ตอนที่ห้า ผู้หญิงมากชู้

1850 Words
สายเรียกเข้าทางโทรศัพท์หลายสายทำให้อัครวินธ์ผุดลุกขึ้นมาอย่างหัวเสีย วันนี้วันหยุดของเขาแต่เสียงโทรศัพท์ที่ดังผิดปรกติทำให้ค่อนข้างหงุดหงิดกับคนที่รบกวนวันหยุดที่ปีหนึ่งแทบนับครั้งได้ของเขา... “ว่าไง ไมเคิล” เขากรอกเสียงหาเลขาคนสนิทด้วยความไม่ค่อยพอใจนัก “คุณพริสซี่มาหานายและกำลังจะขึ้นไปหาที่ห้องพัก ไม่ทราบว่านายพร้อมจะเจอกับเธอหรือไม่ แต่ถ้าไม่พร้อม ขอแนะนำว่าทำตัวให้พร้อมด้วยนะ” ไมเคิล โดโนแวน วางสายไปโดยไม่มีเวลาให้เขาได้ตอบหรือสบถด่าอะไร... ไมเคิลก็ไม่ต่างจากเขาเพราะขนาดเขาเป็นเจ้านายก็ยังไม่สามารถลดความดื้อรั้นของพริสซิลล่าได้ แล้วกับเลขาของเขายิ่งไม่มีสิทธิ์ห้ามหล่อนให้หล่อนทำในสิ่งที่ต้องการได้นอกจากบอกให้เขาเตรียมรับมือ... โชคดีที่ตอนนี้ไม่มีผู้หญิงคนไหนเข้ามาในห้องของเขาได้เพราะว่าเมื่อคืนเขาเหนื่อยกับงานเลี้ยงเปิดตัวโรงแรมปีเตอร์สันพาเลซแห่งที่สองและส่งพ่อแม่กับพี่ชายและน้องชายกลับก็เหนื่อยจนไม่มีเวลาจะสนใจใคร อยากนอนพักผ่อนแบบได้หยุดจริงๆ ก็ดันมีพริสซิลล่ามาหาอีก ได้แต่โทษตัวเองว่าวันนี้เขาไม่ได้บอกหล่อนว่าขอหยุดทำการหนึ่งวันสำหรับหน้าที่การเป็นพี่ชายที่ดี ร่างสูงครางเบาๆ ขับไล่ความเมื่อยขบอ่อนเพลียที่สะสมจากการทำงานหนักมาหลายวัน ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วบิดร่างกายยืดเส้นยืดสายให้กล้ามเนื้อแข็งแรงที่ผ่านการออกกำลังกายสม่ำเสมอให้ได้รับการยืดหยุ่นเรียกความสดชื่น เจ้าของใบหน้าหล่อคมถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ ก่อนจะเดินไปอาบน้ำที่ห้องน้ำ พออาบน้ำแต่งตัวออกมาจากห้องน้ำเรียบร้อยเขาก็เห็นพริสซิลล่านั่งไขว่ห้างนั่งอ่านข้อมูลเกี่ยวกับงานที่หล่อนรับผิดชอบอยู่เงียบๆ แม้ว่าจะเอาแต่ใจหรือว่าห้ามปรามไม่ค่อยฟังในบางเรื่องแต่เขาก็ต้องยอมรับว่าเรื่องงานนั้นพริสซิลล่ามีความรับผิดชอบเกินตัวและตั้งใจทำงานไม่ได้เหยาะแหยะเหมือนลูกเศรษฐีทั่วไป หญิงสาวแทบไม่ถามหาวันหยุดด้วยซ้ำ... “ว่าไงยัยตัวแสบ มีอะไร” “พริสซี่มาคุยด้วยเรื่องงานค่ะ” เจ้าของใบหน้าหล่อคมที่ผู้หญิงค่อนเมืองปรายตามองยามเมื่อเดินผ่านเหลือบตามามองหน้าญาติผู้น้องด้วยความไม่เข้าใจ “เรื่องงาน คุยเรื่องอะไร ตอนนี้” “ที่คุยตอนนี้เพราะว่าพริสซี่เพิ่งตัดสินใจได้ตอนนี้ เลยต้องมาบอกตอนนี้ว่าพริสซี่จะขอลาออกไปเรียนต่อ” “อะไรนะพริสซี่ ไปเรียน ไหนบอกว่าจะไม่เรียนตอนนี้ไง อะไรดลใจเธอ” น้ำเสียงเขาสูงขึ้นเมื่อยามที่สงสัย ดวงตาสีบรั่นดีเต็มไปด้วยคำถามยามเมื่อมองพริสซิลล่า เขาไม่ได้งงเรื่องที่จะต้องหาเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญสองถึงสามคนมาแทนตำแหน่งพริสซิลล่าคนเดียว แต่กำลังไม่เข้าใจว่าพริสซิลล่าเป็นอะไรถึงได้นึกอยากไปเรียน เมื่อก่อนลุงเขาซึ่งเป็นบิดาของหล่อนเคยเสนอให้หล่อนไปเรียนการโรงแรมต่อในระดับปริญญาโทพ่วงด้วยการเรียนบริหารธุรกิจที่ในอเมริกาหรือว่าสถาบันขึ้นชื่อของสวิสเซอร์แลนด์หล่อนก็ไม่เห็นด้วยที่จะไปเรียน แต่ตอนนี้นึกอย่างไรถึงจะไปเอาดื้อๆ “พริสซี่เพิ่งคิดได้เมื่อวาน” หลังจากที่ครุ่นคิดกับตัวเองมาอาทิตย์หนึ่งเต็มๆ กับความว้าวุ่นแปลกที่เกิดขึ้นทำให้หล่อนตัดสินใจที่จะไปเรียนแทนการทำงานเพื่อเปลี่ยนในสิ่งที่เป็นอยู่และเพื่อเป็นการก้าวหน้าในการงานของตัวเองอีกด้วย “แล้วก็มาบอกพี่วันนี้... แล้วจะไปวันพรุ่งนี้” อัครวินธ์ต่อให้น้องสาว เพราะรู้ว่าพริสซิลล่าคิดอะไรทำอะไรเร็วกว่าชาวบ้านชาวช่องเขาเสมอ... การจัดเลี้ยงหรือจัดแสดงโชว์ของโรงแรมที่หล่อนออกไอเดียหรือเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสร้างขึ้นมาล้วนเป็นที่ฮือฮาจนทำให้ปีเตอร์สันพาเลซทั้งแห่งที่หนึ่งและแห่งที่สองเป็นผู้นำในเรื่องการเรียกลูกค้าวอล์คอินมาชมนิทรรศการและแวะมาเล่นกาสิโนได้เป็นอันดับต้นๆ ของลาสเวกัส... “ก็ไม่ได้เร็วขนาดนั้นหรอกค่ะ พริสซี่เคลียร์งานสองสามวันก่อน ตารางงานของเดือนนี้และก็เดือนหน้าอีกครึ่งเดือนที่พริสซี่จัดการไว้ก็ให้เลขาดูต่อได้เลยค่ะ... พริสซี่แค่มาหาพี่นิคแล้วจะชวนไปทานข้าวด้วยกัน” “มีเรื่องอะไรไม่สบายใจไหมพริสซี่ พี่ว่าเธอดูแปลกๆ ไปนะ” พริสซิลล่ากลายเป็นผู้หญิงขี้เหงาไปเรียบร้อยในสายตาของเขา จนต้องถามว่าหล่อนผิดปรกติอะไร เพราะหล่อนดูแปลกไปกว่าที่เคยเสียทุกเรื่อง “ถ้าพริสซี่บอกว่าพริสซี่ผิดหวัง อกหัก จะเชื่อไหมล่ะคะ” หญิงสาวตอบทีเล่นทีจริง “ไม่” น้ำเสียงของอัครวินธ์ไม่เชื่อสุดๆ “ถ้าเป็นเรื่องจริง โลกคงแตกก่อนที่เธอจะอกหัก หรือถ้าในโลกนี้มีผู้ชายคนนั้นจริง พี่จะไปลากคอมันมาชกให้มันตาสว่างจะได้ไม่มองข้ามคนดีๆ อย่างพริสซี่ไป” แม้จะไม่ได้สนใจพริสซิลล่าเต็มร้อยเพราะต้องแบ่งเวลาให้กับงาน และผู้หญิง แต่อัครวินธ์ก็รู้ดีว่าที่ผ่านมาพริสซิลล่าหักอกผู้ชายและเป็นฝ่ายปฏิเสธมาตลอด เพื่อนของเขาที่เป็นคนดีที่เขาแนะนำให้หล่อนก็ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจ คนแรงๆ มั่นๆ อย่างพริสซิลล่า แถมยังเพียบพร้อมอย่างนี้ดูยังไงก็ไม่เหมือนคนอกหัก พริสซิลล่าย่นจมูกใส่อัครวินธ์ เขาก็มัวแต่มองสาวๆ จะสนใจอะไรความเป็นไปของหล่อนเล่า “อย่าลืมสัญญาล่ะคะ พริสซี่จะให้พี่นิคไปลากคอเขามาให้รักพริสซี่ให้ได้” หญิงสาวรับมุกพี่ชายไป อยากให้คนเป็นพี่ทำเช่นนั้นจริงๆ ในความต้องการลึกๆ หากแต่การถูกเลี้ยงมาโดยอาสะใภ้ที่เป็นคนไทยทำให้หล่อนมีนิสัยใจคออ่อนโยน รู้จักผิดบาปและคิดมาก หล่อนจึงได้แต่บอกกับตัวเองว่า หากผู้ชายคนนั้นมีครอบครัวแล้วหล่อนจะไม่ทำอะไรโง่ๆ ลงไป แม้ว่าเขาจะมีอิทธิพลกับใจหล่อนมากมายแค่ไหนก็ตามที... “ก็บอกแล้วไง ว่าถ้ามีใครหน้าโง่อย่างนั้น พี่จะทำให้มันฉลาดเอง... แล้วนี่หมดเรื่องพูดแล้วใช่ไหม จะกลับเลยไหมพี่จะไปส่ง” “นี่ไล่เลยหรือคะ... วันนี้เห็นเจ้าหน้าที่ประจำฟลอร์บอกว่าพี่ไม่มีสาวๆ มาที่ห้องนี่... ไหนๆ แล้วก็ให้เวลาน้องหน่อยเถอะค่ะ ไปทานข้าวฝีมือพ่อบ้านเจมส์กัน” “รู้ไหมว่าเธอทำให้วันหยุดของพี่เป็นเหมือนวันทำงาน เพราะต้องคอยดูแลเธอ” แม้จะบอกอย่างนั้นแต่เขาก็ยอมลุกขึ้นพร้อมๆ กับพริสซิลล่าอยู่ดี ทั้งคู่เดินออกจากห้องชุดสุดหรูซึ่งเป็นหนึ่งในห้องของโซนรับรองแขกสุดหรูของโรงแรมปีเตอร์สันพาเลซแห่งที่หนึ่ง ห้องนี้เป็นห้องประจำที่อัครวินธ์พาสาวๆ มานอนคุยกัน ทั้งที่ชั้นบนสุดของตึกนี้ทั้งชั้นเป็นอาณาจักรของเขา แต่เขาก็ไม่สามารถนำผู้หญิงคนไหนไปอยู่ที่นั่นได้ เพราะถึงแม้คนในครอบครัวเขาที่มาพักด้วยในช่วงที่เปิดโรงแรมแห่งที่สองจะกลับไปแล้ว แต่เขาก็ยังเกรงใจพ่อบ้านที่ดูแลเขามาตั้งแต่เล็กแต่น้อยอย่างพ่อบ้านเจมส์ อัครวินธ์จึงพาผู้หญิงที่เต็มใจมาอยู่ที่ห้องนี้แทน... เมื่อเดินถัดออกมาเพียงสามห้อง ประตูห้องพักที่ติดกับลิฟต์ก็เปิดออก คนที่ก้าวออกมาจากห้องอยู่ในสายตาของอัครวินธ์กับพริสซิลล่าโดยที่ไม่ต้องหันไปมองเพราะอยู่ในสายตาพอดี... เป็นเรื่องน่าบังเอิญที่คนที่เดินออกมาจากประตูนั้นสวมชุดพนักงานในส่วนของกาสิโน ซึ่งไม่ควรจะมายุ่มย่ามในส่วนของห้องพักแขก... ที่สำคัญ แขกที่อยู่ในห้องซึ่งเป็นชายแก่นั้นก็โอบกอดกับพนักงานสาวคนนั้นเหมือนไม่อยากจากกัน ผู้เป็นเจ้าของโรงแรมนิ่วหน้าเมื่อเห็นเช่นนั้น พริมาเองก็ตกใจที่เห็นเขา แต่อัครวินธ์ไม่ได้ตัดสินใจทำอะไรตอนนั้นเพราะว่าไม่อยากรบกวนลูกค้า เขาจูงมือพริสซิลล่าเดินมาเข้าลิฟต์ ที่พนักงานเปิดเอาไว้ให้... เพราะรีบเดินไปนัก อัครวินธ์และพริสซิลล่าจึงไม่ได้เห็นว่า หลังจากที่พริมาเดินออกมากับชายแก่แล้ว พฤกษ์ก็เดินออกมาพร้อมๆ กับหญิงวัยเดียวกันกับผู้ชายที่อัครวินธ์เห็น พฤกษ์สวมกอดหญิงสูงวัย เอ่ยล่ำลากันไม่ต่างกับที่พริมากอดล่ำลาผู้ชายคนนั้น... เพราะความเข้าใจผิดของอัครวินธ์ทำให้เข้าใจเลยเถิดไปไกล ทั้งที่แขกโรงแรมคู่นี้เป็นเพียงแค่คู่พ่อแม่บุญธรรมของพฤกษ์มาเยี่ยมพฤกษ์และพริมาเพราะรู้ว่าทั้งสองมาทำงานที่ปีเตอร์สันพาเลซแห่งที่สองพร้อมกัน แต่เนื่องจากช่วงเปิดโรงแรมใหม่โรงแรมที่พริมาและพฤกษ์ทำงานจึงเต็ม จึงต้องเลือกมาพักที่โรงแรมปีเตอร์สันพาเลซแห่งที่หนึ่งแทน พริมาเพิ่งเลิกงานมาจึงชวนพฤกษ์มาหาท่านทั้งสองทันทีเพราะว่าคิดถึงและต้องการพาออกมาเที่ยวแต่เช้า... หญิงสาวนึกหนักใจ ไม่รู้ว่าเจ้านายจะเข้าใจผิดคิดว่าหล่อนออกมาข้างนอกในเวลางานหรือเปล่า เพราะหล่อนไม่ได้เปลี่ยนชุด แต่คิดไปคิดมาก็เลิกกังวลเพราะเขาเป็นเจ้าของโรงแรมคงไม่มีเวลามาสนพนักงานระดับล่างอย่างหล่อนเพราะเขาเคยปรามาสไว้ในตอนที่หล่อนกับเขาเกิดกรณีพิพาทกัน หล่อนยังจำได้ว่าเขาพูดเรื่องที่ว่าเขานั้นไม่มีทางลดระดับสายตาลงมามองคนที่ด้อยกว่าอย่างหล่อนได้ พริมาคิดว่าครั้งนี้เขาคงไม่ได้สนใจ มากไปกว่าสะดุดที่เห็นคู่กรณีอย่างหล่อนเท่านั้น แต่หากเขาต่อว่าเรื่องเวลาการทำงานหล่อนก็พอแก้ตัวได้เหมือนกันว่าหล่อนเพิ่งเลิกงานในกะกลางคืน...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD