SOMETIME 07
*****************************
วันนี้ฉันมีนัดกับรุ่นพี่คนหนึ่งที่เรียนอยู่คณะอักษรศาสตร์คณะเดียวที่ฉันกำลังเรียนอยู่ เขาชื่อพี่อาร์อยู่ปีสี่
ที่ฉันนัดกับพี่อาร์เป็นเพราะฉันกำลังทำรายงานของคนที่ประสบความสำเร็จในการเป็นนักเขียน
พี่อาร์เป็นนักเขียนที่ค่อนข้างดัง มีคนรู้จักเยอะแยะเต็มไปหมด ฉันเองก็อยากจะเป็นเหมือนเขาในอนาคต
ฉันชอบจินตนาการ ชอบความเพ้อฝัน มันทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายเวลาที่ได้เข้าไปอยู่ในห้วงเวลาแบบนั้น
วันนี้ฉันไม่ได้ตั้งใจจะลืมวันสำคัญระหว่างฉันกับพี่แทนหรอกนะ แต่ฉันไม่สามารถอยู่กับเขาได้เพราะฉันนัดกับพี่อาร์เอาไว้แล้ว
ถ้าเปลี่ยนเวลาไปเรื่อยๆ ฉันกลัวว่าพี่อาร์จะไม่มีเวลาว่างมาเจอฉัน เพราะช่วงนี้เขาต้องเขียนนิยายส่งสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งอยู่
อีกอย่างฉันก็ไม่อยากรบกวนเวลาเขามากด้วย พอดีว่าช่วงนี้พี่อาร์ว่างฉันก็เลยต้องรีบคว้าโอกาสนี้เอาไว้ไม่อยากปล่อยให้หลุดมือไป
กว่าจะได้เจอกับพี่อาร์ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะ นี่กว่าจะติดต่อกับเขาได้ก็ใช้เวลาหลายวันเหมือนกัน
“มาแล้วครับ” พี่อาร์วิ่งเข้ามาสะกิดไหล่ฉันด้วยความเหนื่อยหอบ “โทษทีที่พี่มาสายเพิ่งคุยกับอาจารย์เสร็จเมื่อกี้นี้เอง”
“ไม่สายหรอกค่ะหวานมาก่อนเวลาเอง”
พี่อาร์มาตรงเวลาพอดีเลย ไม่ได้มาสาย พี่อาร์ยิ้มรับก่อนจะเดินไปสั่งน้ำแล้วมานั่งตรงข้ามฉัน
“ขอโทษด้วยนะคะที่หวานนัดพี่อาร์ถี่แบบนี้”
“พี่ยินดีครับ นัดมาได้เลยถ้าพี่ว่างตรงกันกับหวานพี่ก็มาหาหวานได้”
“ขอบคุณนะคะ เอาเป็นว่าวันนี้หวานขอเลี้ยงตอบแทนพี่อาร์นะคะที่เสียเวลากับงานของหวาน”
พี่อาร์หัวเราะก่อนจะเอื้อมมือมาขยี้ผมฉันอย่างเอ็นดู ก็ฉันเกรงใจพี่อาร์นี่ฉันนัดเจอกับเขาบ่อยมากเลยนะ จนคนอื่นอาจจะคิดไปแล้วมั้งว่าฉันกับพี่อาร์เป็นแฟนกัน
พอจะให้เหมยมาด้วยเธอก็ไม่ยอมบอกว่าอยากให้ฉันเจอกับคนดีๆ และอยากให้ฉันใช้เวลาอยู่กับพี่อาร์สองคนด้วย เพื่อนฉันช่างเป็นแม่สื่อดีจริงๆ
นี่ถ้าพี่แทนรู้เข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันกับเหมยจะมีสภาพเป็นยังไง ใครๆ ก็รู้ว่าพี่แทนเป็นยิ่งกว่ามัจจุราชซะอีก เขาน่ะร้ายกาจกว่าที่ทุกคนคิดเยอะ
“สักวันหวานจะเป็นเหมือนพี่อาร์ให้ได้ค่ะ หวานอยากเขียนนิยายเก่งๆ จะได้เจอพี่บ่อยๆ”
“เขียนไม่เก่งก็เจอพี่ได้ครับ พี่ยินดีให้คำปรึกษากับรุ่นน้องเสมอ ไม่ใช่แค่หวานหรอกนะที่มาปรึกษาหรือสัมภาษณ์พี่ น้องคนอื่นก็มาถามพี่เหมือนกัน”
ก็เพราะพี่อาร์ใจดีแบบนี้ไงรุ่นน้องถึงได้มาหาเขา เพราะเขาเป็นคนที่เข้าถึงได้ง่ายมากกว่านักเขียนคนอื่นๆ
“มีอะไรอยากให้พี่แนะนำถามพี่ได้นะ หรือถ้าหวานอยากลองเขียนนิยายเพื่อส่งเข้าประกวดก็ได้เดี๋ยวพี่จะบอกบอกอให้”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ หวานยังต้องฝึกฝนอีกเยอะเลย”
ระหว่างนั้นเราก็คุยกันและเริ่มลงมือทำงานกันอย่างจริงจังจนฟ้ามืดดำไปหมด มาดูนาฬิกาอีกทีถึงได้รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มแล้ว นี่ฉันนั่งนานขนาดนั้นเลยเหรอ
พี่อาร์บิดตัวเพื่อคลายความเมื่อยล้าจากการที่นั่งมาเป็นเวลานาน เพราะเหตุนี้ไงฉันถึงได้เกรงใจพี่อาร์
มันไม่ใช่งานของเขาเลยสักนิดแต่เขากลับยอมมานั่งให้คำปรึกษาฉันจนงานตัวเองไม่ได้ทำแบบนี้ แค่เลี้ยงน้ำอย่างเดียวคงไม่พอแล้วมั้ง
“ขอบคุณพี่อาร์มากๆ นะคะที่นั่งเป็นเพื่อนหวานจนค่ำเลย”
“ยินดีครับแล้วนี่หวานมายังไงให้พี่ไปส่งมั้ย?”
ที่พี่อาร์ถามเป็นเพราะว่าเราไม่ได้มาด้วยกัน ฉันมารอเขาก่อนที่เขาจะขับรถบิ๊กไบก์ของตัวเองตามมาทีหลัง
“หวานขับรถมาเองค่ะ”
“โอเคครับงั้นไว้เจอกันใหม่นะ”
“ค่ะ” พี่อาร์เดินออกไปก่อน ฉันเดินไปจ่ายเงินแต่พนักงานกลับบอกว่ามีคนจ่ายให้แล้ว คงไม่ต้องบอกหรอกนะว่าเป็นใคร
ทำไมพี่อาร์ใจดีแบบนี้นะ ฉันอยากให้พี่แทนเป็นเหมือนพี่อาร์จัง แต่ก็รู้ว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ในเมื่อสองคนนั้นนิสัยต่างกันราวฟ้ากับเหว
ฉันเดินออกมานอกร้านเพื่อที่จะกลับคอนโดแต่ก็เห็นว่าพี่อาร์ยังยืนอยู่ที่รถของตัวเอง เขากำลังก้มๆ เงยๆ เหมือนหาอะไรสักอย่าง
“รถเป็นอะไรเหรอคะพี่อาร์?”
“ยางรั่วค่ะ ตอนขับมายังดีๆ อยู่เลยรั่วได้ไงก็ไม่รู้”
พี่อาร์เกาหัวตัวเองอย่างงงๆ แถวนี้ก็ไม่มีร้านซ่อมซะด้วย กว่าจะจูงบิ๊กไบก์คันใหญ่นี้กลับได้คงต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงเลยมั้ง
“ให้หวานไปส่งมั้ยคะ เดี๋ยวรถพี่อาร์หวานจะให้คนมาจัดการให้”
คนที่ฉันหมายถึงก็คือคนของพี่แทนนั่นแหละ เขามีลูกน้องเยอะไม่ใช่เหรอจัดการเรื่องแค่นี้คงไม่ยากหรอกมั้ง
พี่อาร์ทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะพยักหน้ายอมให้ฉันไปส่ง เขาคงไม่อยากมีปัญหากับพี่แทนเหมือนคนอื่นๆ ที่ผ่านมาสินะ เพราะทุกคนต่างก็รู้ดีว่าพี่แทนหวงของของเขายิ่งกว่าอะไร
แต่สำหรับฉันกับพี่อาร์เราบริสุทธิ์ใจ รถพี่อาร์เสียฉันก็แค่ไปส่งเท่านั้นเองไม่ได้มีอะไรนอกจากนั้นเลย
“งั้นรบกวนด้วยนะครับ”
หลังจากที่ไปส่งพี่อาร์เสร็จฉันก็กลับมาที่คอนโดทันทีเพื่อที่จะบอกให้พี่แทนช่วยส่งคนไปดูรถให้พี่อาร์
แต่พอกลับมาถึงก็ไม่เห็นใครอยู่ที่ห้องแล้ว ไหนบอกว่าไม่มีเรียนและไม่ได้ไปไหนไงแล้วหายไปไหน
ฉันกำลังจะโทรไปหาก็เห็นว่ามือถือของพี่แทนวางไว้บนโซฟา แสดงว่าเจ้าตัวจะต้องอยู่ในห้องแน่ๆ พี่แทนเป็นคนที่ติดมือถือมากเขาจะไปไหนไม่ได้หากว่าไม่มีมือถือติดไปด้วย
“พี่แทน”
ฉันเดินเข้าไปห้องนอนก็ได้ยินแต่เสียงน้ำดังออกมาจากห้องน้ำ แสดงว่าเจ้าตัวกำลังอาบน้ำอยู่แน่ๆ
ฉันเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปก็ต้องตกใจเมื่อมีมือของอีกฝ่ายกระชากตัวฉันให้เข้าไปในห้องน้ำกับเขาด้วย
“พี่แทนทำอะไรคะ?”
“...”
คนตรงหน้าไม่ตอบแต่กลับก้มหน้าลงมาคลอเคลียที่ต้นคอของฉัน เขาขมเม้มก่อนจะใช้ฟันครูดจนฉันขนลุกขึ้นมา ร่างกายของพี่แทนตอนนี้เปลือยเปล่าหมด
เขาไม่ได้ใส่อะไรเลย น้ำที่ไหลมาจากฟักบัวทำให้ตัวฉันเปียกไปด้วย และไอ้เสื้อนักศึกษาฉันก็บางจนสามารถมองเห็นชุดชั้นในสีดำลูกไม้
พี่แทนใช้มือของเขาบีบเค้นคลึงหน้าอกฉันอย่างรุนแรงจนฉันสะดุ้งด้วยความเจ็บ ปกติพี่แทนไม่เคยรุนแรงกับฉันแบบนี้มาก่อน
วันนี้เขาเป็นอะไรไป ไหนบอกว่าไม่อยากขืนใจฉันอยากให้ฉันยอมเขาเอง แต่ที่เขาทำอยู่มันเรียกว่ากำลังข่มเหงฉันนะ
“พี่แทน!!!” ฉันตะโกนเรียกชื่อคนตรงหน้าด้วยเสียงทั้งหมดที่มีเมื่อเห็นว่าเขาเริ่มจะลุกล้ำฉันมากขึ้น
พี่แทนหยุดการกระทำของตัวเองลงก่อนจะเอื้อมมือไปปิดน้ำไม่ให้มันไหลมาอาบตัวฉัน
ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับผ้าเช็ดตัวที่พี่แทนเอามาให้ พี่แทนเองก็เดินตามหลังฉันมา ตอนนี้เขาไม่ได้ใส่อะไรแถมยังยืนจังก้าอยู่ต่อหน้าฉันด้วย
“หวานว่าพี่แทนไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนดีกว่าค่ะ”
“คุยแบบนี้ก็ได้”
“หวานมีเรื่องอยากให้พี่แทนช่วยหน่อยค่ะ”
ต่อให้ลากเขาไปใส่เสื้อยังไงเขาก็ไม่ใส่อยู่ดีถ้าเขาไม่อยากใส่ ในเมื่อเขาไม่ยอมทำตามก็แล้วแต่เขาจะทำแล้วกัน อยากยืนหนาวอยู่ตรงนี้ก็ตามสบายเลย
พี่แทนเลิกคิ้วสูงก่อนจะเดินมานั่งข้างฉันพร้อมกับจับมือฉันให้วางไว้บนท่อนเอ็นของเขา
ฉันหายใจแทบไม่ออกเมื่อมือของฉันสัมผัสกับส่วนที่แสดงความเป็นชายของพี่แทน
“ทำให้พี่ก่อนแล้วพี่จะช่วย” ฉันรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร เพราะทุกครั้งที่เขามีอารมณ์ขึ้นมาเขาก็มักจะให้ฉันช่วยด้วยวิธีนี้
ฉันขยับมือตัวเองก่อนจะกำท่อนเอ็นของเขาเอาไว้ในมือ พี่แทนยิ้มกว้างเมื่อฉันยอมทำตามที่เขาบอกอย่างว่าง่าย
ฉันค่อยๆ ขยับมือรูดขึ้นรูดลงเหมือนอย่างที่ตัวเองเคยทำและทำถี่เร็วขึ้นเรื่อยๆ ตามความต้องการของเจ้าตัว ทำให้พี่แทนร้องครวญครางออกมา
“อะ...อ่า...”
“...” ขณะที่ทำฉันไม่ได้ก้มมองมือตัวเองหรอกนะว่าเปื้อนน้ำอะไรของเขา ฉันไม่กล้ามองด้วยซ้ำ
การที่ทำให้เขาแค่นี้ก็อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว พี่แทนลืมตามองหน้าฉันเขาใช้นิ้วมาเกลี่ยริมฝีปากฉันเล่นเพื่อให้ฉันรู้ว่าตอนนี้เขาไม่ต้องการมือแต่ต้องการปากของฉันแทน
“พี่ต้องการปาก”
มันใช่เวลาที่ต้องมาทำเรื่องแบบนี้มั้ย ฉันส่ายหน้าก่อนจะผละออกจากเขาทันที ที่เขาขอมันมากเกินไป ฉันทำให้ไม่ได้หรอก
ฉันกำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างมือตัวเองที่เปื้อนน้ำของเขาออก แต่เขากลับมายืนขวางเอาไว้
“ทำไมไม่ทำ?”
“มันมากเกินไปค่ะ หวานทำไม่ได้”
“แค่ใช้ปากไม่ได้ใช่ส่วนนั้นของหวานนี่”
พี่แทนดูเหมือนไม่พอใจที่ฉันขัดคำสั่งของเขา ฉันทำให้ไม่ได้จริงๆ ไหนบอกว่าไม่อยากบังคับแล้วนี่อะไร บังคับกันชัดๆ เลย
ฉันไม่ชอบให้พี่แทนบังคับให้ฉันทำเรื่องแบบนี้โดยที่ฉันไม่เต็มใจ เรื่องนี้เราก็ตกลงกันแล้วว่าจะไม่บังคับกันไม่ว่าอีกฝ่ายจะต้องการมากแค่ไหนก็ตาม แต่เขากำลังผิดคำพูดที่เคยให้ไว้กับฉัน
“พี่แทนกำลังบังคับหวานอยู่นะคะ”