ในยามที่มาเห็นหลังคาบ้านไม้ขนาดกะทัดรัดของวันวิสาแล้ว ก็ทำให้พ่อเลี้ยงเมธนึกถึงประโยคที่ว่า ต่อให้ไม่ได้เห็นหน้าเจ้า แต่ขอเห็นหลังคาบ้านก็ยังดี ทว่าตอนนี้สำหรับเขาแล้ว การมองแค่หลังคาบ้านไม่ได้ช่วยทำให้หัวใจอุ่นร้อนนี้สงบลงได้ จึงยืนนิ่งอยู่ในมุมมืดสักพักใหญ่ จนกระทั่งไฟในบ้านดับสนิทนั่นแหละถึงได้เคลื่อนไปใกล้หน้าต่างห้องนอนของใครบางคน
เมื่อมาถึงก็หยิบเอาหินก้อนเล็กๆ แล้วโยนกระทบกับหน้าต่างไม้บานกว้าง เมื่อขว้างหนึ่งครั้งแล้วหญิงสาวยังไม่เปิดก็หยิบหินก้อนที่สองและสามมาขว้างต่อ จนกระทั่งหญิงสาวยอมเปิดประตูถึงได้ยิ้มกว้างๆ ให้
“พ่อเลี้ยงมาทำอะไรที่นี่คะ” วันวิสาชะโงกถามด้วยความแปลกใจ
“ฉันขึ้นไปหาได้ไหม”
“ไม่ได้ค่ะ” หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ “รีบกลับไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ ไม่อย่างนั้นยายอบเห็นเข้าจะเป็นเรื่องนะคะ”
“ฉันไม่กลับ เดี๋ยวปีนขึ้นไปหา”
“มันสูงนะคะ”
“ถ้าเธอไม่อยากให้ฉันตกลงมาจนเจ็บตัวละก็ ไปเปิดประตูให้ฉันหน่อยสิ ฉันมีเรื่องจะพูดด้วย”
“แต่ว่า...นี่มันดึกแล้วนะคะ”
“จะรีบคุยรีบกลับ” เมธัสยิ้มแป้นยื่นข้อเสนอ
วันวิสามองพ่อเลี้ยงหนุ่มอย่างลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ทนต่อสายตาเว้าวอนของเขาไม่ไหว จึงได้แต่ค่อยๆ เดินออกจากห้อง ก่อนจะก้าวไปเปิดประตูบ้าน เธอก็ไม่ลืมสอดส่องสายตาเข้าไปในห้องของยายอบ เห็นยายหลับสนิทจึงได้แต่ถอนหายใจยาวๆ อย่างโล่งอก
เมื่อเปิดประตูบ้าน พ่อเลี้ยงก็มายืนอยู่ตรงหน้า เธอจึงรีบคว้าแขนของเขาลงไปคุยกันด้านล่าง ดีกว่าจะให้ขึ้นมา ส่งเสียงดังทำให้ยายอบตกใจเสียเปล่าๆ
ดึงเขามาหลบอยู่ด้านหลังต้นไม้ใหญ่แล้วก็เอาแต่กอดอกมอง “มีอะไรจะคุยกับเทียนหรือคะ”
“เทียนอยากได้ที่ไหน”
“อะไรคะ”
“มีเซ็กซ์ไง พรุ่งนี้ เทียนอยากทำที่ไหนฮึ ฉันคิดไว้ตั้งหลายที่แต่ก็เลือกไม่ถูก”
หญิงสาวค่อยๆ ยิ้มให้แล้ววางมือลูบไล้แผ่นอกของพ่อเลี้ยงเมธอย่างใจกล้า “เทียนบอกแล้วไง ว่าพรุ่งนี้เราจะมีอะไรกันที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น และก็ยังบอกอีกว่า ในวันหนึ่งจะกี่ยกก็ได้ พ่อเลี้ยงไม่เข้าใจความหมายหรือคะ”
“หมายถึง...เราเปลี่ยนสถานที่ได้ ใช่ไหมฮึ”
“แน่นอนค่ะ”
“แค่คิดฉันก็กระปรี้กระเปร่าขึ้นเป็นกอง”
“ได้คำตอบแล้ว เทียนขอตัวก่อนนะคะ” เธอเอ่ยแค่นั้นก็หมุนร่างเตรียมเดินจากไป แต่กลับถูกพ่อเลี้ยงเมธสวมกอดจากด้านหลัง เหนียวรั้งเอากายบางมาเบียดชิดลำกายด้านหน้าจนไร้ช่องว่าง เสียงลมหายใจของเขาดังแผ่วพร่าอยู่ใกล้ๆ กับหูของเธอ กลิ่นกายของเขาทำเอาหัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ จึงได้แต่กลั้นใจเอ่ยขึ้น “พ่อเลี้ยงต้องการอะไรอีกหรือคะ”
“ไหนๆ ก็เจอกันแล้ว...ฉันขอ...” ปกติเมธัสค่อนข้างจะเป็นผู้ชายเข้มแข็ง ห้าวๆ ดูมีอำนาจจนผู้คนภายในปางไม้ต่างก็พากันหวั่นกลัว แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พออยู่กับวันวิสาซึ่งอายุน้อยกว่า ชายหนุ่มกลับกลายเป็นเพียงหนุ่มน้อยคนหนึ่งที่ดูไร้ซึ่งประสบการณ์รักไปเลยก็ไม่ปาน
ท่าทางอ้ำๆ อึ้งๆ ของเขา ทำให้วันวิสาค่อยๆ หมุนกายมาเผชิญหน้าก่อนจะยกมือขึ้นคล้องคำเขา เอียงหน้าเอียงคอมองด้วยดวงตาระยิบระยับ
“พ่อเลี้ยงอยากจูบเทียนหรือคะ”
“แล้วได้ไหม”
เมื่อหญิงสาวถามตรงๆ เขาก็ตอบตรงๆ ไม่มีหลบเลี่ยง อ้อยอิ่ง หรืออะไรอีก เปิดเผยความรู้สึกความปรารถนาออกมาให้เห็นกันเด่นชัด
“ถ้ายอมแล้ว พ่อเลี้ยงจะให้อะไรเทียนคะ”
“เธออยากได้อะไร ฉันยอมทั้งนั้น”
“ดาว...”
“จะไปสอยให้เดี๋ยวนี้”
“เดือน...”
“จะปีนขึ้นไปหยิบมาให้”
หญิงสาวมองเขายิ้มๆ แล้วส่ายหน้า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วพริ้มตาหลับลงอย่างรอคอยรับสัมผัสจากริมฝีปากของเขา แต่เมื่อชายหนุ่มค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมาจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนของเขาเธอกลับลืมตาขึ้นพลางว่า “คืนนี้เทียน...ไม่ได้ใส่ชุดชั้น...”
ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบ ริมฝีปากอุ่นร้อนของเมธัสก็นาบแนบลงมาจนไร้ช่องว่าง ความร้อนจากลิ้นของเขาค่อยๆ ลูบไล้กลีบปากบางนุ่มของเธอทั้งบนและล่างอย่างช้าๆ ก่อนจะค่อยๆ สอดส่ายเข้าไปด้านในอย่างมีจังหวะจะโคน ลิ้นของเขาที่ลูบรัดตีตราลิ้นนุ่มๆ ของเธออยู่ในเวลานี้ทำเอาวันวิสาต้องปล่อยเสียงครวญออกมาดังแข่งกับเสียงสัตว์ตัวน้อยๆ ที่ร้องระงมลั่นปางไม้
แค่หญิงสาวส่งเสียงขึ้นก็คล้ายกับว่ากระตุ้นต่อมความทรงจำในยามค่ำคืนนั้นของเมธัส เสียงแบบนี้ จังหวะลมหายใจแบบนี้ สัมผัสช่างคุ้นเคยเหลือเกิน ทำให้เขามั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วว่า ผู้หญิงที่เขาค่อยๆ ชำแรกแทรกซึมหล่อหลวมจนร่างกายของเธอปริแตกเป็นส่วนๆ นั้นก็คือวันวิสาคนนี้แน่นอน เรื่องระหว่างเขากับเธอมันไม่ใช่แค่อาจจะหรือว่าฝันไปอีกแล้ว แต่ทุกอย่าง ทุกท่วงท่า ทุกจังหวะรักนั้นล้วนเป็นความจริงแทบทั้งสิ้น
เมื่อหญิงสาวตอบสนองลิ้นอุ่นจัดที่ลากไล้ภายในปากของเธออย่างร้อนแรง เลือดในกายของเมธัสก็สูบฉีดวิ่งพล่านจนเกินกว่าจะสามารถหักห้ามใจอะไรได้ ดังนั้นชายกระโปรงชุดนอนของวันวิสาจึงถูกรั้งขึ้น พร้อมๆ กับมือของเขาวางสัมผัสและลูบไล้เพื่อพิสูจน์ว่าใต้ร่มผ้านี้ของเธอนั้นเปล่าเปลือยเหลือเพียงเนื้อแท้ของกายสาวเท่านั้น