“คือว่า...”
“อย่างที่บอกนะครับ แขเป็นแฟนของผม ผมคงยอมให้เธอไปแต่งงานกับใครไม่ได้ หวังว่าพ่อเลี้ยงจะเข้าใจ”
เดชาธรจ้องตากับพ่อเลี้ยงไม่ยอมแพ้จนอีกฝ่ายต้องเป็นฝ่ายยกธงขาวก่อน ยังไงเสียเขาก็ไม่ชอบผู้หญิงที่แปดเปื้อนแล้วเหมือนกัน ถ้าแขไขไม่ใช่ผู้หญิงบริสุทธิ์ เธอก็ไม่มีค่าพอที่จะขึ้นเป็นผู้หญิงของเขา
“ตกลงครับ ได้ ผมเข้าใจ ส่วนเรื่องหนี้สินทั้งหมดของครอบครัวนี้ ถ้าทางคุณเดชาธรบอกว่าจะจ่ายแทน ผมก็ไม่มีปัญหาอะไร”
“ติดต่อผมได้ตามนี้เลยครับ ผมจะโอนเงินให้คุณทันที”
ร่างสูงยื่นนามบัตรของตนเองส่งให้พ่อเลี้ยง อีกฝ่ายรับไปก่อนจะพยักหน้าให้พวกลูกน้องกลับ ไม่วายชำเลืองตามองเขมจิราที่ยืนอยู่ไม่ไกล หล่อนเบือนหน้าหลบสายตาร้ายๆ คู่นั้นที่มองมา
“เรื่องงานแต่งงานผมจะจัดการเอง คุณพ่อกับคุณแม่ก็...ขอบคุณที่ใช้บริการนะครับ” พ่อเลี้ยงหันไปร่ำลาบิดาและมารดาของหญิงสาวทั้งสอง
แขไขยืนตัวแข็ง รอจนกระทั่งพ่อเลี้ยงและพวกเดินออกไปจนหมด เธอรีบวิ่งเข้าไปหาเขมจิราและกอดน้องสาวเอาไว้แน่น ทั้งคู่กอดกันร้องไห้ด้วยต่างเป็นห่วงกันและกัน
“ไม่เป็นไรใช่ หืม?”
“เข็มไม่เป็นอะไรค่ะ พี่แขนั่นแหละ กลับมาทำไม รู้ทั้งรู้ว่าถ้ากลับมาจะต้องโดนบังคับแบบนี้”
“จะบ้าหรือ พี่จะปล่อยให้เข็มต้องมารับกรรมแทนพี่ได้ยังไงล่ะ” เธอตอบพลางลูบหัวน้องสาวอย่างเอ็นดู
“คุณพาน้องสาวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะครับ ที่เหลือผมจัดการเอง”
ร่างสูงเดินเข้ามาบอก หญิงสาวตวัดสายตามองเขาด้วยความซาบซึ้ง ในใจพร่ำขอบคุณเดชาธรเป็นพันล้านคำ
“ขอบคุณมากนะคะ” หล่อนเอ่ยก่อนจะพาเขมจิราขึ้นไปที่ชั้นสองของบ้าน
ที่ห้องรับแขกตอนนี้เหลือเพียงเดชาธร บิดา และมารดาของแขไขเท่านั้น ชายหนุ่มตรงไปนั่งที่โซฟาแทนที่พ่อเลี้ยงเมื่อครู่ เขาพอจะรู้มาบ้างว่าพ่อเลี้ยงทำธุรกิจอะไร เขาเป็นเจ้าของคาสิโนแบบถูกกฏหมายรายใหญ่ที่เกาะทางใต้ของประเทศ ซึ่งเป็น คาสิโนที่แรกและที่เดียวที่ได้สัมปทานมาอย่างถูกต้อง ซึ่งส่วนใหญ่จะมีแต่พวกไฮโซและคนมีเงินถุงเงินถังเท่านั้นที่จะไปเล่นที่นี่
และดูท่าพ่อแม่ของแขไขเองคงจะเป็นลูกค้าประจำที่นั่น
หนี้สินที่เกิดขึ้นคงหนีไม่พ้นเกิดจากการเล่นพนันที่คาสิโน
“คุณ...เป็นแฟนกับลูกสาวผมจริงๆ หรือครับ” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถาม
เขาอาจเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่อง ไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่เหนือภรรยาซึ่งเป็นแม่เลี้ยงของแขไข แต่ลึกๆ แล้วเขาก็เป็นห่วงลูกสาวคนโตพอสมควร เรื่องการแต่งงานแม้จะไม่เห็นด้วย แต่พ่อเลี้ยงก็มีเงินและอำนาจมากพอที่จะดูแลลูกสาวเขาไปได้ชั่วชีวิตจึงไหม่คัดค้าน
“อันที่จริง...ผมกำลังตามจีบเธออยู่ครับ ตอนนี้ก็กำลังรอเธอใจอ่อนยอมรับรักผมอยู่”
“แปลว่าพวกคุณไม่ได้เป็นแฟนกัน แล้วที่บอกพ่อเลี้ยงไปเมื่อกี้ล่ะคะ เรื่องเงิน...?” ฝ่ายมารดาผู้สนใจแค่เพียงเรื่องเดียวถามอย่างสงสัย
“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมจะใช้หนี้ทั้งหมดให้เอง ถ้านั่นจะเป็นการช่วยปลดแอกแขไขออกจากพวกคุณ”
สีหน้าที่เคยยิ้มแย้มแปรเปลี่ยนเป็นจริงจังจนน่ากลัว เขาดูแตกต่างไปจากปกติที่เห็นในตอนแรก ชายหนุ่มหันไปทางมารดาเพื่อเสนอเงื่อนไข
“แลกกับการที่คุณจะไม่ยุ่งวุ่นวายหรือบังคับอะไรแขไขอีก ผมมีข้อเสนอมาให้ครับ”
ด้านแขไข เธอรอจนน้องสาวเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ทั้งคู่พากันมายืนคุยอยู่ตรงระเบียงห้องของเขมจิรา แขไขรู้ดีว่าหล่อนอยากจะถามเรื่องอะไร ดูจากสีหน้าที่ยิ้มกริ่มเจ้าเล่ห์ มีหรือที่พี่สาวอย่างเธอจะมองไม่ออก
“ทำไม อยากถามอะไรงั้นเหรอ”
“ไม่ต้องมาทำวางมาดเลย ผู้ชายที่โคตรหล่อคนนั้นเป็นใคร เป็นแฟนพี่จริงๆ หรือ แล้วเขารวยขนาดนั้นจริงหรือคะ”
เขมจิราเองก็ไม่ใช่คนที่ออกงานสังคมบ่อยนัก เพราะส่วนใหญ่เวลาออกงาน ‘ขวัญดาว’ น้องสาวคนเล็กที่เกิดจากบิดาและแม่เลี้ยงของเขาจะเป็นคนได้ไปเสียมากกว่า
“เรื่องรวยพี่ไม่รู้หรอก ก็เพิ่งได้ยินพร้อมๆ กับทุกคนนั่นแหละ ส่วนเรื่องเป็นแฟน...เขาไม่ใช่แฟนพี่”
“อ้าว แต่เมื่อกี้เขาบอกว่า...”
“เขาคงแค่อยากช่วยนั่นแหละ เพราะถ้าจะบอกว่าไม่รู้จักกันเลยก็คงดูโกหก ส่วนจุดประสงค์ที่ทำไมถึงช่วย...พี่ว่าจะถามเขาหลังจากนี้”
แขไขเองก็สงสัยเช่นกัน ถึงเธอจะไม่ชอบขอความช่วยเหลือใครเพราะรู้สึกเสียเกียรติก็ตามที แต่ระหว่างให้เป็นหนี้พ่อเลี้ยงกับเดชาธร เธอเลือกอย่างหลังมากกว่า อย่างน้อยที่สุดเธอเอง...ก็ไม่ได้รังเกียจเขา
“พี่ชอบเขาใช่ไหมคะ ผู้ชายคนนั้น”
“จะบ้าหรือยัยเข็ม ผู้ชายที่นิสัยง้องแง้งแบบลูกหมาน่ะ ไม่ใช่สเป็คพี่หรอก”
เธอปฏิเสธหน้าแดงก่ำ เขมจิราอมยิ้ม ใครจะรู้ใจพี่สาวดีไปกว่าเธอไม่มีอีกแล้ว ตั้งแต่เกิดมา เป็นครั้งแรกที่เห็นหล่อนหน้าแดงเวลาพูดถึงผู้ชายสักคน
“แล้วสเป็คพี่ต้องแบบไหนล่ะคะ พี่นนท์หรือ? ไม่เอาน่า เวลาพวกพี่อยู่ด้วยกันเหมือนท่านประธานกับเลขากำลังประชุมงานมากกว่า เข็มไม่เคยเห็นโหมดฟรุ้งฟริ้งหรือออร่าโรแมนติกจากตัวพวกพี่เลยนะ”
“แก่แดด อย่าคิดว่าจบมหาวิทยาลัยแล้วจะมีแฟนได้เชียวนะ พี่ไม่ยอมง่ายๆ หรอก น้องเขยของพี่ พี่ต้องตรวจสอบให้แน่ใจด้วยตัวเองเท่านั้น”
“ค่าๆ คุณแม่” สองพี่น้องมองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม “แต่ว่า...เข็มเชียร์คนนี้นะ เข็มว่าเขาต้องชอบพี่แขแน่ๆ ทั้งหล่อและรวยมากขนาดนี้ หาไม่ได้ง่ายๆ หรอกนะ”
“ก็บอกว่าไม่ต้องยุ่งไง เรื่องของผู้ใหญ่ เราน่ะ..ตั้งหน้าตั้งตาหางานไปเถอะ จะได้ออกไปจากบ้านหลังนี้เสียที”
ความเงียบเข้าครอบงำสองพี่น้องอีกรอบ เขมจิราพยักหน้ารับ เธอส่งเรซูเม่ในการสมัครงานไปที่บริษัทหลายแห่งแต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับเลย
“ไม่ต้องห่วงนะพี่แข เข็มจะหางานให้ได้เร็วๆ จะช่วยแบ่งเบาภาระของพี่เอง อย่างน้อยที่สุด...เข็มก็อยากช่วยพี่ส่งเสียยัยขวัญบ้าง ยัยนั่นก็เหมือนกัน รู้ว่าพี่ลำบากขนาดนี้แต่ยังจะใช้เงินเป็นเบี้ยแถมเลือกไปเรียนต่อเมืองนอกอีก มันน่านัก ถ้าไม่ติดว่าคุณแม่ให้ท้ายล่ะก็...เข็มไม่ยอมให้ไปหรอก”
“เอาน่า พูดไปก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้ อีกอย่างยัยขวัญก็น้องสาวของเราสองคนเหมือนกัน เหนื่อยเพื่อน้องสาวทั้งสองคนของพี่ พี่ทนได้อยู่แล้ว”
“พี่ก็เป็นเสียแบบนี้ เพราะงั้นถึงถูกบังคับอยู่เรื่อย” เขมจิราหน้ามุ่ย
ตอนที่แขไขอายุได้สิบเอ็ดขวบและเข็มจิราอายุได้ห้าขวบ บิดาของพวกเธอแต่งงานใหม่กับมารดาที่เป็นแม่เลี้ยงในปัจจุบันและเริ่มมีลูกด้วยกันหนึ่งคนก็คือขวัญดาว ตลอดมาค่าใช้จ่ายหลักๆ จะมาจากแม่เลี้ยงที่บ้านมีฐานะเพราะเป็นตระกูลเก่าแก่ แต่คนภายนอกไม่รู้ว่ามันเป็นเพียงแค่เปลือกนอก ภายในแทบไม่เหลือสมบัติอะไรให้ล้างผลาญแล้วเพราะแม่เลี้ยงติดการพนันขั้นรุนแรง
หลังจากแขไขเรียนจบ เธอจึงต้องทำงานอย่างหนักเพื่อเป็นเสาหลักให้ครอบครัว ทั้งค่าใช้จ่ายในบ้าน ส่งเสียค่าเล่าเรียนให้น้องสาวสองคนแล้วยังค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกมากมายเพราะแม่เลี้ยงจมไม่ลงและไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าบ้านใกล้ล้มละลายเต็มที
“นางฟ้าครับ...!” น้ำเสียงระริกระรี้ดังขึ้นจากด้านล่าง
สองพี่น้องชะโงกลงไปมองก็พบกับร่างสูงที่ยืนโบกมือเรียกแขไขป้อยๆ เขาชี้นิ้วเข้าไปที่ห้องรับแขกเป็นเชิงให้พวกเธอลงมา
“เข็มว่าเขาน่ารักออก ดูสายตาที่เขามองพี่สาวเข็มสิ หวานเยิ้มเหมือนน้ำผึ้งเลย ลองเปิดใจให้เขาดูก็ไม่เสียหายหรอกนะคะ”
“พี่ขอพูดคำเดิมนะ อย่าแก่แดด” เธอบีบจมูกน้องสาวเบาๆ อย่างเอ็นดู
ทั้งสองพากันลงมาที่ชั้นล่าง คนของพ่อเลี้ยงกลับไปหมดแล้ว เหลือแค่บิดากับมารดาที่นั่งคุยกับเดชาธรอยู่เท่านั้น ทันทีที่เห็นพวกหล่อน
“ขอโทษที่ลงมาช้านะคะ ฉันขอแนะนำ นี่คุณพ่อพิเศษกับคุณแม่ดวงดารา พ่อกับแม่ฉันเองค่ะ” แขไขแนะนำให้รู้จักอย่างเป็นทางการ
“ครับ รู้จักกันแล้วล่ะ ว่าแต่...นี่ก็ดึกแล้ว ให้คุณพ่อคุณแม่กับน้องสาวของคุณพักผ่อนดีกว่านะครับ พวกเรากลับกันเถอะ”
“กลับ? กลับไหนคะ” หญิงสาวไม่เข้าใจ
คุณหญิงดวงดาราเดินยิ้มมาหาแขไข แสร้งทำเป็นลูบศีรษะหล่อนอย่างใจดีทั้งที่ปกติไม่เคยทำ
“แขกลับไปพร้อมกับคุณเดชาธรเถอะลูก จากนี้ไปไม่ว่าลูกจะอยากทำอะไร แม่ไฟเขียวให้ทุกอย่างเลย ที่ผ่านมาลูกลำบากมามากแล้ว จากนี้ลูกควรได้มีชีวิตเป็นของตัวเองเสียที”
“แม่เป็นอะไรหรือเปล่า ไม่สบายหรือคะ” แขไขยังไม่อยากจะเชื่อ
“ฟังที่แม่เขาบอกแล้วรีบไปเถอะแข ไปมีชีวิตของตัวเอง เลือกชีวิตที่ลูกต้องการด้วยตัวเองซะ แล้วถ้าคิดถึงพ่อกับแม่หรือน้อง ก็แวะกลับมาเยี่ยมพวกเรา”
“คุณพ่อ...ทำไมพูดแบบนี้ล่ะคะ หรือว่าคุณพูดอะไรกับพ่อแม่ฉัน”
เธอเบนเข็มทิศไปทางชายหนุ่มแทน เดชาธรรีบส่ายหน้าปฎิเสธ เขมจิราเห็นว่านี่เป็นหนทางที่ดีที่สุดที่จะช่วยปลดแอกแขไขออกจากทุกคน เธอจึงรีบดันตัวพี่สาวส่งให้เขา
“ไปเถอะค่ะ ไว้เข็มจะโทรหาบ่อยๆ ส่วนเรื่องหนี้สิ้นที่คุณเดชาธรช่วยชดใช้ให้ เข็มก็จะพยายามหามาคืนให้นะคะ” เธอหันมาคุยกับร่างสูง “ฝากพี่สาวของเข็มด้วย เห็นแบบนี้แต่จริงๆ แล้วเธอเป็นคนอ่อนไหวง่ายแล้วก็ขี้ใจอ่อนมากๆ เลยล่ะค่ะ”
“ยัยเข็ม พูดมากเกินไปแล้ว”
“ไปกันเถอะครับ” เดชาธรแบมือส่งให้เธอจับ
หล่อนมองมือนั้นสลับกับน้องสาวอย่างลังเล แต่เมื่อเขมจิราพยักหน้าและส่งให้ยิ้มให้ด้วยท่าทีเข้มแข็งกว่าทุกครั้ง เธอก็ตัดสินใจได้
แขไขยื่นมือไปจับมือเขาเอาไว้แล้วประสานนิ้วเข้าหากัน...