ตอนที่ 1

1612 Words
พรหมลิขิตเหรอ? ความเฮงซวยน่ะสิไม่ว่า!!! หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยราวกับนางฟ้า กำลังนั่งดื่มอยู่ภายในร้านเหล้าเล็กๆ บริเวณปากซอยด้วยดวงตาที่คลอไปด้วยหยาดน้ำตาที่หลั่งไหลออกมาอย่างเชื่องช้าไม่ขาดสาย ความเจ็บจี๊ดแทงลึกเข้าไปที่หน้าอกข้างซ้ายของเธอ หลังจากที่ได้รู้ว่าคนรักที่คบกันมาเกือบสองปี แท้จริงแล้วมีลูกและเมียซุกซ่อนเอาไว้อยู่แล้ว ทำให้เธอกลายเป็นชู้ที่ไปแย่งสามีชาวบ้านด้วยปริยาย “ร้านจะปิดแล้วนะครับ” พนักงานเดินเข้ามาบอกเธอที่นั่งอยู่เพียงคนเดียวในร้านพร้อมกับขวดเหล้าหลายขวดวางเกลื่อนอยู่บนโต๊ะ "อือ~” “ยัยมุกๆ กลับบ้านได้แล้ว” เสียงหวานดังก้องอยู่ในหัวของเธอ หญิงสาวแทบจะไม่มีสติหลงเหลืออยู่จนไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองเป็นยังไง คะนิ้งที่เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวรีบมุ่งตรงมาหาพราวมุก หลังจากที่รับรู้เรื่องราวทุกอย่าง เธอเองทั้งเป็นห่วงและสงสารเพื่อนสนิทในคราวเดียวกัน ผู้ชายคนนั้นคือแฟนคนแรกของพราวมุก ต่อหน้าก็ทำตัวดีเป็นสุภาพบุรุษเสมอ ไม่เคยล่วงเกินพราวมุกเลยสักครั้ง แต่ใครจะคิดกันว่าผู้ชายคนนั้นจะซุกซ่อนลูกเมียของตัวเองเอาไว้เกือบสองปี จนกระทั่งเมียของผู้ชายคนนั้นมาเจอและทำป่าวประกาศว่าพราวมุกมาแย่งสามีของตัวเอง ทำให้ครอบครัวของคนอื่นต้องแตกหัก “ไม่เป็นไรนะ ไปนอนคอนโดฉันดีกว่า สภาพแบบนี้กลับบ้านไปก็โดนน้าอุ่นทำร้ายแน่ๆ” ครืด~ ครืด~ “ว่าไงพี่คณิน” คะนิ้งรีบรับสายของพี่ชาย พลางเหลือบมองเพื่อนสนิทที่เมาแอ๋กำลังนอนร้องไห้อยู่ตลอดเวลา (อยู่ไหน) “กำลังจะกลับคอนโด เพิ่งไปรับยัยมุกมา” (...) ปลายสายเงียบลง เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอบอก “มีอะไรหรือเปล่า” (แต่จะถึงเวลาที่ต้องบินไปอังกฤษแล้วไม่ใช่เหรอ) “ค่ะ แต่หนูเป็นห่วงพราวมุก” อันที่จริงเธอจะต้องบินไปอังกฤษเพื่อคุยงานกับลูกค้า แต่เพราะเป็นห่วงพราวมุกจึงเลือกที่จะมาหาแทนที่จะตรงไปสนามบินเลย (พาพราวมุกมาไว้ที่คอนโดพี่ก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะพาไปส่งเอง) “...” “ค่ะ” คะนิ้งตอบรับ ก่อนจะเปลี่ยนเส้นทางมุ่งตรงไปยังคอนโดของพี่ชายซึ่งหาจากบริเวณนี้เพียงสามกิโลเมตร “พี่คณิน” คณินมุ่งตรงเข้ามาหาน้องสาวที่เข้ามาจอดรถบริเวณด้านหน้าของคอนโด “เธอรีบไปเถอะ เดี๋ยวพี่จะช่วยดูแลพราวมุกให้” คะนิ้งพยักหน้ารับ ก่อนที่คณินจะช้อนตัวของพราวมุกออกมาไปจากรถ แล้วจึงรีบวิ่งกลับเข้าไปในคอนโด เธอเองก็เป็นห่วงพราวมุกไม่น้อย แต่เพราะธุรกิจก็สำคัญ จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากฝากพราวมุกไว้กับพี่ชายของเธอ ซึ่งทั้งสองเคยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ก่อนที่คณินจะไปเรียนต่างประเทศและเพิ่งกลับมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว “ขอโทษนะยัยมุก ฉันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว” คะนิ้งรู้สึกผิดเล็กน้อย ทั้งที่เคยออกปากให้สัญญากับพราวมุกไว้แท้ๆ แต่กลับรักษาสัญญาไม่ได้ แต่ก็มั่นใจได้ว่าพี่ชายของเธอไม่มีทางทำร้ายพราวมุกแน่นอน ร่างกำยำวางหญิงสาวในอ้อมกอดลงบนเตียงอย่างทะนุถนอม ก่อนจะนั่งยองๆ บริเวณข้างเตียง พลางจ้องมองใบหน้าสวยที่เปื้อนหยาดน้ำตา “พี่คณิน~ ฮืออออ” เสียงหวานเอ่ยเรียกชื่อเขา ก่อนจะปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง “ร้องไห้เดี๋ยวไม่สวยหรอก” “เขาโกหก~ ฮึก... ฮือออ” “ไม่เป็นไรนะ” คณินพยายามจะปลอบคนตัวเล็ก แต่อีกฝ่ายยังคงร้องไห้ไม่หยุด ฝ่ามือหนาประคองใบหน้าของหญิงสาวก่อนจะเช็ดน้ำตาให้เบาๆ แล้วจึงจุมพิตลงบริเวณหน้าผากของเธออย่างถือวิสาสะ “อย่าร้องไห้เลยนะ เด็กดี” หญิงสาวเริ่มหยุดร้องไห้ แต่ความเมายังคงไม่สร่างไป คณินจึงใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ดใบหน้าของเธอเบาๆ พร้อมกับปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้เย็นลง “พี่คณิน” พราวมุกเอ่ยเรียกชื่อของเขาอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูชัดถ้อยชัดคำยิ่งกว่าตอนแรก ดวงตาทั้งสองข้างของเธอบวมช้ำเล็กน้อยแต่ดูเหมือนจะเริ่มสร่างเมาไปบ้างแล้ว “รู้สึกดีขึ้นหรือยัง” “พี่ก็ใจร้ายไม่ต่างจากผู้ชายคนนั้น” “...” “คนหลอกลวง!” “...” “ฉันจะกลับบ้านแล้ว” พราวมุกลุกพรวดพราดออกจากเตียง วันนี้มีแต่เรื่องที่ทำให้เธอเจ็บปวดใจไปหมด ตั้งแต่ไอ้ผู้ชายคนนั้น จนมาถึงคนนี้คนที่เป็นรักแรกของเธอและเป็นคนที่ทิ้งเธอไปโดยไม่บอกกล่าวกันสักคำ... “พี่ไม่ให้เธอกลับ” คณินรีบเดินมาขวางประตูเอาไว้ พร้อมกับดึงรั้งร่างเล็กเข้ามากอด น้ำตาที่เพิ่งจะหยุดไป เริ่มกลับมารื้นไหลลงมาอีกครั้ง ความรู้สึกเจ็บที่ดวงตาทำให้พราวมุกรู้ว่าตัวเองกำลังร้องไห้มากเกินไป แต่ก็ไม่อาจห้ามน้ำตาไม่ให้ไหลได้ “พี่จะกลับมาอีกทำไม” “พี่ขอโทษ ตอนนั้นพี่เข้าใจว่าเธอเป็นแฟนกับหมอนั่น พี่ก็เลยเลือกที่จะถอยออกมา พี่ผิดเองที่ไม่คิดให้ถี่ถ้วนก่อน” “ไอบ้า เป็นหมอจริงหรือเปล่า ทำไมถึงได้โง่ หูเบาขนาดนี้ล่ะ” เธอด่าเขาด้วยความโมโห แต่หากเป็นเรื่องเข้าใจผิดจริงก็คงจะต้องโทษตัวต้นเหตุที่กุเรื่องทุกอย่างขึ้นมาด้วย “...” “พอเถอะ ฉันไม่อยากคุยกับพี่แล้ว” “ถ้างั้นก็กลับไปนอนสิ” พราวมุกกลับไปนอนที่เตียงเหมือนเดิม คณินถอนหายใจเล็กน้อย แล้วจึงปิดไฟและเดินออกจากห้องไปด้วยสีหน้าไม่สู้ดี ตู้แช่ไวน์ที่เพิ่งถูกเปิดใช้งานอีกครั้ง เต็มไปด้วยไวน์หลากหลายยี่ห้อที่เจ้าของห้องชื่นชอบเป็นพิเศษ ราคาก็แพงกว่าไวน์ธรรมดาทั่วไป แต่สำหรับเขาเรื่องราคาไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิด ขวดไวน์ยี่ห้อดังส่งตรงจากฝรั่งเศสถูกเปิดออก กลิ่มหอมละมุนของมันทำให้ชายหนุ่มหลงใหลจนแทบจะถอนตัวไม่ขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น รสชาติของไวน์ยี่ห้อนี้ยังทำให้เขาหยุดที่จะดื่มมันไม่ได้ ทว่าวันนี้รสชาติของมันกลับรุนแรงกว่าทุกครั้งที่เคยดื่ม กลิ่นหอมของมันทำให้เขาเจ็บปวดหัวใจยิ่งกว่าเดิม แต่ยิ่งเจ็บมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งดื่มมันมากขึ้นเท่านั้น ราวกับเป็นการลงโทษตัวเองที่ได้ทำผิดของพราวมุกไว้ ปล่อยให้หญิงสาวอันเป็นที่รักต้องไปเจอกับเรื่องเลวร้าย คณินเหลือบมองโทรศัพท์ที่ถูกโยนทิ้งไว้อีกฝากของโซฟา ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบขึ้นมาพร้อมกับต่อสายหาใครบางคน “จัดการเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้เรียบร้อยหรือยัง” (คลิปถูกลบหมดแล้วครับ โชคดีที่ยังไม่ได้กระจายเป็นวงกว้าง เลยจัดการได้ทันครับ) “ดี แล้วก็ส่งคนที่จับตามองคนที่บ้านของพราวมุกด้วย มีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลให้เก็บหลักฐานมาให้หมด” นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกผิด ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องที่ทิ้งหญิงสาวไปเมื่อหลายปีก่อน แต่แม้กระทั่งเรื่องครอบครัวของหญิงสาวเขาก็ไม่เคยรับรู้มาก่อน (ครับนายน้อย) ของเหลวสีม่วงแดงมองเผินๆ คล้ายกับน้ำองุ่นไหลผ่านริมฝีปากหนาก่อนจะดิ่งลึกสู่ลำคอซ้ำแล้วซ้ำเหล่า เป็นเวลากว่าสองชั่วโมง รู้ตัวอีกทีขวดไวน์ก็กองเกลื่อนรอบตัวของเขาแล้ว ร่างสูงพยุงตัวเองกลับเข้าไปในห้องนอนที่มีหญิงสาวกำลังพักผ่อนอยู่ ในหัวของเขาคิดอะไรอย่างอื่นไม่ออกเอาแต่นึกถึงพราวมุกอยู่ตลอดเวลา แกรก~ หญิงสาวสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูห้อง ก่อนที่จะตามมาด้วยกลิ่นไวน์ที่เธอจำได้แม่นว่าผู้ชายคนนั้นชื่นชอบไวน์ยี่ห้อนี้มาก “พราวมุก” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยดังขึ้นใกล้ๆ เธอ ก่อนที่พื้นที่เตียงข้างๆ จะยุบลงพร้อมกับร่างสูงที่โผเข้ากอดเธออย่างถือวิสาสะ “...” “พี่รู้ว่าเธอตื่นแล้ว” ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้เมาหนักอย่างที่เธอคิด ก็แหงล่ะสิ เขาคอแข็งจะตายไป คงไม่เมาขนาดที่จะไม่มีสติหรอก “งั้นก็ปล่อยสิ” “ขอกอดหน่อยไม่ได้เหรอ” “ไม่ได้” พราวมุกปฏิเสธเสียงแข็ง “แต่พี่อยากกอด” “...” หญิงสาวเงียบลง เพราะไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับเขาต่ออีกแล้ว ความมึนจากฤทธิ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ยังไม่จางลง หากไม่รีบพักผ่อน พรุ่งนี้เธอก็คงจะแฮงก์แน่ คณินโอบคนตัวเล็กเข้ามากอดให้ใกล้กว่าเดิม พลางใบหน้าซบลงบริเวณต้นคอของเธอ ท่ามกลางเสียงอันเงียบสงัดยังคงหลงเหลือเสียงของลมหายใจและเสียงเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงาน แต่ไม่ว่าชายหนุ่มจะพยายามข่มตาหลับยังไง ดวงตาทั้งสองก็ยังคงไม่ยอมให้ความร่วมมืออยู่ดี จนกลายเป็นว่าตลอดทั้งคืนจนถึงเช้าเขาไม่ได้หลับเลยสักนิด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD