SOMETIME 05
**************************
พี่แทนตะคอกใส่หน้าฉันอย่างเกรี้ยวกราด เขาคงให้ไม่ได้อย่างที่พูดนั่นแหละ เพราะถ้าเขาคิดจะให้ไปเขาคงไม่ทำร้ายฉันแบบนี้หรอก และคงไม่เอาเรื่องนั้นมาขู่ฉันแทบทุกครั้งที่ฉันคิดจะไปด้วย
ฉันถอนหายใจเมื่อรู้ว่าตอนจบยังไงฉันก็ยังคงต้องอยู่กับเขาต่อไป ฉันยกมือขึ้นสองข้างเพื่อบอกคนตรงหน้าว่าฉันยอมแพ้แล้ว
ต่อไปนี้เขาจะไปมีอะไรกับใครก็เป็นเรื่องของเขา ฉันจะไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว ฐานะที่เราเป็นอยู่ตอนนี้ก็แค่แฟนเพื่อประกาศบอกให้คนอื่นๆ รู้เท่านั้น แต่ในใจของเราอาจจะไม่ได้มีกันและกันอยู่ในนั้นแล้วก็ได้
“งั้นหวานก็ไม่เอา ต่อไปนี้หวานจะไม่หวงไม่ห้ามพี่เวลาที่พี่ไปเอากับผู้หญิงคนอื่น เชิญพี่แทนเอากันได้ตามสบายเลยนะคะหวานจะไม่
ยุ่งแล้ว”
“ประชดป่ะ?”
“หวานไม่กล้าประชดพี่แทนหรอกค่ะ” ฉันมองสบตากับคนตรงหน้าเพื่อให้เขารู้ว่าฉันพูดจริง
ฉันเหนื่อยกับเรื่องแบบนี้เต็มทีแล้ว ไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว เขาอยากจะไปไหนมาไหนกับใครก็เชิญตามสบายฉันจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเขาอีก ในเมื่อเขาไม่ให้เกียรติฉันต่อไปนี้ฉันก็จะไม่ให้เกียรติเขาเหมือนกัน
“แต่ถ้าหวานเผลอทำอะไรให้พี่แทนไม่ชอบใจพี่แทนเองก็ห้ามโกรธหวานนะคะ”
“พี่ให้อภัยหวานได้ทุกเรื่องแต่ไม่ใช่กับเรื่องผู้ชาย” เหมือนพี่แทนจะรู้ทันว่าฉันจะต้องมีเรื่องพวกนี้เข้ามาเกี่ยวพัน
ทำไมฉันจะต้องเชื่อคำพูดของเขาด้วยในเมื่อเขาเองยังไม่เคยยอมทำตามคำพูดของตัวเองได้เลย
เอาไว้เขายอมทำตามคำพูดของตัวเองได้เมื่อไหร่แล้วฉันจะยอมทำตามคำพูดของเขาแล้วกัน
“รู้ใช่มั้ยว่าพี่หวง”
“ค่ะ” ฉันจะทำให้เขาหวงฉันมากกว่านี้อีก ทำร้ายฉันมากนักใช่มั้ย ฉันจะทำร้ายเขาคืนกลับไปบ้าง
แล้วเรามาดูกันว่าใครจะกระอักเลือดตายก่อน
ฉันหรือว่าเขา
เขาบอกว่าเขาไม่ชอบใช้ของร่วมกับใครโดยเฉพาะผู้หญิง แต่การที่เขาไปเอาผู้หญิงคนนั้นคนนี้เขาไม่คิดหรือไงว่าพวกเธอก็อาจจะมีแฟนอยู่แล้วก็ได้
ไม่แน่นะถ้าฉันเป็นของคนอื่นเขาก็อาจจะปล่อยฉันไปแล้วไม่ยุ่งกับฉันอีกเลยก็ได้
[TAN : SAID]
หลังจากเรื่องวันนั้นผ่านไปได้ไม่นานผมก็รู้สึกว่าหวานดูเปลี่ยนไป จากที่ไม่เคยแต่งตัวแต่งหน้า ตอนนี้กลับลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่
กระโปรงที่ใส่ไปเรียนนี่แม่งโคตรสั้นเกือบจะเห็นก้นอยู่แล้ว เสื้อนักศึกษานี่แม่งใส่ก็รัดซะแทบหายใจไม่ออก
เวลาที่ไปส่งเธอผมก็มักจะเห็นผู้ชายเริ่มมองเธอมากขึ้นจากที่ไม่ได้สนใจอะไรเธอเลย
เธอกำลังทำให้ผมคลั่ง
ยอมรับเลยว่าเมื่อก่อนผมไม่ได้สนใจหรือใส่ใจเธอเท่าควรเพราะคิดว่าคงไม่มีใครมาสนใจผู้หญิงที่ไม่ชอบแต่งหน้าแต่งตัว
แต่พอเธอลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่ไม่เคยทำแบบนี้มันทำให้ไม่ชอบใจขึ้นมายังไงไม่รู้ เมื่อตอนนี้เธอเริ่มเป็นที่สนใจของผู้ชายหลายคน
ผมมองไปยังผู้หญิงตัวเล็กที่เดินออกมาจากห้องน้ำที่นุ่งผ้าเช็ดตัวเพียงผืนเดียว เธอมองหน้าผมก่อนจะส่งยิ้มให้ก่อนจะเดินไปแต่งตัว
ผมพาหวานเข้ามาพักที่คอนโดของผม ผมไม่อยากให้เธออยู่คนเดียวกลัวว่าจะมีผู้ชายมาหาเธอ
ผมแม่งโคตรหวงเธอว่ะ
ไม่รู้ทำไมถึงได้หวงเธอขนาดนี้ ตั้งแต่ที่ได้เธอคืนนั้นผมก็ไม่อยากให้ใครมาแตะต้องตัวเธออีกเลย
ความรู้สึกที่มีต่อเธอผมเองก็ไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร ผมรู้แต่ว่าผมหวงเธอไม่อยากให้ใครได้ครอบครองร่างกายของเธอนอกจากผม
ยอมรับว่าตัวเองแม่งเหี้ยเหมือนกันที่ทำกับหวานได้ลงคอ เปลี่ยนผู้หญิงไปเรื่อยทั้งที่ปากก็บอกว่าหวงเธอนักหนา
มันก็เป็นนิสัยผู้ชายป่ะวะที่ชอบความสนุก มันก็แค่เรื่องสนุกๆ บนเตียงได้แล้วก็เลิกรากันไปไม่ได้สานต่ออะไร
ผมก็ยังคงอยู่กับหวานตลอด มองเธอเป็นแฟนผมไม่ใช่คนอื่น ถึงผมจะสำส่อนแต่ผมก็ไม่ได้มั่วถึงขั้นไม่ได้ป้องกันตัวเองหรอกนะ
ผมรู้ว่าสมัยนี้ผู้หญิงแม่งก็แรงเหมือนกันปล่อยเลยไม่ได้หรอก ผมก็หวังว่าหวานจะเข้าใจผม เพราะยังไงแล้วผมก็เลือกเธออยู่แล้ว เธอแม่งเป็นเมียผมนะเว้ย
“วันนี้หวานไปเรียนเองนะคะ”
หวานเดินกลับเข้ามาในห้องนอนด้วยชุดนักศึกษา วันนี้เธอแต่งตัวเรียบร้อยมากกว่าทุกวันเหมือนกลัวว่าถ้าแต่งตัวเหมือนที่ผ่านมาผมจะไม่ให้เธอไปคนเดียว
แล้วไงวะ? วันนี้กูก็ไม่ให้เธอไปคนเดียวอยู่แล้ว อีกอย่างวันนี้ผมก็ไม่มีเรียนว่างทั้งวันไปนั่งเฝ้าเธอเช้าถึงเย็นยังได้เลย
อย่าคิดว่าผมจะไม่กล้าทำนะเว้ย อะไรที่กูหวงนะยอมทำทุกอย่างอยู่แล้วเว้ย
“เรียนเสร็จก็ไปทำงานที่หอเพื่อนต่อน่าจะกลับดึก พี่แทนจะได้ไม่ต้องคอยไปรับไปส่งให้เหนื่อย”
“วันนี้พี่ว่างพะ...”
“ไม่ค่ะ หวานจะไปเอง”
หวานพูดขัดผมขึ้นมาเหมือนรู้ว่ายังไงผมก็จะต้องไปส่งเธอให้ได้ เดี๋ยวนี้เริ่มทำตัวมีพิรุธมากขึ้นจนผมสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา
จากที่เคยให้ผมไปส่งและไปรับตอนนี้กลับอยากทำอะไรเอง แถมบางวันไม่กลับห้องก็มีบอกว่าไปนอนค้างหอเพื่อนเพราะทำรายงานส่งอาจารย์
มีครั้งหนึ่งที่ผมแอบเอะใจขึ้นมาเมื่อวันก่อนที่ผมบอกว่าจะไปรับแล้วพาเธอไปดูหนัง รู้ป่ะเธอตอบผมว่าไง
เธอบอกว่าเหนื่อยไม่อยากไป เหงื่อนี่ท่วมตัวเลยตอนที่ผมไปรับกลับห้อง เหมือนไม่มีแรงจะเดินผมเผ้าก็ยุ่งเหยิงไปหมด จนผมอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าเธอไปนอนกับใครมาหรือเปล่า
“ทำไมวันนี้ถึงอยากไปเอง?”
ผมเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่แขวนเอาไว้ก่อนจะหันไปมองหวานที่เก็บหนังสือเข้ากระเป๋า เธอหันมามองผมแวบเดียวก่อนจะหันกลับไปเหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรผมเลย
สาบานได้ว่าตั้งแต่ที่โดนหวานจับได้เรื่องที่มีอะไรกับน้องรหัสเธอผมก็ไม่ได้มีอะไรกับใครอีกเลย
เอาจริงผมเองก็รู้สึกผิดที่ทำกับหวานแบบนั้นเลยอยากจะให้เวลากับเธอมากขึ้น แต่เธอกลับปฏิเสธแทบทุกครั้งเหมือนอยากเอาคืนที่ผมทำให้เธอเสียใจ
“หวานก็บอกแล้วไงคะว่าวันนี้หวานมีทำงานกลุ่มกับเพื่อนกลับดึกด้วย หวานไม่อยากให้พี่แทนลำบาก”
แม่งข้ออ้างชัดๆ ว่ะ
ลำบากเหี้ยไรทีเมื่อก่อนไม่เห็นจะบอกแบบนี้เลย อยากให้ผมไปรับไปส่งตลอดเวลา แต่นี่กลับไม่อยากให้ผมไปไหนมาไหนด้วย
ผมว่าเรื่องนี้มันจะต้องมีมือที่สามเข้ามาแน่ๆ และไอ้คนที่มันมีมือที่สามก็ไม่ใช่ผมแต่เป็นเธอเองต่างหาก
“พี่แทนเองก็คงอยากจะไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ เหมือนที่ผ่านมาไม่ใช่เหรอคะ?”
“วันนี้พี่อยากอยู่กับหวาน”
“แต่วันนี้หวานไม่ว่างค่ะ”
เธอพูดเสียงแข็งขึ้นมาเพื่อยืนยันว่ายังไงเธอก็ไม่ให้ผมไปด้วย ผมพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะเดินเข้าไปจับไหล่เธอทั้งสองข้าง ผมรู้ว่าตอนนี้เธอเปลี่ยนไปและเปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดีด้วย
ผมไม่ชอบให้ใครมาหักหลังหรือทรยศผม ถ้าผมบอกเธอว่าแค่เล่นๆ ก็คือเล่นๆ เท่านั้น ผู้หญิงที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดจริงจังกับใคร
แต่กับเธอผมเลือกที่จะเปิดเผย เลือกที่จะให้เธอเข้ามาในชีวิตและเรียนรู้เรื่องราวของผมมากขึ้น แค่นี้ยังไม่รู้อีกหรือไงว่าเธอสำคัญกับผมมากแค่ไหน
“วันนี้คือวันอะไร?”
วันนี้ที่ผมเลือกที่จะอยู่กับหวานเป็นเพราะว่ามันคือวันครบรอบเจ็ดเดือนที่เราคบกันมา แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้ใส่ใจอะไรในวันนี้สักเท่าไหร่ เธอทำหน้าครุ่นคิดเหมือนจำไม่ได้
ที่จริงผมก็จำไม่ได้เหมือนกันแต่พอดีเหลือบไปเห็นปฏิทินที่หวานทำสัญลักษณ์เอาไว้ว่าวันไหนบ้างที่เป็นวันสำคัญของเราสองคนผมก็นึกขึ้นมาได้ทันที
“วันศุกร์ค่ะ” แม่งตอบออกมาได้ว่าวันศุกร์
เออ! กูรู้ดีว่าวันนี้เป็นวันศุกร์เธอไม่ต้องบอกก็ได้มั้ง
ดูเหมือนว่าหวานจะเปลี่ยนไปจริงๆ สินะ ต่อให้เธอเปลี่ยนไปยังไงเธอก็ไปจากผมไม่ได้อยู่ดี เพราะผมได้พันธนาการเธอเอาไว้หมดแล้วต่อให้เธอหนีผมไปไหนก็ไม่มีวันหนีผมพ้นแน่นอน
ผมมั่นใจว่าต่อให้เธอไปแล้วเธอจะต้องกลับมาหาผมที่ยืนอ้าแขนรับเธอกลับมาเหมือนเดิม
“ไม่ใช่สิ วันนี้คือวันที่เก้า...”
“อื้อวันที่เก้า”
ผมปล่อยมืออกจากไหล่ของหวานก่อนจะพาตัวเองเข้าห้องน้ำ แต่ยังไม่ทันจะได้เดินไปไหนหวานก็คว้ามือผมเอาไว้ซะก่อน
ผมหันไปมองเธอก็เห็นว่าเธอกำลังยืนยิ้มให้ผมอยู่ ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มผมหนักๆ หนึ่งที
“สุขสันต์วันครบรอบเจ็ดเดือนของเรานะคะพี่แทน”
เชี่ย! ผมก็นึกว่าเธอจะลืมเรื่องของเราซะแล้ว
น่ารักว่ะ
แต่ก็นะถึงจะยังไงก็ช่างเหอะผมรู้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจจะจำวันนี้เท่าไหร่หรอก เพราะอะไรน่ะเหรอ เธอแทบไม่ได้ให้ความสำคัญกับผมเลย ตั้งแต่เรื่องวันนั้นแล้ว เธอแม่งเปลี่ยนไปตั้งแต่วันนั้นล่ะ
“วันนี้หวานอยากอยู่กับพี่แทนมาก แต่พอดีหวานมีงานต้องทำค่ะ ไว้วันหลังเรามาฉลองกันนะคะ”
“ดูเหมือนมันไม่ได้สำคัญกับหวานเลยเนอะ”
“ที่จริงมันก็ไม่ใช่วันสำคัญอะไรกับหวานจริงๆ นั่นแหละ”
คนตัวเล็กทำหน้าเศร้าก่อนจะเงยหน้ามองผมที่มองเธออยู่ตลอดเวลา มันก็คงจะจริงอย่างที่เธอบอกว่ามันไม่ใช่วันสำคัญอะไรกับเธอเลย
เพราะวันนี้เมื่อเจ็ดเดือนก่อนคือวันที่ผมนอนกับเธอและเราก็ตกลงคบกันเพื่อแสดงความรับผิดชอบเท่านั้น
“มันก็แค่วันธรรมดาๆ วันหนึ่ง แต่คนที่ยืนตรงหน้าหวานคนนี้ต่างหากที่มีความสำคัญกับหวานมากที่สุด ขอบคุณนะคะที่ไม่ลืมว่าเราอยู่ ด้วยกันมานานแค่ไหน ขอบคุณที่พี่แทนไม่ลืมวันดีๆ ของเรา”
“...”
ผมพูดอะไรไม่ออกเมื่อเห็นว่าน้ำตาของหวานไหลลงมาอาบแก้ม เธอคงเจ็บกับสิ่งที่ผมทำมาตลอดหลายเดือนสินะ
ผมรู้ว่าเธอเจ็บแต่จะให้ผมทำไงได้ในเมื่อผมสั่งตัวเองไม่ให้ทำอย่างนั้นไม่ได้
สันดานของผมแม่งเหี้ยมานานมาแล้วไง
ผู้หญิงที่ผ่านมาของผมผมไม่เคยคิดที่จะเอามาเทียบกับเธอเลย ไม่เคยคิดที่จะเอาใครมาแทนที่เธอด้วย
เพราะผมรู้ดีว่าเธอคือที่สุดของผมแล้ว ผมถึงไม่ยอมปล่อยเธอไปไหนไง
อีกอย่างตลอดระยะเวลาเจ็ดเดือนที่ผ่านมาผมไม่เคยลวงเกินหวานเลย เพราะผมไม่ชอบข่มเหงผู้หญิงที่ไม่ยอมมีอะไรกับผม ผมอยากให้เธอเต็มใจนอนกับผมเองไม่ใช่เพราะผมขู่บังคับ
“หวานจะจดจำวันนี้เอาไว้นะคะ” พูดจบเธอก็เหมือนจะเดินออกจากห้องไปทำให้ผมรั้งตัวเธอเข้ามากอดเอาไว้ หวานกอดผมกลับมา เหมือนเธอต้องการอ้อมกอดจากผมมากที่สุด
ที่ผ่านมาผมปล่อยปละละเลยเธอมากเกินไป จนทำให้เธอโหยหาความรักจากผม ผมควรจะใส่ใจดูแลเธอบ้างไม่ใช่เอาเวลาไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นแบบนี้ ก็รู้ว่าตัวเองผิดแต่ก็ยังจะทำเหมือนเดิม
ผมเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้เลือกทำร้ายหวานซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้ไม่จบไม่สิ้น ทั้งที่ใจแม่งโคตรรัก แต่ร่างกายมันกลับไม่ยอมทำตามที่หัวใจสั่งมา
“พี่ขอโทษ” ผมไม่รู้ว่าจะพูดคำไหนได้ดีไปกว่าคำนี้ คำอื่นๆ ก็คงเหมือนคำแก้ตัวไปหมดแล้ว
มีเพียงคำนี้คำเดียวที่ผมอยากจะบอกและอยากจะให้เธอเข้าใจว่าที่ผมทำผมไม่ได้อยากให้เธอเสียใจกับการกระทำของผม แค่เธอเลือกที่จะมองผ่านแล้วทำเป็นไม่สนใจ เธอก็ไม่ต้องมาเจ็บปวดแบบนี้
เพราะเธอก็น่าจะรู้ดีว่าผมไม่มีทางเอาใครมาแทนที่เธอได้อยู่แล้ว
“พี่แทนไม่ได้ทำอะไรผิดนี่คะ”