4

1497 Words
“อย่าร้องเลย ชู่...” เขาปลอบ ไม่คิดจะขอโทษขอโพย เพราะเขาอยากได้เธอ “คุณสิงแค่อยากได้หนูเหรอคะ ถึงได้รังแกกันแบบนี้” เขาไม่ตอบแต่    ไม่ขยับ มองสบตาเธอ “แอบชอบฉันไม่ใช่เหรอ” เขากุมแก้มสาวเอาไว้ เธอตาโต เขามารู้เรื่องของเธอได้ยังไงกัน “แสดงว่าแอบชอบฉันจริงๆ เหรอ” เขาถามอย่างแปลกใจเพราะแค่    พูดเล่น แต่ท่าทีของคนใต้ร่างทำให้เขามองเธออย่างค้นคว้า เธอกะพริบตาปริบๆ ตอนแรกคิดว่าเขารู้ แต่จริงๆ เขาแค่ถามเล่นๆ     เธอเผลอแสดงออกให้เขารู้ว่ามันคือเรื่องจริง น่าอายที่สุดเลย... “แอบชอบฉันจริงๆ เหรอ ก็อย่างว่าแหละ ไม่มีผู้หญิงที่ไหนทัดทานเสน่ห์ของฉันได้” โคตรหลงตัวเอง เธอกะพริบตาปริบๆ กับความคิดของเขา “จะขยับแล้วนะ” เพราะเขาเบี่ยงเบนความสนใจด้วยการชวนเธอคุย    ผลปรากฏว่าเขาสอดแทรกกายเข้ามาเกือบสุดลำตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ “อ๊า... ไม่เอานะคะ หนูไม่ยอม” น้ำอิงออกแรงดันหน้าท้องแกร่งของเขา แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล “ยอมไม่ยอมก็ต้องยอมละ เพราะว่ามันเข้าไปแล้ว ฟินไหม” ดูเขา      ทำหน้าทำตาและเอ่ยถามเธอสิ น้ำอิงได้แต่กะพริบตาปริบๆ “ไม่ฟิน ถอยไปเลยค่ะ” “ได้... เดี๋ยวถอยให้” เขาถอนสะโพกออกจริงๆ ขยับออกไปแบบที่ร่างกายตรงจุดที่เชื่อมประสานกันเกือบหลุดออกจากกัน ก่อนจะกดเข้ามาใหม่ “อ๊า...” ทั้งสองอุทานพร้อมกัน เมื่อร่างกายสอดเสียบเข้าหากันอย่าง  ล้ำลึก “คุณสิงแกล้งหนู” “ก็ฉันบอกไปแล้ว ว่าเธอน่าแกล้ง” เขารวบสะโพกเด็กสาวเอาไว้ ก่อนจะโยกคลอนเข้าหา น้ำอิงจิกมือกับผ้าปูเตียงแน่น สีหน้าของเธอเสียวซ่านสุดใจระคนกับความเจ็บแปลบจากการเสียดสีที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน “ชู่...” เขาลูบไล้ผมนุ่มของเธอเบาๆ ด้วยความเอ็นดู เมื่อเห็นใบหน้า  เหยเกของเธอ “หนูไม่ไหวแล้วค่ะ” “ไม่ไหวก็ไม่ต้องอั้น ปล่อยมันออกมา ปล่อยตัวปล่อยใจ ยังไงก็หนี      ไม่รอดแล้วแหละ” ดูเหมือนว่าไม่ใช่คำปลอบโยน แต่เป็นประโยคให้เธอสมยอมเสียมากกว่า เธอหลับตายอมรับชะตากรรม เขาไล้สะโพกงอนงามของเธอเพื่อให้เธอคลายจากความตื่นกลัว “ดอกไม้ที่เธอจัดแจกันให้สวยและหอมมากนะ ต้องมาจัดแจกันให้ฉันทุกวันนะ เข้าใจไหม” เธอไม่ตอบแต่เม้มปากเข้าหากัน “ว่าไงเด็กดื้อ มาจัดแจกันให้ฉันทุกวันได้ไหม” เธอไม่ตอบ เขาเลยแกล้งกระแทกเข้าหาระรัว “อื้อ...” “ว่าไง” “ค่ะ” เธอรับคำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาโยกคลอนจนร่างของเด็กสาวไหวระริกไปกับเตียง ไม่นานเธอก็ได้ยินเสียงครางหนักๆ จากริมฝีปากหนาพร้อมๆ กันกับเธอ เขาดึงกายออกจากร่างของเธอก่อนจะกดลงมาตรงหน้าท้อง “ดีที่ทัน ไม่งั้นปล่อยในได้ท้องแน่ ฉันเป็นคนผลิตถุงยางอนามัยขาย   แต่เธอเย้ายวนเกินกว่าที่ฉันจะหยิบมาใส่ได้ทัน” เธอต้องขอบคุณเขาใช่ไหม   น้ำอิงดิ้นหนี เขาก็รวบเอาไว้ “จะไปไหน” “หนูจะไปจากห้องของคุณ คุณได้ในสิ่งที่ต้องการแล้วไม่ใช่เหรอคะ” “ยังเลย ไปอาบน้ำกันหน่อย อยากให้เธอถูตัวให้” เขายิ้มใส่ตาเด็กสาวก่อนจะอุ้มเธอเข้าห้องน้ำ น้ำอิงดิ้นรนไปมา แต่สู้แรงเขาไม่ไหวสุดท้ายก็เลยต้องสิ้นแรงอยู่ในอ้อมแขนของเขา กว่าสิงหลจะปล่อยเธอออกจากห้องก็สูบเอาพลังเธอไปเกือบหมด    เด็กสาวเดินกระปลกกระเปลี้ยออกจากห้องด้วยความรู้สึกโหวงในอก อธิบายไม่ถูกว่าตอนนี้รู้สึกเช่นไร แล้วจะทำยังไงต่อไปดี เธอไม่รู้จริงๆ ว่าจะทำยังไง สิงหลต้องตามรังแกเธอไม่หยุดหย่อนแน่ๆ น้ำอิงเลยใช้วิธีหลบหน้าหลบตาเขาแทน โดยการออกไปทำงาน     พาร์ทไทม์ข้างนอก กลับช่วงค่ำๆ และหนีเข้าห้องนอนไปเลย สิงหลรู้ว่าเด็กสาวหลบหน้าเขา หงุดหงิดอยู่มากแต่ให้เธอได้ใจไปก่อน เขาไม่ได้นิ่งนอนใจ แอบตามไปดูว่าเธอไปทำงานทำการอะไร ความหงุดหงิดเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวนักเมื่อเห็นว่าเธอมาเป็นพนักงานเสิร์ฟให้ลูกค้าหนุ่มๆ แทะโลม อารมณ์หึงหวงเกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน    แล้วมันก็ขาดผึงเมื่อชายหนุ่มโต๊ะนั้นลวนลามเธอด้วยการจับก้น “ว้าย! คนลามก” ยังไม่ทันที่น้ำอิงจะได้พูดอะไรต่อ หมัดหนักๆ ของสิงหลก็กระแทกเข้าหาใบหน้าของชายคนดังกล่าว จนร่างนั้นหล่นร่วงลงจากโต๊ะไม่เป็นท่า “นี่เหรองานที่เธอหนีมาทำ มาให้ลูกค้าลวนลามจับก้นแบบนี้เหรอ” สิงหลถามเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงดุดัน ในขณะที่น้ำอิงได้แต่อึกอักอ้ำอึ้งตกใจ ไม่คิดว่าจะโดนลวนลามและยิ่งตกใจที่จู่ๆ สิงหลก็โผล่มาต่อยลูกค้าลามกโต๊ะนี้จนหน้าหงาย “แกเป็นใครวะ กล้าดียังไงมาทำกับฉันแบบนี้ แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร” ดูเหมือนคนที่ลวนลามน้ำอิงจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟที่จู่ๆ ก็โดนต่อย    จนหน้าหัน “แกยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร แล้วฉันจะรู้ไหมวะ” สิงหลตอบกลับไปอย่างยียวนกวนประสาท เขาไม่เห็นจะกลัวเลยสักนิด “ใจเย็นๆ ก่อนนะคะคุณลูกค้า มีอะไรกันเหรอคะ” เจ้าของร้านสาวสวยรีบเข้ามาถามในทันที “ไอ้บ้านี่มันมาต่อยผม ผมจะแจ้งตำรวจจับมัน คุณเป็นเจ้าของร้าน    ใช่ไหม เป็นพยานให้ผมด้วยว่ามันทำร้ายร่างกายของผม แกได้ติดคุกหัวโตแน่” มันพูดอย่างหัวหมอ สีหน้าเคืองโกรธไม่หาย “ก็แจ้งสิ ที่นี่มีกล้องวงจรปิดใช่ไหม ฉันจะได้แจ้งความกลับข้อหาอนาจาร แกหลอกจับก้นเด็กคนนี้” สิงหลพูดอย่างไม่เกรงกลัวหน้าอินทร์    หน้าพรหมที่ไหน “จริงเหรอน้ำอิง” เจ้าของร้านเอ่ยถาม เธอเองก็เป็นผู้หญิง จะไม่ยอมให้ผู้หญิงด้วยกันโดยลวนลามแน่นอน “จริงค่ะพี่ทิพย์” น้ำอิงเอ่ยตอบทิพย์สุคนธ์ไป “อะไรกันวะ พวกแกเป็นพวกเดียวกันใช่ไหม” ไอ้หมอนั่นเริ่มโวยวายเสียงดัง “พวกเราก็เห็นว่าคุณลวนลามน้องเขา” โต๊ะข้างๆ ก็รีบพูดเช่นเดียวกัน “อะไรวะ พวกแก พวกแกมันพวกเดียวกัน พวกแกรุมฉันคนเดียว” คนที่กำลังจนมุมชี้ไปรอบๆ อย่างหัวเสีย “มึงจะไสหัวออกไปดีๆ หรือจะให้กูโทร. แจ้งตำรวจ” สิงหลเอ่ยถามเสียง ดุกร้าว ลูกค้าโต๊ะใกล้เคียงมองอย่างตำหนิ ทำให้คนทำผิดเดินถอยหนีเพื่อ  ก้าวออกจากร้าน ก่อนไปยังหันมาด่าเกรี้ยวกราดว่าจะไปเขียนตำหนิร้านว่าบริการห่วย ช่างไม่สำนึกเสียจริง ลูกค้าในร้านคนอื่นๆ ได้แต่หันไปซุบซิบนินทาหนุ่มเจ้าปัญหาที่โทษคนอื่น แต่ไม่โทษตัวเอง “หนูต้องขอโทษพี่ทิพย์ด้วยนะคะ” “ขอโทษพี่ทำไม” ทิพย์สุคนธ์เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง “หนูทำให้ลูกค้าโกรธ เขาคงไปเขียนด่าร้านทำให้คนอื่นเข้าใจผิด” “ถ้าเขากล้าทำ พี่ก็จะเอาภาพในกล้องวงจรปิดลงประจานไปเลยค่ะ คนแบบนี้ต้องตาต่อตาฟันต่อฟันค่ะ ไม่สำนึกเลยว่าตัวเองนั้นผิดจริงๆ คิดแต่โทษคนอื่น” “กลับได้แล้ว” สิงหลแทรกขึ้น “แต่หนูต้องทำงาน” “ลาออกตั้งแต่ตอนนี้เลย มาทำงานแบบนี้ฉันไม่โอเคหรอกนะ” น้ำอิงอ้าปากค้าง “คุณเป็นใครเหรอคะ” ทิพย์สุคนธ์เอ่ยถาม “ผมเหรอครับ ผัวเขาครับ ชัดเจนไหม” คนห่ามตอบกลับไป ทิพย์สุคนธ์เป็นฝ่ายอ้าปากค้างเสียเอง ก่อนจะมองตามร่างสูงของพนักงานที่เพิ่งรับเข้ามาทำงานไม่กี่วันโดนลากออกไปจากร้าน เธอได้แต่อึ้ง ห้ามไม่ทันเสียด้วยซ้ำ “ขอโทษทุกท่านด้วยนะคะ รับประทานอาหารกันต่อเลยค่ะ” เธอหันไปยกมือไหว้ กล่าวขอโทษขอโพยลูกค้าท่านอื่นๆ ก่อนที่ทุกอย่างจะกลับสู่   สภาพเดิม “คุณสิงจะพาหนูไปไหนคะ” “ทำงานยังไงล่ะ” “ทำงานอะไรคะ” “ทำงานที่เธอสมควรต้องทำยังไงล่ะ” “ไม่ไปค่ะ หนูจะกลับบ้าน” “รีบกลับไปทำไม ใครๆ ก็เข้าใจว่าเธอออกมาทำงาน ดังนั้นไม่ต้องรีบกลับบ้านก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าไปไหน” เขายื่นหน้าเข้ามาพูดใกล้ๆ ก่อนจะรัดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ เธอเม้มปาก เขาเลยจุ๊บปากเธอเบาๆ อย่างมันเขี้ยว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD