยิ่งทำให้น่ามองยิ่งขึ้นไปอีก ทั้งหมดนี้นางไม่ได้ทำเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขาหรอกหรือ หยางจื่อยกชาขึ้นจิบแล้วลอบมอง “รสชาติชาเป็นเช่นไรบ้างเพคะ” “ดีเยี่ยม” หยางจื่อชมแต่หนิงซูเยว่ไม่คล้อยตามผู้ชายปากหวานอย่างนี้ทุกยุคทุกสมัย หน้านางยิ้มแต่ในใจนางสบถด่าอีกฝ่ายเป็นชุด อย่าคิดว่านางจะลืมความแค้นของฮองเฮาคนเดิมที่เคยถูกสามีอย่างท่านกระทำ นางฟังจากนางกำนัลมามากคิดแล้วแค้นแทน ‘เชอะก็แค่ผู้ชายหลงเมียน้อย เห็นเมียหลวงสวยขึ้นมาหน่อยทำเป็นมองตาค้าง’ หนิงซูเยว่สืบมาหมดแล้วว่าฮ่องเต้ไม่เคยร่วมแท่นบรรทมกับฮองเฮาไม่เคยเหยียบตำหนักฮองเฮาเลยด้วยซ้ำเพราะใจจริงนั้นอยากแต่งตั้งสนมคนโปรดขึ้นเป็นฮองเฮาแต่ทำไม่ได้เลยใช้วิธีการเย็นชาหมางเมินใส่ ‘ฮึ ผู้ชายนะผู้ชาย หลงเมียน้อยลืมเมียหลวง’ หนิงซูเยว่คิดอย่างหมั่นไส้ แอบแช่งในใจให้ฮ่องเต้ตายไปปีนต้นงิ้ว แต่ดวงตาและริมฝีปากยังผลิรอยยิ้มไม่เปลี่ยน หยางจื่อปรายตามอง “ได้ยินว่าเจ้าตัดชุดใหม่ วันนี้เจ้าดูสวยมากจริงๆ สมเป็นฮองเฮารักของเรานัก” ‘รักเหรอ ช่างกล้าพูด’ หนิงซูเยว่ยิ้มบางๆ “หม่อมฉันได้รับพระราชทานผ้าแพรต่วนอย่างดีมามากมายเลยลองออกแบบแล้วให้ช่างตัดเย็บขึ้นใหม่ ฝีมือน้อยนิดนักไม่คิดว่าฝ่าบาทจะทรงชื่นชม”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD