“**ต้องฤทธิ์พิศวาส**” นิยายโรมานซ์ชวนฝันหวามของ “**สร้อยดอกรัก**” ภาคต่อของ “**หวานรักกามเทพ**” เรื่องราวของ**ผกาย ภากร** ที่เติบโตเป็นหนุ่มหล่อมีสาวๆ มารุมล้อมมากมาย แต่ดันไปมีใจให้กับคู่กัดที่เจอหน้ากันทีไรต้องมีการได้ประชัดฝีปากกันตลอดอย่าง **ดวงยี่หวา** ลูกสาวของคนโตของแม่เลี้ยงจีระนันท์แห่งไร่สดายุ เรื่องราวจะดุเด็ดเผ็ดมัน ร้อนฉ่า น้ำหูน้ำตา เลือดกำเดาขนาดไหน เชิญติดตามกันได้ที่นี่เลยจ้า
ตอนที่3 ดวงยีหวาจอมโหด
=pl=“ทั้งที่เธอเป็นพี่สาวอายุมากกว่าตั้งหลายปี แต่ยังหาแฟนไม่ได้ ฮา ฮา ฮา”
=pl=“ปากดีนักใช่มั้ย นี่แน่ะ”
=pl=“โอ้ย…”
=pl=ผกายยกมือกุมหน้าผากเมื่อดวงยี่หวาก้มลงหยิบก้อนหินขว้างเข้าใส่เขาด้วยความโมโหและก้อนหินเจ้ากรรมก็ลอยเข้าเป้าแม่นยำราวกับจับวาง
=pl=“สมน้ำหน้าปากดีนัก”
=pl=ดวงยี่หวายิ้มกริ่มเมื่อเอาคืนคนปากดีได้บ้าง แต่หลังจากเห็นหยาดน้ำสีแดงไหลลงมาเป็นสายหญิงสาวก็หน้าเสีย
=pl=“เธอเล่นแรงไปแล้วนะยัยดวงยี่หวา ยัยนมโตก้นใหญ่”
=pl=ผกายกัดฟันกรอดมองหยาดเลือดบนฝ่ามือของตนเองอย่างแค้นจัด เขาเดินไปจนชิดแนวรั้วสีขาวและปีนข้ามไป
=pl=“นะ… นายจะทำอะไร อย่าข้ามมานะ ว้าย! ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วยนายผกายบ้าไปแล้ว”
=pl=ดวงยี่หวาร้องเสียงหลง ประเมินจากสีหน้าโกรธจัดของคู่อริแล้วเธอไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าเขาจะเล่นงานอะไรเธอบ้างเพื่อเป็นการเอาคืน หญิงสาวหมุนตัวกลับสาวเท้าไปข้างหน้าจุดหมายคือรถเอทีวีที่จอดอยู่ไม่ไกลนัก
=pl=“หยุดเดี๋ยวนี้นะยัยเด็กโข่ง”
=pl=ผกายพุ่งเข้าไปหาร่างบอบบางคว้าชายเสื้อของเธอเอาไว้จนหญิงสาวสะดุดปลายเท้าของเอง จังหวะนั้นเองดวงยี่หวาหันกลับมาจับยึดแขนของชายหนุ่มเอาไว้ขณะกำลังเสียหลัก ทำให้ทั้งคู่ล้มลงไปในพื้นหญ้าด้วยกัน โดยมีร่างของผกายทาบทับอยู่บนเรือนร่างของหญิงสาว
=pl=ดวงตาสองดวงสบมองกันแน่วนิ่ง ลมหายใจอุ่นร้อนสาดรดลงบนดวงหน้าของอีกฝ่าย หัวใจเต้นด้วยจังหวะพิเศษอย่างที่ไม่เคยเป็น
=pl=ดวงยี่หวาเม้มปากแน่นตัวแข็งทื่อ กายสาวเริ่มสั่นสะท้านด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ก่อตัวขึ้น ตั้งแต่เริ่มรู้ความกระทั่งย่างเข้าวัยสาวอายุสิบแปดปีเช่นตอนนี้ เธอไม่เคยได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ชายคนใด ดวงตาของเขายามสบมองเธอราวกับมีเปลวไฟคุกรุ่นอยู่ในนั้น มันทำให้ร่างกายของเธอแทบหลอมละลาย ลมหายใจอุ่นร้อนของเขาเมื่อสาดรดลงบนดวงหน้าของเธอ ราวกับมันเจือด้วยกระแสอันแห่งความต้องการบางอย่างซึ่งเธอไม่อาจหาคำตอบได้
=pl=ทุกวินาทีผ่านไปอย่างแช่มช้าราวกับกาลเวลาบนโลกวิปริตผิดเพี้ยน