"เด็กสมัยนี้คิดอยากจะทำอะไรที่ไหนก็ทำ ไม่รู้จักอายฟ้าอายดิน"
"น่าเกลียดเป็นผู้หญิงอะไรไม่รักนวลสงวนตัว นั่งให้ผู้ชายกอดหอมอยู่ได้"
"คนเราก็แปลกเนอะอยู่ข้างนอกไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเอง เที่ยวมาทำบัดสีบัดเถลิงกลางห้างแบบนี้"
"หน้าตาก็ดีไม่น่าทำอะไรทุเรศแบบนี้เลย"
เสียงซุบซิบนินทาของบรรดาคนที่มานั่งทานอาหารญี่ปุ่นอยู่ในร้านเมื่อเห็นการกระทำของชายหญิง สร้างความอับอายให้คนที่ถูกพูดถึงไม่น้อย
ก๋วยเตี๋ยวซึ่งกำลังนั่งก้มหน้าจับแก้มตัวเองถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียงซุบซิบนินทาที่ด่าทอตนเพราะเธอเริ่มชินกับคำดูถูกพวกนี้ไปแล้ว เธอดิ้นจนหลุดออกจากพันธนาการในอ้อมแขนแกร่ง แล้วรีบดีดตัวลุกขึ้นหันกลับไปพูดว่าคนที่นั่งยิ้มอยู่บนเก้าอี้
"ทีหลังอย่ามาทำแบบนี้กับหนูอีกนะคะ หนูไม่ชอบ" ว่าจบเด็กสาวก็หมุนตัวเดินออกไปจากร้านทันที โดยไม่รอให้เนมาร์ได้ตอบอะไร เขาเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ พลางรีบหยัดกายลุกขึ้นล้วงหยิบกระเป๋าสตางค์แบรนด์หรูจากกางเกงยีนราคาแพง ควักเงินออกมาวางไว้บนโต๊ะ ก่อนจะวิ่งตามเธอออกไป
หมับ!
"โอ๊ย!" เธอร้องเสียงหลงด้วยความตกใจเมื่อโดนมือหนาคว้ากระตุกแขนเรียวจากด้านหลัง จนตัวเธอเสียหลักหันถลาเข้าไปชนกับแผงอกแกร่ง "ปล่อยนะคะ หนูเจ็บ"
"จะไปไหน ทำไมไม่รอ"
"จะกลับบ้านค่ะ"
"ยังกลับไม่ได้ ฉันยังไม่ได้พาไปซื้อของ"
"หนูบอกว่าไม่เอาไงคะ..ฟังไม่รู้เรื่องเหรอ คุณช่วยพาหนูไปส่งบ้านสักทีเถอะค่ะ"
เนมาร์ยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะอุ้มก๋วยเตี๋ยวพาดบ่า แล้วเดินพาไปยังร้านต่างๆเพื่อซื้อของที่ต้องการทันที ไม่ได้สนใจเสียงร้องขอของคนโดนอุ้มเลย แม้เธอจะพยายามทุบกำปั้นเล็กลงกลางหลังแกร่งก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเจ็บสักนิด แถมยังยกฝ่ามือหนาฟาดกลับไปที่บั้นท้ายเบาๆ
"บ้านอยู่ไหน" เนมาร์เอ่ยถามขึ้นหลังจากขับรถออกมาจากห้างสรรพสินค้า มือหนาถือวิสาสะเอื้อมไปจับมือเล็กของก๋วยเตี๋ยวขึ้นมาสอดประสานกันวางไว้บนหน้าขาแกร่ง
"ไปส่งหนูแค่ ที่ทำงานก็ได้ค่ะ"
"ไม่! ฉันจะไปส่งบ้าน ข้าวของเธอเยอะแยะเต็มไปหมดจะถือยังไงไหว"
"ก็บอกว่าไม่ต้องซื้อไงคะ คุณก็จะซื้อให้อยู่ได้"
"ฉันอยากให้เธอใช้ของใหม่ๆบ้าง เสื้อผ้าและชุดชั้นในอันเก่าทิ้งไปซะ ทั้งขาดทั้งดำยังใส่อยู่ได้"
"ไม่ทิ้งค่ะมันยังใส่ได้ คุณรวยแต่ไม่รู้จักค่าของเงิน คิดจะซื้ออะไรก็ซื้อ คิดจะทิ้งอะไรก็ทิ้ง ถ้าวันหนึ่งคุณไม่มีขึ้นมาจะทำยังไงคะ"
"คนอย่างฉันไม่มีคำว่าไม่มี ของที่ซื้อให้มันก็แค่เศษเงินของฉัน เธอจะพูดมากทำไมฉันซื้อให้ก็แค่รับไปก็เท่านั้น" ผู้หญิงแบบเธอคือคนที่เขาอยากใช้ชีวิตอยู่ด้วยมากที่สุด จะว่าให้เป็นแม่ของลูกเลยก็ได้ ผู้หญิงที่เข้าหาล้วนแต่จ้องจะมาผลาญเงินเขาทั้งนั้น ซึ่งต่างจากเธอที่ปฏิเสธไปซะทุกอย่าง
เจอเธอแค่วันเดียวเขาก็รู้สึกประทับใจที่สุด นิสัยก็ดีพูดก็เพราะแถมยังมีความคิดผู้ใหญ่มากกว่าเขาเสียอีก
"งั้นคุณก็เอาเศษเงินทั้งหมดไปทิ้งเถอะค่ะ หนูขอไม่รับ"
"ถ้าเธอไม่รับ ก็เตรียมตัวหางานใหม่ได้เลยเพราะฉันจะไล่ออก โทษฐานที่กล้ามาปฏิเสธฉัน"
"....." ก๋วยเตี๋ยวสะบัดมือออกจากเกาะกุมอย่างหงุดหงิด นั่งหน้ามุ่ยที่ตัวเองไม่สามารถเถียงหรือปฏิเสธอะไรได้เลยเพราะคำขู่ของเขา
ถ้างานมันหาง่ายๆ เธอจะไม่สนใจและรีบไปลาออกทันทีโดยไม่คิดแม้แต่นิดเดียว
"สะบัดมือออกทำไม เอามือมาฉันจะจับ"
"จะมาจับทำไมคะ คุณเป็นคนยังไงกันเนี่ยชอบฉวยโอกาส หนูเป็นผู้หญิงนะคะ"
"แล้วยังไงฉันจะจับ ฉันเป็นเจ้านายเธอเวลาสั่งอะไรก็ทำตาม..อย่าขัดใจ" เนมาร์แบมือรอทันทีเมื่อพูดจบประโยค ทำเอาก๋วยเตี๋ยวเบือนหน้าหนีออกไปมองบรรยากาศยามเย็นในเมืองหลวงนอกหน้าต่าง พร้อมกับถอนหายใจพรืดใหญ่ แล้วยื่นมือไปวางลงบนฝ่ามือใหญ่ให้เขาจับอย่างว่าง่าย ก่อนความเงียบจะปกคลุมภายในรถต่างฝ่ายต่างไม่มีใครพูดอะไรออกมา
"จะบอกทางฉันได้หรือยังว่าบ้านเธออยู่ตรงไหน" น้ำเสียงเรียบเอ่ยถามขึ้นอีกครั้งเมื่อเขายังไม่ได้คำตอบจากคนที่นั่งอยู่เบาะข้างๆ ทำไมชอบให้ถามย้ำนักก็ไม่รู้
"ก็บอกให้ไปส่งที่ทำงานไงคะ รถของคุณขับเข้าไปทางถนนบ้านหนูไม่ได้หรอก นอกจากจะขับมอเตอร์ไซค์เข้าไป" ใบหน้าจิ้มลิ้มขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่งเมื่อได้ยินคำถามซ้ำจากเนมาร์ ทั้งๆที่เธอก็ตอบไปแล้วแต่เขากลับไม่ฟัง
"เดี๋ยวฉันยืมมอเตอร์ไซค์ของเด็กในร้านขับไปส่ง"
"....." ฝ่ามือเล็กอีกข้างยกขึ้นมากุมขมับอย่างเหนื่อยใจกับคนข้างๆ ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรออกไปก็ไม่สามารถทำลายความพยายามของเขาที่ตั้งใจจะไปส่งเธอให้ถึงบ้านได้เลย
@หมู่บ้านสลัมแห่งหนึ่ง
"บ้านเธอหลังไหน" ใบหน้าหล่อเหลาเอี้ยวไปถามคนข้างหลังในขณะที่ตนขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่าฟีโน่สีแดงเข้ามาในซอยคับแคบอย่างทุลักทุเล ไม่ใช่ว่าเขาขับขี่ไม่แข็งแต่เป็นเพราะซอยบ้านของเธอค่อนข้างคับแคบ แถมของยังแขวนไว้เต็มหน้ารถอีกต่างหาก
"บ้านไม้หลังข้างหน้านี้ก็ถึงแล้วค่ะ" นิ้วชี้เรียวยาวยื่นชี้ไปข้างหน้าเพื่อบอกทาง
ผ่านไปไม่กี่นาทีรถจักรยานยนต์ก็ถูกขับมาจอดเทียบท่าอยู่หน้าบ้านไม้ชั้นเดียวที่มีสังกะสีปิดคลุม สองขาแกร่งก้าวลงจากรถ ก่อนจะใช้สายตาจ้องมองเข้าไปด้านในตัวบ้าน
"นี่บ้านเธอ?" เนมาร์หมุนตัวหันไปถามเด็กสาวที่เดินถือของพะรุงพะรังตามเข้ามา มือหนาเอื้อมไปหยิบของในอ้อมแขนขาวเนียนมาช่วยถือ
"ใช่ค่ะ ทำไมเหรอ?"
"มันแคบ เธอไปอยู่กับฉันไหม"
"ไม่ค่ะ หนูจะอยู่บ้านของหนู คุณเป็นผู้ชายที่น่าเกลียดที่สุดเลยรู้ไหมคะ ชวนผู้หญิงไปอยู่ด้วยทั้งๆที่ไม่รู้จัก"
"ไม่รู้จักได้ไง เธอชื่อก๋วยเตี๋ยว แล้วก็เป็นอาหารที่ฉันชอบกินด้วยรู้ไหม"
"นี่อีก๋วยเตี๋ยวเป็นเด็กเป็นเล็กหัดพาผู้ชายเข้าบ้าน ทำสันดานมั่วเหมือนแม่มึงไม่มีผิด" เสียงคนข้างบ้านตะโกนเข้ามาเสียงดังขัดจังหวะในตอนที่ก๋วยเตี๋ยวกำลังจะตอบกลับ จนคนที่อยู่แถวนั้นเดินมามองเธอด้วยสายตาเหยียดหยามกันเต็มไปหมด
"แม่มึงดิมั่ว ก่อนจะว่าคนอื่นเอาเวลาไปดูแลสุขภาพตัวเองก่อนไหมป้า ใกล้จะตายห่าอยู่แล้วยังปากดี หรืออยากจะตายตอนนี้ผมสงเคราะห์ให้ได้นะ"
"..จะตายแบบไหนผมมีให้เลือกด้วย สิทธิพิเศษให้ป้าคนเดียวโดยเฉพาะ" เนมาร์ที่ยืนทนฟังคำพูดดูถูกและสายตาเหยียดหยามเด็กสาวของคนหน้าบ้านไม่ได้ เขารีบทิ้งของลง แล้วเดินตรงดิ่งเข้าไปบีบลำคอระหงของเจ้าของคำพูดนั้นอย่างเหลืออด
"อ๊ะ..อึก!"
"พ่อแม่ของใครใครก็รัก อย่าสาระแนมาเอ่ยถึงพ่อแม่คนอื่น"
---------------------------------------
จะด่าใครก็ด่าได้แต่อย่ามาว่าผู้หญิงของพี่เนเชียวนะ โดนสวนกลับหงายท้องนะบอกก่อนความเกรี้ยวกราดมีเกินร้อยไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น