นิลลดางัวเงียตื่นขึ้นมาด้วยอาการผอืดผอม พร้อมกับวิ่งเข้าห้องน้ำทันทีโดยที่ไม่ได้ดูสภาพตัวเองและไม่ได้สนใจว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องตัวเอง จนเมื่อมันใจว่าของเสียที่เพิ่งพวยพุ่งออกมาหมดแล้วจึงเดินกลับมาที่เตียงทิ้งตัวลงนอนอย่างเหนื่อยอ่อนโดยที่ไม่ได้ทันสังเกตว่ามีอีกหนึ่งชีวิตนอนอยู่ร่วมเตียงเดียวกันจนกระทั่งคนข้างๆ วาดแขนมากอดเธอไว้อย่างแนบแน่นความอุ่นจากตัวอันชิตา ทำให้สองตาเบิงโพลงทันที หันมองรอบๆ ตัว ก้มลงมองสภาพตัวเองและคนข้างๆ แต่มองไม่ชัดนักจึงเอื้อมมือเปิดโคมไฟหัวเตียงเพราะเวลานี้พระอาทตย์ยังไม่พร้อมทำงาน
“ซวยแล้ว” เมื่อรู้ว่าคนที่รัดตัวเองแน่นเป็นใคร พยายามแกะมือหล่อนออกแต่เหมือนยิ่งแน่นจนตัดสินใจเอ่ยเรียกแทน
“พัฒน์ พัฒน์อย่าทิ้งอันไป” หล่อนพูดออกมาคล้ายคนละเมอ
“อันขอโทษ อันคิดถึง”
“คุณ คุณ ตื่นเถอะ” คนตายไปแล้วยังร้องเรียกอยู่ได้ นิลลดาช่างใจอยู่พักนึงก่อนจะปลุกหล่อน ซึ่งอันชิตาก็ค่อยๆ ลืมตา แต่ก็ต้องตกใจตาเบิกโพลงเมื่อเห็นสภาพตัวเองและคนข้างๆ ก็ไม่ต่างกันรีบเด้งตัวลุกขึ้นนั่งแถมกระชากผ้าห่มผืนหนาไว้ที่ตัวเองคนเดียวด้วยความตกใจ
“ว้าย” พอตัวเองดึงผ้าห่มไปใช้คนเดียวนิลลดาจึงล่อนจ้อนอยู่บนเตียงแต่คนที่ร้องออกมาด้วยความอายคืออันชิตาแถมหลับตาปี๋
“ร้องทำไมเนี่ย คนที่ร้องต้องเป็นฉันนะ” นิลลดาเริ่มหงุดหงิดแทนที่จะอายเพราะหล่อนเห็นเธอเปลือยต่อหน้าเต็มสองตาแต่กลับดันมาอายแทนซะนี้ เธอจึงแย่งผ้าห่มมาคลุมตัวเองบ้าง
“เธอทำอะไรฉัน” อันชิตาเริ่มเอาเรื่อง
“คุณไม่คิดว่าเป็นคุณที่ทำฉันบ้างหรือไง” นิลลดาตอบอย่างเหนื่อยหน่ายแต่ภายในใจก็รู้สึกเครียด
“ช่วยดูสภาพฉันซะก่อน” ทั้งคอและบริเวณอกของอันชิตาเต็มไปด้วยรอยจ้ำแดงๆ ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าผ่านเหตุการณ์อะไรมา
“แล้วยังไงต้องการอะไรเล่า” นิลลดาเริ่มหงุดหงิดเพราะพยายามนึกเรื่องราวเหตุการณ์เมื่อคืนอย่างไรก็นึกไม่ออกคงด้วยเพราะยังไม่ค่อยสร่างเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ครั้งสุดท้ายที่จำได้คือนั่งดื่มเบียร์กับลุงลูคัส
“ทุเรศ พูดมาได้” เหวี่ยงมือหมายจะฟาดไปที่แก้มใสๆ ของคนตรงหน้าแต่คนเมาอย่างนิลลดากลับไวกว่าหล่อน มืออีกข้างจึงตามไปติดๆ เหตุการณ์ก่อนหน้าที่นิลลดาถูกตบย้อนกลับมาสอนเธอทำให้คว้ามือของอันชิตาไว้ทันการถูกตบจึงไม่เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สอง ซึ่งก็ทำให้อันชิตาพยศหนักขึ้นอีกเพราะหล่อนไม่สามารถจะใช้มือของตัวเองในการดิ้นรนต่อสู่กับคนตรงหน้าเอาแต่ยื้อยุดกับเด็กสาวด้วยความโมโหแถมยังด่าว่าคนตรงหน้าไม่หยุดแม้จะสู้ไม่ได้โดยไม่ได้สนใจสภาพตัวเองตอนนี้
“ฉันไม่ได้ทำอะไรคุณ แต่ถ้าคุณจะพยายามยัดเยียดฉันก็จะจัดให้” จัดการกดหล่อนลงเตียงไร้ความปราณีและความอ่อนโยน
“ก็ลองดูสิจะได้เห็นดีกัน” เมื่อพยายามจะขัดขืนนิลลดาก็ยิ่งบีบข้อมือหล่อนแรงขึ้น ร่างกายจะหยุดนิ่งยอมให้เด็กสาวใช้กำลังกับหล่อนและแม้จะสู้ด้วยพละกำลังไม่ได้แต่ปากของอันชิตาก็ยังคงส่งเสียงได้
“จะไล่ฉันออกเหรอ เหตุผลนี้คงใช้ไม่ได้หรอกนะเพราะคุณสมยอม” จมูกซนๆ เริ่มเข้าหาซอกคอของอันชิตาอย่างหื่นกระหายและฝากรอยประทับไว้อย่างจงใจ มือนึงค่อยๆ ลูบไล้ต้นขาเปลือยเปล่า จนทำให้หล่อนสะท้านกับสัมผัสที่ห่างหายมานาน แต่ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีกับสั่งให้หล่อนพยายามผลักดันไหล่ของคนที่กำลังตักตวงความสุขบนตัวเธอ
“หยุด หยุดนะ” เหมือนเสียงห้ามของหล่อนจะไม่มีความหมาย จากซอกคอเปลี่ยนมาเป็นปากเรียวนั้นแทนจูบแบบดุดันและเอาแต่ใจของเด็กสาวทำให้อันชิตาแทบจะหายใจไม่ออกจนต้องทุบไหล่นิลลดาแทนเพื่อขออากาศหายใจ
“คราวนี้จะยอมนิลมั้ย นิลจะไม่รุนแรง” เด็กสาวเอ่ยประโยคหวานเมื่อเห็นอันชิตาหายจากอาการหอบเหนื่อยแล้ว นิลลดาค่อยๆ จูบซับน้ำตาของคนตรงหน้าค่อยๆ บรรจงจูบแบบแผ่วเบาอีกครั้งและยอมปล่อยมือที่จับหล่อนไว้ให้เป็นอิสระทั้งสองข้าง ถึงแม้หล่อนจะไม่ได้ขัดขืนแต่ก็ไม่ค่อยให้ความร่วมมือ มือข้างเดิมค่อยๆ ลูบวนอยู่ตรงเอ็วคอดก่อนจะย้ายมาที่จุดหวงแหนช้าๆ
“อ๊ะ” การขยับนิ้วของนิลลดาทำให้หล่อนยอมเปิดปากให้เด็กสาวส่งลิ้นร้อนๆ นิ้วเรียวกำลังทำหน้าที่หยอกล้ออยู่ไล้วนอยู่บริเวณเดิมไม่หยุดจน คนอายุมากต้องกำผ้าปูที่นอนแน่นมืออีกข้างที่คอยผลักดันเด็กสาวก็เปลี่ยนมาจิกที่ไหล่ ขาเรียวที่ทอดยาวแนบชิดก็ค่อยๆ ขยับออก ด้วยความเสียวซ่าน
“ฉัน ฉันจะไม่ไหว” หล่อนเพื่งจะมีโอกาสได้ส่งเสียง เพราะตอนนี้เด็กสาวเปลี่ยนเป้าหมายมาดูดยอดปทุมถันของหล่อนอย่างหนักหน่วงแทน เมื่อได้ยินสิ่งที่ออกจากปากอันชิตามืออีกข้างที่กำลังขยำหน้าอกหล่อนอย่างแรงราวกับรอคอยมานานค่อยๆ เคลื่อนมาแยกขาคนอายุมากกว่าให้กว้างขึ้นและเคลื่อนตัวตามลงไป สัมผัสจากลิ้นร้อนๆ ของเด็กสาวทำให้หล่อนเกร็งกระตุกจนต้องชันเข่าขึ้นราวกับร่างจะแหลกสลาย จนต้องเด้งตัวขึ้นมากดหัวของนิลลดาให้แนบชิดมากขึ้น เสียงครางค่อยๆ ดังระงมขึ้นเรื่อยๆ จนหล่อนเกร็งกระตุกอีกครั้งพร้อมกับทิ้งตัวลงนอนอย่างหอบเหนื่อย ส่วนคนที่อยู่หว่างขาก็กำลังเช็ดทำความสะอาดโดดดูดกลืนน้ำหวานที่กำลังหลั่งไหลออกมาไม่หยุดและตามขึ้นไปบดเบียดตัวเองให้แนบชิดหล่อนอย่างเอาแต่ใจไม่ยอมให้คนอายุมากกว่าออกห่างจากตัว
“พอเถอะ ฉันไม่ไหว อ๊ะ” พูดยังไม่ทันจบนิ้วซนๆ ที่ทีแรกไล้วนอยู่บริเวณเดิมก็ถูกส่งเข้าไปและค่อยๆ ขยับเข้าออกช้าและเพิ่มเข้าไปใหม่อีกนิ้วยิ่งทำให้อันชิตาส่งเสียงคราวมากยิ่งขึ้นจนคนอายุน้อยต้องจูบปิดปากเพราะกลัวว่าห้องข้างๆ จะแตกตื่นกับเสียงของหล่อน จากที่ค่อยๆ ขยับก็ เร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานหล่อนก็เกร็งกระตุกอีกครั้งจนน้ำหวานไหลเยิ้มเต็มมือนิลลดา เธอลุกขึ้น แยกขาคนอายุมากออกและแทรกจุดๆ เดียวกันเข้าแทนที่อย่างแนบแน่น และค่อยๆ ขยับช้าๆ ในท่านั่ง
“คุณลองขยับด้วยสิ” ปากบอกขณะที่ร่างกายก็ยังทำหน้าที่ไม่หยุดและเริ่มเร่งความเร็วขึ้น
“ไม่มีทาง” เพราะความอายทำให้ตอบไปแบบนั้นด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น
“หยุดทำไม” เมื่ออันชิตาไม่ยอมทำตามที่บอกนิลลดาจึงหยุดกิจกรรมแต่ก็ไม่ได้ขยับตัวออกจากจุดอ่อนไหวของหล่อน แม้อันชิตาดูเหมือนจะถึงจุดหมายแล้วก็ตามเพียงแค่หยุดขยับก็เท่านั้น
“นิลช่วยคุณตั้งหลายครั้งแล้วคุณแค่ช่วยให้ความร่วมมือบ้างไม่ได้หรือไง” เด็กสาวหน้าง้ำ นิลลดาช่างน่าไม่อายที่พูดออกมาทำราวกับเป็นเรื่องธรรมดา อันชิตาคิด ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะเคยแต่งงานกับผู้ชายถึงสองครั้งเรื่องอย่างว่าก็มีเป็นเรื่องปกติแต่สามีทั้งสองคนก็ไม่เคยร้องขอความช่วยเหลือเวลามีกิจกรรมทางเพศ
“ฉันไม่เคยหนิ” อันชิตาตอบเสียงเบาเบนสายตาไปทางอื่น นิลลดายิ้มแก้มปริทันทีที่แท้หล่อนก็อ่อนประสบการณ์ นิลลดาค่อยๆ โน้มตัวลงไปใกล้หล่อนพร้อมกับกดจูบแรงๆ ไปที่แก้มของคนอายุมาก
“คุณรู้มั้ยตั้งแต่นิลเจอคุณนิลก็ไม่ชอบใครอีกเลย” นิลลดาเอ่ยคำสารภาพออกมาแม้คำบอกรักจะอยู่ในท่าล่อแหลมก็ตาม
“ตอนนี้ฉันก็เกลียดทุกคนยกเว้นเธอ” ด้วยอำนาจเซ็กส์ของเด็กสาวตรงหน้าหรือเปล่าไม่รู้ทำให้อันชิตากล้าพูดประโยคนั้นออกมา
_____________________________________________________
โอ้ยยย ตอนนี้คือแบบ แน่นอกและบีบหัวใจมากค่ะ
พยายามจะแต่งให้กระชับและเห็นภาพ ฝากคนอ่านจินตนาการต่อด้วยนะคะ
NC คือแบบคิดแล้วคิดอีก แก้แล้วแก้อีก
แต่ถ้ามี NC ตอนแรกแล้ว ตอนต่อไปจะมาเรื่อยๆ ค่ะ
คนนึงก็เด็กแรงม้า อีกคนก็ห่างหายมานาน
น่าจะยันสว่าง
รักคนอ่านเหมือนเดิมนะคะ
_______________________________
เอาภาพนายแม่ผู้อยู่เบื้อหลังมาฝากค่ะ
เมื่อแม่เห็นว่าดี ทุกอย่างที่ทำก็คือดี