ตอนที่ 3 ปฐพี

925 Words
“ย่าได้ยินแม่ของหนูขวัญบอกว่าตอนนี้หนูยังหางานไม่ได้ก็เลยทำที่ร้านสะดวกซื้อไปก่อนใช่ไหมลูก” ย่าสมพิศเอ่ยถามขณะที่ของขวัญนั่งเล่นตุ๊กตากับน้องขิม ทางด้านแม่สุขสมขอตัวกลับบ้านก่อนเนื่องจากเพื่อนข้างบ้านโทรมาบอกว่าผัวไปตั้งวงไฮโลอีกแล้ว “ใช่ค่ะ ขวัญทำมาได้หลายเดือนแล้วค่ะ ก่อนหน้านี้ทำพาร์ทไทม์” “จะว่าอะไรไหมถ้าต่อไปงานของหนูขวัญคือการเลี้ยงน้องขิม แน่นอนว่าย่ามีเงินเดือนให้” “ไม่ต้องให้เงินเดือนขวัญก็ได้ค่ะคุณย่า หลังจากแต่งงานกับคุณหนึ่งแล้วขวัญก็เป็นแม่ของน้องขิม การดูแลน้องขิมเป็นหน้าที่ที่ขวัญควรทำค่ะ” “ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ การมีเงินเดือนเป็นสิ่งที่หนูขวัญควรได้” “ถ้าเป็นค่าดูแลน้องขิมขวัญขอไม่รับนะคะ คุณย่าเลือกหนูแล้วก็หักลบหนี้ที่แม่หนูยืมไปก็มากพอแล้วค่ะ” “ถ้าอย่างนั้นถือเป็นเงินที่ช่วยย่าทำงานดีไหม ย่าได้ยินแม่หนูบอกว่าหนูคิดบัญชีเก่ง ต่อไปหนูช่วยย่าดูบัญชีดีไหมลูก” “แต่...” “ไม่มีแต่ หลังตบแต่งกันเรียบร้อยแล้วหนูมาทำงานกับย่า มาช่วยย่าดูบัญชีนะลูก ย่าแก่แล้วบางทีก็ดูไม่ทั่วถึง” “ได้ค่ะคุณย่า” แม้ว่าจะไม่เห็นด้วย อยากจะแย้งให้มากกว่านี้ ทว่าถ้าเธอเรื่องมากคุณนายสมพิศเปลี่ยนใจขึ้นมามันจะไม่คุ้ม เพราะว่าตอนนี้แม่ของเธอสบายใจแล้วที่จะหมดหนี้ จะทำให้แม่ผิดหวังไม่ได้ ตริ๊ง (เจ้าหนึ่ง: งานยุ่งมากครับย่า วันนี้น่าจะไม่ได้กลับบ้าน ขอโทษนะครับ) “เฮ้อ...” ย่าสมพิศทอดถอนใจหลังจากอ่านข้อความที่หลานชายส่งมา อุตส่าห์ย้ำนักย้ำหนาว่าต้องมาให้ได้ สุดท้ายก็เอางานมาอ้างอยู่ดี ย่าหันมองน้องขิมเหลนที่น่ารักและน่าสงสาร หันมองของขวัญเด็กสาวที่เกิดในครอบครัวที่ไม่เป็นครอบครัว พ่อที่ขยันก่อหนี้จนเป็นสันดาน ต่อให้หนี้ก้อนนี้หมดไปก็ใช่ว่าจะไม่มีหนี้ก้อนหน้า หวังว่าการเลือกหลานสะใภ้ของย่าจะเป็นการมองคนไม่ผิด “วันนี้พี่เขาติดงาน มาไม่ได้แล้ว หนูขวัญเพิ่งเลิกงานมาคงจะอยากพักผ่อน กลับก่อนได้นะลูก” “ค่ะ” “ไม่เอาค่า ไม่เอา หนูอยากให้แม่ขวัญอยู่กับหนู อย่าไปจากหนูนะคะ” ยัยหนูขิมที่เหมือนไม่สนใจเรื่องที่ผู้ใหญ่คุยกันรีบเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ริมฝีปากเบะคว่ำ พร้อมที่จะร้องไห้ หนูน้อยไม่อยากให้แม่หายไป แกกลัวว่าแม่ไปแล้วจะไม่กลับมา “แม่ขวัญแค่กลับไปนอนนะน้องขิม แม่ขวัญเลิกงานมายังไม่ได้นอน ถ้าไม่ได้นอนแม่ขวัญจะไม่สบายนะลูก” ย่าสมพิศอธิบาย “นอนกับหนู นอนห้องหนูก็ได้ หนูจะเฝ้า หนูไม่ดื้อ ไม่เสียงดัง” ยัยหนูน้อยรีบนั่งที่ตักของขวัญจากนั้นก็กอดเธอไว้ กลัวว่าแม่ขวัญจะหายไปไม่กลับมาอีก “จริงด้วย นอนที่นี่ก็ได้นี่นา” ย่าสมพิศยิ้มก่อนจะถามว่าที่หลานสะใภ้ “ว่าไงหนูขวัญ นอนที่นี่ไหมลูก” “จะดีเหรอคะ” “ดีสิลูก มีอะไรไม่ดีกัน” “ขวัญเกรงใจค่ะ” เพิ่งเจอกันก็จะให้นอนบ้านแล้วเหรอ “ไม่ต้องเกรงใจ เอาอย่างนี้หนูขวัญไปเอาชุดมาเปลี่ยนที่นี่ คืนนี้ต้องทำงานใช่ไหมลูก” “ใช่ค่ะ” “ไปเอาชุดมาที่นี่เลย เรื่องแม่หนูย่าจะจัดการเอง ต่อไปนี้หนูขวัญเป็นคนของย่าแล้ว” “...” “เชื่อย่านะลูก” “ค่ะ” “หนูไปด้วย หนูไปด้วยนะคะแม่ขวัญ” “จะดีเหรอคะน้องขิม แม่ว่าน้องขิมรออยู่นี่ดีกว่านะคะ” เผื่อน้องขิมเป็นอะไรขึ้นมาเธอรับผิดชอบไม่ไหวแน่ “แต่หนูอยากไปกับแม่” เด็กน้อยที่ไม่เคยได้สัมผัสความรักจากแม่ย่อมเกิดความกลัวอยู่ในใจ กลัวว่าจะไม่มีแม่อีก “พาน้องขิมไปด้วยเลยลูก น้องขิมนั่งรถเป็น บ้านหนูขวัญอยู่แค่นี้เอง ย่าเชื่อใจหนู” “ค่ะ ได้ค่ะ” แค่นี้เองอะไร ก็ไกลอยู่ ต้องข้ามถนนไปอีกฝั่ง “เย้ เย้” รอยยิ้มของเด็กน้อยสดใสขึ้นมาทันที “ถ้างั้นเราออกเดินทางกันค่ะน้องขิม” “ค่าแม่ขวัญ” ในเมื่อเป็นสิ่งที่ย่าสมพิศต้องการให้ทำ ของขวัญมีเหรอที่จะไม่ทำตาม เธอขี่มอเตอร์ไซค์ฟีโน่ที่แม่เธอใช้เครดิตผ่อนเพื่อให้ลูกสาวมีรถขี่ไปทำงานและไปเรียน คนผ่อนก็คือของขวัญ ตอนนี้ก็เหลืออีกไม่กี่ถึงปีก็หมด หมดช้าเพราะเลือกผ่อนระยะยาวเพื่อไม่ให้กระทบกับเงินมากนัก ของขวัญกลับมาถึงบ้านก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ระหว่างที่เธออาบน้ำก็ให้น้องขิมนั่งรอในห้อง หนูน้อยนั่งรออย่างว่าง่ายด้วยกลัวว่าถ้าดื้อแม่ขวัญจะไม่รัก จัดการตัวเองเรียบร้อยก็เตรียมเสื้อผ้าออกเดินทางไปบ้านย่าสมพิศอีกครั้ง ก่อนถึงบ้านแวะซื้อขนมให้น้องขิม ของที่ได้จากแม่ขวัญยัยหนูน้อยดีใจมาก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD