ตอนที่ 9

1489 Words
หลังจากที่จัสมินตัดสินใจยอมให้แขกวีไอพีหนุ่มที่เป็นถึงน้องชายของไนต์คลับมาส่ง ก็ต้องยอมรับชะตากรรมของตัวเองต่อไป “เธออยู่ที่นี่คนเดียวเหรอ” คีตะเอ่ยถาม พลางมองไปยังภาพเบื้องหน้าที่เป็นตึกห้องเช่าในซอยเปลี่ยว ไร้ความปลอดภัย ไร้ผู้คนในเวลากลางคืน “ค่ะ” “ย้ายเถอะ เปลี่ยวขนาดนี้อยู่ได้ไงเนี่ย” “ไม่ได้หรอกค่ะ ที่นี่น่ะถูกที่สุดแล้ว” “ฉันว่าเธอก็ทำงานที่ไนต์คลับ เงินเดือนก็ไม่ใช่น้อยๆ เลยไม่ใช่เหรอ” เขาพอจะรู้อยู่บ้าง ว่าที่ไนต์คลับถือว่าเป็นอีกที่หนึ่งที่ให้เงินเดือนพนักงานค่อนข้างดี “ก็ใช่ค่ะ แต่ว่าภาระมันเยอะกว่าเงินเดือนนี่คะ” “ภาระ?” “หนี้สินไงคะ คุณเป็นคนรวยคงไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้หรอก” “ก็รู้อยู่หรอก แต่ต้องจ่ายหนี้เยอะขนาดนั้นเลยเหรอ” “หนี้นอกระบบค่ะ” ขึ้นชื่อว่า หนี้นอกระบบ ก็ไม่แปลกใจที่หญิงสาวจะใช้หนี้ไม่หมด แม้จะมีเงินเดือนสูงก็ตาม “แล้วทำไมเธอถึงไปกู้หนี้นอกระบบล่ะ” “คุณจะอยากรู้ไปทำไมคะ ฉันขอตัวก่อนนะคะ” จัสมินตัดบท เมื่อรู้สึกว่าเธอกำลังเล่าเรื่องส่วนตัวให้คนอื่นฟังมากเกินไป “อืม ถ้างั้นก็ระวังตัวด้วยล่ะ” “ขอบคุณที่เป็นห่วงและขอบคุณที่มาส่งด้วยค่ะ” เธอเอ่ยคำขอบคุณกับเขา ก่อนจะรีบลงจากรถทันที คีตะมองไปที่ตึกห้องเช่าอย่างลำบากใจ ที่นี่ไม่เหมาะที่จะให้ผู้หญิงอยู่เสียด้วยซ้ำ ไม่มีความปลอดภัยรวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยด้วย “จัสมิน” เขาทวนชื่อของเธอซ้ำ เพราะจำได้ว่าผู้จัดการได้บอกกับเขาไว้ก่อนที่หญิงสาวจะเข้ามาทำหน้าที่ คีตะกลับมาที่คอนโดของตัวเองด้วยจิตใจที่เหม่อลอย ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเขาตลอดเวลา จนเขาเลิกคิดถึงเรื่องของเธอไม่ได้เลย ทำไมกัน... ผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง ทำให้ผู้ชายเจ้าชู้อย่างเขาคิดถึงได้ยังไงกัน หน้าตาก็ธรรมดา อีกทั้งคำพูดคำจาก็คล้ายจะกวนเขาอยู่ตลอดเวลา แต่ก็พูดออกมาพร้อมกับดวงตาที่ใสซื่อ กว่าพราวมุกจะเลิกงานก็เกือบจะตีสองแล้ว ซึ่งคณินก็มารอเธอเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ระหว่างที่รอเธอเช็กของ เขาก็นั่งรอโดยไม่บ่นสักคำ “กลับกันเถอะ” เธอเอ่ยบอกเขา พร้อมกับเดินนำหน้าเขาไปยังลานจอดรถ “ฉันมีเรื่องจะบอกกับคุณ” หลังจากที่เธอได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่นาน จึงตัดสินใจที่จะคุยกับเขาให้รู้เรื่องไปเลย “อะไรเหรอ” “ฉันจะย้ายไปออกจากคอนโดของคุณ” “ทำไม...” คณินนิ่งไป จนพราวมุกกลัวว่าเขาจะเข้าใจผิดว่าเธอรังเกียจเขา “ฉันรบกวนคุณมานานแล้ว อีกอย่างฉันก็พอจะตั้งตัวได้แล้ว” เธอพยายามอธิบายให้เขาเข้าใจ “แต่พี่ไม่ได้คิดว่าเธอรบกวนเลยสักนิด” “ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แต่ยังไงเราก็ต้องได้เจอกันทุกวันอยู่แล้ว” “อืม ถ้างั้นจะย้ายไปที่ไหนล่ะ ให้พี่ช่วยดูให้ไหม” “คะนิ้งดูไว้ให้แล้วน่ะ” “งั้นก็ดีแล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับคนไร้เรี่ยวแรง หลังจากจบบทสนทนา คณินก็นิ่งและเงียบไป ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เขามักจะชวนเธอคุยตลอดทางกลับคอนโด พราวมุกรู้สึกผิดขึ้นมา ทั้งที่มันไม่ใช่ความผิดของเธอเลยสักนิด ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขายังเป็นเพียงแค่คนรู้จักเท่านั้น และต่อจากนี้เธอก็ยังคงให้โอกาสกับเขาอยู่ เพียงแต่เธอไม่ได้ใจดีเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ทุกอย่างผ่านไปด้วยความอึดอัด พราวมุกก็ไม่รู้จะพูดกับเขายังไง และไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องสนใจเพราะเธอไม่ใช่ฝ่ายผิด คณินเข้าใจดีว่าเขายังไม่ได้ใช้โอกาสที่หญิงสาวให้ได้ดีมากพอ และก็เข้าใจดีว่ายังไงวันหนึ่งพราวมุกก็ต้องย้ายออกไปจากคอนโดของเขาอยู่แล้ว แต่เขากลับรู้สึกเหมือนกำลังจะอกหักยังไงชอบกล ทั้งที่เธอแค่จะย้ายไปที่อยู่เท่านั้น “ขอโทษ/ขอโทษ” พราวมุกเอ่ยขึ้นพร้อมกับคณิน ก่อนที่ทั้งสองจะหันมาคุยกันอีกครั้ง “คุณพูดก่อนก็ได้” “พี่ขอโทษที่ทำให้เธอรู้สึกไม่ดี พี่แค่กังวลนิดหน่อย” “ฉันก็ขอโทษที่บอกคุณกะทันหัน และฉันยังยืนยันคำเดิม ว่าฉันให้โอกาสคุณตามที่คุณขอเอาไว้” “พี่เข้าใจเธอดี ไปพักผ่อนเถอะ ดึกมากแล้ว” คณินเอ่ยตัดบท พร้อมเข้าห้องนอนไปอาบน้ำและมานอนที่โซฟาเหมือนอย่างเคย พราวมุกเองก็กลับเข้าไปในห้องนอนและคืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่เธอจะยืมห้องนอนของเขา หลังจากที่รบกวนมานานหลายเดือน แกรก~ หญิงสาวสะดุ้งตื่นกลางดึก เพราะได้ยินเสียงประตูห้องที่ถูกเปิดเข้ามา เพียงแค่พื้นที่เตียงข้างๆ เธอยุบลงไปลงตามแรงทับ กลิ่นของน้ำหอมปนกับไวน์ก็ลอยมาเตะจมูกของเธอทันที “ขอกอดได้ไหม” นี่คงเป็นครั้งที่สองที่เขาเอ่ยขอเธอแบบนี้ ถึงในตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาจะยังไม่ได้พัฒนาไปไหน แต่ดูเหมือนการกระทำจะพัฒนาไปไกลมากกว่าที่คิด ‘ยิ่งใกล้ชิดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งปล่อยใจให้เขาไปมากเท่านั้น’ พราวมุกเริ่มสับสนในตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ปากเธอบอกว่ายังโกรธเขาอยู่ แต่หัวใจกลับบอกในทางตรงข้าม “อืม” วงแขนแกร่งโอบร่างเล็กเข้าไปกอดเอาไว้ พลางซุกจมูกโด่งลงมาบนไหล่ของเธอ คณินมีอาการกลัวเล็กน้อย เมื่อต้องอยู่ห่างจากพราวมุกอีกครั้ง เรื่องราวในอดีตทำให้เขาเข็ดขยาดจนไม่กลัวว่าจะต้องสูญเสียหญิงสาวอันเป็นที่รักให้กับคนอื่นไปอีกครั้ง “กอดแน่นเกินไปแล้วนะ” พราวมุกเอ่ยบอก เมื่อเขาเริ่มกอดเธอแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนเธอเริ่มจะอึดอัดขึ้นมาแทน คนตัวโตคลายอ้อมกอดเล็กน้อย ก่อนจะหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า และคืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่จะได้อยู่กับพราวมุกแล้ว หลังจากนี้จะเป็นบทพิสูจน์ที่แท้จริงว่าเขาจะสามารถเอาชนะใจพราวมุกได้อีกครั้งหรือไม่... “พราวมุก” จู่ๆ คณินก็เอ่ยชื่อของเธอขึ้นมาท่ามกลางความเงียบสงัด “กลับมาคบกันได้ไหม...” “...” เธอไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดนี้ในสถานการณ์แบบนี้ สถานการณ์ที่เธอไม่คาดคิดและไม่ได้ตั้งมือรับมาก่อน คณินเงียบรอฟังคำตอบจากหญิงสาว เขาเลือกที่จะถามเธอตอนนี้ เพราะเขารู้สึกว่าไม่อยากจะรอต่อไปอีกแล้ว แต่หากเธอปฏิเสธเขาก็เตรียมใจเอาไว้แล้ว และจะพิสูจน์ตัวเองต่อไป “ถ้าพี่ยังทำให้เธอกลับมารักพี่เหมือนเดิมไม่ได้ พี่ก็จะขอพิสูจน์ตัวเองต่อไป แต่ตอนนี้ช่วยให้คำตอบที่ชัดเจนกับพี่ก่อนได้ไหม” “...” “พี่รับได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะยังไง” “ก็ได้” พราวมุกตอบเพียงสั้นๆ แต่คำตอบนั้นกลับทำให้หัวใจของคณินสั่นระรัวเมื่อไม่ได้คาดหวังกับคำตอบของเธอ “จริงเหรอ” ชายหนุ่มเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียง ความเมาสร่างไปทันทีเมื่อพราวมุกตอบตกลงกับเขา “ฉันไม่ชอบพูดซ้ำนะ” “ถ้างั้นตอนนี้พี่กับเธอไม่ใช่แค่คนรู้จักกันอีกต่อไปแล้วนะ” พราวมุกพยักหน้าตอบเขา ก่อนจะรีบหันหน้าหนีด้วยความเขินและกลัวว่าเขาจะจับได้ คณินดีใจจนหุบยิ้มไม่ลงและนอนไม่หลับ ตอนนี้ในหัวของเขามีแต่ความดีใจจนคิดอะไรไม่ออกเลย แบบนี้เขาก็สามารถอวดกับผู้เป็นแม่ได้แล้วว่าเขาง้อสาวสำเร็จ หญิงสาวรู้สึกโล่งอกไปไม่น้อย เมื่อตัดสินใจตกลงที่จะคบกับคณิน อันที่จริงเธอรู้ดีว่าตัวเธอเองก็ยังรักคณินอยู่ เพียงแต่ไม่กล้าที่จะกลับไปคบกับเขาอีกครั้ง แต่เพราะช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาเขาทำให้เธอเห็นว่า เขาจริงจังและจริงใจกับเธอจริงๆ “ตอนบ่ายโมงฉันจะไปเที่ยวกับจัสมินนะ” เธอเอ่ยบอกเขาก่อนที่จะหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้าจากการทำงาน ปล่อยให้คณินนอนดีใจต่อไปคนเดียวจนไม่หลับไม่นอน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD