ตอนที่ 2 เสี่ยงอันตราย

2287 Words
มัลลิกาพยายามเดินหลบชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวไปเรื่อย แต่ดูเหมือนพวกนั้นจะไม่ยอมรามือง่าย ๆ พวกมัน เดินไปมองหน้าที่ละคน ๆ ด้วยซ้ำโดยไม่มีมารยาท เมื่อมัลลิกาเห็นดังนั้น เธอจึงค่อย ๆ เลื่อน ตัวไปด้านข้าง แต่พวกมันก็ยังตามหาเธออยู่ มัลลิกา ขยับตัวจนมาถึงอีกมุมของถนน ที่ตรงนี้ไม่ค่อยมีคน ถ้าเธอขยับอีกมีหวังพวกมันสังเกตุเห็นแน่ ๆ ในขณะที่เธอขยับเท้าอยู่นั้น ร่างบางของเธอก็ชนเข้ากับ กำแพงหนา ไม่ใช่สิ คนตัวใหญ่ภายใต้เสื้อโค๊ต สีดำ ยืนอยู่ มัลลิกาได้แต่คิดว่า คนอะไร ตัวสูงใหญ่ยังกับยักษ์ นี้ขนาดว่าเธอ ก็ถือว่าสูงอยู่นะ แต่ตอนนี้ ศีรษะเธอแค่ไหล่ของคนข้าง ๆ เท่านั้นเอง และในขณะที่มัลลิกากำลังคิด เธอก็ได้ยินเสียงพวกคนร้ายเอ่ยถามกัน ไล่หลังตามมาติด ๆ ทำให้เธอ ตัดสินใจ เดินไปด้านหน้าของคนร่างยักษ์ที่เธอว่า พร้อมกับเบียดร่างบางเข้าหาเขาแล้วก็ดึงแขนแกร่งโอบร่างบางของเธอและก็ซุกเข้าไปในเสื้อโค๊ตตัวหนา ของเขา เหมือนกับตอนนี้ ร่างเธออยู่ในอ้อมกอดของคนร่างยักษ์ตรงหน้า พอดิบพอดี “ขอโทษนะคะ ขอความกรุณาให้ความร่วมมือด้วยนะคะ”มัลลิกาเอ่ยพร้อมกับ ของปลายแหลมที่เธอล้วงมาจาก อกเสื้อของคนดังกล่าวเมื่อสักครู่ มันคือปากกา ถึงแม้จะไม่อันตราย แต่มันก็เรียกเลือดหรืออาจจะสาหัสกว่านั้นก็ได้ ถ้าเสียบเข้าบริเวณสำคัญในตอนนี้ แฟรงค์ เฟอเบโต้ ได้แต่มองสาวน้อยตรงหน้า ด้วยความแปลกใจ พร้อมกับส่งสัญญา ให้บอร์ดี้การ์ดที่ติดตามเขา ให้อยู่เฉย ๆ แล้วก็รอดูว่าเธอจะทำอะไรต่อไป อันที่จริง วันนี้ เขาแค่อยากจะ พักสมอง โดยการมายืนดูขบวนพาเหรด ที่จัดตามถนน แต่ไม่คิดว่าการการยืนผ่อนคลายของเขาจะทำให้เขามีร่างนุ่มนิ่มของสาวเอเชีย มาอยู่ในอ้อมแขน แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า เธอกำลังหนีอะไร และจากที่เขามองเห็น เธอกำลังต้องการให้เขาช่วย แน่ ๆ แต่ถึงแม้เธอไม่ขอเขาก็ยินดีช่วย กระต่ายน้อยอย่างเธออยู่แล้ว แฟรงค์ได้แต่ยิ้มกับความคิดของตัวเอง เพราะโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อย ๆ “ไปทำอะไรมาถึงถูกตามล่า คนเอเชียเหรอ “เสียงทุ้มเอ่ยถามอยู่เหนือศีรษะเธอ ทำให้มัลลิกาเงยหน้ามอง และแค่เธอเงยหน้ามองเท่านั้นแหละมันทำให้เธอ เหมือนต้องมนสะกด พร้อมกับคิดในใจ คนอะไร จะหล่อปานนั้น คนหรือเทพบุตรกันเนี๊ยะ มัลลิกาได้แต่คิดในใจ แต่เธอก็ต้องรีบสะบัดศีรษะไล่ความคิดนั้นออกจากหัว เพราะเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้เธอต้องหาทางหนีไปจากตรงนี้ก่อน และในขณะที่เธอกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก คนร้ายสองคนกำลังเดินเข้ามาใกล้เธอเรื่อย ๆ และเร็วเท่าความคิด “ ขอโทษนะ มิสเตอร์”หลังจากพูดจบ มัลลิกาก็ใช้ลำแขนเรียวโอบไปที่ลำคอแกร่ง แล้วก็ดึงรั้งให้เขาก้มลงมาหาเธอ และแฟรงค์เองก็ให้ความร่วมมือด้วยดี มัลลิกา ประกบจูบชายหนุ่มนิ่ง อยู่แบบนั้นและสายตาคอยชำเรืองมองที่คนร้ายสองคนที่เดินเข้ามาใกล้ และเมื่อพวกมันเห็น ว่ามีคนกำลังพลอดรักกันอยู่จึงได้แต่ส่ายหน้าแล้วก็เดินผ่านไป เมื่อมัลลิกาเห็นดังนั้นและกำลังจะถอนริมฝีปากออก กลับต้องตกใจ เมื่อมือหนาของคนตรงหน้า กลับจับไปที่ท้ายทอยของเธอแล้วก็ล๊อคเอาไว้ไม่ให้ เธอหลบเขาได้ ริมฝีปากที่ถูกประกบไว้เฉย ๆ ตอนแรก ตอนนี้ขยับบดจูบริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ และยัง ใช้ฟันขบเม้มเบา ๆ อย่างหยอกเอิน เขาบดจูบอย่างเร่าร้อน ไม่ปล่อยให้เธอได้หายใจหายคอ ได้แต่ใช้มือบางดันอกแกร่งเอาไว้เท่านั้นเอง และเมื่อเขาจูบเธอจนพอใจจึงได้ถอนริมฝีปากออกพร้อมกับส่งยิ้ม เจ้าเล่ห์ให้กับมัลลิกา “ไอ้ฝรั่งบ้ากามเอ้ย คนฉวยโอกาส “มัลลิกาเอ่ยต่อว่า เขา และเร็วเท่าความคิด มัลลิกา ใช้ส้นร้องเท้าแหลม ๆ ของเธอ เหยียบไปที่เท้าหนาเต็มแรง ทำให้ แฟรงค์ ต้องปล่อยมือจากร่างบางทันที และเป็นจังหวะที่มัลลิกาถอยห่างออกจากร่างหนา บอร์ดี้การ์ดสองคนกำลังจะเดินเข้าไปหาเธอ แต่ก็ถูกเขาห้ามเอาไว้ซะก่อน ในขณะที่ทั้งคู่กำลังจ้องตากันอยู่นั้น รามก็วิ่งมาถึงตัวของมัลลิกา แล้วก็จับร่างบางหมุนไปมาอย่างสำรวจว่าบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า และท่าทางนั้นทำให้ ชายอีกคนที่ยืนอยู่ตรงข้าม ต้องขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ “มะลิเป็นอะไรหรือ เปล่า พวกมันทำอะไรมะลิหรือเปล่า “รามเอ่ยถามเสียงรัวเร็ว ด้วยภาษาไทย ทำให้ แฟรงค์ได้แต่มองว่าสองคนนี้พูดอะไรกัน “ไม่เป็นไรพี่ราม ตอนนี้มะลิรู้สึกห่วงแซมซะแล้วสิ “มัลลิกาเอ่ยกับพี่ชาย “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว งั้นเรากลับกันเถอะ “รามบอกและจับไปที่ข้อมือบางแล้วก็พาเดินไป แต่ก็มีเสียงเรียกตามหลังซะก่อน “เฮ้ ไม่คิดจะขอบคุณซักคำหรือไงคนสวย”แฟรงค์เอ่ยถามเธอและมองจ้องไปที่ใบหน้าสวยของเธอ “คงไม่จำเป็นมั้งคะ คิดซะว่าเรื่องเมื่อสักครู่ฉันได้ตอบแทนคุณแล้ว และเราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้วคะ ลาก่อน” จากนั้น ทั้งสองคนพี่น้องก็เดินจากไป โดยมีสายตาของแฟรงค์มองตามไม่คลาดสายตา เราต้องได้เจอกันอีกแน่แม่กระต่ายน้อย แฟรงค์ได้แต่ยิ้มในหน้า และเผลอเอามือลูบไล้ริมฝีปากหนาของเขา พร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก เมื่อสองคนเดินห่างออกไปแล้ว แฟรงค์ ก็หันมาสนใจกับขบวนพาเหรดตรงหน้าพร้อมกับคิดว่า วันนี้เป็นวันพักผ่อนที่น่าประทับใจสำหรับแฟรงค์ “บอส เกิดอะไรขึ้นค่ะ “มาเรีย บอร์ดี้การ์ดสาวพ่วงด้วยตำแหน่งเลขาคนสนิท เอ่ยถามบอสหนุ่ม เมื่อเดินมาถึงหลังจากที่สั่งงานลูกน้องแล้ว “ไม่มีอะไรมาเรีย แล้วงานที่ให้ทำเป็นไงบ้าง “แฟรงค์ถามกลับเลขาคนสนิทและสายตามองไปที่ถนนเบื้องหน้า แฟรงค์ เฟอเบโต้ นักธุรกิจหนุ่ม ผู้ได้รับฉายาว่า เทพบุตรมาเฟีย เขาอายุ 33 ปี รูปร่างสูงใหญ่ ผิวสีแทน หน้าตาหล่อเหลา ดวงตาคมดุ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางเฉียบ บ่งบอกถึงความเอาแต่ใจ ของเขา ธุรกิจของเขา นั้น มีมากมายหลายสาขา ทั้งขาว ที่เทา และถ้าใครได้ยินชื่อของเขา ต้องมีอาการหนาว ๆ ร้อน ๆ ด้วยความเด็ดขาดในการตัดสินใจ ไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น “คะ บอส เรื่องที่สงสัยนั้น เป็นเรื่องจริงคะ “มาเรียรายงานเจ้านายหนุ่ม “ถ้าอย่างนั้นก็จับตาดูไปก่อน ฉันต้องการได้หลักฐาน และฉันอยากรู้ว่าใครมันกล้าท้าทายคนอย่างฉัน “แฟรงค์ เอ่ยพร้อมกับหมุนตัว เดินกลับไปยังทิศทางที่รถจอดรออยู่ ................................................. รามหันมามองหน้าน้องสาวเมื่อเดินหลบมาอีกทางและมั่นใจว่าปลอดภัยแล้ว เขาจึงได้หยุดเดิน “มะลิ รู้จักคนพวกนั้นเหรอ “รามถามน้องสาว เพราะเขารู้สึกว่า คนกลุ่มนี้ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะคนที่ตัวสูงใหญ่และหน้าตาดีกว่าใครและเขาคิดว่าน่าจะเป็นหัวหน้าอีกด้วย “เปล่าคะ ไม่รู้จักแค่พอดีมะลิ อาศัยหลบพวกนั้นเท่านั้นเอง คะ “มัลลิกาบอกพี่ชาย “พี่ก็นึกว่ารู้จักกันเห็นยืนคุยกัน แล้วนั่นอะไรอยู่ในมือ นะ “รามถามถึงของที่อยู่ในมือ ของเธอในตอนนี้ ทำใหมัลลิกานึกขึ้นได้ ทันที มันคือปากกาของชายร่างยักษ์คนเมื่อสักครู่นั่นเอง เธอไม่ได้คืนให้เขา มัลลิกาชูขึ้นมาดู ก็อดแปลกใจไม่ได้ เพราะเท่าที่ดู ปากกานี้คงจะราคาแพงน่าดูเลย มัลลิกาจับปากกาหมุนไปหมุนมา พร้อมกับใช้ความคิด “ปากกานะพี่ราม พอดีมะลิ เก็บติดมือมานะ “มัลลิกาบอกพี่ชาย “อือ ท่าจะแพงนะ เอาละเรารีบเดินกันดีกว่า เดี๋ยวพวกนั้น ย้อนกลับมาอีกจะแย่เอา”รามบอกผู้เป็นน้องแล้วก็รีบเดินตรงกลับไปที่ห้องพักของพวกเขาทันที เมื่อสองคนพี่น้อง มาถึงห้องพัก ก็ต้องแปลกใจ เพราะประตูห้อง เหมือนจะไม่ได้ล๊อคเหมือนตอนที่ออกไป มัลลิกา ค่อย ๆ เปิดประตูเข้าไป ภายในห้อง เธอก็ต้องขมวดคิ้ว เพราะสภาพห้องของเธอในตอนนี้นั้น เหมือนกองขยะดี ๆ นี่เอง ทุกอย่างถูกรื้อค้น กระจัดกระจาย ไปหมด รามเองก็มองด้วยความตกใจ ในขณะเดียวกัน มือหนาก็จับไปที่อาวุธคู่กาย เตรียมพร้อมถ้าเกิดอะไรขึ้น มัลลิกา ไม่มีเวลามาเดินสำรวจอะไรมากมาย เธอเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า แล้วหยิบเป้ ขนาดกลางออกมา เธอ เก็บข้าวของ ที่จำเป็นใส่ลงไปในเป้ ด้วยความรวดเร็ว “มะลิ นี่มันอะไร กัน เราไปมีเรื่องกับใคร ทำไมมีทั้งคนตามจับตัว ทั้งยังมีคนบุกค้นห้องแบบนี้ห๊ะ “รามถามน้องสาวเสียงเครียด เมื่อเห็นสภาพห้องแบบนี้ทำให้ เขารู้สึกเป็นห่วงน้องสาวขึ้นมาซะแล้ว “โถ่พี่ราม มะลิจะทำอะไร ก็ทำงานตามปรกติ แหละแต่สงสัยคงจะเหยียบตาปลาใครเขามั้ง”มัลลิกาบอกพี่ชายเสียงเรียบทำให้รามชักสีหน้าใส่เธอ “ยังจะพูดเล่นอีก นี่มันไม่ธรรมดาแล้วนะ เรารับงานใคร เรื่องอะไร “รามถามมัลลิกาอีกครั้ง ด้วยความสงสัย ขณะที่มัลลิกา กำลังจะอ้าปากตอบ เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นซะก่อน “ฮัลโหล คนสวยพูดมีอะไร “ “จัสมิน ฉันเอง “ “แซม เป็นไงบ้าง หนูกำลังนึกเป็นห่วงอยู่เลย “มัลลิกาถามกลับไปด้วยความดีใจที่ได้ยินเสียงของชายวัยกลางคน ที่โทรเข้ามา “จัสมิน คืออย่างนี้ตอนนี้ ให้รีบออกไปจาก ห้องพัก ซะ หรือถ้าอยู่ข้างนอกก็อย่าเข้าไป เพราะ มีคนกำลัง ตามหาตัวเธออยู่ “แซมบอกหญิงสาวด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง “ไม่ทันแล้วแซม พวกมันมาแล้ว และตอนนี้หนูอยู่กับ พี่ราม กำลังเก็บของอยู่ “มัลลิกาตอบกลับไปและมือก็เก็บของไปด้วยโดยมีรามยืนเฝ้าอยู่ตรงประตูห้อง เผื่อว่ามีคนแปลกหน้าเข้ามา นั่นเอง “ถ้าอย่างนั้นก็รีบไปจากที้นั่นเถอะ แล้วฉันจะติดต่อไป แค่นี่นะจัสมิน ดูแลตัวเองด้วย “แซมบอกหญิงสาว “คุณก็เช่นกัน นะ ดูแลตัวเองด้วย อย่าลืมโทรมานะคะ แซม” “โอเค “จากนั้นแซมก็วางสายไป มัลลิกาได้แต่ถอนหายใจ แล้วก็ลุกขึ้นเดินไปที่ประตู “ไปกันเถอะคะพี่ราม “มัลลิกาบอกพี่ชายจากนั้นทั้งสองคนก็เดินลงบันไดไป โดยที่มัลลิกาได้แต่มองห้องที่เธอ อยู่มาเกือบจะ 2 ปี หลังจากขอ อนุญาตจากรามเพื่อที่แยกออกมาอยู่เดียว แต่วันนี้ เธอต้องจากที่นี่ไปแล้ว มัลลิกาได้แต่มองอย่างเสียดาย “ไปเถอะ มะลิ “รามหันมาเรียกเธออีกครั้งจากนั้นทั้งคู่ก็เดินไปจากที่นั้นโดยด่วน มัลลิกาและรามมาถึง ห้องพัก ที่เธอคุ้นเคย เป็นห้อง ขนาดใหญ่ ที่รามเช่า ซื้อ เอาไว้หลังจากเปิดบริษัทนักสืบนั่นเอง มีสามห้องนอน ซึ่งก็คือห้องของมัลลิกา ราม และเพชรนั่นเอง แต่ ตอนนี้จะมีก็แต่สองหนุ่มที่พัก อยู่ที่นี่ แต่จะบอกว่าพักประจำก็ไม่ได้ เพราะแต่ละคน ก็ไปทำงานตามเมืองต่าง ๆ หลาย ๆ วันถึงจะกลับมาที และตอนนี้ก็เช่นกัน ที่เพชร ยังไม่ได้กลับ ยังคงทำงานอยู่นั่นเอง มัลลิกาเดินไปห้องของเธอ ด้วยอาการเหนื่อย ๆ ในขณะที่กำลังจะเปิดประตูเข้าห้อง เสียงของรามก็ดังขึ้นซะก่อน “อาบน้ำให้เรียบร้อยแล้วมาคุยกับพี่ก่อน นะมะลิ”รามเอ่ยตามหลังมา เมื่อเดินมานั่งที่โซฟากลางห้อง มัลลิกาได้แต่หันมามอง พี่ชายแล้วก็ยิ้มเจื่อน “พรุ่งนี้ได้ไหม พี่ราม วันนี้ มะลิเหนื่อยแล้วอะ”มัลลิกาเอ่ยเสียงอ้อนพี่ชาย แต่เธอได้คำคือการส่ายหน้าของรามนั่นเอง ทำให้มัลลิกาได้แต่เดินคอตกเข้าห้องเพื่อเอากระเป๋าไปเก็บและอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า รามนั่งคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับ มัลลิกาในวันนี้ทำให้เขาตัดสินใจที่จะให้ มัลลิกากลับมาอยู่ที่นี่เหมือนเดิม เขาเป็นห่วงความปลอดภัยของน้องสาว ขึ้นมาเมื่อคิดว่า ถ้า เกิดพวกนั้น บุกเข้าไปทำร้ายมัลลิกาจะทำยังไง ซึ่งที่จริงแล้ว รามคงจะลืมว่า เขาได้ให้มัลลิกา เรียนศิลปะการต่อสู้และใช้อาวุธทุกรูปแบบ แล้ว เธอ สามารถป้องกันตัวเอง ได้แน่นอน แต่ในความรู้สึกของเขา มัลลิกาก็ยังคงเป็นน้องสาวตัวน้อย ของเขาอยู่วันยังค่ำ *******************************************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD