5

834 Words
​" กลับบ้านเถอะ นับดาวเย็นแล้วไปพักผ่อนเถอะ " เสียงอาจารย์รวีบอกออกมา ก่อนจะเก็บข้าวของของตัวเอง "ขอบใจมากเลยนะ ที่มาช่วยวันนี้ อาทิตย์หน้าเหลือเรียนกี่วันละ "เรียนสามวันค่ะ วันอื่นๆหนูว่าง " "อยากทำงานต่อไหมละ อาจารย์จะถามอาจารย์ท่านอื่นให้ " ท่านบอกด้วยความเมตตา "หนูว่างอีกสองวันค่ะ วันที่มาเรียนหนูรับงานอาจารย์ไว้แล้วค่ะ " "อาจารย์พีร์คะ มีงานให้นักศึกษาช่วยไหมคะ นับดาวเค้าทำงานเก่ง ละเอียดใช้ได้เลยค่ะ เค้าว่างสองวัน นะคะ " รณพีร์เงยหน้าขึ้นมาจากกองงานของตัวเอง สมองคิดวนเวียนไปมา อยากจะให้ใก้ลก็อยาก อยากจะให้ห่างไปก็อยาก "ถ้าช่วยเช็คงานของรุ่นน้องพอจะทำได้ไหม " รณพีร์ตอบไปแล้ว กลั้นใจรอคำตอบ "ได้ค่ะ หนูทำได้ " เธอยิ้มหวานอย่างยินดี แล้วยกมือไห้วขอบคุณ "ขอบคุณอาจารย์รวีมากนะคะ ที่การันตีหนูให้อาจารย์รณพีร์ ไม่อยากงั้น หนูคงไม่ได้ทำงานแน่ๆ " ช่วงเย็นวันเสาร์เป็นวันครอบครัวสินะ คนไม่มีครอบครัวก็ต้องอยู่ตามลำพัง กระเป๋าสตางค์ใบใหญ่ยี่ห้อดังถูกนำออกมาจากกระเป๋าผ้าใบสวยที่ไม่มียี่ห้อใดๆ ก่อนจะหยิบเงินสดออกมาปึกหนึ่งแล้วสอดใส่ไว้ในกระเป่าสตางค์ใบเล็กอีกใบที่ใช้ประจำ วันนี้ซื้อของเข้าบ้านสินะ มือบางเข็นรถเข็นไปตามทางก่อนจะหยิบสมุดโน้ตเล่มเล็กขึ้นมา แล้วเลือกดูของใช้ที่ต้องซื้อเข้าบ้านอย่างเหงาๆ รณพีร์แอบถามอาจารย์ร่วมภาควิชาที่การันตีผลงานของลูกศิษย์สาวคนนี้ "นับดาวเค้าทำงานเลี้ยงตัวเองหรอครับ อาจารย์รวี " "ใช่ค่ะ ทำงานดีนะคะ ผลการเรียนก็ดี เทอมนี้แกก็เรียนกับอาจารย์ไม่ใช่หรอคะ " "ครับ เทอมนี้เรียนกับผม " "ฝากแกด้วยนะคะ มีงานอะไรแกรับทำหมด แกไม่เกี่ยงงาน ได้มากได้น้อยก็รับหมด " รณพีร์นิ่งใช้ความคิด หน้าตาดีแบบนี้ไปทำงานอย่างอื่นจะได้มากกว่านี้หรือเปล่า ช่วยงานแบบนี้ จะได้เท่าไหร่กันเชียว วันละสองร้อยสามร้อย เท่านี้แหละมั้ง ภาพเพื่อนๆหลายคนในเฟสบุ้คพากันอัพรุปไปเที่ยวไปกินกันตามสถานที่ต่างๆ แต่เธอกลับนั่งหงอยเหงาเพียงคนเดียว ไม่ใช่ไม่อยากคบ ไม่ใช่ว่าไม่อยากสนิทกับใคร แต่ความสนิทใจที่เคยให้มันถูกทำลายไปพร้อมกับการเออออตามกันเท่านั้นเอง "ไปเถอะนะ ไปเที่ยวกัน " เสียงเพื่อนๆในห้องชวนกันไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งเธอไม่อาจปฎิเสธได้ จึงต้องติดสอยห้อยตามไป และที่นั่นเอง สถานที่ที่คนพาไปย้ำหนักหนาว่าไม่ตรวจบัตร กลับเจอตำรวจเข้าไปทลายในกลางดึกคืนนั้น นับดาวยืนร้องไห้กระซิกด้วยความกลัว ทุกคนมีพ่อแม่มาช่วยดูแลกันหมด ตำรวจขอแค่ผุ้ปกครองของเพื่อนมาเซ็นต์รับรองให้เท่านั้น เพื่อจะปล่อยตัวกลับบ้าน แต่ไม่มีใครสักคนเคียงข้างเธอในคืนนั้น เธอต้องรอจนกว่าจะเช้าและโทรหาคุณลุงทนายที่มาทันทีที่เธอโทรไป ตั้งแต่นั้นมา เธอจึงกลายเป็นคนแบบนี้ไปแล้ว เธอไม่มีใครเลย รณพีร์เดินกระวนกระวายอยู่ในบ้านของตัวเอง เค้ารู้สึกห่วงใยเธอมาก มากกว่านักศึกษาคนไหนๆ กว่า5ปีที่ทำงานมา เค้าไม่เคยสักครั้งที่จะเป็นแบบนี้กับใคร หลังจากหย่าขาดกับพลอยไพลินมาแล้วเกือบสามปี เค้าก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานใช้หนี้ใช้สิน จนมาเบาบางเมื่อปีนี้เอง เลยขอย้ายกลับมาสอนที่วิทยาเขตนี้ เค้าอยากรู้ว่าเธอเป็นยังไง อยากรู้ชีวิตความเป็นอยู่ของเธอและที่สำคัญ อยากรู้ว่าเธอมีใครหรือยังเท่านั้นเอง ตัวเลขสิบหลักถูกกดลงในโทรศัพท์มือถือแล้วก็กดโทรออก แล้วก็กดวางไปอย่างรวดเร็ว ในสมองของเค้าตีกันไปมาจนปวดหัว เค้ายอมรับอย่างน่าไม่อายว่าสนใจเธอ แต่เธอจะมาชอบเค้าหรอ เป็นไปไม่ได้หรอก พ่อม่ายวัยสามสิบห้าที่มีตำแหน่งเป็นอาจารย์ด้วยมันค้ำคอเค้าอยู่ แต่จะทำยังไงในเมื่อหัวใจมันเต้นผิดจังหวะไปเสียแล้ว รณพีร์กดโทรออกอีกที รอจนเสียงสัญญานดีงขึ้นด้วยใจจดใจจ่อ เธอไม่รับสาย เค้ารอจนสัญญานตัดไป แล้วถอนหายใจออกมา ถ้าฟ้ามันจะไม่เป็นใจแบบนี้ เค้าก็ต้องทำใจสินะ โทรศัพท์ถูกโยนลงที่โซฟาอย่างหงุดหงิดใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD