บทที่ 1 ไม่รักก็คือไม่รัก

2177 Words
ติ๊ง! หมับ! “เฮ้อ...” เสียงถอนหายใจดังขึ้นหลังจากที่คว้าเอาโทรศัพท์มือถือยี่ห้อหรูมาดู มัดไหมใจสั่นทุกครั้งเมื่อมีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น เธอคาดหวัง คาดหวังว่าจะเป็นข้อความของเขาคนนั้นที่ส่งมาหา แต่ก็ผิดหวังทุกครั้ง นี่ก็ผ่านมาสามอาทิตย์แล้ว เขาทำอะไรอยู่ วันนี้คนไข้เยอะหรือเปล่า กินข้าวกับอะไร มีอะไรให้กังวลไหม มีหลายคำถามที่อยากจะถาม เป็นบทสนทนาที่เธอส่งข้อความไปถามเขาประจำ แต่ตอนนี้บทสนทนากลับว่างเปล่า ตั้งแต่วันนั้นเขาก็ไม่ได้ส่งข้อความมาหาอีกเลย ตั้งแต่วันนั้นที่เธอถามหาสถานะจากเขา ตั้งแต่วันนั้นที่เขาไม่ให้สถานะกับเธอ จนในบางครั้ง...ก็อยากย้อนเวลากลับไป กลับไปแก้ไขคำพูดเหล่านั้น ไม่เอาแล้วสถานะบ้าบอนั่น ไม่เอาแล้วสิ่งที่ต้องการ ขอแค่ให้เขาอยู่กับเธอต่อไป อยู่แบบไร้สถานะก็ยังดีกว่าไม่มีเขาอยู่ในชีวิตอีกเลย “เป็นไรแก...” เสียงเพื่อนสาวดังขึ้นดึงสติที่ล่องลอยหายไป มัดไหมค่อย ๆ เอี้ยวใบหน้าหันมามอง “ไม่มีอะไรหรอก”เธอเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋ากางเกงทันที “ไม่มีอะไรแน่เหรอ หรือเขาคนนั้นทักมา” “เปล่า”ส่ายหน้าเบา ๆ มันแย่เสียยิ่งกว่าแย่ ที่เขาไม่ได้อะไรกับตัวเองเลย แต่กลับรักและคิดถึงเขาแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าตัวเองสามารถหาได้ดีกว่านี้ ทั้ง ๆ ที่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองแม้นว่าจะไม่มีเขา “มัด แกไม่ต้องทำเข้มแข็งหรอกนะเว้ย แกมีสิทธิ์ที่จะเสียใจ” พาฝันจับไหล่ทั้งสองข้างของเพื่อนไว้ “ฮึก มันแย่มากเลย การที่เขาทำแบบนี้ทำให้ฉันอดที่จะโทษตัวเองไม่ได้ อดที่จะลดคุณค่าตัวเองไม่ได้ ฮึก ด้อยค่าตัวเองที่ดีไม่พอที่จะได้เป็นแฟนกับเขา” “โห...แกมันโคตรจะเพอร์เฟกต์ เดินออกจากห้องก็มีผู้ชายเหลียวมองแล้ว แต่แกรู้ไหมว่าผู้ชายแบบหมอฐากูรน่ะโคตรจะตาต่ำ เลยคว้าเอาแกมาเป็นแฟนไม่ได้ พูดง่าย ๆ เขาคงรู้ว่าตัวเองไม่ได้มีดีล่ะมั้ง” “หึ แกก็เว่อร์เกิน” คำพูดของเพื่อนทำเอามัดไหมหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา พยักหน้าเบา ๆ ให้กับคำพูดของเพื่อนสาว “มันจบไปแล้ว ต่อไปก็มูฟออน เวลาจะช่วยแกเอง ส่วนตอนนี้ถึงมันจะผ่านมาแล้วสามอาทิตย์ มันก็ยังน้อยไปที่แกจะมูฟออนได้ ยังดีที่แกมีความรู้สึก” “_” “ความรักเป็นสิ่งสวยงาม หึ ตอนที่แกคุยกับเขาแกก็มีความสุขดีนี่นา เก็บความทรงจำเหล่านั้นไว้ เป็นช่วงเวลาที่งดงามต่อไปนะ” “ค่ะโค้ช” มัดไหมตอบกลับเพื่อนด้วยคำพูดกวน ๆ โค้ชที่คอยให้คำแนะนำเพื่อนเสมอ แต่พอได้ลงสนามเองก็คงเป๋ไปไม่ต่างกัน ความรักเป็นสิ่งสวยงามนั้นก็คงเป็นบทนิยามสำหรับคนที่มีความรักแบบต่างคนต่างรัก ไม่ใช่รักข้างเดียวเหมือนกับเธอ ...มัดไหมกำมือเข้าหากันแน่น เธอล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาดูอีกครั้ง เลื่อนดูข้อความสุดท้ายที่เขาส่งทิ้งไว้ บอกกับเธอว่าโชคดี เป็นคำสั้น ๆ ที่เธออยากตอบกลับไปว่า ถ้ากลับมา...นั่นแหละโชคดีของฉัน แต่ถ้าทำอย่างนั้นก็คงกลับไปยังจุดเดิม จุดที่ไร้สถานะ เขายินดีที่ให้เธอกลับไปอยู่จุดนั้น แหงสิ...เงินก็ไม่ได้เสียแถมยังได้เซ็กซ์ฟรีอีกด้วย มัดไหมไม่ได้อายุน้อย ๆ พอที่จะคุยเล่น ๆ ตอนนี้เธออยากเจอคนที่รักเธอจริง ที่พร้อมจะสร้างอนาคตร่วมกัน “ลาก่อน” เอ่ยพูดเสียงแผ่วเบา พร้อมกับหยาดน้ำตาที่ค่อย ๆ ไหลออกมาอีกครั้ง สมองสั่งการให้กดปุ่มบล็อกเขาไป ไม่ต้องรอ ไม่ต้องผวากับเสียงแจ้งเตือน ตัดขาดจากเขาไปแม้นว่าจะดูเหมือนเป็นคนแพ้ แต่มันชัดเจนแล้ว มันชัดเจนแล้วจริง ๆ ที่เขาไม่รักเธอ ไม่รักก็คือไม่รัก ไม่รักก็คือไม่รัก ไม่รักก็คือไม่รัก มัดไหมท่องประโยคนี้พร้อมกับปลายนิ้วที่กดปุ่มบล็อกไป ใจหายวาบ ราวกับว่าตนนั้นกำลังสูญเสียอะไรบางอย่าง สูญเสียไปตลอดกาล ไม่อาจหวนกลับมา “ฮึก ฮือ~” มัดไหมยกโทรศัพท์แนบอกข้างซ้าย ร้องไห้ออกมาเสียงดังจนตัวโยน ซึ่งเพื่อนสาวก็รับรู้ เพียงแค่อยากปล่อยให้เพื่อนได้เสียใจให้สุด จมดิ่งมันไปให้สุด แล้วพอขึ้นมาอีกครั้ง ...ก็คงดีขึ้น อีกด้านหนึ่ง... อยู่ ๆ หน้าเข้าโพรไฟล์เฟซบุ๊กของมัดไหมก็ขึ้นข้อความว่าไม่พบบัญชีผู้ใช้ คิ้วหนาขมวดเข้าหากันมุ่น ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้เพื่อนชายข้างกาย “แบบนี้หมายความว่าไงวะ” “หือ...” หมอกรรณภัทร์ชะเง้อคอมองหน้าจอโทรศัพท์ของคนเป็นเพื่อน ก่อนจะค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ “ก็โดนบล็อกแล้วไงเพื่อน” “ห๊า...มัดบล็อกกูเหรอ” “ก็เออน่ะสิถามได้ มึงเล่นทำแบบนั้น ละผู้หญิงที่เห็นคุณค่าตัวเองใครจะไปทนอยู่ได้วะ แต่ก็ไม่คิดว่าจะคุยนานขนาดนี้เหมือนกันนะ เป็นปีเลย” หมอกรรณภัทร์อยู่กับเพื่อนมานาน รับรู้และเห็นว่าอีกฝ่ายทำอะไรบ้าง “มึงก็รู้ว่าทำไม” “หึ เห็นแก่ตัวไง” แม้นแต่เพื่อนก็ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ตนทำ ฐากูรอยากเก็บมัดไหมไว้สำรองหากว่าเขาโดนรุ่นน้องที่ตนสนิทนั้นปฏิเสธมา กระนั้นเขาเองก็ยังไม่กล้าบอกความรู้สึกกับรุ่นน้องคนนั้น หากบอกไปก็กลัวว่าจะไม่มีอีกฝ่ายในชีวิต แต่ตอนนี้เขาเสียมัดไหมไปอย่างสมบูรณ์แบบ “เฮ้อ...” “ก็คิดเสียว่าให้เธอไปเจอคนที่ดีก็แล้วกัน” “_” “ยังไงมึงก็ยังรอความรักจากน้ำฝนอยู่ มึงก็คงต้องรอต่อไป” ได้ยินแล้วก็ยิ่งถอนหายใจหนักกว่าเดิม น้ำฝนเป็นรุ่นน้องในมหา’ลัยที่บังเอิญเจอกันตอนไปเข้าค่ายด้วยกัน ไม่ได้เรียนคณะเดียวกันแต่เขาก็รู้สึกชอบเธอตั้งแต่แรกเห็น ทว่าอีกฝ่ายกลับนับถือเขาในฐานะรุ่นพี่ สนิทสนมชวนไปเที่ยวบ่อยครั้ง ความรู้สึกของตนนั้นก็ยิ่งหยั่งลึกเข้ามาในจิตใจมากขึ้นทุกที จนไม่กล้าที่จะสารภาพรัก กลัวว่าจะทำให้เธอรู้สึกไม่ดีและตัดขาดความเป็นพี่น้องกับตน ...ขณะเดียวกันนั้นเมื่อปีที่แล้ว เขาเจอกับมัดไหมที่เกาะเสม็ด เห็นเธอแบกสัมภาระอย่างทุลักทุเล ชายหนุ่มอาสาช่วยขนของ แรงดึงดูดบางอย่างทำให้เขาเป็นฝ่ายเดินเข้าหาเธอก่อน เอ่ยปากขอช่องทางติดต่อเพื่อหวังพูดคุยกันจะได้ลืมเลือนเรื่องของน้ำฝน ทว่าแม้นจะคุยกันถูกคอ มีหลายอย่างที่ตรงกัน แม้นกระทั่งเรื่องเซ็กซ์ที่ต่างเข้าขากันได้เป็นอย่างดี ทว่าในใจลึก ๆ แล้ว...ฐากูรก็อยากให้ผู้หญิงที่จะมาเป็นคู่ครองของตนนั้นเป็นน้ำฝนอยู่ดี “ทำไมวะ เสียดายเหรอ” “_” “มันก็น่าเสียดายอยู่หรอก คุณมัดไหม ทั้งสวยทั้งเก่ง หุ่นก็ดี ภาระทางบ้านก็ไม่มี มีดีขนาดนี้แต่มึงก็ไม่เลือก” “คนมันไม่ใช่ว่ะ” “_” “ก็แค่รู้สึกว่ามัดไม่ใช่” “แล้วน้ำฝนใช่ว่างั้น” “อือ...” พยักหน้ารับเบา ๆ เขารู้จักน้ำฝนมาเป็นสิบปี ไม่เคยก้าวข้ามเส้นคำว่าพี่น้องจากเธอได้เลย ความขี้ขลาดและกลัวความสูญเสียนั้นทำให้ไม่เคยเอื้อนเอ่ยบอกความในใจ ได้แต่เก็บงำความรู้สึกไว้ข้างใน หวังว่าสักวันตนจะรวบรวมความกล้าได้บอกกับเธอให้ได้ ถ้าถึงวันนั้นทุกอย่างก็คงชัดเจนทั้งหมด ส่วนมัดไหม ก็ขออวยพรให้เธอได้เจอคนที่ดี คนที่พร้อมที่จะเคียงข้างเธอไปจนแก่ ซึ่งไม่ใช่เขา... เดือนต่อมา... บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับโลก ซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเว็บไซต์ออนไลน์ การบริการด้านโฆษณา เรียกเก็บค่าบริการสินค้า และเป็นบริษัทเสิร์ชเอนจินระดับโลก ซึ่งตั้งถิ่นฐานการบริการสาขาย่อยที่ประเทศไทย มัดไหม หงษ์พิมุกสกุล เธอเป็นหัวหน้าแผนกการตลาด หล่อนทำงานที่นี่ตั้งแต่เรียนจบ ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเป็นหัวหน้าได้ในวัยสามสิบปี ความทะเยอทะยานจากการไม่มีครอบครัวคอยซัปพอร์ต ความขยันมุ่งมานะทำให้เธอมีวันนี้ได้ มัดไหมได้รับทุนการศึกษาตั้งแต่เด็กจนจบปริญญาเอก โดยเป็นทุนให้เปล่าไม่ต้องชดใช้ทุนให้กับผู้บริจาคทุนการศึกษา แน่นอนว่าเธอรู้ว่าคนรวยเหล่านั้นต้องการบริจาคเงินเพื่อลดหย่อนภาษี กระนั้นก็ถือว่าตนโชคดีที่ได้เรียนหนังสือจนจบ มีงานมีการทำ และมีเงินเก็บกว่าห้าล้านบาท เธอมีคอนโดมิเนียมใจกลางกรุงฯ ที่เพิ่งซื้อด้วยเงินสด รถยนต์คันหรูสมกับตำแหน่งหัวหน้างานในบริษัทยักษ์ใหญ่ หล่อนเป็นที่เคารพของลูกน้องทุกคน “พี่มัด ไหวหรือเปล่าคะ” พนักงานสาวคนหนึ่งมองเห็นหัวหน้ายกมือขึ้นนวดขมับ ใบหน้าซีดเซียว อาการไม่ค่อยสู้ดีนัก “เปล่าจ้ะ ไม่เป็นอะไร” พูดไปงั้น เธออยากแสดงสปิริตในการประชุมวันนี้ “แน่เหรอคะ ดูเหมือนพี่จะไม่ไหวเลย” “ระดับพี่แล้ว ไม่มีไม่ไหวจ้ะ” เธอมาอยู่จุดนี้ได้ก็เพราะความมุ่งมั่น ความตั้งใจ ความอดทน แน่นอนว่าการไม่ได้กินข้าวเช้าวันนี้เป็นสาเหตุของการหน้ามืดตาลาย “อ่อ โอเคค่ะ” ลูกน้องต่างพากันหันไปมองหน้ากัน หากเป็นหัวหน้าแล้วต้องทำงานหนักขนาดนี้ คงต้องขอบายไปก่อน ...มัดไหมคว้าขวดน้ำขึ้นมาจิบ เธอรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองป่วยมาหลายวันแล้ว แต่เพราะมีประชุมสิ้นเดือนจึงต้องกัดฟันอดทนสู้ ให้ทุกอย่างสำเร็จลุล่วง ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี “มาเป็นอะไรตอนนี้” เธอส่ายหน้าเบา ๆ ทำงานหนักมาหลายวัน ทำงานอย่างหนักเพื่อจะได้ลืมเรื่องของเขาคนนั้น เธอบ่นอุบอิบกับตัวเอง ก่อนที่ไม่นานจะได้ยินเสียงของเลขาฯ เอ่ยเรียกให้เธอนำเสนองานได้แล้ว และด้วยความตกใจทำให้เธอผุดลุกขึ้นด้วยความรวดเร็ว ครืดด~ ตุบ! “กรี๊ดด! พี่มัด!!” มัดไหมเซถอยหลัง ดันถอยหลังจนล้มลงอย่างแรง แต่โชคยังดีที่มีคนคว้าตัวเธอไว้ได้ทัน นั่นก็คือเลขาฯ ฝ่ายการตลาดคนสนิทนั่นเอง “คุณมัดไหมเป็นลมไปแล้วค่ะ!” บนกรอบหน้าสวยนั้นมีเหงื่อผุดขึ้น ลมหายใจถี่กระชั้นนั้นทำให้หลายคนตกใจ “เรียกรถพยาบาลด่วนเลย” น้ำเสียงจริงจังของประธานบริษัทต่างทำให้หลายคนหันไปมอง ไม่คิดว่าเขาจะเอ่ยพูด ความเงียบขรึมของคิมหันต์ ทำให้ใครต่างกังวลว่าเขาจะคาดโทษมัดไหม โทษฐานที่หล่อนเป็นลมกลางห้องประชุม ...เจ้าของใบหน้าลูกครึ่งเกาหลีนั้นมีความกังวลอยู่ในนั้น คิมหันต์ดำรงตำแหน่งเป็นประธานบริษัท ซึ่งถูกแต่งตั้งขึ้นจากผู้ถือหุ้น โดยที่เจ้าตัวไม่ได้มีหุ้นในบริษัทแห่งนี้ เพียงแต่ความสามารถของเขานั้นเหมาะที่จะเป็นผู้บริหารให้กับบริษัทแห่งนี้ ซึ่งมีสาขาทั่วโลก และเขาทำหน้าที่บริหารบริษัทที่ประเทศไทย “เป็นอะไรหรือเปล่านะ” เอ่ยเสียงแผ่วเบา แอบมองเธอมานาน พอเห็นว่าเป็นลมเป็นแล้งแล้วก็ยิ่งเป็นห่วง ความเข้มขรึมทำให้หลายคนคิดว่าเจ้าตัวจะต่อว่ามัดไหมหลังจากออกจากโรงพยาบาล เพราะเคยเกิดเหตุการณ์พนักงานฝืนทำงานจนเข้าโรงพยาบาลมาแล้ว แน่นอนว่าทางบริษัทไม่เห็นด้วยกับการกระทำนี้ อย่างไรสุขภาพต้องมาก่อนเสมอ “ยกเลิกประชุมก่อน” คิมหันต์เอ่ยพูดหลังจากที่มัดไหมถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ทำเอาพนักงานหลายคนนั้นมึนงงไปตาม ๆ กัน “เอ่อ ท่านประธานครับ คือว่าเราประชุมกันแค่นี้ก่อนก็ได้นะครับ ยังไงเดี๋ยวเลขาฯ ของคุณมัดคงบันทึกเสียงไว้ให้เธอได้” “เอ...ทำไมคุณไม่เห็นใจเพื่อนร่วมงาน ควรจิตตกจนทำงานไม่ได้ไม่ใช่เหรอ หรือผมเข้าใจอะไรผิดไป” น้ำเสียงของเจ้านายทำเอาคนในห้องประชุมห้าสิบกว่าคนนี้ถึงกับมึนงงไปตาม ๆ กัน ปกติแล้วท่านประธานเห็นใจพนักงานเสียเมื่อไรกัน...แต่กับมัดไหมแล้ว ทำไมต่างกันเช่นนี้ สองมาตรฐานหรือ...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD